𝗡𝗮𝗻𝗲𝗮𝗿𝗹𝘆𝗯𝗶𝗿𝗱

44 11




เขียนถึง.....ตัวฉันเองในอีก 10 ปี


เป็นอย่างไรบ้างแนน ถ้าเธอได้อ่านข้อความนี้ ฉันเขียนถึงตัวฉันเอง ในวันที่ 16 มกราคม 2563 เขียนในช่วงเวลาที่แดดกำลังดีเลย ถ้าตากผ้านะคงแห้งเร็วในไม่กี่ชั่วโมง แต่ฝุ่นเยอะมากเลยช่วงนี้  จะไปไหนทีต้องรีบไปรีบกลับ วันนี้ฉันมีเวลาเยอะ ฉันเลยมานั่งเขียนถึงตัวฉันเอง


ถึงตอนนั้นเธอคงจะกลายเป็นผู้หญิงที่อายุใกล้ขึ้นเลข 4 แล้วละมั้ง เมื่อตอนฉันอายุ 20 ปี ฉันมัวแต่วาดฝันว่า ชีวิตของฉันจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ทว่า......ฉันคิดผิด ฉันมัวแต่ทำงานอย่างหนัก เพราะฉันอยากมีอนาคตที่มั่นคง ฉันอยากได้ข้าวของที่ฉันอยากได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาใครนอกจากตัวฉันเอง ฉันได้รับโอกาสที่ดีมากมาย มีผู้ใหญ่เมตตา ฉันยิ่งจดจ่อกับมันมากขึ้น จนลืมไปว่าฉันมีความสุขกับสิ่งตรงนั้นจริงๆรึเปล่า


ฉันมานั่งคิดทบทวนกับตัวเองมากขึ้น ตอนฉันอาบน้ำ ฉันสำรวจร่างกายตัวเอง ฉันมองผิวตัวเอง ฉันปล่อยให้สมองฉันโล่งที่สุดเท่าที่ทำได้ ฉันมองตัวเองในกระจก แล้วฉันกับพบว่า "ทำไมดวงตาของเธอไม่สดใสเหมือนกับตอนที่เธออายุ 20 นี่ควรจะเป็นดวงตาแห่งความภาคภูมิใจไม่ใช่หรอ ที่เธอผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย เธอไม่ได้ดีใจหรอกหรอ เธอเก่งมากเลยนะแนน"


แล้วทุกสิ่งรอบตัวกลับเงียบลงอีกครั้ง น้ำในดวงตาของฉันค่อยๆไหลออกมาอย่างช้าๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ฉันนึกว่ามันเป็นน้ำตาของความภาคภูมิใจในตัวเอง แต่เปล่า มันเป็นน้ำตาแห่งความทุกข์ทรมานในใจฉันมาหลายปี ไม่ใช่ว่าฉันไม่รักงานที่ทำ แต่กลับกันคือ ฉันไม่เคยปล่อยให้ความคิดของฉันได้เป็นอิสระเลย ฉันมัวแต่คิดตลอดว่า มันต้องดี มันต้องดีกว่านี้ มันต้องดีที่สุด ฉันป่วยเป็นโรคเครียดและเป็นโรคมีความคิดกดดันตัวเองตลอดเวลา 


ฉันกลายเป็นคนขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน สุขภาพกลับแย่ลง ผิวก็ฟ้องว่าต้องพักแล้วละ ฉันคิดกังวลอยู่นาน และตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำ (อีก Part หนึ่งของชีวิตฉัน) ฉันได้เรียนกับทางผู้ใหญ่ที่ฉันเคารพรัก ว่ามันอาจจะถึงเวลาที่ฉันต้องเติบโตในแบบของฉัน และเริ่มมองหาความสุขอย่างอื่นที่มาเติมเต็มหัวใจ ฉันมุ่งมั่นที่จะค้นหาตัวเองว่าชอบอะไร ค้นหาว่าความสามารถที่แท้จริงของเราว่ามันมีอะไรอีก นอกจากสิ่งที่ฉันทำมา แน่นอนละว่าค่าใช้จ่ายต่างๆในชีวิตประจำวันไม่มีวันลาพักร้อน ดังนั้นชีวิตก็ต้องดิ้นรนกันต่อไป ฉันอ้ะนะ ยกนิ้วให้กับคนที่เสียสละเวลาความสุขของตัวเองเลย คนที่ทำงานเลี้ยงตัวเอง และเลี้ยงครอบครัว ฉันมองพวกเขาเหมือนเป็นฮีโร่เลย เป็นฮีโร่ที่เดินดินธรรมดา แต่โคตรๆเก่งเลย


สุดท้ายนี้ถึงฉันจะร้องไห้ในวันนั้น มันทำให้ฉันรู้ว่า น้ำตาในวันนั้นมันช่วยให้ I heal myself mentally. ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกแย่ ฉันชอบหากิจกรรมอย่างอื่นทำเพื่อที่เราจะได้ไม่ได้จดจ่อกับความทุกข์ที่เกิดขึ้น เมื่อฉันสู้ไม่ไหว ฉันแค่รู้สึกอยากหยิบนกหวีดมาเป่า แล้วบอกตัวเองว่า ขอเวลาพักครึ่งแปปนึงนะ ขอเวลาให้ฉันได้คิดทบทวนซักครู่ แล้วฉันจะกลับมาพร้อมโล่ที่มีน้ำหนักเบามาก แต่ในทางกลับกันมันเป็นโล่ที่ทรงพลังที่สุด และเมื่อถึงคราวนั้นจะปัญหาหนักหนาแค่ไหน ฉันก็จะสู้กับมัน ฉันขอให้ฉันมีสติในทุกวันที่ฉันลืมตาตื่นนอน เพราะสติจะทำให้ฉันรู้เท่าทันว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ รู้ว่าอะไรคือความสุข และอะไรคือความทุกข์ และอะไรที่ฉันควรทำต่อไป 


ฉันขอเปิดเผยจดหมายฉบับนี้ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ฉันรักในบ้านจีบันนี้ได้อ่านกันนะ เผื่อว่าใครที่กำลังอ่านจดหมายนี้ของฉันอยู่ หรือใครที่กำลังเป็นแบบฉัน มีความท้อแท้ สิ้นหวัง หรือกำลังสับสนในชีวิต ฉันขอเป็นกำลังใจเพื่อส่งต่อพลังงานความคิดที่ดี พลังงานด้านบวก พลังที่จะสู้กันต่อไปในทุกๆวัน และส่งต่อรอยยิ้มของฉันไปยังทุกๆคน


ฉันพร้อมนานแล้วที่จะก้าวต่อไปในวันข้างหน้า ฉันรู้ดีว่าฉันคือใคร ฉันจะพยายามทำทุกวันต่อจากนี้ให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับที่ฉันตั้งใจปกป้องและรักษารอยยิ้มของฉันให้อยู่กับฉันนานๆ ซึ่งเป็น 1 ข้อ ใน Wish List ของฉันในปีนี้ ปี 2020


แนนมีนกหวีดหลายอัน มีแบบติดกลิตเตอร์ด้วย 
หากใครต้องการ มาเอาได้นะ
หากวันไหนที่เหนื่อยล้า คุณก็แค่เป่า

Nanearlybird



To be continued.....



Nanearlybird

Nanearlybird

สวัสดีค่ะ ทุกคน ชื่อแนน นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ
.
ทุกคนสามารถเข้าไปดูผลงานของแนนเต็มๆได้ที่
☆ ​Youtube​ Channel : Nanearlybird
☆ Facebook Fanpage : Nanearlybird
☆ Instagram : @nanearlybird
☆ Twitter : @nanearlybird
★ For work : DM ผ่านทาง IG ที่เดียวค่ะ | nanearlybird@gmail.com | #nanearlybird

FULL PROFILE