สกินแคร์ไอเดียใหม่ สารสกัดจากยางพารา : APARA(อะพาร่า)

APARA - อะพาร่า


ทุกคนอาจจะยัง งงๆ ปนสงสัย ?


งั้นเรามาทำความรู้จักกับจุดกำเนิดและไอเดียของแบรนด์กันก่อนดีกว่าค่ะ

เรื่องราวนี้เรานำมาจากแบรนด์แล้วนำมาเล่าต่อให้ทุกคนฟังอีกทีนะคะ เริ่มจากกว่า20ปีมานี้ นักวิทยาศาสตร์ ได้เริ่มหาสารสกัดใหม่ๆ เพื่อมาช่วยฟื้นฟูความงามให้กับหญิงสาวได้ และในวันหนึ่ง เธอก็ได้เดินผ่านที่ต้นยางพารา แล้วสังเกตเห็นรอยแผลจากการกรีดเอาน้ำของยางพาราออกมา อมก! เธอเห็นว่าต้นยางพาราสามารถรักษารอยแผลจากการกรีดน้ำยาง ด้วยต้นเองได้อย่างรวดเร็ว


แต่เมื่อลองเอาน้ำยางพาราบริสุทธิ์ไปเข้าห้องทดลองแล้ว ก็ได้พบว่า น้ำยางพาราประกอบไปด้วยสารเคมีมากมาย "แต่มีเพียง0.48% ในน้ำยางพาราบริสุทธิ์ ที่กุมความมหัศจรรย์แห่งการฟื้นฟูบำรุงผิวไว้ได้"


และนี่คือจุดเริ่มต้นของส่วนผสมนี้นั่นเองค่ะ


สินค้าของแบรนด์มีหลายตัวที่น่าสนใจค่อนข้างเยอะเลยค่ะ

เช่น คลีนซิ่งออยล์ น้ำตบยางพารา


แต่ที่เราได้มาเป็นเซรั่ม ที่มาในรูปแบบเจลใสๆ ไม่มีสี มีกลิ่นอ่อนๆจนแทบไม่ได้กลิ่นเลย แต่ก็ไม่ได้เหม็นนะคะ อย่าพึ่งคิดว่าจะเป็นกลิ่นยางๆน้าา


APARA RECOVERY GEL

เซรั่มในรูปแบบเจลที่มาจากสารสกัดยางพาราเข้มข้น

  • ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ

  • ควบคุมความมันของผิว

  • ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น

  • ผิวดูเปล่งปลั่ง


ก่อนรับมาทดลองใช้ เราอ่านสรรพคุณและความน่าเชื่อถือแล้วค่ะ สินค้าผ่าน อย.ถูกต้องตามกฎหมาย มั่นใจได้เลย :)


ทริคเล็กๆน้อยๆเวลาจะใช้สกินแคร์ใหม่ๆ

ก่อนรีวิวทุกครั้งเราจะทดสอบการแพ้โดยการทาที่บริเวณ ท้องแขน หลังใบหูหรือบริเวณกรอบหน้าค่ะ ไม่ว่าสกินแคร์ราคาแพงหรือถูกก่อนนำมาใช้แนะนำให้ทุกคนทดทองวิธีนี้นะคะ เพราะไม่ใช่สกินแคร์ทุกตัวจะเหมาะกับผิวหน้าเรา ครีมแพงๆที่ซื้อมาเองก็แพ้มาแล้ว T__T เพราะงั้นอย่าลืมทดสอบการแพ้ก่อนลงที่หน้าจริงนะคะ



ช่วงที่เราทดลองใช้ เป็นช่วงที่เราอยู่ที่เกาหลีพอดีค่ะ

อากาศที่นู่นแห้งมาก จากคนหน้ามันแบบเรากลายเป็นหน้าแห้งจนแสบผิวไปเลยค่ะ จะแต่งหน้าแบบตอนอยู่ไทย หรือใช้รองพื้นแบบที่ใช้ที่ไทยก็ไม่รอด เลยต้องโบกสกินแคร์เข้าไป จากที่ตอนเช้าทาไม่กี่ขั้นตอน อยุ่ที่เกาหลีกลายเป็นต้องทาสกินแคร์เหมือนตอนกลางคืนเลยค่ะ


เราใช้เซรั่มตัวนี้ควบคู่กับสกินแคร์ของทางฝั่งเกาหลีคือ LANEIGE

เพราะวันแรกๆทาแค่BIOTHERMเดี่ยวๆแล้วไม่รอด เลยเพิ่มAPARA และLANEIGE เข้าไปด้วย ทีนี้โอเคเลยค่ะ ผิวหน้าไม่แห้งไป ไม่แสบหน้าแล้วก็ทำให้แต่งหน้ารอดในสภาพอากาศที่ติดลบ



ความเหนียวของสกินแคร์ที่ต้องทาหลายๆชั้น พอลงเซรั่มของAPARAลงไป ไม่ได้รู้สึกหนักหน้าแต่อย่างใดค่ะ เซรั่มซึมไว แถมเนื้อยังเป็นเจลทาแล้วลื่นๆกลืนไปกับผิว ไม่ได้ทำให้ผิวแมทท์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิวมันค่ะ มาลองที่ประเทศไทยต่อคนผิวผสมค่อนไปทางมันแบบเราใช้ได้ค่ะ ชอบเนื้อสัมผัสเลย


ความรู้สึกแรก

ทาเข้าไปคือ คิดว่าไม่ได้เกิดอะไรเท่าไหร่ ก็คงแค่เจลๆเหมือนเจลว่านหางทั่วไปแหละมั้ง แต่เจลว่านหางส่วนใหญ่ทาเข้าไปแล้วผิวจะแห้งไว ให้ความชุ่มชื้นที่ผิวได้แค่แปปเดียวเท่านั้นค่ะ เหมือนทาแล้วพอเจลแห้งหน้าก็แห้งตาม แต่ตัวนี้แตกต่างตรงที่ ทาเข้าไปแล้วสักพักเค้าจะซึมเข้าผิว แต่ยังให้ความชุ่มชื้นอยู่ ทั้งๆที่หน้าไม่ได้มันเพิ่ม (งงมั้ยคะ555) ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ว้าวในครั้งแรกที่ใช้ แต่หลังจากใช้ไป1สัปดาห์แล้วกลับรู้สึกชอบเนื้อสัมผัส และผลลัพธ์ของผิวที่ชุ่มชื้น แต่ไม่มัน


เป็นความรู้สึกของผิวที่กำลังดี

จะทาก่อนแต่งหน้าตอนเช้าผิวก็ไม่มันเพิ่ม แต่งหน้าได้ง่าย หรือเวลาทาก่อนนอนก็สบายผิว ครีมไม่ติดหมอนให้รู้สึกเหนียวหน้า


ขอบคุณทุกคนที่น่ารัก ที่อ่านจนจบเหมือนเดิม

เราก็ยังจะเป็นนักรีวิวที่จริงใจเพื่อตอบแทนทุกคนต่อไป :)


รักทุกคนเหมือนเดิม ไม่มีเพิ่มเติมและไม่มีลดลง ฮิ้ววว <3



  LAZYMONDAY.CO.TH  


Discussion (14)

น่าลองมากเลยจ้าาาา
น่าสนใจจังค่ะ