รวบรวมนักแสดง"คุณป้า" ที่มีฝีมือการแสดงไม่ธรรมดา #4

46 6
7.Glenn Close
เกิด:19 มีนาคม 1947(ปัจจุบันอายุ73ปี)
บ้านเกิด:กรุงGreenwich รัฐConnecticut สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1974
นักแสดงหญิงเจ้าบทบาท ที่ไม่ว่าจะบทที่ได้รับมาจะยากแค่ไหน ป้าก็เอาอยู่ จนได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง7ครั้ง แต่ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำไป3รางวัล และรางวัลEmmy Awardsถึง3 รางวัล
ชีวิตก่อนเข้าวงการ
ป้าClose เป็นลูกสาวของนายแพทย์และนักสังคมสงเคราะห์ มีพี่น้องทั้งหมด4คน ซึ่งมีทั้งพี่น้องร่วมสายเลือดกับน้องที่ได้รับอุปการะ
ช่วงที่ป้าClose อายุได้7ขวบนั้น เจ้าตัวก็ไปเป็นสมาชิกกลุ่มMRA(Moral Re-Armament) ซึ่งเป็นกลุ่มฟื้นฟูศีลธรรมโดยได้เข้าร่วมตามพ่อแม่ และได้อยู่กลุ่มนี้จนถึงอายุ22ปี
ป้าClose จบการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนSt. George ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จนได้มาเป็นสมาชิกคณะประสานเสียงUp With People และจบการศึกษาจากโรงเรียนRosemary Hall(ปัจจุบันคือChoate Rosemary Hall)เมื่อปี1965
ด้านวิชาการแสดงนั้น ป้าClose จบการศึกษาระดับวิทยาลัยจากThe College of Williams & Mary จนได้เริ่มต้นอาชีพนักแสดงตั้งแต่นั้นมา
ละครเวที จุดเริ่มต้นการเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงของป้าClose
ป้าClose เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงละครเวที โดยในปี1974นั้น ป้าClose กลายเป็นนักแสดงที่มีผลงานละครเวทีต่อเนื่องถึง3เรื่อง โดยละครเวทีเรื่องSunset Boulevard เป็นละครเวทีที่ป้าClose ร่วมงานบ่อยที่สุดถึง4ครั้ง นับตั้งแต่ปี1993(ล่าสุดละครเวทีเรื่องนี้จะกลายเป็นภาพยนตร์แล้ว)
เอาดีกับผลงานภาพยนตร์ในช่วงยุค80s
หลังจากสั่งสมประสบการณ์กับผลงานละครเวที ป้าClose ก็ได้แสดงให้กับภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ก่อน จนเมื่อปี1982 ก็ได้ข้ามขั้นมาแสดงภาพยนตร์ที่ฉายในโรงภาพยนตร์
จนกระทั่งปี1983 ป้าClose ได้แจ้งเกิดในผลงานภาพยนตร์เรื่องThe Big Chill ภาพยนตร์ตลก-ดราม่า ที่รวมนักแสดงชื่อดัง ได้แก่ ลุงTom Berenger,ลุงJeff Goldblum,ลุงWilliam Hurt และลุงKevin Kline
หลังจากนั้น ป้าClose ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่3จากบทIris Gaines ในภาพยนตร์เรื่องThe Natural(1984) ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
ต่อมา ป้าClose ได้เลือกบทบาทที่ท้าทายมากขึ้น จากภาพยนตร์2เรื่องนี้ที่ทำให้ป้าClose ถูกพูดถึงในด้านการแสดง ดังนี้
  • Fatal Attraction(1987) รับบทเป็นAlex Forrest พนักงานบริษัทสิ่งพิมพ์ที่มีอาการทางจิต จนทำให้ชีวิตครอบครัวของDan Gallagher(รับบทโดยลุงMichael Douglas) ต้องประสบกับหายนะ ด้วยการแสดงที่ตีบทแตกกับการต้องรับบทเป็นผู้มีอาการทางจิต ทำให้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่60
  • Dangerous Liaisons(1988) รับบทเป็นคุณหญิงIsabelle de Merteuil หญิงม่ายสุดแสบที่ได้พนันกับเสือผู้หญิงตัวพ่อ(รับบทโดยลุงJohn Malkovich)
การแสดงภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ที่ทำให้ป้าClose ได้รับรางวัลEmmy Awards
Serving in Silence: The Margarethe Cammermeyer Story(1995) เป็นภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ฉายทางช่องNBC ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของอดีตทหาร พันเอกหญิงMargarethe Cammermeyer กับประสบการณ์ด้านการทำงาน และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับทหารหญิงที่เป็นมากกว่า"เพื่อนร่วมงาน"
โดยผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ป้าClose ได้รับรางวัลEmmy Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทมินิซีรีส์และภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ได้สำเร็จ
Cruella วายร้ายตัวจิ๊ด เล่นใหญ่มาก
101 Dalmatians ฉบับคนแสดง(1996) ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ฉายเมื่อปี1961 ป้าClose รับบทเป็นCruella de Vil ซึ่งเป็นตัวร้ายที่ไม่ต้องกลัวองค์กรPeTA จะมาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน เพราะตามฉบับแอนิเมชั่นนั้น Cruella เป็นคนที่ชอบเสื้อผ้าที่ใช้ขนสัตว์มากๆ
ซึ่งป้าClose แสดงบทบาทนี้ได้เล่นใหญ่จนนอกจากทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำแล้ว เจ้าตัวยังได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ตลกหรือเพลง จากบทบาทนี้
ด้วยความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้มีภาคต่อก็คือ ภาพยนตร์เรื่อง102 Dalmatians ซึ่งเข้าฉายเมื่อปี2000
ผลงานภาพยนตร์นอกกระแส ที่ถูกใจเหล่านักวิจารณ์ 
เรื่องแรกคือภาพยนตร์เรื่องAlbert Nobbs(2011) เป็นภาพยนตร์ดราม่าเรื่องราวของหญิงที่ปลอมเป็นชายเพื่อทำงานเป็นพ่อบ้าน โดยการแสดงของป้าCloseที่โดนใจเหล่านักวิจารณ์ซึ่งสวนทางกับคำวิจารณ์ต่อตัวภาพยนตร์ที่ไปในทางก้ำกึ่ง ทำให้เจ้าตัวได้เข้าชิงทั้งรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม,รางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า และSAG Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ปี2018 ภาพยนตร์นอกกระแสเรื่องThe Wife ส่งผลให้ป้าClose ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำด้านภาพยนตร์เป็นครั้งแรก
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่สามี-ภรรยา ซึ่งฝ่ายชายเป็นนักเขียน ส่วนฝ่ายหญิงเป็นคนสนับสนุน แต่เมื่อทั้งคู่ได้เดินทางที่สวีเดนเพื่อมารับรางวัลโนเบล ความขมขื่นก็ปรากฎออกมา
ซึ่งการรับบทเป็นภรรยานักเขียนของป้าCloseนั้น ได้กระแสชื่นชมจากนักวิจารณ์ จนได้รับรางวัลเกือบทุกงาน
ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมา มีดังนี้
  • Air Force One(1997) จะบอกว่าเป็นนักแสดงที่เคยรับบทเป็นรองประธานาธิปดีหญิง"ผู้มาก่อนกาล" ก็คงไม่ผิดนัก เพราะหลังจากที่อเมริกามีผู้หญิงที่ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิปดี ตัวละครตัวนี้ที่ป้าClose เคยรับบทก็ถูกพูดถึงอีกครั้ง
  • Guardians of the Galaxy(2014) ไม่น่าเชื่อว่าป้าClose เคยร่วมงานกับทางMarvel Studio มาแล้ว โดยเจ้าตัวรับบทเป็นหัวหน้าหน่วยรบNova Prime นอกจากนี้ ยังสวมบทบาทเป็นมนุษย์ต่างดาวซึ่งมาไม่ถึง30วิซะด้วยซ้ำ
  • What Happened to Monday(2017) ภาพยนตร์ที่ฉายทางNetflix เฉพาะฝั่งอเมริกา,ประเทศแถบละตินอเมริกา และอังกฤษ ซึ่งเป็นแนวDystopia จิกกัดประชากรโลก โดยป้าClose รับบทเป็นประธานองค์กรC.A.B. ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมประชากร
ปี2020 ป้าClose มีผลงานภาพยนตร์ทางNetflix เรื่องHillbilly Elegy ซึ่งดัดแปลงจากบันทึกของนามปากกาJ. D. Vance เรื่องราวความไม่ลงรอยกันระหว่างแม่ตัวนักเขียนเองกับคุณยายในช่วงที่กลับมายังรัฐOhio ซึ่งตัวภาพยนตร์เรื่องนี้มีคำวิจารณ์ที่"เสียงแตก"มากพอสมควร คือ นักวิจารณ์ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไปในทางแย่ แต่ผู้ชมทั่วไปกลับชื่นชอบ
ป้าClose รับบทเป็นMamaw Vance คุณยายของผู้เขียนบันทึกเรื่องนี้อย่างนามปากกาJ. D. Vance ซึ่งทางทีมงานได้แปลงโฉมป้าClose ให้คล้ายกับคุณยายMamawมากที่สุด
ล่าสุด ป้าClose ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่78 ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ จากบทบาทนี้
ผลงานซีรีส์ทีวีแบบเต็มตัว
ป้าClose เคยรับบทนำให้กับซีรีส์ทางโทรทัศน์มาแล้ว
Damages เป็นซีรีส์แนวดราม่า-กฎหมายเรื่องราวของทนายความหญิงกับการทำงานด้านกฎหมาย ซึ่งออกอากาศตั้งแต่ปี2007 จนถึงปี2012 รวมทั้งหมด5ซีซั่น
ซีรีส์เรื่องนี้คว้ารางวัลEmmy Awards ถึง4รางวัล โดยป้าClose ได้รับรางวัลนี้ในสาขานักแสดงนำหญิงซีรีส์ดราม่าถึง2ครั้ง นอกจากนี้ เจ้าตัวก็ยังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทซีรีส์ดราม่า จากผลงานซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย
ชีวิตคู่ที่ล้มเหลวถึง3ครั้ง
ป้าClose เคยแต่งงานมาแล้วถึง3ครั้ง ดังนี้
  • ครั้งแรก แต่งงานกับลุงCabot Wade มือกีตาร์และนักเขียนเพลงของคณะประสานเสียงUp With People เมื่อปี1969 สุดท้ายได้หย่ากันเมื่อปี1971
  • ครั้งที่2 แต่งงานกับลุงJames Marlas นักธุรกิจเมื่อปี1984 หย่ากันเมื่อปี1987
  • ครั้งที่3 แต่งงานกับDavid Evans Shaw เมื่อปี2006 หย่ากันเมื่อปี2015
ป้าClose มีลูกสาว1คน คือพี่Annie Starke(เกิดเมื่อปี1988) ซึ่งเกิดกับเจ้าตัวกับลุงJohn Starke หนึ่งในทีมงานละครเวที ซึ่งคบหาดูใจตั้งแต่ปี1987 แต่ได้แยกทางกันเมื่อปี1991
8.Frances McDormand
เกิด:17 มิถุนายน 1957(ปัจจุบันอายุ63ปี)
บ้านเกิด:นครGibson รัฐIllinois สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1982
นักแสดงหญิงฝีมือดีที่มีรางวัลมากมาย การันตีความสามารถจากงานประกาศรางวัลด้านการแสดงต่างๆที่ได้รับรางวัลครบทั้ง3งาน ได้แก่ รางวัลออสการ์,Emmy Awards และTony Awards นอกจากนี้ยังเป็นภรรยาของผู้สร้างภาพยนตร์อีกด้วย
ชีวิตก่อนเข้าวงการ
ป้าMcDormand มีชื่อจริงตามใบเกิดว่า"Cynthia Ann Smith" ได้รับการอุปถัมป์จากสามี-ภรรยาตระกูลMcDormandตั้งแต่อายุ1ขวบครึ่ง เนื่องจากถูกแม่แท้ๆทอดทิ้ง
ป้าMcDormand กับครอบครัวอุปถัมป์ ย้ายที่เป็นว่าเล่น ตั้งแต่รัฐIllinois,รัฐGeorgia,รัฐKentucky และรัฐTennessee จนได้ไปอยู่อาศัยที่เมืองMonessen รัฐPennsylvaniaซึ่งที่นั่นเจ้าตัวก็ได้เรียนที่โรงเรียนไฮสคูลในเมืองนี้จนจบการศึกษาเมื่อปี1975
ป้าMcDormand จบการศึกษาระดับวิทยาลัยจากBethany College คณะศิลปศาสตร์ด้านการแสดงสำหรับเวทีเมื่อปี1979 และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยYale สำหรับการละคร เมื่อปี1982 ซึ่งในช่วงที่ป้าMcDormand กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยYale อยู่นั้น เจ้าตัวก็มีเพื่อนร่วมห้องก็คือ ป้าHolly Hunter 
เริ่มต้นกับการร่วมงานกับพี่น้องตระกูลCoen จนได้รับรางวัลออสการ์ครั้งแรก
ป้าMcDormand เข้าวงการตั้งแต่ปี1982 กับการแสดงละครเวที จนกระทั่งได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ ภาพยนตร์เรื่องBlood Simple(1984) ซึ่งเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของสองพี่น้องตระกูลCoen
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวระทึกขวัญสไตล์ฟิล์มนัวร์ ใช้ตัวละครไม่มาก แต่เป็นที่ถูกอกถูกใจจากเหล่านักวิจารณ์
จนกระทั่งการรับบทนำของป้าMcDormand ในภาพยนตร์เรื่องFargo(1996) ทำให้เจ้าตัวได้รับรางวัลออสการ์ครั้งแรก
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวอาชญากรรม-ตลกร้าย เรื่องราวของเซลขายรถยนต์ที่มีปัญหาด้านการเงิน จึงได้จ้างชาย2คนมาช่วยวางแผนปล้นเงินจากพ่อตา ด้วยการลักพาตัวภรรยา แต่เรื่องราวก็อีรุงตุงนังกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่มีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องต้องถูกสังเวยชีวิต
ป้าMcDormand รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงท้องแก่ ซึ่งการรับบทเป็นตัวละครที่ต้องทำงานแม้ต้องตั้งท้องก็ตาม และการแสดงที่ใส่มุขตลกเล็กๆลงไป ส่งผลให้ป้าMcDormand คว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากการเข้าชิงเป็นครั้งที่2
นอกจากนี้ ป้าMcDormand ยังร่วมงานกับภาพยนตร์ที่สร้างโดยสองพี่น้องตระกูลCoen ได้แก่
  • Raising Arizona(1987) ปล.นี่คือผลงานภาพยนตร์สุดครื้นเครงที่สุดของคุณNicolas Cage ก็ว่าได้
  • The Man Who Wasn't There(2001) ปล.ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ภาพขาว-ดำ เรื่องแรกของสองพี่น้องตระกูลCoen
  • Burn After Reading(2008) ปล.คุณBrad Pitt เล่นใหญ่แบบไม่ห่วงหล่อ แต่น้อยกว่าตอนแสดงภาพยนตร์เรื่อง12 Monkeys นิดนึง
  • Hail,Ceasar(2016) ปล.มิวสิคัลในรูปแบบตลกร้ายตามสไตล์พี่น้องตระกูลCoen
Three Billboards Outside Ebbing,Missouri กับการแสดงที่สร้างมาตรฐานสูงของป้าMcDormand จนได้รางวัลด้านการแสดงมากมาย
ภาพยนตร์เรื่องThree Billboards Outside Ebbing,Missouri(2017) เป็นภาพยนตร์ดราม่าขายการแสดงที่ทำให้ป้าMcDormandได้รับรางวัลด้านการแสดงทั้งรางวัลลูกโลกทองคำ,SAG Awards,รางวัลออสการ์ และBAFTA Awards
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของแม่วัยกลางคนที่ได้เช่าป้ายบิลบอร์ดทั้ง3ป้าย เพื่อเรียกร้องสังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมลูกสาวของตัวเธอเอง
ซึ่งนอกจากป้าMcDormandแล้ว ยังร่วมด้วยลุงWoody Harrelson และคุณSam Rockwell
ด้วยการแสดงที่เป็นมืออาชีพของMcDormand ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจจากเหล่านักวิจารณ์จนได้เป็นตัวเต็งในงานประกาศรางวัลด้านภาพยนตร์ และได้รับรางวัล ดังนี้
  • รางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดราม่า
  • SAG Awards สาขานักแสดงนำหญิง
  • รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
  • BAFTA Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆที่มีป้าMcDormand ร่วมแสดง มีดังนี้
  • Darkman(1990) ภาพยนตร์แอนตี้ฮีโร่ที่กำกับและร่วมเขียนบทโดยลุงSam Raimi เรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ที่ฟื้นจากความตายมาเป็นแอนตี้ฮีโร่เพื่อทวงความยุติธรรม นำแสดงโดยลุงLiam Neeson และป้าFrances McDormand
  • Almost Famous(2000) ภาพยนตร์ดราม่า-ตลก ที่กำกับโดยลุงCameron Crowe เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นที่ได้มาเป็นนักข่าวเพื่อติดตามวงร็อคที่เขาชอบ ที่ถึงแม้จะทำรายได้แบบขาดทุน แต่ด้วยเนื้อหาที่สนุกและได้ข้อคิด จึงทำให้กลายเป็นภาพยนตร์ขวัญใจหลายๆคน
  • Transformers:Dark of the Moon(2011) ภาพยนตร์เรื่องที่3 ของภาพยนตร์ตระกูลTransformers และเป็นการรับบทนำครั้งสุดท้ายของพี่Shia LaBeouf
ปี2020 ป้าMcDormand ได้แสดงนำให้กับภาพยนตร์ดราม่าเรื่องNomadland ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยพี่Chloé Zhao ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์หญิงชาวจีนที่ทำงานในอเมริกา
เรื่องราวของหญิงวัยกลางคนที่ต้องออกเดินทางเองด้วยรถบ้านหลังจากมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งภาพยนตรเรื่องนี้ได้เป็นตัวเต็งที่จะได้รับรางวัลด้านภาพยนตร์ในสาขาใหญ่ๆ หลังจากเปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในอเมริกาแบบจำกัดโรงในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ได้รับรางวัลกับมินิซีรีส์สุดยอดเยี่ยม
Olive Kitteridge(2015) มินิซีรีส์4ตอนจบ ออกอากาศทางช่องHBO ที่ดัดแปลงมาจากฉบับนิยาย โดยมินิซีรีส์เรื่องนี้การันตีด้วยรางวัลลูกโลกทองคำ,SAG AwardsและEmmy Awards ซึ่งป้าMcDormand ได้รับรางวัลทั้งEmmy Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประเภทซีรีส์แบบจำกัดหรือภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ และSAG Awards สาขานักแสดงนำหญิง ประเภทมินิซีรีส์หรือภาพยนตร์ทางโทรทัศน์
ชีวิตครอบครัว
ป้าMcDormand แต่งงานกับลุงJoel Coen(Coenคนพี่) ตั้งแต่ปี1984(ปีเดียวกับภาพยนตร์เรื่องBlood Simple เข้าฉาย) โดยในปี1995 ทั้งคู่ก็ได้อุปการะเด็กชายชาวปารากวัยมาเป็นลูกบุญธรรม 
ขอขอบคุณข้อมูลจากWikipedia


Panchud Thammachat

Panchud Thammachat

ป่านค่ะ ผู้ประสบปัญหาหน้ามันเป็นสิวซ้ำซากค่ะ ใครมีเคล็คลับอะไรดีๆ ช่วยแชร์ให้เราด้วยนะคะ
และยังมีบทความของดาราจากทั่วโลก แต่ไม่เน้นพวกบทความGossip ไม่มีการเหยียดสีผิว ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติใดๆทั้งสิ้น

FULL PROFILE