สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังปิดคดีฆาตกรรมแม่ลูกWatts

61 5
American Murder ภาค  The Family Next Door ที่ ได้ออนแอร์บน Netflix  อาจจะทำให้ทำให้ผู้ชมหลายคนต้องพบกับความรู้สึกดำดิ่งไปใต้คลื่นแห่งความหดหู่    แม้ว่าจะเคยได้ยินเรื่องราวรวมของคดีฆาตกรรมครอบครัว Watts ที่สุดสะเทือนขวัญมาก่อนหน้าแล้ว

เพราะนี่คือ documentary ที่นำภาพเหตุการณ์จริง นับตั้งแต่การโทรแจ้งการหายสาปสูญของแม่ลูก Watts การตามสืบสวนจากพยานแวดล้อมในชุมชน

รวมไปถึงคนใกล้ตัวที่สุด  ที่แม้คุณจะไม่ใช่นักสืบก็คงจะทราบดีว่า  มีมากมายหลายคดีเหลือเกิน ที่คนในครอบครัวกลายมาเป็นฆาตกรเลือดเย็นตัวจริง...
หากคุณไม่เคยทราบเรื่องราวของคดีนี้มาก่อน  คุณอาจจะไม่คาดคิดถึงความอำมหติตของ Chris Watts  ชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีที่มีมีกริยามารยาทคนนี้


เขาแสดงความปลาบปลื้มซึ้งใจเมื่อภรรยาแจ้งข่าวเรื่องการตั้งครรภ์ แต่ยอมรับว่าเคยให้ยาแก้ปวด Oxycodone กับเธอด้วยความหวังว่าเธอจะแท้งไปซะ


เขารัดคอเธอจนตายเพราะต้องการหย่า แต่เมื่อถูกบีบให้คายความจริงออกมา กลับพยายามใส่ร้ายเธอว่าเป็นคนฆ่าลูกสาวทั่งสองจนทำให้เขาโกรธแค้นจนพลั้งมือฆ่าเธอลงไป

เขาพูดถึงผ้าห่มผืนโปรดของลูกสาวตัวน้อยด้วยน้ำเสียงราบเรียบต่อหน้าตำรวจเพื่อปัดสวะให้พ้นตัว ทั้งๆที่เขาใช้มันเป็นอาวุธสังหารพวกเค้า


เขาได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิจ รอดพ้นการประหารไปได้เพราะการรับสารภาพ    แต่เรื่องราวไม่ได้จบลงที่ความสูญเสียของสองครอบครัว



ตำรวจผู้รับผิดชอบคดีไม่สามารถกลับมาทำงานได้ เพราะเกิดความสะเทือนใจอย่างรุนแรงจนกลายเป็น ภาวะ PTSD   

หลายคนอาจจะมีความเชื่อว่าอาชีพตำรวจที่ผ่านประสบการณ์จากคดีอุกฉกรรจ์มาแล้วมากมายจะหล่อหลอมให้พวกเค้ามี "จิตแข็ง"กว่าคนทั่วไป แต่ในหลายประเทศ การจัดให้มีการรับคำปรึกษาและบำบัดจิตเวชให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด แน่นอนว่า ตำรวจจะต้องเตรียมทำใจที่จะต้องเผชิญกับภาพความโหดร้ายจากอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ แต่พวกเค้าก็เป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อและหัวใจไม่ต่างจากคนทั่วไป


Dave Baumhover หนึ่งในตำรวจที่รับผิดชอบคดีฆาตกรรมครอบครัว Watts ได้เปิดเผยอีกด้านที่สังคมไม่เล็งเห็นมาก่อน ภาพร่างบอบบางของเด็กหญิงที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำมันได้ตามหลอกหลอนเขามาถึงปัจจุบัน (ผู้เป็นพ่ออำพรางศพของหนูน้อยทั้งสองในแทงค์น้ำมัน) เพียงแค่ได้เห็นเด็กหญิงคนอื่นๆเดินเข้ามาในร้านอาหารที่เขานั่งอยู่ Baumhover ก็ไม่สามารถรับมือกับความเครียดและวิตกกังวลจนต้องรีบออกจากร้านดังกล่าว และนั่นหมายความว่า เขาจำเป็นต้องลาพักงานเพื่อรักษาจิตใจให้กลับมาเป็นปกติเพียงพอ แต่ตำรวจวัย 52 คนนี้ก็ไม่ได้เชื่อมั่นเลยว่า เขาจะหวนคืนสู่อาชีพที่ภาคภูมิใจได้อีกครั้ง


เมื่อฆาตกรได้สารภาพในสิ่งที่ทำลงไป    มันยากเย็นเกินกว่าที่ Baumhover   จะยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้  เขาวิตกกังวลว่าจะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของ Shanann ได้อย่างไร   เพราะเขาแน่ใจว่าสิ่งนี้จะทำลายจิตใจของพวกเค้าจนแหลกสลาย   และภรรยาของเขาได้ได้เห็น Baumhover   หลั่งน้ำตาเป็นครั้งแรก


ประสบการณ์ยี่สิบปีในอาชีพตำรวจ Baumhover ได้พบกับเรื่องราวที่เลวร้ายยากจะบรรยายมาแล้วหลายครั้ง แต่นี่เหมือนกับเป็นฟางเส้นสุดท้ายก่อนที่เขาต้องสูญเสียความเป็นตัวเองไป ภาพของเหยื่อทั้งสามกลับมาหลอกหลอนเขาซ้ำๆ แม้กระทั่งการออกจากบ้านยังเป็นเรื่องยากลำบาก เพระาเขาต้องเจอเด็กหญิงตัวเล็กๆอยู่ทุกหนทุกแห่ง



ประสบการณ์ที่เลวร้ายนี้ไม่เกิดขึ้นกับ  Baumhover  เท่านั้น    Tammy Lee  เจ้าหน้าที่ที่สอบสวน Chris watts ตัวต่อตัวยอมรับว่า  เธอเคยระเบิดโฮใน salon ท่ามกลางความงุนงงของคนรอบข้างและต้องเข้ารับคำปรึกษา และเปิดเผยกับนักบำบัดถึงความสะเทือนใจเมื่อเธอคิดถึง Shanann  ที่ไม่มีโอกาสที่จะใช้เวลากับลูกๆที่เธอรักดั่งแก้วตาดวงใจ   นิ่งเธอทุ่มเทสอบสวนข้อมูลต่างๆของคุณแม่ผู้น่าสงสารคนนี้เธอก็รู้สึกว่าเธอรู้จัก Shanann เป็นอย่างดีทำให้เธอรู้สึกโศกเศร้ากับการตายของพวกเค้าเหลือประมาณ  แม้แต่ทนายที่เห็นภาพหลักฐานทุกอย่างก็ต้องพบกับฝันร้ายทุกครั้งที่เขาเห็นแทงค์น้ำมัน






จากคำสารภาพขี้ขลาดที่พยายามโยนความผิดไปให้ภรรยาที่น่าสงสาร แต่เริ่มเปิดเผยความบิดเบี้ยวมากขึ้นหลังชดใช้กรรมในคุก


"เธอฆ่าลูกๆ ผมเลยฆ่าเธอซะ" การเปิดปากสารภาพครั้งแรกที่โยนความผิดไปให้ Shanann ได้เปิดเผยด้านที่เห็นแก่ตัวของฆาตกรคนนี้


และอาจจะเป็นไปได้ว่า แม้ได้รับโทษทัณฑ์จากการลงมือฆ่าลูกและภรรยาไปแล้ว  เขาก็ยังหลงไหลในตัวภรรยาน้อยที่แอบกินกันเพียงไม่นานก่อนจะสังหารครอบครัว


Cheryln Cadle นักเขียนหญิงวัยกลางคนผู้เก็บข้อมูลรวบรวมจากคำให้สัมภาษณ์และจดหมายของ Chris Watts ในการเขียนหนังสือ Letter From Christopher เพื่อตีแผ่ถึงถึงเบื้องลึกภายในใจชายที่ดูไร้พิษภัย แต่ปลิดชีวิตภรรยาที่กำลังตั้งท้องและลูกสาวทั้งสองได้เล่ารายละเอียดที่น่าเกลียดน่ากลัวไปยิ่งกว่าที่หลายคนคาดคิด

"ผมรู้สึกแต่ว่า   ผมจะได้เป็นอิสระเพื่อไปอยู่กับ Nikki แล้ว ความรักที่ท่วมท้นมีอิทธิพลเหนือผม  ผมไม่รู้สึกสำนึกผิดเลย"


"ผมพ่ายแพ้ให้กับความมืดมิดภายในจิตใจ และมันยังอยู่ในตัวของผม มันอาจจะอยู่อย่างนี้ตลอดไป ผมรู้สึกชั่วร้าย ถูกสิ่งที่อยู่ในใจนี้กลืนกินตัวตนไป ผมรู้สึกว่าตัวเองสามารถฆ่าได้ทุกอย่างและยังหาความชอบธรรมให้ตัวเองได้"


Chris Watts ยังเล่าให้นักเขียนฟังว่า เขาได้รับจดหมายและการ์ดจากผู้หญิงคนอื่นๆ และเฝ้าสงสัยว่า ในจดหมายเหล่านั้นจะเป็น Nichol ที่ได้ส่งมาถึงด้วยความคำนึงหาบ้างหรือไม่


มีรายงานว่า Nichol ได้ยืนคำร้องขอเปลี่ยนชื่อเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลังจากที่เธอพิสูจน์ตัวก่อนที่ Chris จะสารภาพว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม  แต่มีสถานะคู่รักกับชายที่มีครอบครัวแล้วเท่านั้น



Fangirls ฆาตกรฆ่าลูกเมีย

"ยัยนั่นร้ายกาจจะตายไป"
เสียงบรรยายความเห็นของชาวเน็ทที่ไม่ปกปิดความเกลียดชังในตัวภรรยา Chris Watts ใน documentary ของ Netflix ได้สร้างความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ในโลกนี้ ยังมีคนอยูากลุ่มหนึ่งที่โอนเอียงไปทางทฤษฎีสมคบคิดว่า ชายคนนี้ถูกใส่ความทั้งๆที่เป็นผู้บริสุทธิ์ แย่ไปกว่านั้น แม้ว่าเขาจะสารภาพความผิดและบรรยายเหตุการณ์สุดสะพรึงไว้ว่า มีเพียงลูกคนวัยสี่ขวบเท่านั้นที่พยายามดิ้นรนขัดขืนเพื่อจะรอดชีวิต ส่วน Shanann และลูกสาวคนเล็กนั้นยอมจำนนต่อความตายจากน้ำมือคนที่พวกเค้ารักที่สุด

แต่ก็ยังมีคนที่บิดเบี้ยวไปได้ถึงขนาดตามว่าร้ายคนตายว่า " สมควรแล้วที่จะเจออะไรแบบนั้น"  ทั้งยังคุกคามครอบครัว Shanann ให้ตกนรกทั้งเป็น!


จิตใจมนุษย์ยากแท้จะหยั่งถึง อาจจะเป็นคำบรรยายเรื่องราวของเหตุการณ์นี้ได้อย่างชัดเจน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานใกล้ชิดกับคดีต้องสะเทือนใจจนไม่สามารถกลับไปทำงาน หรือแม้แต่เดินออกจากบ้าน แต่ยังมีหญิงสาวจำนวนหนึ่งที่แสดงความคลั่งไคล้ในตัวฆาตกรใจโหดคนนี้ พวกเธอส่งภาพของตัวเองเพื่อแนะนำและความปรารถนาที่จะคบหากันผ่านลูกกรง มีทั้งคนที่เปิดเผยที่อยู่ และแสดงความรักและเชื่อมั่นในตัวเขาผ่านจดหมายด้วยถ้อยคำหวานซึ้ง

( คำเตือน  หากคุณอ่านแล้วอาจจะรู้สึกปั่นป่วนในท้องจนอยากขย้อนก็เป็นได้!)


ผู้หญิงหลายคน สัญญญิงสัญญาว่าจะส่งเงินมาให้เขาใช้จ่ายในคุก


ลูกฉันเป็นคนดี

จากใน documentary คุณอาจจะได้รับข้อมูลเพียงส่วนหนึ่งว่า พ่อแม่ของ Chris Watts รังเกียจ Shanann ถึงขนาดไม่ยอมไปร่วมงานแต่งงาน แม้จะดูมีทีท่าที่อ่อนลง เพราะอย่างไรก็รักหลานๆที่เป็นสายเลือดของตัวเอง แต่ก็เคยทะเลาะเบาะแว้งกันจนไม่มองหน้ากันอีก คุณอาจจะไม่แปลกใจ เมื่อสามีภรรยาสูงวัยคู่นี้ ได้กล่าวโทษ Shanann ว่าเป็นความผิดของเธอที่ลูกชายแสนดีฆ่าเธอและหลานๆที่ใสบริสุทธิ์ (รวมถึงทารกน้อยในท้อง) พวกเค้ากล่าวหาว่าเธอทำตัวร้ายกาจและบีบให้ Chris ต้องจนมุมในความสัมพันธ์สุด toxic


อ่านถึงขั้นนี้แล้ว คุณอาจจะได้ยินเสียงจากการแถลงอันอัดอั้นตันใจจากอัยการ


"ก็หย่าไปสิ" เหมือนกับทุกคู่ที่มีปัญหา คุณจบความสัมพันธ์ แต่ก็ยังทำหน้าที่พ่อแม่ร่วมกันได้ แต่เขาเลือกจะบีบคอภรรยา และอุดปากจมูกลูกน้อยจนขาดใจตาย แม้แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนเองก็ยังออกปากว่า " นี่ลูกคุณแท้ๆ คุณยังไม่มีน้ำตาให้พวกเธอเลย"



แทนที่เขาจะเลือกทางออกที่ทำให้ทุกคนก้าวไปต่อไปได้ ทั้งสี่ชีวิตต้องมาสังเวย "ความรักอันท่วมท้น" ของฆาตกรที่มีต่อภรรยาน้อย

แต่แม้ว่า Chris จะสารภาพ หมดเปลือก และคำให้การก็สอดคล้องกับหลักฐานต่างๆ พ่อแม่ของเขา ก็ยังแสดงออกว่า เขาไม่มีแรงจูงใจในการฆ่าล้างครอบครัวตัวเอง และอาจจะพูดไม่จริงเพื่อรับผิดคนเดียว





หลังจากที่ Netflix  ได้ปล่อย American Murder ออกมา  พ่อแม่ของ Chris  ก็ไม่ได้แสดงท่าทีแข็งขืนเท่าใดนัก   เพราะข้อมูลหลักฐานที่รัดตัวลูกชายของพวกเค้าอย่างดิ้นไม่หลุดตั้งแต่วินาทีแรกที่ตำรวจไปเข้าไปตรวจสอบในบ้าน การสอบสวนที่ใช้จิตวิทยาบีบให้ฆาตกรค่อยๆเผยความจริงหลังจากปล่อยคำลวงออกมาไม่หยุด  ทุกอย่างชัดเจนกว่าที่พวกเค้าจะยืนยันคำเดิมไม่ได้อีกต่อไปว่าลูกชายถูกใส่ความ



ไม่ว่าจะนานอีกเท่าใด คดีฆาตกรรมแม่ลูก Watts ก็จยังสร้างความสะเทือนขวัญให้กับผู้คนมากมาย มันยากเย็นเหลือเกินที่จะยอมรับได้ว่า นี่คือการกระทำของมนุษย์ร่วมโลกที่สังหารผู้บริสุทธิ์ด้วยแรงจูงใจเช่นนี้




The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE