ESTEE LAUDER NEW ADVANCED NIGHT REPAIR ปังกว่าเดิมกับเซรั่มยืนหนึ่งในตำนาน ปรับสูตรใหม่ในรอบ 7 ปี

78 9
Jeban x Estee Lauder

ESTEE LAUDER ADVANCED NIGHT REPAIR Synchronized Multi-Recovery Complex เซรั่มยืนหนึ่งในตำนาน 


เปิดตัวกันไปแล้วเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมากับการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของ “Estee Lauder New Advanced Night Repair Synchronized Multi-Recovery Complex” จากต้นกำเนิดตั้งแต่ปี 1982 มาถึงการปรับสูตรรุ่นที่ 5 ในปี 2020 ที่ดีขึ้นกว่าเดิมทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมฟื้นฟูผิวขั้นสุดและแพคเกจจิ้งใหม่ที่ออกแบบมาให้ทันสมัย และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดยเปลี่ยนจากการใช้พลาสติกมาเป็นการใช้ ขวดแก้ว เพื่อความทันสมัยและหรูหรามากยิ่งขึ้น ครั้งนี้เฟินได้มีโอกาสไปร่วมอีเว้นของทาง Estee Lauder ด้วยค่ะ ได้สาระความรู้และเทคนิคดี ๆจากพี่ BA เยอะแยะเลย หลายคนน่าจะเริ่มสงสัยบ้างแล้วว่า New Advanced Night Repair แตกต่างจาก Advanced Night Repair สูตรเก่าอย่างไร และเค้ามีการพัฒนาอะไรบ้าง วันนี้เฟินจะมาเล่าให้ฟังค่ะ  

Estee Lauder New Advanced Night Repair Synchronized Multi-Recovery Complex

 

เรียกได้ว่า “เป็นที่สุดแห่งนวัตกรรมฟื้นบำรุง เพื่อผิวที่ดูอ่อนเยาว์ขั้นสุดจาก Estee Lauder” สูตรใหม่นี้เป็นสูตรที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Chrono luxTM Power Signal1   ที่เป็นตัวช่วยฟื้นบำรุงเส้นริ้วรอยให้ดูจางลงได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคย หลังจากใช้เพียง 3 สัปดาห์ และถือเป็นครั้งแรกของ Advanced Night Repair ที่มีคุณประโยชน์ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผิวรู้สึกได้ถึงความกระชับกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยของสภาพแวดล้อมที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันในยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งในยามที่เราต้องเจอแสงสีฟ้าเกือบทั้งวันจากหน้าจอมือถือ หรือ แลปท็อป ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวของเราร่วงโรยเร็วขึ้น  

ครั้งนี้ Estee Lauder ได้ทำการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับเซลล์ผิวของมนุษย์และโมเลกุลที่ช่วยในการฟื้นบำรุง ทำให้ค้นพบว่าสาเหตุที่ผิวของเราแก่ลง ปัจจัยนั้นแบ่งออกเป็น 2 ปัจจัยคือ 


25% จากปัจจัยภายใน ซึ่งมาจาก Genetics (กรรมพันธุ์ หรือ พันธุกรรม)

75% จากปัจจัยภายนอกที่มาจากการใช้ชีวิตประจำวัน

 ยกตัวอย่างเช่น

-    มลภาวะต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ฝุ่น ควัน 

-    สภาพอากาศที่ ร้อน หรือ หนาว เกินไป 

-    แสงแดด 

-    การพักผ่อนไม่เป็นเวลา หรือ การพักผ่อนน้อย 

-    อาหารการกินต่าง ๆ หรือการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย


จากการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ของ Advanced Night Repair ที่เรียกว่า Epigenetics” Estee Lauder ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับ Epigenetics และค้นพบเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Micro signaling molecule activator” ที่เป็นโมเลกุลที่ทำหน้าที่สื่อสารกับร่างกายเพื่อส่งสัญญาณตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอก ยกตัวอย่างเช่น การที่ผิวเราพบเจอกับมลภาวะต่าง ๆ โมเลกุลเล็ก ๆ เหล่านี้ที่มีทั่วร่างกายของเรา จะส่งสัญญาณหากันระหว่างเซลล์ ว่านี้แหละคือสาเหตุที่ทำให้ผิวเราประสบปัญหา และจะซ่อมแซมตัวเองทันที แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น โมเลกุลเหล่านี้จะลดลงเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา 


ตลอด 7 ปีที่ Estee Lauder ทำการวิจัยเกี่ยวกับ Micro signaling molecule ซึ่งพบได้ในเซลล์ผิวถึง 80 ชนิด เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ ที่โมเลกุลเหล่านี้มีบทบาทต่อผิวที่โรยราของมนุษย์ และได้ค้นพบว่าโมเลกุล micro signaling มีความจำเป็นต่อกระบวนการฟื้นบำรุงตามธรรมชาติของผิว นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนการทำงานของกลไกหลากหลายกลไกด้วยกัน 

ในปี 2020 Estee Lauder จึงค้นคว้าและนำมาพัฒนาใน ANR สูตรใหม่ 


The Best Just Got Better


ซึ่งอยู่ในระหว่างการจดสิทธิบัตรครั้งใหม่คือเทคโนโลยี ChronoluxTMPower Signal ที่เป็นเอกสิทธิของ Estee Lauder ที่ได้จากส่วนผสมของสารสกัดจากที่เป็น เอกสิทธิของทางเอสเต ลอเดอร์ รวมทั้งเปปไทด์และส่วนผสมที่ได้จากพืชเพื่อช่วยเสริมให้กระบวนการฟื้นบำรุงตนเองตามธรรมชาติของผิวมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุดและเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว


- ช่วยส่งเสริมการทำงานของกลไกการฟื้นบำรุงผิวที่เชื่อมโยงถึงกันให้มีความคล่องตัวได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยส่งเสริมกระบวนการฟื้นบำรุงตนเองตามธรรมชาติของผิว - ช่วยสนับสนุน กระบวนการตามธรรมชาติให้เป็นไปอย่างสอดคล้อง เพื่อที่ผิวจะสามารถฟื้นบำรุงตนเองในเวลากลางคืนได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการทำงานของจังหวะเวลาในการฟืนบำรุงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในเวลากลางคืน และเสริมการปกป้องตนเองใน เวลากลางวันอีกด้วย

-    เสริมประสิทธิภาพให้กระบวนการ purification เพื่อให้ผิวอยู่ในสภาพที่ดี

New Advanced Night Repair New Packaging in 2020


การกลับมาครั้งนี้ของ New Advanced Night Repair นอกจากจะพัฒนาสูตรใหม่แล้ว ยังมีการพลิกโฉมของ
แพคเก็จจิ้งให้ดูทันสมัยและหรูหรามากขึ้น 


ด้วยขวดแก้วสีน้ำตาลไล่โทนสี ซึ่งสามารถมองเห็นเนื้อผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เค้ายังมีที่มาที่น่าสนใจกกว่าจะมาเป็นแพคเกจจิ้งหรูหราแบบนี้ค่ะ
“ขวดแก้วนี้ ทาง Estee Lauder ได้แรงบันดาลใจจากขวดยาของเภสัชกร ขวดนี้ถูกนำมาออกแบบใหม่เพื่อสื่อถึง
คุณประโยชน์ที่เปี่ยมด้วยพลังอันน่าทึ่งกว่าครั้งใด ขวดแก้วใหม่นี้ออกแบบให้ดูทันสมัยและพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น
โดยเน้นรูปทรงให้ดูเรียบง่ายและสง่างามของ Advanced Night Repair รวมไปถึงการไล่เฉดสีให้มีความโปร่งแสงเพื่อให้มองเห็น “ความเปล่งประกายที่จากภายใน” อันเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกหลงรักใน ANR ตลอดมา
นอกจากนี้ขวดแก้วใหม่ยังสามารถรีไซเคิลได้อีกด้วย” ทั้งสวยทั้งรักษ์โลก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเลยค่ะ  

My own opinion that why I love Estee Lauder


ความรู้สึก 2 สัปดาห์หลังใช้ ถือเป็นความประทับใจที่ดีเลยค่ะ เพราะตอนแรกไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะแตกต่างจากสูตรเก่าเท่าไหร่ เนื่องจากเฟินใช้สูตรเก่ามาเกือบสิบปีค่ะ คิดว่าดีอยู่แล้ว พอมาลองตัวใหม่ จากที่คิดว่ามันจะไม่ต่างกัน แต่จริง ๆมันต่างกันเลยค่ะ แต่มีสิ่งนึงที่เฟินและผู้ใช้หลายๆคนชอบในเค้าคือ oil free ไม่อุดตันผิวหน้า ตรงนี้ยังคงไว้อยู่ค่ะ บอกเลยว่าใช้ได้ทั้งหญิงและชาย เหมาะสมกับทุกสภาพผิว และที่สำคัญคือ เป็นเซรั่มสำหรับทุก Generation 20s-50s เนื่องจากที่เฟินศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ยิ่งเราอายุมากขึ้น การฟื้นตัวของผิวและการสร้างคอลลาเจนของเราจะช้าลงเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับผิวหนุ่มสาวอายุสิบต้นๆ จนถึงสิบปลายๆ ดังนั้นเราจึงต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ แต่ด้วยช่วงอายุ  เลข 10 เป็นต้นไป แนะนำว่า หากต้องการฟื้นบำรุงผิวอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าด้วยปัจจัยจากการที่ผิวโดนมลภาวะมาอย่างหนัก หรือโดนแสงแดดเป็นเวลานาน หรือหากต้องการฟื้นฟูให้ผิวกลับมาเปล่งปลั่ง ก็สามารถใช้ Advanced Night Repair ได้เช่นกัน 

เปรียบเทียบผิวก่อน - หลังใช้ New Advanced Night Repair ระยะเวลา 2 สัปดาห์


ระหว่าง 2 สัปดาห์ที่ใช้ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ความบางเบาของเนื้อเซรั่ม เมื่อทาลงผิวหน้า สัมผัสได้ว่า บางเบาและซึมเข้าสู่ผิวเร็วขึ้นกว่าที่เคย ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงของผิว ตรงนี้ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคนนะคะ แต่สำหรับเฟิน 3 วันแรกที่ใช้ ตื่นเช้ามาก็พบความเปลี่ยนแปลงของผิวแล้วค่ะ เฟินสัมผัสได้ถึงรูขุมขนบริเวณข้างจมูกที่ดูเล็กลงและเรียบเนียนยิ่งขึ้น และที่ประทับใจที่สุดหลังใช้ได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ สัมผัสได้ว่า ผิวดูกระชับขึ้น ริ้วรอยบริเวณร่องแก้มดูจางลง เป็นการฟื้นฟูที่รวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึง ผิวโดยรวมดูมีสุขภาพ และสดใสมากยิ่งขึ้นจากการเปรียบเทียบรูปภาพที่ถ่ายไว้ทั้ง ก่อน - หลัง ใช้ค่ะ ผิวที่ได้คือความชุ่มชื้นที่มีมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญผิวแลดูเปล่งประกายและเอิบอิ่มด้วยความชุ่มชื่น ซึ่งครั้งนี้ทางเอสเต ลอเดอร์เคลมเลยว่า ให้การฟื้นบำรุงและมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 72 ชั่วโมง และที่ประทับใจมากคือผิวสุขภาพดี ซึ่งบริเวณแก้มรู้สึกเนียนนุ่ม ผิวอิ่มฟูมากขึ้น แลดูเป็นผิวสุขภาพดี เหมือนกับผิวยืดหยุ่นได้ดีขึ้นค่ะ

“Heart Ritual” by

Estee Lauder New Advanced Night Repair Synchronized Multi-Recovery Complex  


ถือเป็นหนึ่งในสกินแคร์รูทีนที่เฟินและใครหลายคนขาดไม่ได้แม้แต่คืนเดียว มันจะรู้สึกมาก ๆนะ ในการทาสกินแคร์ก่อนนอน แล้วตื่นมาเห็นผิวสุขภาพดีของตัวเอง เพียง 1-3 หยดเท่านั้น ก็เปลี่ยนผิวได้เลย เฟินมีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการทา Advanced Night Repair มาฝากค่ะ เป็นทริคดีๆ ที่ได้จากการไปงานอีเว้น “Heart Ritual” วิธีการนวดหน้าอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำค่ะว่า สกินแคร์แต่ละตัว มีวิธีซึมเข้าผิว และทำงานในลักษณะต่างกัน 


ดังนั้นวิธีการประโลมสกินแคร์สู่ผิวก็เช่นกัน เหตุผลที่ว่า ทำไม Advanced Night Repair จึงต้องนวดเป็นรูปหัวใจ เพราะว่าฝ่ามือเราจะพอดีกับการโอบอุ้มครีมเข้าสู่ผิวหน้าได้ดีที่สุด ซึ่งแต่ละคนก็จะมีรูปหน้าแตกต่างกัน ดังนั้นการใช้มือทั้งสองข้างนวดเป็นรูปหัวใจ จึงทำให้สกินแคร์ซึมสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด


"Texture"

Estee Lauder New Advanced Night Repair Synchronized Multi-Recovery Complex


ด้วยเนื้อสัมผัสของ Texture ที่บางเบาขึ้นและซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเนื้อเซรั่มจึงตรงเข้าสู่ผิวช่วยลดเลือนสัญญาณผิวร่วงโรยหลากหลายประการ สำหรับใครที่ชอบ Texture ของสูตรเก่าอยู่แล้ว รับรองว่าสูตรใหม่จะทำให้หลงรักยิ่งกว่าด้วยความบางเบาและซึมไวค่ะ สามารถประโลมลงบนผิวได้ทั้งเช้าและก่อนนอน ก่อนตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ได้เลยค่ะ

Asian No.1 Anti Aging Serum Brand


สรุปเลยค่ะ ว่าทำไมเฟินถึงยกให้เค้าเป็น เซรั่มยืนหนึ่งในตำนาน และยังยืนหนึ่งในใจเฟินเสมอ เพราะเค้าคือ Skincare ที่เฟินขาดเค้าไม่ได้ค่ะ เฟินใช้เค้ามาเป็นเวลานานเกือบ 10 ปี หากใครไม่สังเกตผิวตัวเอง จะรู้สึกว่า ใช้มานานแล้วก็เหมือนเดิม สภาพผิวคงที่ นั่นแหละค่ะ ภายใต้คำว่า เหมือนเดิม และ คงที่ นั่นคือผลลัพธ์แบบ Long Term ที่ทำให้เฟินและคนรอบข้างที่ใช้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เค้าดีมากจริง ๆ และเฟินก็จะไม่เปลี่ยนใจและใช้เค้าไปเรื่อย ๆ ค่ะ ยิ่งมีสูตรใหม่ที่ทาง Estee Lauder ไม่เคยหยุดพัฒนาเพื่อเรา เฟินยิ่งมั่นใจให้เค้าดูแลผิวเฟินไปตลอด


สูตรใหม่มีวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นไป ที่เคาน์เตอร์ Estee Lauder 

ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และทางออนไลน์ www.esteelauder.co.th 

ขนาด 50 ml. ราคา 4,700 บาท