[ที่สุดของแจ้] การเดินทางของ Moleskine สมุดที่ไม่ใช่แค่สมุด

50 14

ฮายยยย ซิสสสสส


วันนี้คิสมาแปลกกว่าทุกๆวันค่ะ(ปรกติก็ไม่ค่อยจะธรรมดาอยู่แล้วอะนะ 55)


เพราะนี่คือการรีวิวร้านที่คิสเข้าไปร้านถึง 3 ครั้งภายในรอบอาทิตย์เดียว


ถ่อไป 2 ครั้งที่ Central Embassy และอีก 1 ครั้งที่สาขา Gaysorn Village


เพียงเพื่ออยากจะหาของขวัญให้คนพิเศษ ที่สำคัญที่สุดของคิสในเวลานี้


สมุด...ที่ไม่ใช่แค่สมุด...ให้คนพิเศษ...ที่ไม่ใช่แค่ใครก็ได้


นิยามนี้คิสขอมอบให้เลย เหมือนคนรัก Harley เค้าจะไม่นับว่าตัวเองเป็นมอเตอไซต์ คุณไม่ได้ขี่มอไซต์นะ คุณขี่ฮาร์เลย์ มันคือความ intensity ของ branding ที่เข้มข้นมาก คัวบดมาด้วยประวัติศาสตร์และประสบการณ์ของคนที่ใช้จริงจนท่วมท้นออกมา

ใครเรียนหรือจบด้านดีไซน์คงรู้จักแบรนด์นี้กัน แม้แต่แม่คิสที่รุ่นแซยิดแล้วก็ยังรู้จัก(แม่คิสเป็นเด็กเพาะช่าง จบจิตรกรรม ม.ศิลปากร และทำงานด้านดีไซน์ตั้งแต่เรียนจนจบแล้วไปอีก 20 ปี ทุกวันนี้เป็นแม่บ้าน แต่ยังคงอุตสาหะสเกตภาพ drawing เรื่อยๆแม้ไม่มีใครร้องขอและไม่มีที่ในบ้านจะให้วางอีก ชอบงานสีน้ำเป็นพิเศษ สีฝุ่นบ้าง สีน้ำมันบ้าง แล้วแต่อารมณ์)


เอาละ ก่อนที่จะไปทำ wiki เรื่องหม่ามี๊คิส กลับมาที่ Moleskine (แบรนด์สัญชาติอิตาลี คิสออกเสียงว่า "โมลดสกิน" ทุกวันนี้ยังไม่มีใครทักนะว่าออกเสียงเพี้ยน ก็จะออกเสียงแบบนี้ต่อไป แต่ถ้าใครรู้สำเนียงอิต๊าเลี่ยน ก็รบกวนบอกคิสเป็นวิทยาทานด้วยเด้อ)

หนทางมาสู่บ้านหลังพิเศษ flagship store ที่ทางแบรนด์ให้ข้อมูลคิส* เป็นบ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่พนักงานน่ารักมากกกกกกกกกกกก


รอบนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่มาหลายรอบเพราะมีเหตุผล ไม่ได้รักการเดินทางขนาดนั้น ตามล่าทั้งอำเภอ เพราะเธอคนเดียวเลยรู้ยัง 55 ของที่อยากได้จนตรงสเปคทุกอย่างค่อนข้างหายากค่ะ 


คิสแนะนำว่าถ้าอยากได้ Moleskine เจอแล้วควรซื้อเลย ไม่ควรรอ ครั้งที่ 3 ที่คิสไปที่ร้าน ตัว smart writing ทุกเซท ทุกรุ่น ทุกแบบ ขายหมดเกลี้ยง sold out ไปหมดแล้ว วันแรกที่ไปยังอยู่เลย คือของๆเค้ามัน run เร็วมาก


*คิส Add Line@ แบรนด์ไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เพราะรุ่นพี่คิสดันอยากได้ Year Planner ของปี 2018 ที่เป็นของเก่าๆ ที่ไม่น่าจะมีวางขายที่ไหนบนจักรวาลนี้ คิสถ่ายสคบ. โทรไปหาที่ออฟฟิต เค้าบอกให้ Add มาสอบถาม คิสถึงได้ข้อมูลจาก merchandiser ในการเชคสต๊อคของเก่าๆ ซึ่งก็เป็นพระคุณให้คิสและรุ่นพี่จนถึงตอนนี้


เหตุผลที่รุ่นพี่อยากได้ของเก่าๆ เพราะเค้าจะมาทำบันทึกย้อนหลังให้ลูกที่โตแล้วเกือบ 2 ขวบ ซึ่งเค้าเสียดายสิ่งที่เค้าอยากเก็บไว้เป็น milestone แต่กว่าจะคิดได้คือมันผ่านไปแล้ว 2 ปี ซึ่งแบรนด์ที่จะทำสมุดบันทึกที่เป็นตำนาน ไม่มีทางจะ dissolve และการเก็บมีความหมายต่อเค้ามากๆ เค้าต้องการให้สมุด sturdy ที่สุด แน่ใจว่าเวลาผ่านไปจนลูกโตแล้วสมุดยังอยู่ดี

ความลำบากของพี่ คือความลำบากของเราค่ะ ตามหาจนแล้วเสร็จ คิสเสียค่ารถยิ่งกว่าค่าสมุดซะอีก เพื่อให้เป็นของขวัญหลาน คิสก็จำได้นะว่าพนักงานของ Moleskine ช่วยคิสอย่างดีมากๆ คิสค่อนข้างให้ความสำคัญกับบุญคุณคน


เวลาผ่านไป ปีนี้คิสยังไม่ได้ซื้อ year planner เลยบอกตามตรง แต่ได้รับมาเป็นของขวัญที่ไม่ใช่ moleskine และควรจะใช้เล่มที่ได้รับมา คิสก็เลยมองหาเป็น "สมุดบันทึกธรรมดา" ให้กับคนพิเศษ และอยากจะให้ตัวเองด้วย


คิสติดต่อแบรนด์อีกครั้งเพื่อขออนุญาตในการทำข้อมูลเกี่ยวกับ Moleskine ซึ่งก็เป็นแบรนด์ระดับโลก แบรนด์ได้ให้ข้อมูลที่เป็น general info กับคิส และให้ข้อมูล รวมถึงแจ้งพนักงานหน้าร้านว่าให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกการเก็บภาพของคิสให้ดีที่สุด


ทั้งนี้ คิสไม่ได้รับค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ไม่มีค่าจ้าง ไม่มีของขวัญ ไม่มีอะไรเลยที่ได้จากแบรนด์ ไม่ใช่เพราะแบรนด์ใจจืดใจดำอะไร แต่คิสต้องการทำเพราะหลงรัก และอยากให้ Moleskine เป็นทางเลือกของขวัญหนึ่งที่มีค่าต่อผู้รับโดยแท้จริง

สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านอะไรยาวๆ คิสพยายามย่อสั้นๆแค่ว่า


"Moleskine คือของขวัญที่มีค่าสำหรับคนที่ยังจดบันทึก มันเป็นตำนานที่ยังมีวางขาย และเชื่อว่าจะไม่มีทางหายไป ไม่ว่า disruption จะพุ่งเป็นกราฟพาลาโบล่า เพราะความแน่นหนาใน DNA ที่ลึกซึ้งต่อนักเขียน ต่อคนที่รักในการเขียน"


อีกข้อ สำหรับคนที่ไม่ใช่นักเขียน แต่อยากซื้อ Moleskine


"กรุณาติดต่อพนักงาน แจ้งความต้องการอย่างละเอียด ปกหนา ปกบาง กระดาษแบบไหน คนใช้ ใช้งานไปทำอะไร ถ้าคุณหยิบเอง คุณอาจจะหยิบผิด"

ภาพที่คนน่าจะคุ้มชินกับ Moleskine มากที่สุดคงจะเป็นสมุดบันทึกธรรมดาๆที่หลายๆแบรนด์ก๊อปวางขายเกลื่อนมาก คือเอาว่ามีเกิน 10 แบรนด์แน่ๆที่ mock หน้าตาของ moleskine มาวางขาย


ใครใคร่ซื้อแบบไหน ซื้อไปเลยค่ะ ตามลำบากลำบน แต่คือที่แน่ๆมันไม่ใช่ Moleskine ซึ่งถ้าคนรับเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรเลย อันนี้คือก็ไม่มีประโยชน์


คิสมองว่าคุณค่าของ Brand DNA มันมากกว่าแค่สมุด


คิสรู้จักแบรนด์นี้จากคนรอบตัว ใกล้สุดคือหม่ามี๊ คือใกล้มากจริงๆ ยิ่งอ่านประวัติแบรนด์ โห้ เข้าใจความเว่อร์ของ Moleskine มากๆ นักเขียนบางคนบอกว่า "คิดไม่ออก ถ้าไม่ได้เขียนลงบน Moleskine"


ซึ่งก็ฟังดูอาการหนักอยู่ เหมือน obsess อะไรมากๆ แต่ก็เข้าใจนะ อย่างคิสรักชิโน่มากๆ คิสก็ไม่สามารถอุ้มแมวตัวอื่นได้เหมือนกับที่อุ้มชิโน่


((เปรียบเปรยอะไรของแกอะคิส แกพยายามแล้วใช่มั๊ย ตอบสังคมด้วย))

ความเว่อร์และความละเอียดจนคิดไม่ถึงของ All about notebook เป็นยังไง


มาค่ะ คิสจะเล่าด้วยภาพ เพราะตาคิสจะปิด มือก็จะหงิกละ เล่าด้วยภาพแทน

นี่คือสมุดจนบันทึกเวอร์ชั่นพิเศษสุดขีด ที่จากเดิมก็มีเวอร์ชั่นพิเศษอยู่แล้ว(เวอร์ชั่น นักเดินทาง เวอร์ชั่นงานศิลปะ ฯลฯ)


นี่คือการ customize ความต้องการนักเขียนผ่านปลายปากกา


"คนที่ต้องการบันทึกการให้กำเนิดหนึ่งชีวิต"


(เล่มเหลือง อันนี้คือ touch คิสที่สุด ขนาดคิสมีแต่แมว ไม่ใช่ลูก คิสต้องการเก็บเรื่องราวของเค้าเอาไว้ทุกอย่าง)


"คนที่ต้องการบันทึกการเดินทางชั่วชีวิตของตัวเอง"


(เล่มเขียว คิสไม่ใช่นักเดินทางเลย แต่เล่มนี้เป็นเล่มนึงที่คิสชอบ เพราะคิสจินตนาการว่าถ้าตัวเองเป็นคนชอบเดินทางก็จะซื้อเล่มนี้)


"คนที่ต้องการบันทึกการเตรียมตัวบทบาทใหม่ในชีวิต"


(เล่มสีขาว ซึ่งคิสเองก็อาจจะไม่ได้ engage มากกับเล่มนี้ แต่เชื่อว่า bridezilla ได้รับคงกริ๊ดแตก เพราะกว่าจะจัดงานแต่งงานได้ component มันช่างมากมายเหลือเกิน เกินกว่าจะปล่อยให้มันลอยหายไป แม้ว่างานนั้นจะเป็นการผูกข้อมือ หรือปิดโรงแรมแคมปินสกี้ เพื่อจัดงานก็ตาม ผู้หญิงทุกคน อยากเป็นเจ้าสาวที่สมบูรณ์พร้อมที่สุดเสมอ)


"คนที่ต้องการบันทึกเรื่องการทำอาหารเมนูใหม่ๆของตัวเอง"


(เล่มสีแดง ขออภัยจริงๆ คิสทำอาหารไม่เป็นเลยไม่ได้หยิบมาดูว่ามันคืออะไร bias มาเองล้วนๆ ใครสนใจไม่รู้ แต่ชั้นไม่ได้สนใจเลยแบบ...ข้ามเลย แต่ใครรักการทำอาหาร ทำขนม น่าจะถูกใจเล่มนี้ ต้องไปขอพนักงานเปิดดูเอาเองค่ะ)

คิสขอ moonwalk กลับมาที่สมุดบันทึกแบบเบสิคก่อนจะดีกว่า เพราะเอาจริงๆ moleskine มีสินค้าเยอะมาก เยอะเกินกว่าคิสจะเล่าจบในโพสนี้


นี่คือสมุดที่น่าจะถูกละเมิดลิขสิทธิ์ไปทั่วโลกมากที่สุดแล้ว บางเจ้าขอแค่กลิ่นอายก็ยังดี บางเจ้าก็เอามาระดับ signature ตัว pocket ปกหลัง คือเก็บรายละเอียด คิสเห็นมาหมดแล้วค่ะ เพราะคิสก็เปิดดูหมดถ้ามันมีให้เปิดนะ 555 อยากรู้ความก๊อปมันไปได้ถึงไหน อะไรประมาณนั้น


ถ้าอยากได้สมุดเป็นของขวัญ ได้โปรดถามพนักงาน อ่าน 3 รอบวนไปค่ะ


((ทั้งนี้ทั้งนั้นระหว่างที่คิสอยู่ที่ร้าน มีคนมาซื้อ 3 คน คือเข้า 3 คน ซื้อ 3 คน และเข้ามาคือระบุเองได้เลยว่าแบบไหนยังไง หรือแม้กระทั่งเดินไปหยิบเอง แบบ...คิสงงมากว่าเค้ารู้ได้ยังไง คิสต้องถามแล้วถามอีก กลัวหยิบผิด มันเสียเวลามาเปลี่ยนของค่ะ และ moleskine ก็ไม่ใช่ของราคาถูก(สมุดโน้ดแบบที่เห็นกันทั่วไปราคาประมาณ 880 บาท ถ้าเป็น Year Planner จะราวๆ 1000 บาท แล้วแต่รุ่นค่ะ คิสแนะนำว่าถ้ารุ่นนั้นๆมี sample ขอพนักงานเปิดดูเลย เพราะดีเทลเค้าเยอะ และอาจจะไม่ตรงกับความต้องการของคนซื้อ หรือคนรับ))

เอาละ และนี่คือเหตุผลที่คิสเวียนว่ายตายเกิดกับ Moleskine ไปหนึ่งอาทิตย์ 3 วันในการตามล่าของที่ต้องการ


1. ไป Embassy เจอสีที่ใช่แต่ปกไม่ใช่และไม่มีเส้น ให้ร้านเชคสาขาที่มีปกแข็ง

2. ไป Gaysorn แต่ร้านดันใกล้ปิดตอน 2 ทุ่ม ทำ Personalize ไม่ทันแล้ว

3. วนกลับมา Embassy เพื่อทำ Personalize และได้เก็บรูปมาบอกเล่าให้จีบัน


คือพระเจ้า คิสไม่อยากเชื่อว่าต้องทำขนาดนี้เลย แต่คือคิสอยากให้คนรับในเวลานี้จริงๆ คิสรู้ว่าเค้าคนนั้นจะต้องถูกใจถ้าคิสให้ชิ้นนี้ มันจะเป็นเล่มเดียวบนโลก


และพระเจ้า มันก็ดันเป็นเล่มเดียวที่เหลืออยู่จริงๆ เพราะสีมันเป็นสี seasonal


คิสต้องขอบคุณทางแบรนด์มากๆกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น แต่ดีใจมากๆที่ได้ของมาตามที่คิดไว้ คิสโคตรดีใจเลย


ปล.สำหรับใครที่อยากได้งาน personalize ปกสมุด อันนี้ถ้าข้อมูลคิสไม่ผิดคือทำได้เฉพาะแบบปกแข็ง ทำได้บริเวณ Header หรือ Footer ตรงกลางไม่รู้ว่าทำได้รึป่าว ส่วนสี มีให้เลือก 4 แบบคือฟอยด์เงิน, ทอง, พิงค์โกลด์ และแบบปั๊มลึก


ถ้าติดตามทาง Line@ ของแบรนด์ moleskine ก็จะมีบอกเรื่อยๆว่าทำ personalize ฟรีได้ช่วงไหน สาขาไหนบ้าง คิสก็โชคดีจริงๆ คือไปมา 2 สาขาภายในอาทิตย์นึง ไม่มีอะค่ะโปรโมชั่น คลาดกันทุกที่ทุกสิ่งอย่าง ก็ค่าปั๊ม 10 อักษรจะอยู่ที่ 100 บาท ส่วนคุณค่าทางใจ...priceless

ภาพนี้คือตัวอย่างนะคะ ส่วนของคิสไม่สามารถลงให้ดูได้ค่ะ เป็นของขวัญของคนพิเศษ ให้ดูได้คือกระบวนการที่ทางพนักงานทำ personalize ขออนุญาตทางพนักงานแล้วว่าขอถ่ายนะ ใช้เวลาไม่นานและงานจริงสวยมากๆ

พนักงานท่านนี้ก็น่ารักจริงๆ คนเดียวดูแลทั้งร้าน วันแรกที่คิสมาคือคิสพบพนักงานอีกท่านชื่อน้องแอน เชื่อว่าความสามารถการบริหารจัดการร้านน่าจะพอๆกัน คือคนเดียว ดูแลบริเวณแดนเหนือ ใต้ ออก ตกในหนึ่งเดียว เบ็ดเสร็จมากยิ่งกว่าเกาหลีเหนือ


ต้อนรับ อธิบาย จัดเรียง รีฟิล คิดเงิน ส่งยอดแคชเชียร์ นับสต๊อค


ในฐานะที่ครั้งนึงคิสเคยเป็น shop manager ก็ขอคารวะค่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอด

((อันนี้ไม่ได้ tie in แบรนด์ที่มีในภาพนะคะ แต่พอดีเห็นแล้วเลยอยากจะโพสถึง))


Moleskine มีรับงานทำ customize สำหรับงานองค์กรที่ต้องการทำสมุดแบบเฉพาะของตัวเอง คิสมีถาม MoQ เผื่อไว้ แต่คิสลืมไปแล้ว จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่แน่ แต่เผื่อว่าใครผ่านมาผ่านไปสนใจอยากทำ หรืออยากเสนอให้องค์กรตัวเองที่ทำอยู่ ก็ลองดูค่ะ คิสว่าราคามันก็คงจะคนละเรื่องกับ retail ก็แอดไปถาม ไปคุยกันตามลำบากนะคะ คิสไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ แต่ถามว่าอยากได้มั๊ย อยากค่ะ 55


ก็คิดว่าเป็นไอเดียของขวัญหนึ่งที่คนหลายคนอาจจะมองข้ามไป ลืมนึกไป


และที่จริงคิสมีถ่ายรูปมาเยอะมาก เพราะสินค้าเค้าเยอะมากๆ ไม่ใช่แค่สมุด แต่โพสมันยาวเกินไปละ คิสมีเวลาคงได้มาโพสบอกเล่าให้ฟังกันอีกที ไม่งั้นคิสว่าโหลดหน้าไม่ขึ้นแน่นอน ร้านเล็กแต่ของเยอะเหมือนจีฉ่อย งงแท้


ใจก็อยากจะเล่าให้หมดนะ แต่คงต้องทิ้งเอาไว้จริงๆด้วยคลิปค้างๆคาๆก่อน


แต่ใครไปหาของขวัญในร้าน อาจจะได้เคสมือถือ, ปากกา, กระเป๋า หรืออะไรก็ไม่รู้ออกมาจากร้านก็ได้ค่ะ คือของเค้าเยอะจริงๆ และงานละเอียดมาก คิสอยากได้กระเป๋ารุ่นใหม่มันใบนึง เป็นกระเป๋าเก๋ๆที่แบบ..โห้ คิดได้ไง วัสดุก็เก๋มากค่ะ วันไหนได้ไปเก็บรูปอีกรอบและของยังมีขายอยู่คิสจะเอามาฝาก


คิสคงมีโอกาสคงได้กลับมาเล่าเรื่องราวความยิ่งใหญ่ที่ย่อส่วนออกมาอยู่ในรูปแบบที่เราพกติดตัวไปได้ทุกๆที่ และอยู่ในชีวิตประจำวันของเราเกือบทุกคน(ถ้ายังเขียนกันอยู่บ้าง บริษัทคิสทำ techbase ยังใช้สมุดจดงาน ตีคู่กับ ipad กันอยู่เลยค่ะ 55)

คิสก็หวังนะว่าคนรับของๆคิสจะดีใจไปกับคิสด้วย เพราะคิสเป็นคนใจหยาบ(เว้ยเฮ้ย) คือใจไม่ละเอียดมากพอจะใส่ใจคนอื่น คิสมักจะมองข้ามอะไรไปเสมอ ละเลย และเอาใจใครไม่เป็น คิสเข้าขั้นแข็งกระด้างเลยละ แต่นี่คือตัวแทนของความใส่ใจที่คิสมีให้ คิสหวังว่าคนที่รับ เค้าจะสัมผัสมันได้ว่าครั้งนึง คิสเคยได้มองหา...ตามหา มันคือ journey ของขวัญที่คิสไม่เคยทำให้ใครมาก่อนเลย


หวังว่าจะถูกใจและก็หวังว่าจะเป็นไอเดียให้ใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะให้อะไรดีในคนพิเศษในช่วงเวลาพิเศษแบบนี้ ช่วงเวลาที่ของชิ้นใดชิ้นนึงจะเป็นตัวแทนให้เรา ส่งไปหาอีกฝ่ายว่าเราได้นึกถึงเค้าอยู่ตลอดเวลาในปีที่ผ่านมา


^^


King of Eugenie

King of Eugenie

คิสรู้คุณรู้โลกรู้ ของดีโลกต้องรู้ :)

Line ID: kingofeugenie
FB: fb.me/911beaute

FULL PROFILE