ข่าวเก่าของJebanที่ลงหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

กลวิธีสื่อสารของแบรนด์สมัยใหม่ โดยเฉพาะกับแบรนด์ที่ตั้งเป้ามัดใจกลุ่มเป้าหมายวัยทีนนั้น ย่อมต้องไม่พลาดการสื่อสารผ่านออนไลน์ ซึ่งกลายมาเป็นสื่อกระแสหลักของคนกลุ่มนี้ไปเสียแล้ว

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : "เซเลบ ออนไลน์" อีกหนึ่งเครื่องมือใหม่ที่น่าจับตามองของนักการตลาด และกำลังมีอิทธิพลมากในโลกไซเบอร์

แน่นอนว่าคนที่จะมีอิทธิพลมากก็ย่อมต้องอยู่ในโลกไซเบอร์เช่นเดียวกัน เทรนด์นี้ไม่ควรพลาด เพราะกูรูเมืองไทยฟันธงแล้วว่าเกิดขึ้นในบ้านเราเร็วๆ นี้แน่นอน

หากพูดถึงกลวิธีสื่อสารของแบรนด์สมัยใหม่ โดยเฉพาะกับแบรนด์ที่ตั้งเป้ามัดใจกลุ่มเป้าหมายวัยทีนนั้น ย่อมต้องไม่พลาดการสื่อสารผ่านออนไลน์ ซึ่งกลายมาเป็นสื่อกระแสหลักของคนกลุ่มนี้ไปเสียแล้ว

และอีกหนึ่งเครื่องมือซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองอย่างมาก ได้แก่ การหันมาใช้เซเลบที่ดังขึ้นมาจากโลกออนไลน์ ให้มาเป็นคล้ายแบรนด์แอมบาสเดอร์ในการสื่อสารในโลกจริงๆ ใบนี้ ซึ่งจากเคสที่เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศนั้น ยกตัวอย่างเช่น สองหนุ่มหน้าหยก จากแดนมังกร ที่แสดงความบ้าแบบสุดๆ ผ่านคลิปวิดีโอ แสดงเป็นพระเอกเอ็มวี ร้องเพลงลิปซิงค์ของแบ็คสตรีทบอย ผลของการโปรโมทตัวเองอย่างไม่มีต้นทุนของเด็กทั้งสองคนนี้

นอกจากจะทำให้กลายเป็นคนดังได้ในพริบตาแล้วนั้น ผลของความบ้าก็ได้ส่งให้ทั้งสองก้าวขึ้นเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าแบรนด์ระดับโลกอย่าง โมโตโรล่า และ เป๊ปซี่ อีกด้วย

และสำหรับตัวอย่างที่น่าจะเกิดได้มากที่สุดสำหรับเมืองไทย คือกรณีบล็อกของสาวคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า "จีบัน" (jeban) ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างมาก ด้วยจุดขายคือ สอนเทคนิคการแต่งหน้าให้กับสาวๆ จนมีสาวกแฟนคลับตามอ่านเรื่องราวของสาวคนนี้เป็นหมื่นๆ คนเลยทีเดียว

จากการแจ้งเกิดบนพื้นที่บล็อกแก๊ง ของพันทิปนั้น ล่าสุดจีบันก็ได้ขยับขยายหาพื้นที่ใหม่ เปิดเป็นเวบไซต์ของตัวเองในชื่อว่า jeban.com เมื่อกลางปีนี้ เพียงแค่ไม่กี่เดือนแต่ตัวเลขวัดผลเชิงสถิติ ที่วัดโดย matigo webstats นั้นกลับพบว่า ตั้งแต่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งปัจจุบัน เวบแห่งนี้มีจำนวนหน้าที่คนเปิดเข้ามาดูแล้วถึงกว่าหนึ่งล้านสี่แสนหน้า

นับว่าไม่น้อยเลยสำหรับเวบน้องใหม่ที่มีอายุเพียงไม่กี่เดือนนี้

ทั้งนี้ภาพรวมในเวบของสาวจีบัน นอกจากจะเป็นฮาวทูสอนแต่งหน้าในรูปแบบต่างๆ แล้ว ยังมีคอนเทนท์อื่นๆ ที่อยู่ในความสนใจของสาวๆ ปรากฏอยู่ด้วย อาทิเช่น ข่าวสารความเคลื่อนไหวของสินค้าออกใหม่ เรื่องราวเมาท์สู่กันฟัง แฟชั่นแอนด์ชอปปิง จนถึงแนะนำสถานที่เที่ยวหรือร้านอาหารที่น่าสนใจ

และด้วยผลงานครั้งนี้ทำให้ "จีบัน" กลายเป็นปรมาจารย์ด้านการแต่งหน้า ที่มีสาวกตามติดเทรนด์จำนวนมากนั้น จากความเป็นเพื่อน ที่ผู้บริโภคหรือแฟนคลับรู้สึกสนิทใจมากกว่าคนดังที่เป็นดารา นักร้อง หรือ ไฮโซทั่วไปอยู่หลายเท่า ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าอำนาจในการโน้มน้าวใจก็ต้องมากขึ้นตามไปด้วย

งานนี้ กรณิการ์ กลีบแก้ว ผู้จัดการฝ่ายอินเตอร์แอคชัน บริษัท มายด์แชร์ อินเทอร์แอคชัน ก็เชื่อว่าขณะนี้ สาวจีบัน น่าจะโดนนักการตลาดในสายคอสเมติกเข้าไปจีบไม่น้อยแล้ว

"สำหรับเมืองไทย ก็เคยมีคนที่ดังจากโลกออนไลน์ จนข้ามมาดังในโลกออฟไลน์ก็มี อย่าง บอลลูน พิมพ์สุดา หรือ น้องเบเบ้ นั้นก็ดังจากการโพสต์รูปบนเวบที่วัยรุ่นอยู่เยอะๆ จากนั้นถึงได้มีโมเดลลิ่ง และค่ายบันเทิงต่างๆ ติดต่อหางานมาให้จนดังอย่างทุกวันนี้ แต่ถ้าเป็นวันนี้คนจะดังได้นั้น ส่วนใหญ่จะต้องดังเพราะมีกึ๋น คือ สร้างคอนเทนท์ดีๆขึ้นมา จนคนติดตามอ่านแล้วก็กลายเป็นแฟนประจำในที่สุด" กรณิการ์กล่าว

สอดคล้องกันกับที่ วันฉัตร ผดุงรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เน็ต มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของแลพผู้ก่อตั้งเวบไซต์ pantip.com ต้นสังกัดของบล็อกแก๊ง ซึ่งสาวจีบันเปิดบล็อกอยู่ ก็มองในทางเดียวกันว่านี่จะเป็นเทรนด์ได้แน่นอน และนักการตลาดไม่ควรพลาดเทรนด์นี้อย่างเด็ดขาด

พร้อมกันนี้ ก็ได้ยกตัวอย่างในรูปแบบอื่นๆ ที่นักการตลาดเข้ามาหยิบใช้เวบไซต์เป็นเครื่องมือเชื่อมโยงถึงผู้บริโภคโดยไม่ได้ซื้อโฆษณา อย่างนกแอร์นั้น ก็มีเจ้าหน้าที่คอยติดตามข่าวคราวความคิดเห็น พร้อมแก้ไขปัญหาหรือให้คำแนะนำผู้บริโภคที่มีต่อกับนกแอร์ โดยการโพสต์ผ่านพันทิป

ขณะที่ทางฝั่งของดีแทค กลับตรงกันข้าม เพราะลูกค้าของดีแทคเองได้เข้าไปตั้งห้องย่อยขึ้นมาในพันธุ์ทาวน์ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีปัญหาจากการใช้บริการ ส่วนทางดีแทคเองก็มีคนเข้ามาร่วมพูดคุยในห้องสนทนานี้ด้วย

ตามความเห็นของวันฉัตรนั้น บอกว่าทั้ง 2 กรณีนอกจากจะได้ประโยชน์เรื่องกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าแล้วการที่เข้าไปใกล้กับเสียงบ่นจะช่วยไม่ให้ปัญหาลุกลามได้อีกด้วย

และยังเป็นวิธีถือว่าซื้อใจผู้บริโภคได้อย่างดี เพราะแสดงถึงงานบริการหลังการขายที่ใส่ใจลูกค้า

ก็อย่างที่ทราบกันว่า บอร์ดกระทู้ในพันทิปนั้น ค่อนข้างทรงพลังในโลกออนไลน์เมืองไทยอย่างมาก โดยในบางเรื่องสามารถกลายเป็นตัวชี้วัดกระแสสังคมได้เลย ดังนั้นนักการตลาดจึงไม่ควรละเลยที่จะหมั่นเข้ามาเช็คฟีดแบ็คของแบรนด์ผ่านเวบบอร์ดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง

ทีม ข่าวการตลาด BizWeek

ขอบคุณเว็บ http://www.bangkokbiznews.com หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
และขอบคุณ http://www.google.co.th/ ที่ได้ข่าวก็เพราะเว็บนี้แล เซริชเอา อิอิ ตื่นเต้นแทนชาวเว็บมากๆ *.*