ออกเงินซื้อผลิตภัณฑ์/ ใช้บริการนี้ด้วยตัวเองจ้า
Eau Duelle EDP
Eau Capitale EDP
Eau Des Sens
Eau Mohelli
Eau Rose
Philosykos
Tam Dao
Do Son
หลายคนได้ลงเสียงไว้ว่า maybe it’s time to move on เพราะหลายกลิ่นที่ best seller เราได้เป็นเจ้าของมาแล้ว แต่คาดว่าเรายังไม่ไปไหน ยังคง loyalty กับแบรนด์ เพราะเรามอง Diptyque เป็นศิลปะที่เราชื่นชมเสมอและยังหาแบรนด์ไหนเทียบเท่าไม่ได้ ตอนนี้คิดว่าถึงเวลาเปิดกรุ Diptyque ให้หลายๆคนได้ลองอ่านดู เผื่อชักจูงเข้ามาอินเหมือนเราอีก (ประโยคที่พี่หนุ่ยบอกคือ พรีมโดนแบรนด์กลืนกินไปแล้ว) แต่ท้ายที่สุดนี้เราดีใจที่ได้รู้จักแบรนด์ค่อนข้างเยอะแล้ว คิดว่าอีกไม่นานก็คงไป explore แบรนด์อื่นๆ และดีใจที่เรารู้จัก Diptyque ใหม่ๆก็รู้จักพี่หนุ่ยด้วย ณ ตอนนี้พี่หนุ่ยก็ไม่อยู่ Diptyque เราก็เริ่มสรรหากลิ่นแบรนด์อื่นๆใหม่ นับว่าเป็นความโชคดีที่ได้ explore แบรนด์นี้กับคนที่แนะนำดี มีความรู้อย่างพี่หนุ่ยค่ะ
"Eau Duelle"
เป็นกลิ่นที่ใช้บ่อยที่สุด ชอบความ eerie และ sweet ของกลิ่น มีความเป็น bourbon vanilla ที่เราชอบ ส่วนตัวใช้แล้วไม่หวานเลี่ยน ถ้าให้เลือกว่าทั้งชีวิตใช้กลิ่นไหน จะเลือกกลิ่นนี้ บางคนบอกว่าใช้ไม่ได้ในหลาย occasion เราคิดว่าเราใช้ได้ เป็นกลิ่นที่มีคาแรคเตอร์มากๆค่ะ Top: Pink Pepper, Juniper Berry, Cardamom Heart: Cypress, Frankincense, Calamus, Black Ceylon Tea, Cistus Base: Bourbon Vanilla, Vanilla Pod, Vetiver, Cypriot, Ambroxan
"Eau Capitale"
กลิ่นที่ชอบรองลงมาจาก Eau Duelle เป็นกลิ่นที่ทำให้อินกับฝรั่งเศสมากขึ้นไปอีก การผสมผสานของ patchouli, rose, pink peppercorn เป็นอะไรเหมือน love tragedy สำหรับเรา กลิ่นหอมที่ sophisticated และ mysterious ที่น่าค้นหา แต่อาจจะมีอายุหน่อยค่ะ Top: Bergamot, Pink Peppercorn Heart: Rose Base: Patchouli
"Eau Des Sens"
เป็นกลิ่นที่ขอโทษที่เคยกล่าวหาไว้ เพราะกลิ่นที่ดมจากขวดเป็นกลิ่น patchouli ซึ่งเคยบอกว่าเป็นกลิ่นธูป สุดท้ายคิดว่าต้องมีเพราะเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างเรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของเขา พอมาฉีดกับตัวค้นพบว่าตัวเองใช้ได้ เป็นกลิ่นสไตล์ Fresh out of the shower ที่มีอะไรมากกว่านั้น กลิ่นนี้ต้องใช้เวลาเรียนรู้เขาหน่อยค่ะ Top: Orange Blossom, Bitter Orange Heart: Juniper Berries Base: Patchouli, Angelica
"Eau Mohelli"
มีคนเคยบอกว่าเป็นตัวเราที่สุด เป็น Floral Woody Musk ที่ไม่ได้เป็น Floral สดใสอย่างเดียว อาจจะมีอายุขึ้นมาหน่อย เป็นดอกไม้ที่ดมแล้วสบายใจ ไม่หวานแหลม ส่วนตัวชอบกลิ่นนี้มากเหมือนกัน ฉีดได้ everyday ค่ะ Ylang-Ylang, Patchouli, Pink Pepper, Ginger, Vetiver, Bezoine, Incense
"Eau Rose"
ขวดแรกที่พาเข้าวงการ Diptyque ยังจำได้ว่าไปลองดมแล้วชอบกลิ่นมากๆ เป็นกุหลาบที่ไม่เหมือนแบรนด์อื่น กุหลาบที่ทำออกมาได้ลงตัวมาก กุหลาบ ลิ้นจี่ คือมันดีจริงๆ แนะนำมากค่ะ ฉีดไปไหนคนทักเสมอว่าหอม ไม่เคยมีเคยไม่ชอบกลิ่นนี้ เป็นกลิ่นที่ play safe ในทุกสถานการณ์ เป็นรักแรกของแบรนด์และรักตลอดไป Top: Bergamot, Black Currant, Litchi Heart: Jasmine, Geranium, Rose Base: Musk, Virginia Cedar, White Honey
"Philosykos"
อันนี้เรียกได้ว่าอยากได้ พอได้มาเฉยๆ เป็นกลิ่นที่เฉยๆที่สุดในคอลเลคชั่นก็ว่าได้ มันค่อนข้าง creamy ไปหน่อย ถ้าใครฉีดน้ำหอมแล้วออกมาหวาน(และไม่ชอบความหวานนั้น)เราไม่แนะนำกลิ่นนี้ เพราะมันจะหวานนวลเข้าไปอีก แต่กลิ่นนี้ให้ความรู้สึกธรรมชาติ อย่าง The Garden of Eden ที่มี fruit trees, cool breezes, rivers เป็นน้ำหอมคล้ายสไตล์วันหยุดหรือ sunday morning แบบนี้ค่ะ Top: Fig Leaf, Fig Heart: Coconut, Green Base: Cedar, Woody, Fig
"Tam Dao"
ชอบมากกกก ครึ่งขวดแล้ว คิดว่าหมดก็จะซื้อมาเติม ถ้าพูดถึงความรู้สึกก็จะเป็น sex, love, religion ความนวลเนียนเข้ากับผิว ไม่ได้หวานแต่มี twist ที่เป็น spice ออกมาด้วย แนะนำสำหรับคนที่ชอบ Floral ที่ไม่หวานจ๋า เป็น Floral Woody Musk มี Sandalwood, Cedar, Amber ที่ช่วยทำออกมาให้ลงตัวมาก Top: Rose, Myrtle, Italian Cypress Heart: Sandalwood, Cedar Base: Spices, Amber, White Musk, Brazilian Rosewood
"Do Son"
"Do Son Hair Mist"
Tuberose แน่นมาก กลิ่นนี้ใช้ง่ายเหมือนกัน ถ้าให้แนะนำอีกกลิ่นที่ใช้ง่ายสไตล์ Floral ใน Diptyque ก็จะมี Eau Rose, Do Son, Geranium Odorata ต่อจากนั้นก็สามารถไต่ระดับไป Floral Woody Musk ได้ ตัวนี้ใช้ง่ายมาก ไม่ได้ complexity อะไรเยอะ กลิ่น tuberose จะชัดมากๆค่ะ Top: African Orange Flower, Rose, Iris Heart: Tuberose, Pink Pepper Base: Benzoin, Musk
จริงๆเรามี Geranium Odorata ด้วย เป็นหลอดเล็ก ซึ่งดีมากๆ กลิ่นนั้นคือไร้ที่ติ เป็นกลิ่นที่เหมือนจะหวานก็ไม่ เป็นกลิ่นที่ friendly เหมือนกัน ใช้ง่าย แต่เราทำแตกไปแล้ว เดี๋ยวคงไปเก็บขวดใหญ่มาค่ะ
ท้ายที่สุดแล้ว เราก็คิดว่าน่าจะ move on ไป explore แบรนด์อื่นๆบ้าง เพราะคาดว่าได้ลองหลายกลิ่นของแบรนด์ ได้ explore เท่าที่ทำได้ มีคนแนะนำที่ดี ได้รู้จักแบรนด์มากขึ้น (ลิสต์ Fleur De Peau, 34 Saint German, Geranium Odorata เอาไว้ ที่คาดว่าน่าจะเพิ่มมา) สำหรับเทียนก็คาดว่าน่ามากลิ่นใหม่ คอยติดตามกลิ่นใหม่ๆของแบรนด์เสมอ หากเราทำให้ใครรู้จัก Diptyque และชอบ เราดีใจมากจริงๆค่ะ ยังไงเรื่องน้ำหอมแนะนำให้ไปลองเองนะคะ เคมีแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราเป็นคนที่อุณหภูมิเย็น ฉีดกลิ่นยากๆไม่เป็นไร ไม่เทิร์นเป็นกลิ่นหวาน เผื่อเป็นไกด์ไลน์ให้ใครหลายๆคนค่ะ
Jebanista คุณก็เป็นได้!
มีรีวิว หรือ How to อะไรเอามาแชร์กัน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ JEBAN COMMUNITY ได้ง่ายนิดเดียว เริ่มเขียนเลย