แบกหมูเที่ยว ตามทัวร์ไปเกาะเจจู 3 วัน 2 คืน

51 15
อันยอง อาเซโย...(เสียงลูกสาว)

วันนี้ไม่ได้รีวิวเที่ยวอย่างเดียว มีช๊อปด้วยนะ สาวๆ ช๊อปแบบบังคับและฟรีสไตล์ เป็นยังไง รับชม ได้ ณ บัดนาว (เพราะยาวมาก อิอิ)

ต้องบอกก่อนว่ารอบนี้มิวไปกับกรุ๊ปทัวร์นะ การเดินทางเลยไม่มีรายละเอียดอะไรมาก แต่จะเล่าในส่วนของการเตรียมตัวก่อนไป ทั้บรรยากาศและ วัฒนธรรมการเป็นอยู่ ที่ได้สัมผัสและจากการบอกเล่าของไกด์นำเที่ยวนะ รอบนี้พยายามเก็บรูปให้เยอะละ เพราะบางที่เดินไม่ไหว ฝนตก เพลียจัดไม่ได้นอน แถมลูกสาวไม่สบายด้วย

รอบนี้ก็จะได้รูปประมาณนี้แหละนะ สิ่งที่ต้องเตรียมเป็นพิเศษคือ ร่มพกพา เสื้อฮีทเทคลองจอน เสื้อกันหนาว ปลั๊กตัวแปลงหัวกลม อุณหภูมิวันที่มิวไปถึง อยู่ที่ประมาณ 6-15 แล้วแต่วันไหนจะเจอแจ็กพอตค่ะ

วันแรกถึงเจจู เช้าพอดีค่ะ แวะทานข้าว ก่อนออกเดินทางเที่ยวค่ะ โชคดีมากที่กรุ๊ปทัวร์ที่ไปพาทานแต่อาหารเกาหลีจริงๆ หลักๆจะเป็นหมูและทะเลค่ะ กิมจิ สาหร่าย ผักดองเครื่องเคียงมีให้ทานทุกมื้อ
สถานที่แรก “ยอดเขาซองซานอิลูบง” 1ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ทางธรรมชาติของโลก ทิวเขาภูเขาไฟที่ดับแล้ว ด่านล่างเป็นทะเล มีหมู่บ้านชาวประมงอาศัยอยู่ (หึหึ เดินไปไม่เท่าไหร่ ฝนตกเจ้าค่ะ วิ่งลงแทบไม่ทัน ไม่มีร่มด้วย แถมลูกสาวไม่สบาย ได้รูปมาจิดเดียวเอง  บรรยากาศเย็นชุ่มช่ำ วิวสวยมากค่ะ ถึงแม้ฟ้าจะครึ้มก็เถอะ ดอกไม้ขึ้นคลุมดินเป็นลานกว้าง ดูสวยมากค่ะ

***ไปกับทัวร์ต้องเข้าใจก่อนว่าแต่ละสถานที่จะมีเวลาในการเดินชมอย่างจำกัด เพราะจะต้องกลับมาที่บัสตามกำหนดเวลานัดหมาย เพื่อไม่ให้เสียเวลาการเดินทางไปยังสถานที่ถัดไป  
สถานที่ที่ 2 “ซอพจิโกจิ” ใครอยากตามรอยซีรี่ย์ต้องเดินต่อไปค่ะ ณ จุดนี้ถ่ายได้แต่ของกินค่ะ ปลาหมึกและหอยสดๆจากทะเล โดย “แฮ นยอ” ซึ่งเป็นอาชีพที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกภูมิปัญญาและวัฒนธรรม แล้วมิวก็ถ่ายวิวทิวทัศน์มาอีกนิดหน่อยเช่นกันค่ะ  
สถานที่ที่ 3 “ภูเขาซองอัค” วิวทิวเขา เกาะเล็กเกาะน้อย และโขดหินสีดำ เห็นแล้วแปลกตาดีค่ะ 

สถานที่สุดท้ายของวันนี้ “หาดวอลจองรี” เป็นชาดหาดที่เป็นเหมาะแก่การปาร์ตี้กับเพื่อน ดินเนอร์กับแฟนมากค่ะ บรรยากาศชิลล์ๆ มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ เต็มไปหมดเลย  
 กับถึงห้อง ต้องเติมพลังอีกหน่อย จากความเปียก เปื่อย มึน อึน ด้วยของใน 7-11 แถมได้ของแถมมาเป็นส้ม 3 ลูก คุณป้า(คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของ) ให้ลูกสาวเรา ใจดีจัง ขอบคุณสำหรับมิตรภาพทุกการเดินทางจริงๆค่ะ      


เช้ามาตารางเวลาที่ทัวร์ทุกทัวร์ต้องเป๊ะ (เหมือนหลุดมาจากหนังเรื่อง กวนมึนโฮ) 6-7-8
ตื่น 6 โมง - กินข้าว 7 โมง - ออกเดินทาง 8 โมง



สถานที่แรกของวันนี้ คือหมู่บ้าน “ซองอึบ”(แค่ชื่อก็ชวนขนลุก? เป็นหมู่บ้านโบราณอายุกว่า 300 ปี มาดูความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่และวัฒนธรรมเรื่องเล่าตั้งแต่สมัยก่อน จากคุณป้า อายุ 63 ปี ที่หน้าเด้งยิ่งกว่าเราซะอีก แถมยังแข็งแรงและคล่องแคล่ว ยังกะวัยรุ่นเอาะๆ พูดไปจะหาว่าเวอร์อยากรู้ความจริงต้องมาเองเนอะ เพราะคนสูงวัยที่นี่ดูไม่ค่อยแก่เลยจริงๆ ผิวพรรณสดใส แถมยืนหลังไม่ค่อมด้วย ได้เคล็ดลับและอาหารดีๆมาทานด้วย (ถึงรู้ว่าคุณจะขายของ ฉันก็ยินดีจ่าย มาแล้วของมันต้องลอง เพื่อสุขภาพนะเอ้อ!! ติดตามของที่ได้มาจากพาร์ทละลายเงินวอนนะ)
 สถานที่ที่ 2 “วัดซันบังโพมุนซา” วัดประจำเกาะแห่งนี้ วัดหันหน้าออกทะเล ไกด์บอกว่ามารับพลัง เพราะที่นี่จะมองเห็นเกาะที่ยื่นออกไป มองแล้วเหมือนมังกรนอนหมอบอยู่ วิวดีบรรยากาศดีอีกแล้วค่ะ มาเถอะมารับพลัง (ป้ายยากันวนไป)  
สถานที่ที่ 3 “ทุ่งดอกหญ้า พิ้งมูลลี่” ก็สวยนะ (แต่จะบอกบ้านเกิดสวยกว่า มาค่ะ มาเที่ยวเขาค้อ มาแวะร้านเค้าด้วย #ทายอินเก่ง  อ่ามาต่อ ที่นี่ได้คะแนนดีเพราะบรรยากาศหนาวแสงสวยดี แดดเปรี้ยงแต่ไม่ร้อน แต่คนเยอะหามุมไม่เจอ ถ่ายรูปยากมากจ้า ถ่ายตรงไหนก็ติดคนอ่านะ แต่ไกด์แถมจ้าให้เวลาไปชมดอกคามิเลีย แต่มันก็เพิ่งออกดอกยังไม่เต็มซักเท่าไหร่ บวกคนเยอะมากอีกเช่นกัน ก็ฟินแต่ก็เฟลในเวลาเดียวกัน ถ้าอยากได้ดอกไม้ทุ่งหญ้า มาเขาค้อแก้ขัดก่อนก็ได้นะจ้ะ มีหลายจุดเลย อิอิ แต่อาจะหนาวไม่เท่าเจจูนะ
 สถานที่ที่ 4 “ฮัลโล คิตตี้” แลนด์แดนมหัศจรรย์ของหมูอีฟ(ลูกสาว) ใครไม่ฟิน หมูฟินบินกระพือปีกไปเลยจ้า เข้าใจอารมณ์มั้ยว่า ทั้งบัสมีแต่รุ่นคุณน้า คุณอา มีเด็ก อยู่แค่ 2 คน ซึ่งหมูอีฟเด็กสุด ไปทุกที่นางไม่ว้าว พอเจอแมวการ์ตูนเท่านั้นแหละจ้า หน้าบานยิ่งกว่าดอกคามิเลียเมื่อกี้อีก และที่สำคัญเลทขึ้นบัสคนสุดท้ายไปอี้ก (โปรดเข้าใจ นาทีนี้หมูขอ)  
สถานที่สุดท้ายของวันนี้ “ไร่ชาโอซุลลอค” จากการที่ไม่ได้ไปไร่ชาฉุยฟง ที่เชียงราย มาที่นี่ไม่รู้จะฟินเท่ากันมั้ย แต่ไอติมชาเขียว ฟินมาก ณ จุดนี้ คือแบบว่า ความเฟรช ความหอม ความสุด อ่ะ เอาเป็นว่าต้องมาโดน อันนี้ดีพูดเลย  
 หลังจากการเที่ยว 2 วันผ่านไปอยากบอกว่า บรรยากาศที่นี่ดี โปร่งเบาสบาย และวิวดีทุกจุด(ถ้าไม่มีคนเยอะ) แสงแดดกับอากาศเย็น มันเป็นแสงที่นวลสวยจริงๆ ที่นี่ก็สวยในแบบของเขาที่มี จุดขายที่สร้างขึ้นมาดึงนักท่องเที่ยวก็เยอะ สำคัญมากๆเลยนะ ขยะแทบไม่มีให้เห็น บ้านเมืองสะอาด ทุกอย่างเป็นระเบียบวินัย ทุกคนให้เกียรติเคารพซึ่งกันและกัน และมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม นี่แหละนะประเทศที่พัฒนาแล้ว (#โนดราม่านะ)  
พาร์ทช๊อปปิ้งมาแล้วจ้า ใครนักช็อปตัวยงคงรู้สึกฟิน

เพราะในทัวร์จะบังคับให้ไกด์พาลงร้านของรัฐบาลสำหรับนักท่องเที่ยว (ขายของกันเก่ง ไปดูกันค่ะ วันที่ 3 นี้จะโดนอะไรไปบ้าง)

รอบนี้หลายคนคงคาดหวัง อิชั้นไปต้องกวาดคัลเลอร์เมคอัพมาชัวร์ งงใจผิดคาดเจ้าค่ะ ได้รองพื้นคูชั่น มาแค่ 1 กล่องเท่านั้น ที่เรื่องบำรุงได้ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เขาว่ากันว่า(ใครหว่า??)

ความสวยเริ่มต้นจากภายใน ที่ไม่ใช่แค่จิตใจอย่างเดียว ตับไตไส้พุงต้องสะอาดพร้อมทำงานขับเคลื่อนทุกอย่างไปพร้อมๆกันอย่างสามัคคี อย่างที่กล่าวข้างต้นในฉบับก่อนไปแล้ว ว่าคนที่นี่(เจจู) เขาสุขภาพร่างกายแข็งแรงเดินเหินคล่องแคล่ว ไม่มีเอี้ยวตัวปวดโน่นนี่นั้น แถมผิวพรรณสดใสดูเปล่งปลั่ง (ที่ไม่ใช่แค่ขาวอย่างเดียว) โรงพยายาบาลก็แทบไม่ค่อยมีคนป่วย (เพราะค่ารักษาแพงหูฉีก) หลายคนที่รักสุขภาพเริ่มสงสัยละ มิวเองก็สงสัยแต่ก็ได้คำตอบมาจากไกด์ (ถ้ามั่วจะไปตีไก่555) มิวเคยเขียนในกระทู้จีบันไปแล้วด้วย แต่ผลลัพ์ดูได้จากคนเจจูจริง


ปัจจัยหลักๆเลยนะ
  • อาหารการกินของเรานี่แหละ กินอะไรเข้าไปผลก็ได้อย่างนั้นแหละ ไม่ช้าก็เร็ว(ทำไมพูดน่ากลัวจังวะ55)
  • นอนซะหล่า หลับตาแม่สิกล่อม นอนจะนอน นอนให้มีคุณภาพด้วย หลับให้สนิทให้ลึกมันจะดีมากๆ
  • ออกมาเต้น ออกมาเต้น (ล้อเล่น) แค่ออกกำลังกายบ้าง ให้ร่างกายใด้ขับเคลื่อนและเผาผลาญพลังงาน
  • อารมณ์ดี (แบบอีกนิดเดียวเข้าศรีธัญญา) (มั่วแหละ) เค้าหมายถึงไม่เครียดค่ะ ไม่เครียด (ในยุคสมัยแบบนี้ได้หรอ แต่...ก็จะพยายามปลงนะ)   
ไกด์เล่าว่าคนเกาหลี เครียดจากการทำงานที่มีการแข่งขันกันสูง ทั้งสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์จัด บวกกับอาหารปิ้งย่าง ของดองเค็ม บ่ะเจ้า (ซื้อโลงรอเลยดีกว่า คาดว่าคงอยู่ได้ไม่นาน) แต่ทำไมสิ่งที่เห็นผ่านตาคือ เขาผิวดี คนแก่ก็ดูไม่แก่แข็งแรงเดินคล่องแคล่ว ก็เขาเอาเข้า แล้วเขาก็ต้องเอามันออกสิจ้ะ พูดเหมือนง่าย
น้องน้ำชาฮอกเก้ ขายให้เกลือนกลาดเลย นึกภาพน้ำชาเขียวที่ขายตามมินิมาร์ทบ้านเรา เยอะเช่นไรก็เช่นนั้นแหละจ้ะ แต่ No Sugar นะจ้ะ มีแค่กลิ่นที่หอมหวานอย่างเดียว และมีแบบเอสเซนส์(พูดเหมือนน้ำตบเลย55) คือแบบน้ำเข้มข้น สำหรับลำยอง เมารี เมรัยทั้งหลาย ดื่มแก้แฮงค์มีผลในการบำรุงรักษาตับ (อวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกายชิ้นนึงที่เรามักมองข้ามไป ตับวายเมื่อไหร่ พี่ไม่เคยมาเตือนก่อนเลย)

มาๆท่านผู้หญิงทั้งหลายบอก ไม่!!!..ฉันไม่เครียดเลย วันๆจิบแต่ชาไข่มุก กาแฟวันละ 2 แก้ว คุ๊กกี้ขนมขบเคี้ยว น้ำหวานเพลินๆ ระวัง!!! ไขมันพอกตับกันนะจ้ะ

ยังไม่พอ ฉันดูซีรี่ย์เพลินๆ ไม่เครียด ยาวไป ตี3-4 ไม่ยอมนอน ตับไม่ได้พักผ่อน ตายเร็วกว่าเพื่อนเลยจ้า (เสียวสันหลังวาบเลย ชิมิ) ไม่ได้บอกให้กินน้ำชาฮอกเก้หรือไปแห่ซื้อตามกันมานะ แต่มันเป็นแค่ 1 ในทางเลือกลดความเสี่ยงก็แค่นั้น จริงๆถ้าเราดูแลสุขภาพดีๆ ก็ลดความเสี่ยงที่จะเกิดแล้วจ้า  
สุขภาพดีอยู่บ้างแล้ว แต่อยากหน้าใส ไกลโรคอื่นๆ แถมความแก่ไม่ถามหา น้องน้ำโอมีจา ช่วยได้จ้ะ หมักน้ำผึ้งถึง 3 ปี (น้องคงเป็นมัมมี่ไปแล้ว ทานแล้วจะเป็นอมตะมั้ยละจ้ะ 55 หยอก!!) น้องเขามีสรรพคุณบำรุงร่างกาย พวกหวัด ไข้ทั้งหลาย ไอเจ็บคอ ช่วยเยี่ยวยาได้ น้องยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ด้วยนะ ที่จะช่วยชะลอวัยในเราไปนานๆ (หมดขวดแล้วก็แต้องบินไปซื้อรึ เพราะกลัวแก่ )  รสชาติอร่อยมาก เปรี้ยวนิด หวานหน่อย หอมชื่นใจ 

มาต่อๆคุณแม่ คุณป้า คุณผู้หญิงทั้งหลาย ที่กลัวแก่ตัวไปจะเดินหลังงอ (คุณผู้ชายจะมีโอกาสเป็นน้อยกว่าผู้หญิง) เพราะคุณผู้หญิงทั้งหลายมักสูญเสียแคลเซียมไปในทุกๆเดือนจากการมีประจำเดือน และจากการคลอดลูก 1 คน พรุนเยอะเลยนะ(กระดูกอ่า) จากเรื่องเล่าสู่ผลิตภัณฑ์แคลเซียมจากกระดูกม้า (เลือกเฉพาะพันธุ์ม้าด้วยนะ เป็นม้าที่ห้ามนำออกจากเกาะเลยด้วย) เขาทานแคลเซียมจากกระดูกขาม้า สมัยก่อนใช้เครื่องโม่บด แต่สมัยนี้ก็มีกรรมวิธีบดที่ทันสมัยแล้ว นำมาใส่กระปุกทานง่าย เก็บรักษาได้นาน


ผลิตภัณฑ์ตัวต่อมาที่มาเกาหลี ก็คงต้องโดนแหละ “โสมเกาหลี” มนุษย์ภูมิแพ้ มนุษย์ธาตุเย็น ปอดไม่ดี เลือดไม่เดิน ต้องมาจัดค่ะ เพราะโสม 6 ปี ขายแค่ที่เกาหลีเท่านั้น(เขาบอกงั้นนะ ไม่ส่งออก ที่ส่งออกเป็นแค่ 4 ปี) โสม 6 ปีนี้เป็นคนเลยนะ (อ่ะ งงสิ ) คือ รูปลักษ์เหมือนคนจริงๆ มีหัว มีแขนขาด้วย ไม่เหมือนหัวไชเท้าบ้านเรานะ เขาบอกว่าปลูกยาก และมีอย่างจำกัด จึงมีขายแค่คนในประเทศเขาเท่านั้น และรัฐบาลเป็นคนควบคุมดูแลด้วย (ว่าไปจากการไปเที่ยวรัฐบาลเขาเอื้ออำนวยให้คนไปประเทศหลายอย่างเลยนะ ดูใส่ใจคุณภาพชีวิตคนในประเทศมากๆเลย)


  อีกผลิตภัณฑ์ที่เกาะนี้เขานำเสนอคือ “น้ำมันสนแดง” (น้ำกระป๋องรสยาหม่องนั่นแหละ แต่เข้นข้น เน้นๆ) ใครอยากฟอกเลือดในร่างกายมั้ย รู้สึกว่าเลือดฉันอยากได้ อ็อกซิเจนมากๆเลย รู้สึกเลือดเดินไม่สะดวก ไขมันอุดตันตรงโน่น ตรงนี้ ตรงนั้น (อยากรู้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเนอะ) อย่ามารักษาเมื่อสายเกินไป เป็นแล้วค่อยรักษามันยากจ้ะ ป้องกันไว้บ้างจะดีที่สุด แต่มิวเคยกินแล้ว (เมาไปอี้ก แพ้ทางกลิ่นเหมือนยาหม่อง) มันไม่ใช่สำหรับเรา เลยของสคริปไป ออกกำลังกายแทนเอาละกันค่ะ แต่ก็ยังอุดหนุนค่ะ แชมพูเขาดี หนังหัวเย็นสบาย ดั่งอยู่บนยอดเขา ผมวอลลุ่มยกโคน และไม่มัน แถมลื่นไม่ต้องใช้ครีมนวด (ขายเก่งอีกละ) ต้องโดนค่ะ เพราะโดนมาแล้วเลยป้ายยาวนไป 555


ยังไม่หมด อันนี้ร้านละลายเงินวอนจริงๆ คือ ร้านขนมของฝาก ซื้อเถอะเพราะที่นี่ถูกกว่า สนามบิน เชคราคามาอยู่นะ. จากที่ชิมมา ชอคโกแลตส้ม อร่อยสุด จากทุกรสชาติอะนะ

กิมจิและผลไม้อบแห้ง และสาหร่าย มิวซื้อจากไกด์นะ ชิมแล้วอร่อยไม่เรื่องมาก ขี้เกียจเสี่ยงสุ่มมาลอง ยังไม่หมด

จุดมุ่งหมายของเราที่แท้ทรูคือ Duty free ซื้อเถอะคุ้ม อาจจะพูดจาไม่ค่อยรู้ความกันเท่าไหร่ เลือกเอาที่ชอบเลยแล้วเดี๋ยวแถมให้เอง 555 ไกด์ให้บัตรส่วนลด 10%มาด้วย (ร้านแลกดันลืมใช้ ง่าวจริงๆ) แต่ละทัวร์จะพาไปลงไม่เหมือนกัน ของมิวได้ Lotte Duty free แต่ก็มีอีกทีค่ะ The shilla Duty free เห็นนักท่องเที่ยวทัวร์อื่นหิ้วกันตรึมเลย

#เรื่องเล่าสู่กันฟัง #สาระความรู้อ้างอิงจากเรื่องเล่าประสบการณ์ส่วนบุคคล #โปรดใช้วิจารณญาณ #อ่านแล้วโนดราม่านะคะ #อยากให้รักสุขภาพกันเยอะๆนะคะ 
เก็บตกภาพชิลล์ยามเย็น ก่อนกลับ ให้เดินย่านสตรีท ถ่ายรูป ช็อปแฟชั่น ของกินก่อนขึ้นเครื่องกลับค่า บาย เจจู 
วันนี้มิวขอตัวลาไปก่อนนะคะ ...มาแชร์ประสบการณ์ เรื่องเล่าที่ได้พบเจอ ณ เกาะเจจู ก็ได้ความรู้มาดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ และที่สำคัญโดนเขาป้ายยามาเยอะอีกเช่นกัน เฮือกกกกก !!!

      Make with Love 
MuMake90


Miulamoon

Miulamoon

/ art & beauty obsessed | photograph lover /

• Certificate inter-professional beauty makeup artist.

instagram : miulamoon
facebook page : miulamoon

FULL PROFILE