Lhamour Anti-Pollution Facial Oil : จะกี่มลภาวะก็กล้าเผชิญอย่างมั่นใจ

56 14

ในตอนนี้ฤดูหนาวก็กำลังจะมาถึงแล้วนะคะทุกคน


เคยสังเกตกันหรือเปล่าคะว่า ฤดูหนาวมักจะมาพร้อมกับอะไร ??? 


เฉลยเลยก็ได้ค่ะ ฮ่าๆๆ ... ฤดูหนาวมักจะมาพร้อมกับมลภาวะที่เรียกว่า  " ฝุ่น PM 2.5 " ?


เจ้า PM 2.5 นี่แหละ ที่เป็นศัตรูตัวร้ายทำลายผิวของเรา  


หลังจากที่ผิวถูกทำลายเราก็ได้ตามหาสกินแคร์ต่างๆ ที่เคลมว่าช่วยปกป้องหรือป้องกันผิวจากมลภาวะ หรือฝุ่น PM 2.5 ได้ 



และในที่สุดเราก็ได้พบกับ 


Lhamour 


ออร์แกนิคสกินแคร์จากมองโกเลีย 


ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่เราได้ลองใช้ก็คือ Lhamour Anti-Pollution Facial Oil และในที่สุดคุณคนนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในสกินแคร์ลูกรักที่ช่วยปกป้องผิวของเราจากฝุ่น PM 2.5 รวมถึงมลภาวะต่างๆ รอบตัวได้เป็นอย่างดี 


หลังจากที่เราซุ่มใช้มาครบ 1 ปีเต็ม และตอนนี้ก็ใช้จนหมดขวดแล้วสภาพขวดจึงดูเยินๆ หน่อยนะคะ > v < !!  .. ตลอดเวลาที่ได้ใช้น้องเค้าให้ผลลัพธ์ที่ดีงามต่อผิวมาก 


ในวันนี้จึงอยากที่จะหยิบ Lhamour Anti-Pollution Facial Oil  มาให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้นค่ะ

Lhamour Anti-Pollution Facial Oil

ออยล์บำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้นจากธรรมชาติ 100% ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมการปกป้องผิวจากแสงแดด อากาศแห้ง ฟื้นฟูผิวจากมลภาวะ ปรับสมดุลน้ำมันในผิว ช่วยผิวแข็งแรงและสุขภาพดี


? ปราศจากสารเคมี สารกันเสีย สี และกลิ่นสังเคราะห์

เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน ?? 


เหมาะกับสภาพผิวแห้ง ผิวเสียสมดุล และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับอากาศแห้งและมลภาวะ

ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ 


  • Avocado Oil
  • Olive Oil
  • Rosehip Oil
  • Vitamin E
  • Squalane
  • Sea Buckthorn Oil
  • Lemongrass Oil

พระเอกของเรื่อง คือ "Sea Buckthorn Oil" 


Sea Buckthorn เป็นพืชที่เติบโตได้ในสภาพภูมิอากาศที่โหดร้ายสุดๆ หนาวสุดๆ แห้งสุดๆ ดังนั้นมันจึงต้องกักเก็บสารอาหารต่างๆ เอาไว้ให้มากที่สุดเพื่อการอยู่รอด


 

Sea Buckthorn Oil ประกอบด้วย วิตามินอี, เบต้าแคโรทีน, Beta-Sitosterol และ Omega 7 ที่มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากการถูกทำลายจากมลภาวะ นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยสมานแผล ลดการอักเสบ ช่วยฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดีและช่วยให้ผิวแข็งแรง

ลักษณะของผลิตภัณฑ์


ออลย์สีเหลืองอมส้ม เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะบนผิว มีกลิ่นหอมสดชื่นของตะไคร้ 

เนื้อออยล์มีสีเหลืองอมส้มชัดเจนก็จริง แต่เมื่อเกลี่ยลงบนผิวแล้วจะไม่ทิ้งสีไว้บนผิวนะคะ ให้ความชุ่มชื่นได้ในทันทีที่ใช้

วิธีใช้


สามารถใช้ได้ทั้งในตอนเช้าและก่อนนอน ในปริมาณ เพียง 2-3 หยด โดยสามารถปรับปริมาณการใช้ตามสภาพผิว ตามสภาพอากาศ และตามความต้องการ


เราใช้เป็นสเตปต่อจากเซรั่ม และก่อนครีมบำรุงผิว


ก่อนทาลงบนผิวหน้าให้วอร์มเนื้อออยล์บนฝ่ามือก่อนนะคะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการบำรุง


ผลลัพธ์หลังการใช้


จากภาพคือผิวหน้าหลังการใช้ Lhamour Anti-Pollution Facial Oil ในทันทีนะคะ จะเห็นว่าผิวมีความชุ่มชื่น และดูโกลว เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ สภาพผิวแบบเราสามารถลงสกินแคร์เนื้อครีมในสเตปต่อไปได้โดยไม่รู้สึกหนักผิว 


ในรีวิวนี้ไม่มีภาพ Before - After มาให้ทุกคนได้ดูเพื่อเปรียบเทียบกันนะคะ เพราะเราจะหยิบน้องเค้ามาใช้ในช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 หรือในวันที่ต้องเจอมลภาวะหนักๆ รวมถึงในวันที่สภาพอากาศแห้งๆ แดดแรงๆ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมขวดนี้เราจึงใช้ได้นานเกือบๆ 1 ปี เลย 


ดังนั้นเราจึงขอสรุปผลจากการใช้ต่อเนื่องยาวนานเกือบๆ 1 ปี มาให้ทุกคนได้อ่านกัน


ผลลัพธ์หลังการใช้อย่างต่อเนื่อง


อย่างแรกเลยคือ ช่วยลดการระคายเคือง ผดผื่นคันยุบยิบ ตามคุณสมบัติ  Anti-Pollution ได้จริงค่ะ หลังจากมีน้องคนนี้ผิวหน้าของเราก็ไม่มีปัญหาผดผื่นคันอีกเลย รู้สึกได้เลยว่าผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิว สังเกตได้จากไม่ว่าอากาศจะแห้งแค่ไหน ผิวหน้าไม่ลอกเป็นขุยเลยค่ะ  และช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย สำหรับเรื่องของริ้วรอยเราบอกผลที่ชัดเจนไม่ได้เพราะเราใช้ควบคู่กับสกินแคร์ Anti-aging อยู่นะคะ แต่เรามีความเห็นว่าเค้าช่วยเสริมหน้าที่กันได้ดีเลยค่ะ สิ่งที่เราชอบคือ เป็นออยล์ที่มีสัมผัสบางเบา ซึมซาบไว และใครเป็นสายสมุนไพรรับรองว่าต้องฟินทุกครั้งแน่นอนเพราะมีกลิ่นหอมผ่อนคลายของตะไคร้   แต่ไม่นานกลิ่นนี้ก็จะหายไปเองนะคะ ระหว่างวันก็ไม่ได้ทำให้ผิวหน้ามันเยิ้ม เพราะผิวมีความสมดุล

ต่อให้ต้องเจออีกกี่มลภาวะ ก็กล้าเผชิญอย่างมั่นใจ

? Lhamour Anti-Pollution Facial Oil 30 ml ราคา 1,380 บาท





ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม 

แล้วพบกันใหม่

บ๊ายบายคร้า


Junjaowkha review

Junjaowkha review

สวัสดีค่ะ เราชื่อเล่นจันทร์เจ้านะคะหรือเรียกว่าอินก็ได้ค่ะ ในตอนนี้อายุของเราก็เข้าสู่เลข 3++ แล้ว ผิวหน้าก็แลดูจะย่ำแย่ ไม่อึดถึกทนเหมือนตอนสาวๆ ตั้งแต่ ปี 2019 นี้ จึงถือว่าเป็นปีที่เป็นการเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการเลือกใช้สกินแคร์ที่พิถีพิถันมากขึ้นเพราะเราเชื่อว่าการเลือกใช้สกินแคร์ดีๆ เป็นการบอกรักตัวเองอย่างหนึ่ง

ช่องทางการติดตามหรือติดต่องาน

FB Page : Junjaowkha review
IG : junjaowkhareview
Youtube : Junjaowkha review
Line : intirala

FULL PROFILE