ความเปลี่ยนแปลงของ Bad Girl คนดัง

70 14


จาก  Bad girl Riri  สู่ CEO Riri

เธอคือสาวแซ่บที่ไม่ต้องรอให้ใครตั้งฉายาให้  พอสมัคร account ในสังคมออนไลน์ก็ประกาศตัวไปเลยว่าชั้นนี่แหละ Bad Girl Riri!
นับตั้งแต่แจ้งเกิดสุดปังในภาพของสาววัยใสจากเกาะ Caribbean  Rihanna  เมินเฉยที่จะนำเสนอภาพลักษณ์ของสาวแสนดีเหมือนกับซุปตาร์คนอื่นๆ     เธอสร้างความฮือฮาด้วยวีรกรรมเผ็ดแซ่บจนโด่งดังในภาพของสาวร้ายแบบไม่แคร์สื่อ
เธอเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นพวก bully เมื่อแสดงท่าทีไม่ปลื้มแฟนที่ copy ชุดออกงานพรมแดงไปใส่ในงาน prom 


เมื่อ Ciara แฉว่าเคยพบ Rihanna ในparty และรู้สึกว่าอีกฝ่ายทำตัว "ไม่ค่อยน่ารัก" เท่าไร คนที่พาดพิงก็แว้ดกลับผ่าน twitter ทันทีว่า " แหม ขอโทษนะจ๊ะ Ci ที่ชั้นลืมให้ทิปเธอ!" แรงเบอร์นั้นเลยล่ะ

(แม้จะเป็นที่รู้กันว่าสองสาวไม่ค่อยกินเส้นกัน แต่พวกเธอสงบศึกกันในเวลาต่อมา)

หรือจะเป็นการจิกกัดแฟนของ Karrueche Tran  แฟนของ Chris Brown ที่ต้องเข้ามาอยู่ในวังวนรักสามเส้าเพราะผู้ชายจับปลาสองมือและปล่อยให้ผู้หญิงฟาดฟันกัน  Riri ทำให้ผู้คนช็อคจากภาพที่ไม่ได้ระบุชื่อ แต่ก็รู้กันทั่วไปว่านี่คือการเหยียดหยาม "ผู้หญิงอีกคน"  อย่างซึ่งๆหน้า   เพราะเธอติด caption ภาพถุงเค้กข้าวใส่ต่างหูห่วงโตสีทองและแว่นกันแดดไว้ว่า   " Ima make u my bitch "  เค้กข้าวไม่ได้สื่อถึงอย่างอื่นนอกจากเชื้อชาติเวียดนามของ  Karrueche นั่นเองค่ะ

ในสังคมอเมริกัน  การสูบกัญชาอย่างถูกกฎหมายและเปิดเผยอาจจะไม่ใช่สิ่งวัดความเป็นสาวแสบ  แต่ความปลาบปลื้มในกัญชาที่ Riri ที่สื่อออกมาผ่าน social media ก็ทำให้ break  the internet เหมือนกัน     เริ่มจากภาพเปลือยอกที่จิกหน้าสวย เริ่ด เชิดหยิ่งในparty และม้วนกัญชาในมือ
หรือจะเป็นการขี่คอบอดี้การ์ด และม้วนยาบนหัวของเขา!
Riri คงไม่เปลี่ยนแปลงความรักต่อกัญชาในเร็ววันนี้   แต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
อาณาจักร Fenty Beauty  ที่ Forbes ยืนยันว่าเพิ่มมูลค่าขึ้นมากว่าสามพันล้านเหรียญ  แม้จะเปิดตัวมาเพียง  3 ปี   น่าจะทำให้ผู้คนมากมายเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ bad girl Riri ใหม่         เธออาจจะถูกตีตราว่าเป็นซุปตาร์สาวที่คลั่ง party และใช้ชีวิตสวยๆรวยๆจนคลื่นลูกใหม่ซัดเข้ามาแย่งกระแสไปหมดแล้วค่อยๆหายเงียบไปจากวงการเหมือนกับนักร้องอีกหลายคน      แต่ธุรกิจมูลค่ามหาศาลที่น่าจะนำเงินเข้าบัญชีธนาคารของเธอได้มากกว่างานดนตรีตลอดหลายปีรวมกันย่อมการันตีได้ว่า   ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนี้ทำให้เธอก้าวมาเป็นผู้หญิงทำงานแถวหน้า   แม้วันใดวันหนึ่งในอนาคต เธออาจจะไม่ได้เป็นนักร้องสาวที่ร้อนแรงที่สุดอีกต่อไป 



บางคนอาจคิดว่า เส้นทางการเป็นผู้บริหารของ Riri นั้นแทบจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอกุมบังเหียนให้มดงานคอยคิดงานให้และมีหน้าที่แค่เดินสายประชาสัมพันธ์และใช้ social media ดึงดูดความใจจากกลุ่มผู้บริโภค อยู่เฉยๆก็มีนายทุนเงินหนาทุ่มเทงบประมาณเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนั่งรอรับส่วนแบ่งจากการใช้ชื่อของเธอมาเป็นจุดขายของแบรนด์



แต่ Riri ได้พิสูจน์ตัวว่า   การทำงานของเธอเป็นแบบ "คลุกวงใน"  ไม่ได้เป็น CEO อย่างฉาบฉวย   เธอมีเข้าเข้าใจในผลิตภัณฑ์อย่างถ่องแท้และสามารถตอบคำถามจากลูกค้าได้อย่างไม่ติดขัด    แฟนๆชาวไทยก็ยกตำแหน่ง "แม่ค้า" ให้กับ Riri โดยไม่ลังเล


การเชิดชูความงามที่หลากหลายและแตกต่างไม่ใช่แนวคิดใหม่ของแวดวงธุรกิจความงาม แต่ Fenty ได้รับเสียงชื่นชมอย่างถล่มทลายว่า ไม่ได้ดำเนินธุรกิจแบบ "ปากว่าตาขยิบ" แม้จะมีแบรนด์คู่แข่งออกเหน็บแนมว่า พวกเค้าทำรองพื้นมากมายหลายเฉดมาก่อน Fenty แต่มีรึที่ Bad Girl CEO จะยอมอยู่เฉยๆให้คนอื่นข่ม เธอแดกดันกลับไปว่า ถึงทำมาก่อน แต่ยังไงหน้าก็เทาอยู่ดี!


คนรักผลิตภัณฑ์ความงามจำนวนมากต่างก็ทราบกันดีว่า  การยอมรับเรื่องความแตกต่างหลากหลายนี้ ไม่ใช่แค่รองพื้นจำนวนครึ่งร้อยเฉด   แต่เป็นความจริงใจของแบรนด์ที่จะสนับสนุนผู้หญิงทุกคนให้สวยขึ้น  แตกต่างจากแบรนด์ที่เลือกพรีเซนเตอร์ผิวขาวและรูปร่างผอมบางเป็นหลัก  Fenty ได้เปิดกว้างให้ทุกคนค้นหาความงามของตัวเอง  ไม่ว่าจะเป็นสาวสูงวัย  คุณแม่ตั้งท้อง  รูปร่างอวบหรือผอม   ทุกเพศทุกสีผิว


Beauty For All คือหัวใจหลักของแบรนด์ที่ถูกยกย่องว่าได้เปลี่ยนโฉมหน้าของวงการธุรกิจความงาม และตัวผู้ก่อตั้งแบรนด์ก็ได้เข้าไปมีส่วนร่วมได้ในการสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ ถึงจะไม่ได้เป็นแฟนตัวยงของ bad girl Riri ลูกค้าจำนวนมากก็ต้องมนต์ Fenty กวาดไปหมดชั้นแบบไม่รู้ตัว!




การตลาดที่ทรงพลังคือหนึ่งในจุดเด่นของ Riri    แบรนด์ของเธอมีการโต้ตอบกับแฟนๆไม่ขาด และยังนำเสนออารมณ์ขันที่เป็นตัวเธอ  ( ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของ admin หรือ ตัว Riri  เองก็ตาม   เมื่อเธอทำคลิปประชาสัมพันธ์สินค้าขึ้น social media ก็จะพบกับเสน่ห์ที่เป็นธรรมชาติ  ไดอะล็อคที่ไม่น่าเบื่อ ดูเพลินๆจบโดยไม่ต้องกด skip   เราเชื่อว่าภาพลักษณ์ผู้หญิงทำงาน (แม่ค้าออนไลน์สุดแซ่บ)  ทำให้หลายคนเปลี่ยนแปลงทัศนคติในตัวเธอมากมายทีเดียว




จากสาวร้ายติดยา กลับกลายมาเป็นฉายานักบุญ


Angelina Jolie ในวันนี้  มีความแตกต่างจากตอนที่เธอแจ้งเกิดโด่งดังเป็นพลุแตกอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ    บางคนเชื่อว่า เธอเป็นสาวอันตรายไม่ต่างจากบท Lisa แห่ง Girl, Interrupted  แต่มันกลับกลายเป็นเสน่ห์โดนใจแฟนๆจำนวนมาก  แม้เธอจะดูร้ายก็ตาม
เมื่อประมาณหกปีก่อน   นายหน้าค้ายารายหนึ่งได้เปิดเผยวีดีโออันน่าตกใจของ Angelina ที่มีสภาพอิดโรยและกระสับกระส่ายจากอการเสพติด  เขาเปิดเผยรายละเอียดว่าได้ไปเหยียบถึงที่พักนางเอกชื่อดังในปี 1999  เพราะเธอต้องการซื้อโคเคนมาเฮโรอีนมาเสพ!
แม้เทปนี้จะไม่ได้ถูกปล่อยออกมาในสมัยที่ Angelina ยังเป็น bad girl สุดร้อนแรงแห่ง  Hollywood แต่ก็มีข่าวร่ำลือในทางเสื่อมเสียเกี่ยวกับเธอไม่ห่างหายจากปกแทบลอยด์
ในยุคนั้น  สังคมยังไม่ได้เปิดใจยอมรับ "ความแตกต่าง" ได้อย่างเต็มที่ เมื่อมีการตีแผ่ข้อมูลว่า Angelina ออกเดทกับทั้งชายและหญิง  หลงไหลของมีคมจนมีมีดแบบต่างๆ เก็บไว้เป็น collection  รวมถึงข้อกังขาเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับพี่ชายที่จูบกันต่อหน้ากล้องไม่แคร์เสียงนินทา  ไม่ว่าจะเป็นการโชว์จูบตอนได้รับรางวัลการแสดงหรือโพสลงนิตยสาร แม้จะไม่ใช่การแลกลิ้นจูบอย่างดูดดื่มเหมือนคู่รัก   แต่ก็เป็นภาพที่สร้างความไม่สบายใจให้กับหลายคน      ถึงจะเป็นยุคนี้ก็ตาม  หากมีคนดังจูบพี่ชายรัวๆแบบนี้ก็คงหนีไม่พ้นข้อครหาเรื่องความสัมพันธ์ในสายเลือด
พอข่าวเรื่องจูบพี่ชายเรื่องซาลงไป เธอก็ตกหลุมรักกับ Billy Bob Thornton ที่สูงวัยกว่ามากและแต่งงานกันอย่างรวดเร็ว  พวกเค้าถูกดึงดูดเข้าหากันด้วยความปรารถนาอันร้อนแรงแบบไม่เก็บซ่อนไว้   เอาเป็นว่า ตอนฝ่ายชายกำลังให้สัมภาษณ์  Angelina ก็แทบจะกลืนกินสามี ทั้งจูบและไซ้ไปทั่ว เมื่อ  Billy Bob ประกาศว่า เพิ่งจะมี sex กันในรถตอนเดินทางมาเดินพรมแดงก็ทำให้ชาวบ้านชาวช่องต้องใจเต้นระทึกด้วยความอยากเม้าเลยทีเดียว!
ชีวิตที่โลดโผนของ Angelina ได้เปลี่ยนไปตลอดกาลหลังจากเธอเธอบินข้ามทวีปไปถ่ายทำหนังTomb Raider  ที่กัมพูชา     ในขณะนั้น  เธอยังเป็นนางเอกเจ้าปัญหาที่ผู้สร้างหนังไม่สามารถไว้วางใจในเรื่องการใช้ยาเสพติดไปได้   จนต้องทำข้อตกลงให้เธอยอมรับการตรวจหาสารเสพติดแบบไม่แจ้งล่วงหน้าระหว่างการถ่ายทำ Tomb Raider      แต่ภาพชีวิตอันทุกข์ยากลำบากของผู้คนที่แตกต่างจากความสุขสบายในโลกใบเดิมของเธอทำให้ Angelina ได้รับแรงบันดาลใจที่จะก้าวในเส้นทางใหม่   "การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์"    ความเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ สร้างความอึดอัดใจให้กับ  Billy Bob  และพวกเค้าก็ไม่สามารถconnect กันได้อีกครั้ง จนต้องจบชีวิตแต่งงานอย่างเรียบง่ายฉับไว

ทารกน้อยชาวกัมพูชาได้จุดสัญชาตญาณความเป็นแม่ของนางเอกที่ขึ้นชื่อว่าฉาวโฉ่ที่สุดในขณะนั้น  เธอยอมรับในภายหลังว่า ไม่เคยต้องการอยากมีลูก ไม่อยากตั้งท้อง  คิดภาพการเลี้ยงดูเด็กไม่ออก    แต่เมื่อมีความปรารถนาแรงกล้าที่จะรับอุปการะ Maddox  เธอจึงมุ่งมั่นทำตอนขั้นตอนต่างๆ และพาลูกชายกลับไปอเมริกาพร้อมกับกระแสข่าวใหญ่โต  หลายคนแสดงความไม่แน่ใจว่า  Angelina จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่ออุทิศตนเพื่อเป็นแม่ที่ดีสำหรับลูกน้อยได้หรือไม่   แต่ในระยะหลายปีที่ผ่านมา  ถึงจะถูกโจมตีในเรื่องชีวิตส่วนตัวกับความรักที่ผิดศีลธรรม  แต่ผู้คนได้ยอมรับว่าเธอทำบทบาทแม่ได้ดี    ทายาทที่จำนวนเพิ่มขึ้นเป็นครอบครัวใหญ่ต่างดูมีความสุขและรักกันแน่นแฟ้น แม้จะผ่านวิกฤติครอบครัวจนขอหย่ากับสามีคนดังก็ตาม

บทบาททูตสันถวไมตรีของงสหประชาชาติลบภาพ bad girl ออกไปแทบจะหมดจด  แม้ว่าการดำเนินงานขององค์กรระดับโลกแห่งนี้ยังสร้างความกังขาให้กับผู้คนอีกจำนวนมาก   แต่ภาพการทำงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในช่วงเวลาหลายปีมานี้ก็ทำให้ Angelina ได้รับฉายา St. Angie  จากสื่อ       หากเป็นช่วงยี่สิบปีก่อน  ผู้คนคงนึกไม่ออกเลยว่า นางเอกสาวที่ดูแสบซ่าในตอนนั้นจะมีผลงานช่วยเหลือสังคมโดดเด่นจนได้รับยศคุณหญิงจากพระราชินีแห่งอังกฤษ
  หาก Angelina ไม่เคยเดินทางไปยังกัมพูชา  เธอจะเปลี่ยนแปลงตัวตนได้ถึงขนาดนี้รึเปล่านะ




เธอเคยถูกเรียกว่าสาวรุ่นใจแตกแห่ง Hollywood  แต่ตอนนี้นั่งแท่นผู้บริหารและproducer

Drew  Barrymore เคยเป็นนักแสดงเด็กที่โด่งดังเป็นพลุแตกจากหนังมนุษย์ต่างดาวระดับตำนาน  แต่ต้องเติบโตมาโดยขาดความเอาใจใส่และขาดการชี้นำที่เหมาะสมจากผู้ใหญ่ในครอบครัว  ชีวิตวัยรุ่นของเธอจึงเข้าขั้นเหลวแหลกจนยากจะเชื่อว่า เธอจะพลิกกลับคืนสู่เส้นทางที่รุ่งโรจน์มั่นคงได้
8 ขวบ  ดื่มแชมเปญเป็นครั้งแรก

10 ขวบ สูบกัญชา

12 ขวบ ติดโคเคน พยายามฆ่าตัวตายและถูกส่งสถานบำบัดเป็นปี

13 ขวบ กลับมาติดยาอีกครั้ง

14 ขวบ ยื่นขอต่อศาลเพื่อเป็นไทจากการปกครองของพ่อแม่

ตัวเลขเหล่านี้อาจจะทำให้คุณรู้สึกขนลุกกับความน่ากลัวของโลกมายา ไม่ว่าใครก็ทราบว่าวงการนี้เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุให้เข้าสู่ด้านที่มืดมิด แต่เมื่อได้รู้ว่า ผู้ใหญ่หลายคนแต่หยิบยื่นเหล้ายาให้เด็กอย่างไร้สามัญสำนึกก็ทำให้ใจหายไปเลย
Drew แยกตัวจากแม่มาใช้ชีวิตลำพังในอพาร์ทเมนท์ตอนที่มีอายุเพียง 14   เมื่ออายุครบ 16 ก็หมั้นกับแฟนหนุ่มวัยฉกรรจ์แต่ก็ถอนหมั้นในเวลาไม่กี่เดือน   ในช่วงที่ยังเป็นวัยทีน เธอพบกับรักใหม่แล้วรับหมั้นอีกครั้ง แต่ลงท้ายก็ยุติความสัมพันธ์  การแต่งงานครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่ออายุได้เพียง 19 เท่านั้น  ซึ่งก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดเดา  ชีวิตแต่งงานของเธอมีอายุไม่ถึงสองเดือน  หลายปีต่อมา เธอจูงมือTom Green นักแสดงตลกที่ร่วมงานหนังด้วยกันเข้าสู่ชีวิตสามีภรรยา  การยื่นขอหย่าตามมาหนึ่งปีหลังจากนั้น    
 ชีวิตของ Drew วนเวียนกับความสับสนวุ่นวายจากความรักที่ไม่สมหวัง  อาการเจ็บป่วยทางจิตใจและยาเสพติด    แต่เธอไม่เคยวางมือจากงานแสดง  แม้อดีตที่ผ่านมาจะร้ายกาจมากเท่าไร  Drew ได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดต่างๆและในที่สุดก็ค้นพบ balance ในการใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอให้กำเนิดลูกสาวทั้งสองคนจากการแต่งงานครั้งที่  3   Drew ก็ตั้งปณิธาณกับตัวเองว่า  เธอต้องคอยปกป้องลูกๆจากความเสื่อมเสียและไม่ทำผิดพลาดเหมือนกับที่ตัวเองเคยประสบมาก่อน
คุณอาจจะคิดว่า  นักแสดงเด็กเลือกเส้นทางเดินผิดพลาดจะต้องเติบโตมาเพื่อเผชิญหน้ากับความล้มเหลวและถูกกีดกันจากวงการ ( Lindsay Lohan  , Amanda Bynes)  แต่ Drew แตกต่างออกไป  แม้เธอจะมีภาพลักษณ์ bad girl ติดยาและใช้ผู้ชายเปลือง แต่เพราะความรักในอาชีพนักแสดงและความปรารถนาแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ  เธอร่วมก่อตั้งบริษัท production ตั้งแต่ที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบ    Flower Films ผลิตหนังชื่อดังที่เธอรับบทนำออกมาหลายเรื่อง   นอกจากเธอจะเป็นประธานบริษัทแล้ว ก็ยังควบตำแหน่ง producer และ ผู้กำกับอีกด้วย 

Drew ที่กลายมาเป็นผู้หญิงเก่งแถวหน้าของวงการยืนยันว่า เธอไม่โหยหาการเสพโคเคนที่เปรียบเสมือนกับฝันร้ายในชีวิต  ลูกๆของเธอได้สร้างแรงใจให้เธอพยายามเป็นคนที่ดีขึ้น  เธอจะไม่โอดครวญกับพวกเค้าว่าชีวิตเคยแย่มากแค่ไหน  หรือการทำงานมันหนักหนาเพียงใด  เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่ต้องยอมรับ  แต่เธอจะกำชับอยู่เสมอว่า ลูกๆจะต้องเป็นคนดีและเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยไว้ก่อน
 ชีวิตที่เคยโลดโผนจนเข้าสู่จุดวิกฤติของ Drew ได้คลี่คลายมาสู่จุดที่ complete   จริงๆ   การขาดครอบครัวที่แท้จริงในวัยเด็กทำให้เธอมุ่งมั่นที่จะสร้างความสุขให้กับลูกๆ      ส่วนเรื่องงานยังมี project ที่ท้าทายความสามารถอีกหลายอย่าง  ช่างเป็นภาพที่แตกต่างจากฉายา "เด็กหญิงผู้หลงทาง"  ในอดีตของเธอจริงๆค่ะ






The End 


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE