รีวิว Bioderma & Institut Esthedem เซ็ตกู้ผิวขาดน้ำ ครบทุกความต้องการผิว!

49 10
JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!

สวัสดีชาวจีบันทุกคนค่า


วันนี้เรามีไอเท็มเด็ดสำหรับคนผิวขาดน้ำมารีวิวให้รู้จักกัน

นั่นก็คือ   Bioderma  และ  Institut Esthederm 

ที่ได้จากกิจกรรม Jeban x NAOS นั่นเองค่ะ


โดยผลิตภัณฑ์ที่เราได้มาทดลองใช้หลัก ๆ ประกอบด้วย

  • Bioderma Hydrabio H2O 
  • Bioderma Hydrabio Serum 
  • Institut Esthederm Intensive Hyaluronic Serum


     หลังจากลองใช้มาสักพัก รู้สึกประทับใจมาก 

    วันนี้เลยถือโอกาสมาเล่าความรู้สึก แชร์ผลลัพธ์

บอกข้อดี ข้อเสียกันแบบไม่อวย!


ก่อนไปเริ่มอ่านรีวิว ขออธิบายสภาพผิวเราก่อนนะคะ

 เราเป็นคนผิวผสมค่ะ จะมันช่วงจมูกเป็นหลัก

 แต่ส่วนอื่นจะแห้ง

 เวลาแต่งหน้าคือส่วนที่แห้งจะเป็นคราบชัดเลย ถ้าใช้รองพื้นที่แมตต์มาก ๆ 


ช่วงที่ผ่านมาก็แพ้ฝุ่นสิวเห่อขึ้นมาเต็มไปหมด ทายาสิวจนผิวลอกเลยทีเดียวค่ะ 

ถ้าใครอยากอ่านผลลัพธ์เลย ก็ข้ามไปดูรูปสุดท้ายได้เลยค่ะ เราสรุปมาให้แล้ว

แต่ถ้าใครอยากดูทีละตัว ก็ตามไปอ่านกันเลยค่า



 Bioderma Hydrabio H2O 500 ml (950 บาท) 


คลีนซิ่งวอเตอร์สูตรไมเซล่าสำหรับผิวขาดน้ำโดยเฉพาะ สูตรนี้ประกอบด้วย


  • น้ำบริสุทธิ์ (เทียบเท่ากับน้ำเกรดทางการแพทย์) ที่ช่วยให้ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์มีความสะอาดอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิว

  • นวัตกรรม AQUAGENIUM สิทธิบัตรเฉพาะของ Bioderma ที่ช่วยเสริมสร้างปราการผิว และท่อส่งน้ำในผิว ให้ผิวอิ่มน้ำอย่างยั่งยืน

  • สารสกัดจาก Apple Seed ช่วยกระตุ้นการสร้างท่อส่งน้ำในผิว ทำให้ผิวสุขภาพดีจากภายในด้วย

  • D.A.F. Patent Natural Complex สารสกัดจากธรรมชาติซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ Bioderma ช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรง

  • ไม่มีแอลกอฮอล์

  • ไม่มีพาราเบน

  • ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว



ผลลัพธ์


ความรู้สึกหลังใช้คลีนซิ่งตัวนี้เช็ดหน้าคือ รู้สึกว่าผิวชุ่มชื่นดีมาก หลังเช็ดหน้าผิวไม่แห้งตึง แต่จะมีความยืดหยุ่นบนผิวอยู่ ส่วนการทำความสะอาดผิวส่วนตัวว่าคล้ายกับคลีนซิ่งทั่วไป คือหากแต่งหน้าเราก็จะเช็ดสำลีประมาณ 4 แผ่นจึงรู้สึกว่าไม่มีเครื่องสำอางติดอยู่บนหน้าแล้ว


ส่วนสิ่งที่เรารู้สึกไม่ค่อยชอบคือเรื่องกลิ่นน้ำหอม คลีนซิ่งสูตรนี้จะมีกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย จริง ๆ กลิ่นดีมากนะคะ แต่เพราะส่วนตัวเคยแพ้น้ำหอมในเครื่องสำอางจากบางแบรนด์เลยทำให้มีความกังวลเวลาที่เจอกลิ่นน้ำหอม แต่หลังจากที่ใช้มา เราไม่แพ้เลยค่ะ ไม่มีสิ่วเพิ่มขึ้นด้วย ถือว่าตัวนี้สอบผ่านนะ :)



  Bioderma Hydrabio Serum 40 ml (1,390 บาท)  


เซรั่มเติมน้ำสำหรับผิวขาดน้ำมีไฮยาลูรอนเข้มข้นที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ที่ผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่วนประกอบจะคล้ายกับตัวคลีนซิ่ง เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกันค่ะ


ส่วนประกอบเด่น

  • Apple Seeds Extracts กระตุ้นระบบการสร้างท่อส่งน้ำในผิว 

  •  Vitamin B3 ฟื้นฟูปราการปกป้องผิว ลดการสูญเสียน้ำ

  • Hyarulonic Acid ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน อิ่มเอิบ เปล่งปลั่ง

  • Glycerin กักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ให้ผิวยืดหยุ่น สุขภาพดี 


ผลลัพธ์


เนื้อเซรั่มมีลักษณะใส มีความข้นคล้ายเจล ไม่เหลวเป็นน้ำ แต่บางเบามาก เวลาทาซึมลงผิวได้เร็วมาก ตบเซรั่มบนผิวเบา ๆ แป๊บเดียวก็ซึมแล้ว ทาแล้วไม่เหนอะหนะเลย เราชอบมาก ระหว่างวันหน้าก็ไม่มันด้วย 


แนะนำเลยว่าถ้าใครที่เป็นคนผิวผสมแต่ขาดน้ำสามารถใช้ได้ โดยที่หน้าไม่เยิ้มแน่นอน  


เซรั่มตัวนี้มีกลิ่นน้ำหอมจาง ๆ กลิ่นจะคล้ายคลีนซิ่งแต่เบากว่า ใช้แล้วสบายใจกว่านิดหน่อย 555 แต่ใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ สอบผ่านอีกเช่นเคย

  Institut Esthederm Intensive Hyaluronic Serum 30 ml (2,800 บาท)  


สกินแคร์น้องใหม่ในบ้านเรา แต่มากประสบการณ์ในฝรั่งเศส เพราะ Institut Esthederm  เป็นสกินแคร์ชั้นนำที่มีมายาวนานกว่า 40 ปี! ภายใต้ NAOS เครือเดียวกับ Bioderma นั่นเองค่ะ


ตัวที่เราได้มาคือ เซรั่มไฮยาลูรอนิคเข้มขน เติมเต็มร่องรอยจากการขาดน้ำ ให้ผิวชุ่มชื่นอิ่มน้ำ ลดเลือนริ้วรอยจากการขาดน้ำให้จางลงใน 28 วัน


ประกอบด้วยไฮยาลูรอน 3 รูปแบบ

  • โมเลกุลขนาดใหญ่ มีคุณสมบัติเติมความชุ่มชื้นบนผิว

  • โมเลกุลขนาดกลาง มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนตามธรรมชาติของผิว

  • ไฮยาลูรอนิคในแคปซูลขนาดเล็ก สามารถซึมลึกลงไปในผิว (*ชั้น epidermis) และปลดปล่อยไฮยาลูรอนออกมาในผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจ และอิลาสติน

ผลลัพธ์


เนื้อเซรั่มมีสีขาวขุ่น เนื้อจะเหลวกว่า Bioderma ทาง่าย ซึมเข้าผิวง่ายเหมือนกัน หลังทาให้ความรู้สึกเบาสบายผิวมาก ๆ ไม่เหนอะหนะผิวเลย แต่มีความรู้สึกว่าผิวนิ่มและยืดหยุ่นดีขึ้นกว่าเดิม เวลาแต่งหน้าแล้วเป็นคราบตรงร่องแก้มน้อยลง ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่มีสิวขึ้นเพิ่มค่ะ 


ตัวนี้ก็มีกลิ่นน้ำหอมเบา ๆ เช่นกันค่ะ ดังนั้นใครผิวบอบบางมาก ๆ แนะนำให้ทดลองก่อนซื้อมาใช้นะคะ

สรุปสภาพผิวโดยรวม


จริง ๆ ก่อนจะใช้เช็ตนี้ เรากำลังรักษาสิวที่แพ้ PM2.5 อยู่ค่ะ ซึ่งสิวหายไปเยอะแล้ว แต่ผลที่ตามมาคือรอยดำ รอยแดง และผิวแห้งลอก แต่งหน้าแล้วเป็นคราบตรงรอยแห้ง ๆ


หลังจากใช้สกินแคร์เซ็ตนี้มาประมาณเกือบ 3 อาทิตย์ เราว่าผิวมันดีขึ้นจริงค่ะ คืออย่างแรกชุ่มชื่นขึ้นโดยที่หน้าไม่เหนอะหนะ ไม่มันเยิ้ม ถูกใจคนผิวผสมอย่างเรามาก


ใช้มาเรื่อย ๆ ไม่แพ้เลย แม้ตอนแรกจะกังวลเรื่องน้ำหอม เพราะเราเคยแพ้น้ำหอมในสกินแคร์มาก่อน อาจจะมีสิวขึ้นตอนประจำเดือนมาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่มีสิวที่มาจากสกินแคร์เซ็ตนี้เลยค่ะ


ถ้าดูจากรูปจะเห็นว่า รูปบนสุดสิวเราเพิ่งแห้งไป ยังมีรอยนูนบวมชัด และที่สำคัญแต่งหน้าแล้วเป็นคราบเห้นชัดมาก พอใช้ทั้ง Bioderma และ Istitut Esthederm คู่กันผิวที่แห้งลอกดีขึ้น แต่งหน้าแล้วเป็นคราบน้อยลงมาก


ส่วนเรื่องริ้วรอยยังไม่ได้เห็นผลชัดเจนสำหรับเราเท่าไร แต่โดยรวมตรงร่องแก้มเป็นคราบน้อยลงเวลาแต่งหน้าค่ะ อาจจะต้องใช้เวลาสักนิดรอยต่าง ๆ ก็น่าจะดีขึ้นตามลำดับ


ถ้าไม่นับรอยดำ รอยสิว เราว่าผิวเราดีขึ้นเยอะเลยค่ะ เป็นผลลัพธ์ที่ประทับใจมากจริง ๆ

ทั้งนี้ ผิวเราจะชุ่มชื่น อิ่มน้ำ ได้ยาวนาน ก็ต้องอาศัยการดูแลผิวที่ถูกวิธีด้วยนะคะ

ซึ่งเราควรจะดื่มน้ำให้เยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ มาส์กหน้าเป็นประจำ 

จะได้เป็นการเสริมประสิทธิภาพในการบำรุงผิวทั้งภายนอกและภายใน


สุดท้ายต้องขอบคุณจีบันมาก ๆ ที่ให้โอกาสได้ไปร่วมงานสนุก ๆ ครั้งนี้ และได้ทดลองผลิตภัณฑ์คุณภาพดีอย่าง Bioderma และ Institut Esthederm ค่ะ


ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้นะคะ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าค่า :)


icecream_pb

icecream_pb

ice :)
Since 1991
.
follow me
FB : icepb place
IG : icepb

FULL PROFILE