Dyson : Airwrap VS Supersonic | _idemdem

48 6

  เคยได้ยินคำถามนี้มั้ยครับ ⁉️


“ อยากได้ไดร์เป่าผมของ Dyson แต่ไม่รู้จะซื้อตัวไหนดี ?? “


  • เดมเชื่อครับว่าหลายคนคงได้ยินคำถามนี้มาบ้างไม่มาก
    ก็น้อย หรือไม่บางคนก็อาจจะมีคำถามนี้อยู่ในใจเหมือนกัน
       


  • ? สวัสดีครับ วันนี้ _idemdem จะมารีวิวความรู้สึกหล้งใช้งานและเปรียบเทียบไดร์เป่าผม 2 ตัวจากแบรนด์ดังอย่าง “ Dyson “ ให้ทุกคนได้ใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อให้เหมาะกับตัวเองกันนะครับ

“ Dyson Supersonic™ ?


“ เป่าผมแห้งเร็ว ไม่ใช้ความร้อนสูง ระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะเพื่อผมเงางาม “


    สำหรับเดม นี่คือไดร์เป่าผมที่รักมากที่สุดเลย ❤️  เป็นของที่ซื้อแล้วได้ใช้งานจริงๆ ตั้งแต่ได้มาเป็นของขวัญปีใหม่ที่ผ่านมานี้ เดมก็ใช้ตลอดใช้ทุกวันจริงๆเพราะอยู่แต่บ้านกักตัวช่วง COVID-19 ด้วย



  •   เดมชอบความที่เป่าไดร์ตัวนี้ลมแรงมากกก ? แล้วให้ความร้อนสูงด้วย (ซึ่งบางทีอาจจะร้อนเกินไปหน่อยนะ ?) ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบไว้ผมสั้นมากกว่าผมยาวอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ผมแห้งเร็วขี้นไปอีก แถมผมไม่เคยเสียเลย ถึงจะโดนร้อนแค่ไหนก็ตาม  


  •    ส่วนเรื่องดีไซน์ ในช่วงแรกจะจับไม่ค่อยถนัดมือนะครับ เพราะช่องดูดลมเขาอยู่ตรงปลายด้ามจับ คือจะเผลอเอามือไปกำไว้บ่อยๆ แต่ใช้ไปนานๆจะชินเอง ส่วนสายไฟอาจจะมีความเทอะทะนิดหน่อย เพราะจากการที่เคยใช้ไดร์เป่าผมอันเก่าที่สามารถเก็บสายม้วนเข้าไปในตัวเครื่องได้ พอมาใช้อันนี้ก็รู้สึกแปลกๆเพราะสายไฟเขาใหญ่มาก

“ Dyson Airwrap™ “ ?


“สร้างลอน เรียบลื่น เป่าแห้ง โดยไม่ต้องใช้ความร้อนสูง”


   สำหรับตัวนี้เดมเพิ่งจะซื้อมาลองเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนนี่เองครับ ด้วยความอยากรู้อยากลองเต็มที  โดยความรู้สึกหลังใช้ครั้งแรกคือ “ใช้ยากจัง” ดูมีลูกเล่นเยอะไปหมดถอดอันนั้นเปลี่ยนอันนี้ ซึ่งความต้องการจริงๆของเราก็คือ “แค่เป่าผมให้แห้ง” แค่นั้นเอง ?

  •   แต่หลังจากได้ลองใช้งานประมาณ 2-3 วันก็เริ่มรู้วิธีใช้ให้ตรงกับความต้องการของเรา ซึ่งเดมใช้หัวที่เป็นแปรงในการหวีผมที่เปียกๆให้แห้ง ละผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าพอใจมากครับ

 

  • เพราะวิธีที่เดมใช้ในการไดร์ตรงให้ผมเรียบเป็นระเบียบ คือการใช้หัวแปรงจัดแต่งทรงแบบขนอ่อน ( Soft Smoothing Brush) หวีด้วยความร้อนปานกลางตามแนวเส้นผมก่อน หลังจากนั้นค่อยเปลี่ยนเป็นการเบาด้วยลมเย็นแทน และด้วยความที่ขนแปลงมีปุ่มตรงปลายขน ทำให้ได้นวดหนังศรีษะไปในตัว

  •   ในเรื่องของดีไซน์ไม่ค่อยต่างจากตัว Supersonic เท่าไหร่ครับ แค่มีความรู้สึกที่เบากว่า ในการใช้งานถือว่าทำได้ดีสำหรับการใช้มือม้วนผม เนื่องจากสายไฟเป็นแบบหมุนได้ 360 องศาเพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าเวลาใช้สายไฟจะบิดเบี้ยวเลย

เปรียบเทียบเทียบระหว่าง
Dyson Airwrap™ และ Dyson Supersonic™




Dyson Supersonic™ ?ราคา 14,900 บาท
  • มาพร้อมหัวเป่าลม 3 แบบ(ขึ้นอยู่กับเซ็ทที่เลือก) มีน้ำหนักที่เยอะกว่า ปรับความเร็วลมและระดับความร้อนได้สูงกว่า(4 ระดับ) เหมาะกับการเป่าผมให้แห้งในเวลาอันสั้น



Dyson Airwrap™ ?ราคา 17,900 บาท

  • มาพร้อมแกนม้วน 4 ขนาด , แปลงจัดทรง 3 แบบ และหัวไดร์เป่าผม( รวมแล้วมีอุปกรณ์เสริม 8 ชิ้น ?) น้ำหนักเบา ลูกเล่นเยอะกว่ามาก เหมาะกับการจัดแต่งทรงผมแบบลอน แต่สามารถใช้ไดร์ผมให้แห้งได้เหมือนกัน แต่อาจจะใช้เวลานานกว่าเล็กน้อย




‼️‼️ สรุปนะครับ สำหรับใครที่ชอบการจัดแต่งทรมผม ทำผมบ่อยๆโดยเฉพาะการม้วนลอน ควรใช้ Dyson Airwrap ครับ เพราะลูกเล่นเขาเยอะมากจริงๆ

แต่สำหรับใครที่ชอบเป่าผมให้แห้งเร็ว ชอบไดร์ผมตรง หรือใช้ความร้อนสูงกับเส้นผม ควรใช้ Dyson Supersonic™



หรือถ้าใครชอบทั้งคู่ ก็ซื้อมาใช้ทั้งคู่แบบเดมก็ได้นะครับ ???


Dem Ai Dem

Dem Ai Dem

สวัสดีครับ/ค่ะ
ชื่อ “เดม” เรียกยาวๆว่า “ไอเดม” เรียกง่ายๆว่า “เดมิ” นะครับ
เข้ามาทักทายพูดคุยกันได้นะครับ
IG : _ idemdem
Facebook : Dem Ai Dem
Twitter : @_idemdem

เป็นคนชอบซื้อเครื่องสำอางและสกินแคร์มาเก็บ ( แต่ก็ใช้บ้างนะ)

FULL PROFILE