Jeban x Tom Ford รีวิวผลการใช้รองพื้นตัวใหม่ล่าสุด

สวัสดีค่าทุกคน วันนี้มีความปลื้มปริ่มมากที่จะมารีวิวรองพื้น Tom Ford ตัวใหม่ ซึ่งก็คือ Tom Ford Shade and Illuminate Soft Radiance Foundation SPF 50 / PA++++ ตอนที่เราเห็นออกมาใหม่ๆ คือเราชอบมาก สิ่งที่เป็น Eye – Catching สำหรับคือแพ็กเก็จเลยยยล่ะ อยากลองมากๆ


เมื่อทางทีมจีบันติดต่อมาว่าจะมีงาน Jeban x Tom Ford ในวันที่ 21 มีนาคม เรารีบตอบตกลงเลย อยากไปมากและอยากลองรองพื้นมากๆ แต่ก็ต้องรอทางแบรนด์เลือกมาอีกว่าใครจะเป็น 6 คนที่ได้ไป ดีใจมากที่แบรนด์เลือก แต่ด้วยสถานการณ์ Covid 19 ทำให้งานต้องยกเลิกไป แต่ทางแบรนด์ก็ยังใจดีส่งมาให้ลองใช้ หวีดมากเลยจุดนี้ 555

ตัวนี้เป็นรองพื้นสูตรน้ำที่ช่วยบำรุงผิว  มีระดับการปกปิด Medium to Full Coverage มีการนำประโยชน์ของแสงและเงามาใช้ เพื่อให้ผิวแลดูสม่ำเสมอและช่วยให้โครงหน้าดูชัด ผิวดูเปล่งประกายแบบไร้ที่ติ  มีส่วนผสมจาก Hyaluronic Acid เด่นเรื่องเติมและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว มีสารสกัดจาก Noni และน้ำมันจากธรรมชาติ 3 ชนิด คือ Balsam Copaiba , Andiroba Oil และ Acai ช่วยบำรุงผิวให้ผิวดูสุขภาพดี ช่วยปกป้องผิวโดยไม่อุดตันรูขุมขน นอกจากนี้ยังใส่กันแดดมาถึง SPF 50 PA++++ สามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดี อันนี้คือระดับเดียวกับครีมกันแดดเลย


เรื่องแพ็กเก็จนี่ยจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยค่ะ คือสวยแพง หรูหรามากจริงๆ ส่วนตัวเราเราเป็นคนที่ชอบสีดำ-ทอง เราว่าดูหรูดี แพ็กเก็จคือขวดแก้ว ไม่ก๊องแก๊ง สีดำขอบทอง เป็นแก้วใสตรงขวดด้านหน้าและด้านหลังแบบให้เห็นสีของรองพื้น ด้านหน้าสลักตรงขอบทองว่า Tom Ford  ส่วนฝาเปิด-ปิดเป็นแบบแม่เหล็ก ส่วนบนของฝาเป็นสีทอง สลัก TF สวยมาก

เนื้อผลิตภัณฑ์ก็ดูเหลวและเกลี่ยง่ายดี

Review & Wear Test


ตอนนี้เราจะมาเข้าสู่ช่วงการีวิวรองพื้นและผลการใช้จริงๆ ซึ่งวันนี้เราทำ Wear Test ได้แค่ 8 ชม.เอง

มาเริ่มกันที่หน้าสดก่อน ช่วงนี้ผิวเราไม่ดีเท่าไหร่ เราใช้ Primer ของ Paul & Joe รุ่น Moisturizing Primer Foundation 

วิธีการใช้ของเรา : เราใช้ 2 ปั๊ม แต้มรองพื้นเป็นจุดที่หน้าก่อนแล้วเบลนด์ด้วยฟองน้ำไข้ของ Beauty Blender

พอเบลนด์แสร็จแล้วจะเห็นได้ว่ารองพื้นดูโกลว์ดูแบบ Healthy Look เลย คือผิวดูสวย แต่ขออภัยในการเลือกรองพ้นที่เข้มกว่าผิวหน้าจริงไปหลายเฉด

หลังจากนั้นเราเซตด้วยแป้ง Hourglass Veil Translucent Setting Powder ลงด้วยแปรงแบบเบามากๆ

Finished Look ของเราในวันนี้


หลังจาก 8 ชม. หน้าดูมีความมันเลยล่ะ เราคิดว่ารองพื้นตัวนี้ไม่ได้เด่นเรื่องคุมมันเท่าไหร่ แต่ก็ยังติดทนอยู่ แต่สิ่งที่ดีมากๆเลย คือสีไม่ดรอป ยิ่งมันยิ่งหน้าดูผ่อง


หลังจากที่ใช้กระดาษซับมันแล้วผิวยังสวยอยู่เลย จุดนี้คือดีมาก ซับแล้วรองพื้นยังสวยอยู่เลย และรองพื้นก็ไม่ได้ติดกระดาษซับมันออกมาเยอะมาก


งานผิวที่ได้ :


จะเป็นงานผิวสวยที่ดูมีความฉ่ำ ไม่ใช่รองพื้นที่เป็นเนื้อแมทท์ ตอนทาเสร็จใหม่ๆคือสวยเลย แต่พอผ่านไป 3 ชม. มันเป็นแอฟเฟ็คของผิวที่เรายังไม่เจอในรองพื้นตัวอื่นนะ พอเราส่องกระจกแบบใกล้ๆ แอบมีความตกร่องรูขุมขนเราเพราะหน้าเราแห้งและมีปัญหารูขุมขนกว้าง แต่พอเอากระจกออกห่างๆ แบบระยะที่ส่วนมากคนหันหน้าคุยกัน (ห่างจากหน้าประมาณ 1 ฟุต ) คือผิวดูสวยมาก สวยแบบเปล่งประกายไร้ที่ติตามคำเคลมของแบรนด์เลย ถ่ายรูปออกมาดูสวยมาก ช่วง 6-8 ชม. เป็นช่วงที่รองพื้นสวยมากจริงๆ เรารู้สึกว่ารองพื้นดูมีความฟูจากผิวหน้าช่วยปกปิดร่องรอยต่างๆได้ดี ไม่ตกร่องแก้มเราด้วย

เอาจริงๆนะตอนแรกเราช็อคกับผลที่ได้หลังจากแต่งหน้าไม่กี่ชม. อารมณ์แบบ “อิหยังวะ” รองพื้นราคา 4,900 บาท ทำไมทำกับฉันแบบนี้ เสียใจมาก คือดูใกล้ๆมันต้องสวยด้วยไง ไม่ใช่แค่สวยระยะไกลหรือแค่ถ่ายรูปแล้วสวย  แต่เราก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะรอดูผลต่อไป ถ้าหลังจาก 6 ชม. ผิวยังไม่สวยก็ไม่รู้จะดูช่วงไหนแล้ว แต่พอหลังจาก 6 ชม. ทุกคนคะรองพื้นสวยมากๆ ความเป็นคราบที่ดูลงไปรูขุมขนเราหายไป สวยทั้งระยะใกล้และระยะไกลเลยตอนนี้   แม่เจ้า... นี่ล่ะคือรองพื้น 4,900 ที่โฆษณาว่า “Create The Perfect Radiant Surface to Reflect Soft Light. Designed to Create the Appearance of Flawless Skin” ขอยืมคำมาจากเวปไซต์ Tom Ford หน่อย

ความรู้สึกหลังใช้ :


เนื้อรองพื้น : เนื้อรองพื้นตัวนี้ค่อนข้างเหลวเลย ตามที่แบรนด์บอกว่าเป็นรองพื้นสูตรน้ำ

การเกลี่ย : ด้วยความที่เนื้อเหลว เรารู้สึกว่าเกลี่ยได้ง่ายดี  ไม่ต้องใช้เยอะก็เกลี่ยได้ทั่วหน้าแล้ว

การปิกปิด : สำหรับเรา เรากลับรู้สึกว่าเป็น Light to Medium Coverage นะ แต่เราลงรองพื้นค่อนข้างน้อยด้วย เพราะเราชอบงานผิวสวยแบบดูธรรมชาติอ่ะ แต่ก็สามารถบิ๊วการปกปิดเพิ่มได้อีก

คุมมัน : อย่างที่เราบอกว่ารองพื้นตัวนี้ไม่ได้เด่นเรื่องการควบคุมความมัน ถ้าใครที่เน้นเรื่องนี้อาจจะต้องใช้ Primer ที่ช่วยเรื่องการคุมความมันช่วย

ความติดทน : ถึงจะไม่คุมมัน แต่เรื่องความติดทนนั้นถือว่าทำได้ดี เพราะตอนที่เราซับความมันของหน้าออก รองพื้นแทบจะไม่หลุดลอกเลย มีติดกระดาษซับมันออกมาน้อยมาก

เฉดสี : เท่าที่เราเห็นคือมีเยอะมาก แต่ที่เข้าไทยน่าจะมี 12 เฉดสี

แพ็กเก็จ : หรูหรามาก ไม่ต้องพูดเยอะเลย สมราคาเค้า

ราคา : เอาความจริงคือเราก็คิดว่าแอบสูงมากนะ แต่ถ้าเป็นแนว Brand Loyalty หรือมีงบเหลือเฟือก็จัดไปเลยค่ะ

ราคา 4,900 บาท (30 ml.)

จากการที่เราใช้รองพื้นมาหลายแบรนด์ เรารู้สึกว่ารองพื้นแต่ละตัวมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ถ้าจะให้เราพูดว่ารองพื้นตัวนี้ดีไม่พอ ไม่เหมาะสมกับราคา เราต้องพูดตามตรงว่าเราบอกไม่ได้ เพราะว่าช่วงแรกที่ส่องกระจกแล้วเราว่าไม่สวย แต่พอดูไกลๆกับถ่ายรูปดูสวยเลยนะ มีความเป็น Soft Radiance จริงๆ ดูนวลๆ เป็นแอฟเฟ็คที่เราบรรยายไม่ถูกจริงๆ และพอหลังจาก 6 ชม. คือรองพื้นสวยมากๆ เราก็เลยมองว่าโอเค ถ้าเรากลับไปทำงาน เราต้องแต่งหน้านานมากๆ ตัวนี้ก็ถือว่าดีเลยล่ะ

ต้องขอบคุณจีบันและTom Fordมากเลยนะคะ ที่ส่งรองพื้นตัวนี้มาให้ทดลองใช้ ฟินมากจริงๆค่าา

หวังว่าจะรีวิวนี้กันนะคะ


BYE XOXO

Discussion (30)

ทาแล้วรู้สึกสวยเลยยย
แพ็กเกจสวยหรูมากค่าาา ?
แพ็กเก็จคือเริ่ดมากจริงๆ
สวยงามเลอค่าเลยคร่าคุณเตย