รวบรวมนักแสดง"คุณป้า" ที่มีฝีมือการแสดงไม่ธรรมดา #3

32 7
5 Jessica Lange
เกิด:20 เมษายน 1949(ปัจจุบันอายุ71ปี)
บ้านเกิด:เมืองCoquet รัฐMinnesota สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1976
นักแสดงหญิงเจ้าบทบาท หนึ่งในนักแสดงที่เคยคว้ารางวัลออสการ์ทั้งสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ยังเป็น1ในนักแสดงขาประจำของซีรีส์ชุดAmerican Horror Story ซึ่งเป็นซีรีส์เรือธงของช่องFX
ชีวิตก่อนเข้าวงการ
ป้าLange เป็นลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว จบการศึกษาระดับไฮสคูลที่โรงเรียนในเมืองCoquet
ป้าLange ได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในรัฐMinnesota เมื่อปี1967 จนได้พบรักกับช่างภาพชาวสเปน ป้าLange จึงตัดสินใจแต่งงานในปี1970 หลังจากนั้นปี1971 ป้าLange กับสามีในตอนนั้น ได้ใช้ชีวิตแบบโบฮีเมียน เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก จนได้มาย้ายไปอยู่ที่กรุงParis ประเทศฝรั่งเศส ป้าLange จึงได้ไปเรียนการแสดงที่นั่น
แจ้งเกิดจากภาพยนตร์รีเมค
King King ฉบับปี1976 เป็นภาพยนตร์รีเมคมาจากฉบับปี1933 ซึ่งตัวคิงคองนั้น สร้างโดยทีมงานมากกว่าร้อยคน มีความสูง40ฟุต หนัก6ตันครึ่ง
ซึ่งบทDawn หญิงสาวที่ตกเป็นเครื่องสังเวยให้กับสัตว์ประหลาดในเกาะกระโหลกนั้น ป้าMeryl Streep กับป้าBarbra Streisand เคยได้รับการทาบทามให้มารับบทนี้ แต่ทั้งคู่คิวงานแน่น จึงปฏิเสธบทนี้ไป ทีมงานเลยได้ป้าJessica Lange ซึ่งไม่เคยแสดงภาพยนตร์เรื่องใดมาก่อนเลย มารับบทนี้
หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย ป้าLange ในวัย27ปี จากนักแสดงโนเนม กลายเป็นนักแสดงชื่อดังทันที จนทำให้ได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์ระดับคุณภาพในภายหลัง
แต่มีบางส่วนติติงป้าLange ว่าแสดงได้แข็งเป็นตุ๊กตา นี่แค่เป็นการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกเอง
ยุค80s ยุครุ่งเรืองของป้าLange และการได้รับรางวัลออสการ์ตัวแรก
เริ่มจากปี1981 กับภาพยนตร์อีโรติกรีเมคเรื่องThe Poseman Always Rings Twice ซึ่งป้าLange ได้ร่วมงานกับคุณตาJack Nicholson 
ซึ่งเรื่องราวเป็นความสัมพันธ์แบบลับๆระหว่างลูกจ้างกับหญิงสาวผู้เป็นภรรยาของนายจ้าง ซึ่งฝ่ายหญิงได้จ้างวานลูกจ้างให้ฆ่าผู้เป็นสามีเสีย เรื่องราวสุดระทึกจึงได้เริ่มขึ้น
หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย ป้าLange ก็ได้ลบคำสบประมาทของเหล่านักวิจารณ์อย่างหมดจด
ปี1982 ภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้เรื่องTootsie ได้เข้าฉายให้คอหนังได้เฮฮากันมาแล้ว
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ ลุงSydney Pollack(1934-2008) มีตำแหน่งทั้งผู้กำกับและร่วมแสดง และเป็นการทุ่มเทในการปลอมตัวเป็นผู้หญิงให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ของคุณปู่Dustin Hoffman
แต่ที่เหล่านักวิจารณ์ชื่นชมและให้รางวัลเกือบทุกงานประกาศรางวัลด้านภาพยนตร์เห็นจะเป็นป้าLange ที่รับบทเป็นJulie Nichols นักแสดงหญิงและคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว โดยกวาดรางวัลทั้งรางวัลลูกโลกทองคำ ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมประเภทภาพยนตร์ และรางวัลออสการ์ ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ ในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งนั้น ป้าLange ก็ยังได้เข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากบทFrances Farmer ในภาพยนตร์เรื่องFrances(1982)อีกด้วย
ภาพยนตร์อีกเรื่องในช่วงยุค80s ที่ป้าLangeได้เข้าชิงรางวัลด้านภาพยนตร์คือเรื่องCountry(1984)
เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับครอบครัวชาวนาในชนบทห่างไกลที่ต้องเจอเหตุการณ์โดนดูถูกเหยียดหยามจากคนที่มีฐานะดีกว่า
ซึ่งคีย์หลักของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ"ความเหลื่อมล้ำทางสังคม" ที่จนถึงทุกวันนี้ยังแก้ไม่ได้เลย
ยุค90s กับงานภาพยนตร์ขายการแสดง และออสการ์ตัวที่2
ป้าLange ยังคงรับงานภาพยนตร์ที่ขายการแสดงเป็นหลัก
เริ่มกันที่ภาพยนตร์เรื่องCape Fear(1991) ผลงานการกำกับโดยลุงMartin Scorsese นำแสดงโดยนักแสดงขาประจำอย่างลุงRobert de Niro
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวระทึกขวัญ-จิตวิทยา ที่รีเมคมาจากฉบับปี1962 เนื้อหาเกี่ยวกับSam Bowden ทนายความที่มีครอบครัวแล้ว ต้องมาแก้ต่างให้Max Cady ในข้อกล่าวหาที่ว่าทำร้ายและข่มขืนหญิงสาวรายหนึ่ง จนMaxต้องถูกจำคุกนาน14ปี แต่หลังจากที่Max พ้นจากคุก ก็กลับมาเพื่อถามความจริงจากSam จนมีผลกระทบต่อครอบครัวของเขาเอง
ลุงNiro รับบทเป็นMax Cady ซึ่งถือว่าเป็นบทบาทการแสดงที่ท้าทายมาก จนได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ร่วมด้วยลุงNick Nolte,ป้าJessica Lange และคุณJuliette Lewis ซึ่งได้เข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย
รางวัลออสการ์ตัวที่2 ของป้าLange มาจากภาพยนตร์เรื่องBlue Sky(1994)
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการโคจรพบกันครั้งแรกระหว่างป้าLange กับลุงTommy Lee Jones เรื่องราวของHank Marshallวิศวกรนิวเคลียร์และ Carly Marshallภรรยาที่ป่วยทางจิต กับบททดสอบทั้งชีวิตรัก,ครอบครัว,หน้าที่การงาน และอาการทางจิตของภรรยา
ซึ่งบทภรรยาผู้มีภาวะป่วยทางจิตนี้ ทำให้ป้าLange ได้รับรางวัลออสการ์เป็นตัวที่2 ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
แต่เส้นทางการแสดงของป้าLange มีอันต้องสะดุด เพราะภาพยนตร์เรื่องHush(1998) ภาพยนตร์ระทึกขวัญที่ว่าด้วยเรื่องศึกแม่ยายกับลูกสะใภ้ ที่นำไปสู่เหตุการณ์ไม่คาดคิดนั้น ได้เข้าชิงรางวัลด้านภาพยนตร์ยอดแย่ โดยป้าLange ได้เข้าชิงรางวัลRazzie Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดแย่
กลับมาทวงบัลลังก์"ตัวแม่" กับผลงานซีรีส์
ในช่วงทศวรรษ2010s ป้าLange เริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับงานด้านภาพยนตร์ จึงหันไปแสดงซีรีส์เป็นหลัก ซึ่งซีรีส์ชุดAmerican Horror Story กลายเป็นการกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของป้าLange
ซึ่งซีรีส์ชุดAmerican Horror Story จะใช้นักแสดงชุดเดียวกันในแต่ละซีซั่น โดยป้าLange รับบทเป็น4ตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้ทั้งหมด5ซีซั่น ดังนี้
  • ภาคMurder House(ซ้ายบน) รับบทเป็นConstance Langdon คุณแม่จอมบงการ
  • ภาคAsylum(ขวาบน) รับบทเป็นแม่ชีJude Martin แม่ชีผู้กุมความลับสุดสยอง
  • ภาคCoven(ซ้ายล่าง) รับบทเป็นFiona Goode หัวหน้าแม่มด
  • ภาคFreak Show(ขวาล่าง) รับบทเป็นElsa Mars นางโชว์ โดยบทนี้ ป้าLange ต้องร้องเพลงโดยไม่มีการลิปซิงค์เลย
ในภาคApocalyseนั้น ป้าLange ก็กลับมารับบทเป็นConstance Langdon ตัวละครจากภาคMurder House
ในปี2017 ป้าLange ก็ได้ประชันบทบาทกับป้าSusan Sarandon กับมินิซีรีส์เรื่องFeud ซึ่งเป็นแนวดราม่ากึ่งสารคดี เรื่องราวของความไม่ลงรอยกันระหว่างJoan Crowford และBette Davis ดาราในยุคตั้งแต่40s-50s
ปี2019 ซีรีส์ทางNetflix เรื่องThe Politician ได้ออกอากาศเป็นซีซั่นแรก และเป็นการโคจรพบกันอีกครั้งระหว่างป้าJessica Lange กับคุณGwyneth Paltrow
เนื้อหาของซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของPayton Hobart ชายหนุ่มจอมกวนที่มีความฝันอยากเป็นประธานาธิปดี โดยสนามการเมืองแรกก็คือการเป็นประธานนักเรียน เรื่องราววุ่นๆจึงเกิดขึ้น
โดยป้าLange รับบทเป็นDusty Jackson ย่าของInfinity Jackson(รับบทโดยน้องZoey Deutch) ปรากฎตัวในซีซั่นแรก
ชีวิตคู่ที่ล้มเหลวมาแล้ว3ครั้ง
อย่างที่บอกไปว่าป้าLange ได้แต่งงานกับช่างภาพตั้งแต่ปี1970 แต่จุดพลิกผันก็คือ ป้าLange กับอดีตสามีคนแรกมีปัญหากันตั้งแต่ย้ายไปอยู่ที่กรุงParis จึงตัดสินใจแยกทางกันช่วงปี1980 แต่ในขณะที่กำลังทำเรื่องหย่ากับอดีตสามีคนแรกนั้น ในปี1976 ป้าLange ก็ได้สานสัมพันธ์กับนักเต้นบัลเลต์ชาวรัสเซียจนให้กำเนิดลูกสาวคนแรก(เกิดเมื่อปี1981) แต่ทั้งคู่ได้แยกทางกันพร้อมกับการหย่าขาดจากอดีตสามีในปี1982
ในปีเดียวกันนั้น ป้าLange ได้พบรักใหม่กับลุงSam Shepard ทั้งคู่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่โดยไม่แต่งงาน ทั้งคู่มีลูกสาว(เกิดเมื่อปี1986) และลูกชาย(เกิดเมื่อปี1987) และได้ใช้ชีวิตไปตามรัฐและเมืองต่างๆ ได้แก่ รัฐVirginia,รัฐNew Mexico,รัฐMinnesota และนครNew York จนกระทั่งทั้งคู่ได้เลิกรากันเมื่อปี2009
6.Angela Bassett
เกิด:16 สิงหาคม 1958(ปัจจุบันอายุ62ปี)
บ้านเกิด:นครNew York สหรัฐอเมริกา
เข้าวงการตั้งแต่ปี1985
นักแสดงหญิงผิวสี ที่มีสไตล์การแต่งตัวเหมือนรู้งาน และการแสดงที่เฉียบคม มีรางวัลลูกโลกทองคำการันตีความสามารถทางการแสดง1ตัว
ชีวิตก่อนเข้าวงการ
ป้าBassett เป็นลูกสาวคนโตของครอบครัวที่มีบรรพบุรุษเคยเป็นทาสมาก่อน หลังจากที่ย้ายจากรัฐNew Work ไปอยู่ที่รัฐNorth Carolina พ่อแม่ของเจ้าตัวได้หย่ากันตั้งแต่เด็ก จึงได้ย้ายต่อไปอยู่ที่รัฐFlorida โดยอยู่กับแม่และน้องสาว
ป้าBassett ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเอกชนในSt.Peterburg จนถึงชั้นGrade7(เทียบเท่าชั้นม.1) จึงย้ายไปเรียนต่อชั้นGrade8และ9(เทียบเท่าชั้นม.2และม.3)ที่โรงเรียนAzelea Middle School หลังจากนั้นก็ได้ศึกษาต่อในระดับHigh Schoolที่โรงเรียนBica Ciega
ป้าBassett ได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยYale สาขาการศึกษาสำหรับคนแอฟริกัน-อเมริกา ตั้งแต่ปี1980-1983 จากนั้นก็ได้เรียนการแสดงที่โรงเรียนการละครYale จนได้จบการศึกษาที่นั่นเมื่อปี1986
ผลงานสร้างชื่อให้กับป้าBassett
ป้าBassett เข้าสู่วงการด้วยการเริ่มแสดงเป็นตัวละครที่มีบทบาทเล็กๆ จนเมื่อปี1991 ก็ได้แจ้งเกิดจากบทReva Devereaux ในภาพยนตร์เรื่องBoyz n the Hood
หลังจากนั้นในปี1992 เจ้าตัวได้รับบทเป็นKatherine Jackson ซึ่งเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในมินิซีรีส์เรื่องThe Jacksons:An American Dream ซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวกับครอบครัวตระกูลJackson กับบทบาทในวงการดนตรี
ในปีเดียวกันนั้น ป้าBassett ก็ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องMalcolm X ในบทBetty Shebazz ซึ่งเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง โดยในปี1995 เจ้าตัวก็รับบทนี้อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องPanther
ได้เข้าชิงออสการ์และได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากบทนักร้องชื่อดัง
What's Love Got to Do with It(1993) คือภาพยนตร์ที่เล่าถึงเส้นทางการเป็นนักร้องของคุณย่าTina Turner(มีชื่อจริงว่าAnna Mae Bullock) และชีวิตครอบครัวกับคุณปู่Ike Turner สามีคนแรก
โดยป้าBassett ได้ถ่ายทอดบทTina Turner ทั้งการแสดงและการร้องเพลงได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลกไปครอง และยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ร่วมแสดงในภาพยนตร์ซุเปอร์ฮีโร่2ค่าย
ปี2011 Warner Bros. และDC Comic ได้สร้างภาพยนตร์เรื่องGreen Lantern โดยได้คุณRyan Reynolds มารับบทเป็นHal Jordan นอกจากนี้ ป้าBassett ก็มารับบทเป็นAmanda Waller
แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับทำรายได้ล้มเหลวและคำวิจารณ์ที่แย่สุดๆ ทำให้หมดโอกาสทำภาคต่อทันที
ส่วนทางMarvel Studio ได้สร้างภาพยนตร์เรื่องBlack Panther(2018) ซุเปอร์ฮีโร่ผิวสีจากMarvel ตัวแรกที่มีภาพยนตร์เป็นของตนเอง ซึ่งหลังจากเข้าฉาย ก็ได้รับความนิยม โดยเฉพาะคนผิวสี
ป้าBassett รับบทเป็นราชินีRamonda พระมารดาของT'Challa และShuri ซึ่งแต่ละชุดที่ป้าBassett สวมใส่ตอนรับบทนี้ ทำมาอย่างพิถีพิถัน และสง่างามในเวลาเดียวกัน
ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆที่มีป้าBassett ร่วมแสดง มีดังนี้
  • Waiting to Exhale(1995) ภาพยนตร์โรแมนติก ซึ่งเป็นการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของลุงForest Whitaker นักแสดงชื่อดัง นำแสดงโดยคุณWhitney Houston(1963-2012),ป้าAngela Bassett,คุณLela Rochon และป้าLoretta Devine โดยภาพจำของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือฉากที่Bernie Harris(รับบทโดยป้าBassett) เผารถของแฟนเก่าทิ้ง
  • Olympus Has Fallen(2013) และLondon Has Fallen(2016) ภาพยนตร์แอคชั่น-ระทึกขวัญ เรื่องราวของMike Banning(รับบทโดยคุณGerard Butler) บอดี้การ์ดคุ้มกันประธานาธิปดี ที่ต้องต่อกรกับผู้ไม่หวังดีที่เป็นต้นเหตุของการก่อการร้าย โดยป้าBassett รับบทเป็นLynne Jacobs หัวหน้าหน่วยอารักขาประธานาธิปดี
  • Mission Impossible-Fallout(2018) ภาพยนตร์แอคชั่น-สายลับนำแสดงโดยลุงTom Cruise(พ่วงตำแหน่งโปรดิวเซอร์) ที่กลายเป็นภาคที่ดีที่สุดของแฟรนไชน์Mission Impossible ทั้งรายได้และคำวิจารณ์ โดยป้าBassett รับบทเป็นErika Sloane หัวหน้าหน่วยCIAคนใหม่
ผลงานซีรีส์ทางทีวี
จุดเริ่มต้นในการแสดงของป้าBassett มาจากการแสดงภาพยนตร์ทางโทรทัศน์
เจ้าตัวได้มาเป็นนักแสดงรับเชิญให้กับซีรีส์หลายเรื่อง จนได้มาเป็นหนึ่งในนักแสดงนำของซีรีส์ER(1994-2009) ซึ่งเป็นซีรีส์เกี่ยวกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ออกอากาศตั้งแต่ยุค90s จนถึงปลายยุค2000s
โดยป้าBassett รับบทเป็นDr. Cate Banfield มีบทบาทตั้งแต่ซีซั่นที่14จนถึงซีซั่นสุดท้าย
ป้าBassett ก็เป็นนักแสดงขาประจำของซีรีส์American Horror Story โดยร่วมแสดงทั้งหมด5ภาค 4ตัวละคร ดังนี้
  • ภาคCoven(ซ้ายบน) รับบทเป็นMarie Laveau แม่หมอวูดู
  • ภาคFreak Show(ขวาบน) รับบทเป็นDesiree Dupree หญิง3เต้า
  • ภาคHotel(ซ้ายล่าง) รับบทเป็นRamona Royale อดีตดาราตัวเอ้
  • ภาคRoanoke(ขวาล่าง) รับบทเป็นMonet Tumusiime ซึ่งสวมรอยเป็นLee Harris
นอกจากนี้ ภาคApocalypes ป้าBassett ก็ได้เป็นนักแสดงรับเชิญ โดยรับบทเป็นMarie Laveau ซึ่งเป็นตัวละครจากภาคCoven
ซีรีส์อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเรื่อง9-1-1 (2018-ปัจจุบัน) เป็นซีรีส์ที่เล่าถึงการทำงานของผู้มีอาชีพที่ต้องช่วยเหลือผู้คน อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ,เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทางการแพทย์,นักดับเพลิง และผู้มอบหมายงานด้านต่างๆ
โดยซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจนมีซีซั่นต่อและมีซีรีส์Spin-off เรื่อง9-1-1 Lone Star ซึ่งซีซั่นที่4ก็ได้เริ่มออกอากาศในเดือนมกราคม 2021นี้แล้ว
ป้าBassett ได้รับบทเป็นจ่าตำรวจ Athena Grant ตัวเอกของซีนีส์เรื่องนี้ นอกจากนี้ เจ้าตัวยังได้พ่วงตำแหน่งเป็นExecutive Producer ให้กับซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย
งากพาทย์เสียง
ป้าBassett ได้ให้เสียงเป็นตัวละครใหกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นทั้งหมด2 เรื่อง ได้แก่
  • ให้เสียงเป็นMildred ในภาพยนตร์เรื่องMeet the Robinsons(2007) ภาพยนตร์แอนิเมชั่นของค่ายDisney เรื่องราวของเด็กชายผู้ไม่เอาไหนได้พบกับหนุ่มน้อยจากโลกอนาคต
  • ให้เสียงเป็นDorothea Williams ในภาพยนตร์เรื่องSoul(2020) ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของทางPixar ที่จะให้ผู้ชมค้นหาความหมายของชีวิต
ชีวิตครอบครัว
ป้าBassett ได้แต่งงานกับลุงCourtney B. Vance นักแสดงเจ้าของรางวัลTony Awards ตั้งแต่ปี1997 โดยก่อนหน้านั้นทั้งคู่ได้รู้จักกันเมื่อครั้งศึกษาที่มหาวิทยาลัยYale ทั้งคู่มีลูกฝาแฝดชาย-หญิงซึ่งเกิดจากการอุ้มบุญ(เกิดเมื่อปี2006)
ป้าBassett มีความสนใจเกี่ยวกับงานศิลปะ และมีความห่วงใยกับเด็กกำพร้า จึงได้เข้าร่วมเป็นทูตขององค์การUNICEF
ขอขอบคุณข้อมูลจากWikipedia


Panchud Thammachat

Panchud Thammachat

ป่านค่ะ ผู้ประสบปัญหาหน้ามันเป็นสิวซ้ำซากค่ะ ใครมีเคล็คลับอะไรดีๆ ช่วยแชร์ให้เราด้วยนะคะ
และยังมีบทความของดาราจากทั่วโลก แต่ไม่เน้นพวกบทความGossip ไม่มีการเหยียดสีผิว ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติใดๆทั้งสิ้น

FULL PROFILE