รีวิวรองพื้นงานผิว ฟีลลูกคุณหนู Giorgio Armani Beauty Luminous Silk | kinistapai

60 10
JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!

สวัสดีค่ะสาวววววๆ วันนี้ปายจะมา
บอกต่อเคล็ดลับผิวดูสุขภาพดี สวยใส ในวัย 30 จ้า


รีวิวรองพื้น (Foundation) งานผิว งานแพง งานฟีลลูกคุณหนู


กับแบรนด์

ซึ่งเป็นกิจกรรมของทาง JEBAN x ARMANI ที่จัดขึ้นที่


 Armani Beauty Boutique 

เซ็นทรัลเวิลด์


เปิดโอกาสให้ Jebanista ทั้ง 20 ท่าน ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับการแบรนด์ (ป้ายยานั่นเองงงงง ~) เป็นโชคดีของปายมากกกกกกกกๆ (ก.ไก่ล้านตัวววววว)

เพราะการที่เราเข้าร่วมกิจกรรมกับทาง Jeban มักจะได้ทริค หรือเคล็ดลับอะไรดีๆกลับมาเสมอ


ขอบคุณทีมงานบ้านจีบันก่อนเลยเป็นอันดับแรก ที่ให้โอกาสปาย เยิฟฟฟฟฟ

....โดยโปรดักส์วันนี้จะเป็นตัวที่ใครๆก็ต้องรู้จัก กับ....

รองพื้นที่ อาร์มานี่ ได้สร้างสรรค์ขึ้นมา 

อันเปรียบเสมือนชุดที่ตัดขึ้นตามขนาดตัวสำหรับผิว 

กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับสีผิวจริง

 วันนี้ปายได้พบ พี่แจ๊ค JACKMAKEUP ค่ะทุกโคนนนนนน 

Giorgio Armani Beauty's National Face Designer ตัวจริงเสียงจริง กี๊ซซซซซซ


พี่แจ๊คอธิบายเรื่องการเลือกสีรองพื้น อันเดอร์โทนของแต่ละคนให้ฟังคร่าวๆ

ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นหัวใจหลักที่ทั้งมือใหม่ และมือโปรต้องให้ความสำคัญ

ปายขอสรุปสั้นๆให้นะคะ (ไม่อยากเม้าท์ยาว เดี๋ยวจะยาววววววเกิ๊น จนทุกคนเบื่อแล้วปิดข้ามกระทู้นี้ไป แงง)

หลักๆ อันเดอร์โทน (Undertone) หรือ สีผิวที่แท้จริงของเรา

จะแบ่งออกเป็น 3 โทน


1) Warm Tone - ผิวโทนเหลือง (เอเชียส่วนมากโทนนี้)

2) Cool Tone - ผิวโทนชมพู (ฝรั่งส่วนมากโทนนี้)

3) Neutral Tone - ผิวโทนเหลืองชมพู


ซึ่งปกติแล้วเราก็จะอยู่ที่ช่วง Warm Tone กัน แต่ก็จะมีบางคนก็สงสัยว่าตัวเองอยู่ Neutral หรือ Warm กันแน่ พี่แจ๊คบอกว่า มีทริคเล็กๆ ก็คือให้เรา


"แหวกดูตรงช่วงหน้าอก / เนินหน้าอกค่ะ"


ถ้าเป็นคนที่ Neutral Tone ตรงช่วงบริเวณนี้จะออกเป็นสีอมๆชมพู หรืออมแดงให้เห็นเลยค่ะ 

แต่ถ้าใครไม่มั่นใจ สามารถให้ Face Designer ของทางแบรนด์ ช่วยเลือกสรรให้ได้ค่ะ

โดย Face Designer (หรือ BA) ของ Armani เค้าก็จะมีอุปกรณ์ที่เป็นสายยาวๆ ที่เรียกว่า 


Shade Finder

เอาไว้เปรียบเทียบและวิเคราะห์หาเฉดสีผิว 

โดยที่ BA จะวัดทั้งที่หน้า คอ แล้วก็บริเวณเนินหน้าอก

หลังจากนั้น พี่แจ๊คจะทำการเลือกสีรองพื้นที่เหมาะสมกับผิวเราให้ด้วยมือพี่แจ๊คเอง

(กี๊ซซซซซซซซซ~)

เป็นช่วงเวลาที่สาวๆ นั่งเม้ามอย ป้ายยากันไปอย่างหนุกหนาน

หลังจากจบกิจกรรมกับทาง JEBAN เราก็ได้ตัว Tester มาทดลอง
เห่อมากจ้าาาา ได้มาก็ถ่าย ? อยู่บนรถก็ถ่าย ? 55555

เข้าสู่เนื้อหาการรีวิวครีม (ซะที! 555)

พี่แจ๊คบอกว่า ปายมีอันเดอร์โทนเหลืองที่ชัดเจน ได้รองพื้นเบอร์ 3.5 

Light to Medium (with warm undertone)

พอเกลี่ยแล้วจะเห็นว่ากลืนไปกับผิวจริงๆ แต่ให้ความแวววาว ความมิติ 

ขนาดลงที่หลังมือนะคะ สวยแล้วเนี่ยยยย

ก่อนไปลงกับผิวหน้า เราจะมาดู


"หน้าสด" 


กันก่อน ว่า เป็นแบบไหน มีปัญหาอะไรบ้าง?

ปีนี้ก็เข้าสู่เลข 3 พอดี ความชราของผิวมาให้เห็นเร็วมากๆ


นอกจากปกติเป็นคน ผิวคล้ำโทรม แล้ว

ยังมี ฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่รักเราเหลือเกินไม่ยอมไปไหน

พื้นฐานของผิว เป็นคน ผิวแห้งค่ะ แห้งขาดน้ำ

ปัญหาเวลาที่ลงรองพื้น ก็จะมีทั้งความขุยเอย ความไม่ติดทนของรองพื้น 


รวมทั้งรองพื้นที่ใช้อยู่ไม่สามารถปกปิดความบกพร่องของผิวได้

ปกติปายโบกคอนซีลเลอร์หนามาก แต่งหน้านานมากกว่าจะออกจากบ้านแต่ละที
แถมยังให้ความรู้สึกหนา และเหนอะมาก
ทำให้ระหว่างวันหากออก Outdoor ไหลเยิ้มเลยจ้าา

วันนี้ปายจะทดสอบตัวรองพื้น Luminous Silk Foundation เพียวๆเลย

โดยไม่ใช้ 

แป้ง /คอนซีลเลอร์ / Highliter / บลัช


ที่เห็นในรูปคือลงชั้นแรกนะคะ จริงๆตอนเสร็จแล้วทับๆๆกันไปอีกหลายเลเยอร์ 5555

โดยปกติแล้วจะไม่แนะนำให้ลง Foundation ที่ใต้ตา สำหรับคนผิวแห้ง

แต่วันนี้ปายลงไปหมดเลยจ้าา เพื่อจะดูระดับการปกปิดของเค้าค่ะ

**NOTE**


ด้วยความที่ปายเน้นใช้แสงธรรมชาติเป็นหลัก 

ซึ่งอุณหภูมิของแสงอาจจะเปลี่ยนไปในแต่ละครั้งที่ถ่าย

(เช่นตอนเช้า อมฟ้ามากกว่า ตอนเย็นก็จะอมเหลือง-ส้ม-แดง มากกว่า)


ปายก็เลยไม่ปรับ White Balance ของภาพนะคะ เพื่อที่เราจะได้เห็นเนื้อสีกันอย่างชัดๆ

  เริ่มลง Luminous Silk Foundation ในตอนเช้า  

เค้าปกปิดได้ดีในระดับนึงเลยค่ะ นี่คือยังไม่ได้ลงแบบเน้นย้ำนะ

จะเห็นได้ว่า เค้าเบลอ จุดด่างดำ ฝ้า กระ ได้ดีเลยทีเดียว


ไม่เป็นขุยเลย แถมยัง "บางเบา" สุดๆ

ภาพระหว่างวัน ปายใช้มือถือถ่ายเอาค่ะ (ไม่ได้พกกล้องมาด้วย)

วันนี้ทั้งวันเราจะไม่มีการเติมอะไรใดๆนะคะ

ตอนเย็น ถ่ายตอนที่เหงื่อออกพอดี จะได้เห็นว่า ถ้าเหงื่อออกแล้ว จะยังไง

นี่เลยจ้าแม่  
(ต้องขอโทษนิดนึงง กับผมที่ยุ่งขนาดนั้น 55)


ไม่ไหล ไม่เยิ้ม สบายผิวหน้า

แถมยังเปล่งปลั่ง มีออร่า ดูเหมือนเป็นคนที่มีสุขภาพผิวหน้าดีไปอี๊กกก (เอิ๊กกก)

จากการที่ทดสอบ 1 วันเต็มๆ 

ปายรู้สึกแฮปปี้ อินเลิฟกับ รองพื้นอาร์มานี่ ตัวนี้มากๆ


what I love?

   อะไรที่ปายชอบ?   


  • บางเบา 

แบบที่ไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน เบามากจริงๆค่ะ

ตัวที่เราใช้อยู่ประจำว่าเบาแล้วนะ แต่ตัวนี้คือ บียอนด์ จ้าาาา



  • งานผิว ลุคคุณหนู Glass Skin

ปกติรองพื้นระดับราคา 1500++ ขึ้นไป ก็จะเน้นความเป็นงานผิวอยู่แล้วเบาๆ

แต่ของ อาร์มานี่ คือให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปค่ะ ผิวจะโกลว์แบบสุขภาพดี ฉ่ำน้ำ เหมือนบำรุงสกินแคร์หลักหมื่นมาเลยทีเดียว ที่สำคัญเค้าให้ความรู้สึกเหมือนเนื้อรองพื้นผสานไปกับผิวของเรายังไงยังงั้นเลยค่ะ
หลังจากลงรองพื้น ผิวไม่หนืด เหนียว เหนอะ เสมือนว่าผิวดุจผ้าแพรไหมเลยจริงๆ


  • เกลี่ยง่าย

เกลี่ยง่ายมากๆ ตอนปายเทสต์ ปายใช้มือเลยจ้าา (เพราะงก กลัวแปรงมันกินเนื้อ 5555) 


  • ปกปิดดี

ถึงแม้แบรนด์จะบอกว่าเป็น Light to Medium Coverage แต่ ตอนที่เห็นพี่แจ๊คเทสต์กับผิวคนอื่น คือเริศ รอยดำจากสิวหรือกลบไปเลยอ้ะ
เลยกลับมาลองเทสต์กับตัวเอง เห้ยย คือดืออออออออ้ะแม่~ รอยสิว รอยใต้ตา
เอาอยู่นะ

ถ้าอยากได้ Full Coverage เน้นๆหนัก เห็นพี่แจ๊คค่อยๆตบเพิ่มไปเรื่อยๆ ก็ Full ได้อยู่จ้าาาา (แต่ในรีวิวนี้ไม่ได้ตบเพิ่ม ของไม่พอจ้า 55555)


  • เหงื่อออกแล้ว ยังวิ้งค์

ถ้าเหงื่อออก ปกติแน่นอนว่ารองพื้นจะไหลไปตามแรงโน้มถ่วง

ยิ่งงาน Outdoor จัดๆ ต้องหารองพื้นแน่นๆ (แต่ยิ่งแน่น ก็ยิ่งหนักหน้า)


แต่ปายค่อนข้างแฮปปี้กับ Luminous Silk Foundation นะคะ  จากที่ลองเทสต์เก็บภาพระหว่างวันและหมดวันให้ทุกคนดู พอเหงื่อออกแล้วยังดูสวย ยังคงดูเปล่งประกายอยู่


note นิสนึง : วันที่ปายได้ทดลองใช้และเก็บภาพมาฝาก jebanista ทุกคน 

คือ ไม่ได้ออก Outdoor มาก อย่างภาพที่เหงื่อออก นั่นคือ เดินออกไปเซเว่น 

แล้วก็เดินทำงานไปมาแบบที่ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ค่ะ 

ผลลัพธ์ที่ปายบอก ว่า ไม่ไหลเยิ้ม ไม่เป็นคราบ ไม่ดร็อป ตอนเหงื่อออก

คือเหงื่อออกปริมาณน้อยนะคะ


เพราะฉะนั้น ปายขอยังไม่ฟันธงเรื่องการติดทนยาวนานระหว่างวันนะ 

ถ้ามีโอกาสได้ไปซื้อขนาดจริงแล้วจะมาอัพเดตให้ฟังกันอีกที

(เพราะตอนนี้ ตัวเทสเตอร์ หมด แล้วจ้าาาาาาา)


อย่างรองพื้นที่ปายใช้อยู่ (1800-1900.-) แล้วหนาาา 

เคยใช้ออกงานแต่ง Outdoor เอาไม่อยู่จ้า เยิ้มจ้าแม่ 


  • ราคา

30 มล. 2500 บาท ถ้าฟังแล้วจริงๆก็ดูแพงแหล่ะ แต่อย่างปายปกติใช้รองพื้นอยู่ระดับราคา 1800-1900 บวกลบคูณหารแล้ว เอาดีๆ เพิ่มขึ้นอีกหน่อย ได้ฟินิชลุคที่เริศกว่า ก็น่าลงทุนอยู่นะ




อ้อ ส่วนตัวเป็นคนผิวแห้งขาดน้ำ เผื่อบางคนลืมไป
ดังนั้นผลลัพธ์อาจต่างกันที่ผิวด้วยนะคะ 

ถ้าใครผิวมัน ให้ไปอ่านรีวิวของสาวที่ผิวมันด้วยค่าาา


 อะไรที่รู้สึกพลาด ?  


วันนี้ปายไปร่วมกิจกรรมกับทาง Jeban ปายใส่เสื้อคอกลมที่ค่อนข้างชิดคอมากเกินไปหน่อย ทาง Face Designer ก็คงจะดูสีผิวบริเวณเนินหน้าอกเราได้ยาก 


ที่ได้เป็นตัวเทสเตอร์มาใช้ (เบอร์ 3.5) ปายรู้สึกว่าหน้าไม่เทานะ ผิวดูผ่องสวยเลย ถ้ายกผิวที่มือขึ้นมาเทียบ สีคือพอดีกับมือเลยค่ะ


แต่มีความรู้สึกว่า ผิวหน้าดูสว่างกว่าคอ


ตรงนี้ที่พลาด รู้สึกว่า เราน่าจะใส่อะไรที่มันแหวกๆเว้าๆไปเพิ่มอีกนิด ตอนเทสต์สีแล้วมีปัญหา จะได้ปรึกษา Face Designer ได้เลยทันที




เพราะฉะนั้น แนะนำสาวๆที่จะไปเทสต์สีที่ Giorgio ให้ใส่อะไรแหวกๆไปจ้าา 55555 

เอาล่ะค่ะ สรุปว่า จริงๆเคล็ดลับผิวสวยของปายไม่ได้มีอะไรเลย 

เป็นเพราะว่า


รองพื้นเค้าดีย์ย์ย์ย์


อย่างเดียวเลยคร่าาาา

อย่าลืมลงรีวิวของสาวๆที่ใช้อยู่ หรือมาเม้ามอยได้ในคอมเม้นต์เลยน้าาา

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ JEBAN อีกครั้ง 

ที่ให้โอกาสปายได้ไปร่วมกิจกรรมนะคะ 


จีบันถือเป็น "บ้าน" อีกหลัง ที่ปายเข้ามาส่องทุกวัน 

ไม่น้อยไปกว่าการเปิด เฟซบุ๊ค ไอจี หรือ ทวิตเตอร์เลยล่ะค่ะ


เลิฟฟฟฟฟค่าา ❤︎


kinistapai

kinistapai

kinistapai ❤︎ ชื่อ "ปาย" น้าค้าาาา
Designer | Traveller | Beauty & Skincare lover

❤︎Skin type : ผิวแห้งขาดน้ำ มันตรงช่วงทีโซน (Combination skin type)
❤︎Hair : ผมเส้นเล็ก ขาดหลุดร่วงง่าย ดูแห้งฟู ไม่มีน้ำหนัก

FULL PROFILE