ใครเคยเป็นมั้ย? เลือกซื้อครีมกันแดดแต่ละที ก็จะเลือกที่มีค่า SPF และ PA สูงๆ เพราะเรามักจะมีความรู้สึกว่ายิ่งเลขมากเท่าไหร่ มันยิ่งสามารถช่วยปกป้องผิวของเราจากแสงแดดได้มากเท่านั้น บางครั้งเราอาจจะเห็นแค่ SPF 30 , SPF 50 ไปจนถึง 50 ขึ้นไปก็ยังมี! แต่จริงๆ แล้วรู้หรือเปล่าว่าค่า SPF สูงๆ  หรือ Sun Protection Factor คือค่าที่บอกความสามารถของครีมกันแดดในการปกป้องแค่รังสี UVB เท่านั้น

แต่จริงๆ แล้วรังสียูวีที่มาพร้อมกับแสงแดดในบ้านเรา ไม่ได้มีแค่รังสี UVB เท่านั้น แต่มีทั้ง UVA และ LONG UVA อีกด้วย! มาถึงตอนนี้หลายคนอาจจะรู้ หรือเริ่มจะสับสนแล้วใช่มั้ย ว่าแต่ละรังสีมันแตกต่างกันยังไงบ้าง?

ตามปกติที่เราได้ยินบ่อยๆ ก็มักจะได้ยินชื่อของรังสี UVB และรังสี UVA เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมันยังมีรังสียูวีอีกหนึ่งชนิดที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน นั่นก็คือ LONG UVA นั่นเอง บอกเลยว่าน่ากลัวไม่แพ้สองคลื่นรังสีนี้แน่นอน! ได้ยินแบบนี้แล้วอยากจะรีบหยิบกันแดดมาทาผิวของเราเลย

รังสี UVA

รังสียูวีเอ หรือ Ultraviolet Aging เป็นรังสีที่อยู่ในช่วงความยาวคลื่น 315-380 นาโนเมตร จากชื่อก็พอจะเดาได้ว่ามีผลต่อเรื่องริ้วรอยแน่นอนจ้า ซึ่งรังสียูวีเอจะไม่ก่อให้ผิวของเราเกิดอาการไหม้เบิร์น แต่จะทำให้ผิวคล้ำขึ้น และเมื่อผิวคล้ำขึ้นแล้วจะทำให้สีผิวเปลี่ยนไปเลย (หรือในบางคนอาจจะคล้ำนานเฉยๆ) ซึ่งหมายความว่ามันส่งผลต่อผิวของเราในระยะยาวแน่นอน เพราะว่ามันสามารถเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกของเราได้ ทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัย ดูไม่เต่งตึง พร้อมกับจุดด่างดำที่จะตามมา

รังสี UVB 

รังสียูวีบี หรือ Ultraviolet Burning เป็นรังสีที่อยู่ในช่วงความยาวคลื่น 280-315 นาโนเมตร แค่ชื่อที่ย่อมากจาก Burning ก็พอจะเดาได้เลยว่าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวไหม้แดด! และเมื่อผิวเกิดอาการไหม้แล้วหลังจากนั้นมันจะทำให้ผิวคล้ำเข้มขึ้นได้ ซึ่งบางคนวันต่อมาสีผิวอาจจะค่อยๆ จางลง แต่บางคนก็อาจจะคล้ำไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิวของแต่ละคนด้วยค่า

LONG-UVA

คลื่นที่ปกป้องลำบาก มีอำนาจทะลุทะลวงผ่านชั้นผิวหนังได้ลึกที่สุด และมีผลกระทบในวงกว้างต่อโครงสร้างชั้นผิวหนังแม้ได้รังสีในปริมาณน้อย ก็สามารถทะลุผ่านชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดการทำลายโครงสร้างผิวหนังตามมา เช่น คอลลาเจน และอีลาสติน ลดจำนวนการผลิตลง ทำให้เกิดริ้วรอย เกิดสีผิวที่เข้มขึ้น มีจุดด่างดำเพิ่มขึ้น

หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วแบบนี้กันแดดที่เราใช้อยู่ หรือกำลังมองหาใหม่สามารถช่วยปกป้องผิวจากทั้ง 3 รังสียูวีได้หรือเปล่า ซึ่งวันนี้เราก็มีกันแดดมาแนะนำจ้า

ปกป้องผิวจาก 3 รังสียูวี

กันแดด L'OREAL PARIS UV Perfect Matte & Fresh SPF50+/PA++++ ที่ตอบโจทย์ของเราในการช่วยปกป้องผิวได้จากทั้ง 3 รังสียูวี ไม่ว่าจะเป็นรังสี UVA ,UVB และ LONG UVA

เพราะเขามี mexoryl ซึ่งเป็นสารกรองรังสียูวี เอกสิทธิ์เฉพาะของลอรีอัล ที่ผ่านการวิจัยมาแล้วว่าช่วยปกป้องผิวจากการโดยรังสียูวีทำร้าย ซึ่งมันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งผิวหนังได้นั่นเอง 

คนไทยหลายคน จะมีข้อกังวลเรื่องกันแดดว่าใช้แล้วทำให้หน้ามัน หน้าเหนอะระหว่างวัน โดยเฉพาะสาวๆ ที่แต่งหน้า ถ้าต้องเจอกันแดดที่ทำไหลเยิ้มแล้ว รับรองว่าหน้ามันๆกองรวมกันกับเมคอัพแน่นอน! ซึ่งแบบนี้ทำให้หลายคนเสียความมั่นใจได้เลยทีเดียว

กันแดดเนื้อน้ำนมคุมมัน

กันแดดตัวนี้มาพร้อมกับเนื้อน้ำนม ที่ซึมไวเหมือนหายวับไปกับผิว เลยเหมาะกับทุกสภาพผิวไม่ว่าจะเป็นคนผิวหน้ามัน ไปจนถึงมีสภาพผิวหน้ามันเป็นพิเศษ เขาก็มีส่วนช่วยในการควบคุมความมันในตัว ด้วยส่วนผสมของคาโอลิน ที่ช่วยในการควบคุมความมันส่วนเกินระหว่างวัน และยังทำให้เมคอัพของเราไม่เยิ้มอีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทั้งมนุษย์หน้ามัน และคนที่แต่งหน้าสุดๆ

ที่สำคัญเลยคือ เขาผ่านการทดสอบว่าช่วยควบคุมมันความมันได้แม้อากาศบ้านเราจะร้อนไปจนถึง 45 องศา* ด้วย

*สื่อถึงสภาพอากาศ ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการในกลุ่มตัวอย่าง 26 คน โดยสถาบันวิจัยลอรีอัล, ก.ค. 2016

100% Oil-free 

ด้วยกันกันแดดเนื้อน้ำนม และยังควบคุมความมันอีกอาจจะมีบางคนสงสัยที่กังวลว่ามันจะทำให้หน้าอุดตันมากขึ้นหรือเปล่า? ซึ่งกันแดด L'OREAL PARIS UV Perfect Matte & Fresh SPF50+/PA++++ เขาไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน 100% หมดกังวลเรื่องสิวอุดตันไปได้เลย 

แต่สำหรับคนที่มีผิวระคายเคืองง่ายแนะนำว่าให้ลองทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ก่อนก็ได้นะคะเพื่อความสบายใจ แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าเรื่องสิวมีปัจจัยมาจากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ถ้าเป็น กันแดด ลอรีอัล ยูวี เพอร์เฟ็คท์ แล้ว ทางแบรนด์เขาบอกว่าหมดห่วงเรื่องสิวอุดตันได้เลย  :)

ควรทาครีมกันแดดมากแค่ไหน?

• แนะนำว่าให้ทาครีมกันแดดในปริมาณเท่ากับเหรียญ 10 บาท หรือ 2 ข้อนิ้วก้อย สำหรับใบหน้า และลำคอ *ย้ำว่าอย่าลืมทาคอด้วยนะจ๊ะ*
• ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที เพื่อให้กันแดดยึดติดกับผิว
• สำหรับใครที่ออกแดด หรือทำกิจกรรมกลางแดดนานๆ แนะนำว่าให้ทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันแสงแดดแบบมีประสิทธิภาพ

เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย

เนื้อครีมของกันแดด L'OREAL PARIS UV Perfect Matte & Fresh SPF50+/PA++++ จะเป็นสีขาวนวลเนื้อน้ำนมเหลว บางเบา ไม่มัน เมื่อทาแล้วจะรู้สึกได้ว่าเกลี่ยง่าย ซึมไวเป็นพิเศษ ที่สำคัญสำหรับคนที่แต่งหน้าก็สะดวกมาก เพราะสามารถแต่งหน้าทับต่อได้เลย ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ

นอกจากลอรีอัล ยูวี เพอร์เฟ็คท์ แมทท์ แอนด์ เฟรช แล้ว เขายังมี L'Oreal UV Perfect อีกถึง 7 สูตรกันแดดเริ่ดๆ เพื่อการปกป้องแสงแดดที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสภาพผิวที่แตกต่างของแต่ละคนได้ด้วย พร้อมกับเนื้อกันแดดที่แตกต่างกัน

ใครที่สนใจเนื้อแบบอื่น หรืออยากรู้ว่ามีสูตรไหนบ้างแนะนำให้ไปหาซื้อมาลองกันได้เลย หรือคลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมของสูตรอื่นๆ ได้ที่นี่เลยจ้า

สำหรับ  L'OREAL PARIS UV Perfect Matte & Fresh SPF50+/PA++++  มีหลายขนาดในราคาจับต้องได้ ทั้งขนาด 30 มล. 339 บาท มีวางจำหน่ายแล้วที่เคาน์เตอร์ L'OREAL ทุกสาขา ,Watsons ,Boots ,Big C , Tesco Lotus และ Tops

และขนาดพกพาสำหรับทดลองใช้ก่อน หรือใครจะพกติดกระเป๋าสำหรับในวันออกทริป ก็มีขนาด 7 มล. 29 บาท หาซื้อได้ที่ 7-11แล้วจ้า สะดวกสบายกระเป๋าสุดๆ :)

คลิปช็อปออนไลน์ได้ที่นี่เลย รวมทั้งสามารถติดตามไอเทมอื่นๆ ของ L'Oreal ได้ที่ Website L’Oreal Paris นี่เลย

แค่นี้ก็มีผิวออกแดดได้อย่างมั่นใจไม่ต้องกังวลทั้งรังสี UVA , UVB และ LONG UVA ก็มี กันแดด คุมมันของ  L'OREAL PARIS UV Perfect Matte & Fresh SPF50+/PA++++ ดูแลได้หมด :)