#แป้งยี่ห้อไหนใช้ดี เลือกแป้งที่เหมากับผิวหน้าเรา เลือกผิด ชีวิตเปลี่ยน

47 23
          สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์แป้งที่เหมาะกับคนแต่ละสภาพผิวหน้านะคะ เราเชื่อว่าใครหลายคนคงมีปัญหาเวลาไปเลือกแป้งว่า เอ๊ะ หน้าแบบฉัน สีผิวแบบฉันต้องใช้แป้งสีไหนดี เบอร์ไหนถึงจะเข้ากับผิวของฉัน แต่น้อยคนค่ะจะเลือกแป้งที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง บางคนหน้ามันมากๆ บางคนผิวผสม ซึ่งความจริงแล้วแป้งเค้าผลิตออกมาได้ตอบโจทย์ปัญหาผิวของผู้หญิงไทยได้มากพอสมควรเลยค่ะ บางคนบอกว่า ฉันใช้แป้งยี่ห้อนี้แล้วไม่เห็นดีเลย ไม่เห็นคุมมันแบบที่บอกไว้เลย ไม่เห็นติดทนแบบที่บอกไว้เลย ฉันใช้แป้งยี่ห้อนี้แล้วหน้าฉันลอกเป็นขุยๆน่าเกลียดมาก ความจริงแล้วไม่อยากให้โทษแป้งเลย อยากให้เลือกแป้งให้เหมาะกับผิวตัวเองเหมาะกับความต้องการ ดีกว่าซื้อแป้งตามกระแสที่ออกใหม่แล้วก็ซื้อตามเพราะเพ็คเกจจิ้งน่ารักหรืออะไรนะคะ อยากให้โฟกัสที่ความเหมาะสมกับการใช้งาน กับผิวหน้าของเรามากกว่าค่ะ    
          แต่ที่หยิบมาแชร์กันในวันนี้ก็แอบเข้าข้างแป้งฝุ่นนิดนึงเพราะเราจะเน้นไปทางแบบ Natural look ค่ะ แบบทาแป้งฝุ่น เขียนคิ้วบางๆทาลิปมันออกจากบ้านได้เลยไรงี้ หรือผู้หญิงบางคนที่ไม่อยากให้หน้าอุดตันเพิ่ม เราเชื่อว่ายังมีผู้หญิงแบบนี้หลายคนค่ะ


BECCA Soft Light Blurring Powder Golden Hour
เริ่มที่ตัวแรกเป็นแป้ง Becca ตัวนี้เป็นอีกแบรนด์จากอเมริกาที่กำลังดังอยู่ในบ้านเราเลยค่ะ แต่ไม่ค่อยมีใครรีวิว รีวิวน้อยมากกกก หารีวิวแทบจะไม่เจอเลย งงมาก ความจริงแบรนด์นี้เค้ามีหลายเครื่องสำอางหลายอย่างเลย แต่วันนี้ขอหยิบแป้งฝุ่นมารีวิวแล้วกันนะคะ ตัวเนื้อแป้งเค้าจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สีค่ะ คือสี Golden Hour สีเนื้อแป้งเป็นสีเนื้อค่ะ แต่เวลาทาจริงๆมันจะออกไปทางส้มๆ กับสี Pink Haze สีนี้เนื้อแป้งจะออกเป็นสีชมพู แต่เวลาทาจริงๆจะออกไปทางสำหรับคนผิวขาว ขาวเหลืองค่ะ เราใช้สี Pink Haze อยู่ ซึ่งส่วนตัวเราว่าโอเคเลยค่ะ เนื้อแป้งเนียนละเอียด แอบมีชิมเมอร์เล็กๆด้วย ทาแล้วไม่ได้วิ๊งขนาดนั้นค่ะ  ไม่ค่อยออกสีเท่าไรถึงเนื้อแป้งจะเป็นสีชมพูก็ตาม หน้าจะออกโกลว์ๆค่ะ ไม่มีแมท เพราะฉะนั้น คนหน้ามันหมดสิทธิ์จ้ะ  
คำเคลม : ช่วยอำพรางริ้วรอยแห่งวัย พร้อมช่วยให้เมคอัพลุคแลดูโกลว์สวยเปล่งประกายผิวสุขภาพดี ผิวแลดูนวลเนียนด้วยเม็ดแป้งเนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย
เหมาะกับ : คนที่ผิวแห้งและผิวผสมค่ะ เพราะไม่คุมมันเลยยย และมันไม่ใช่ Translucent powder คนที่คล้ำอาจจะต้องเลือกเบอร์ดีๆนะคะ
ความรู้สึกหลังใช้ : เนื้อเนียนละเอียด เพราะเราเป็นคนหน้าผิวผสม ก็เลยรู้สึกโอเคว่าถึงไม่คุมมันก็ไม่เป็นไรเพราะเราเป็นคนชอบให้หน้าฉ่ำๆวาวๆอยู่แล้ว
ข้อดี : เนื้อละเอียด เหมาะกับคนผิวแห้งและผิวผสม คนที่ชอบให้หน้าฉ่ำๆ วาวๆ
ข้อเสีย : แพ็คเกจจิ้งใหญ่โตมาก ไม่เหมาะกับการพกพาไปไหนเลยค่ะ ราคาสูง แต่ว่าก็ใช้ได้นาน ไม่คุมมันเลย ไม่ปกปิดรูขุมขนได้มากขนาดนั้น คนหน้ามัน รูขุมขุนกว้างควรหลีกเลี่ยงค่ะ
ราคา : 1,650.-
พิกัด : Sephora
คะแนน : 7/10
เหตุผลการให้คะแนน : เพ็คเก็จจิ้งไม่เหมาะกับการพกพาเลยสักนิดค่ะ บวกกับการไม่มีพัฟมาให้ยิ่งไม่เหมาะแก่การพกพาเข้าไปอีก มันใหญ่เทอะทะมาก ราคาแอบแรง


แป้งฝุ่นเจ้านาง
ตัวนี้ที่หยิบมาคือเป็นแป้งฝุ่นของเจ้านางค่ะ ถ้าใครเป็นคนที่แต่งหน้าแนว Natural look ชอบใช้แป้งฝุ่น แป้งโปร่งแสงในการเซ็ตเครื่องสำอางแบบเราล่ะก็ อยากจะแนะนำตัวนี้มากๆเลย เนื้อแป้งเนียนละเอียด แล้วสีเนื้อแป้งเวลาทาก็คือไม่ทำให้รองพื้นเปลี่ยนสีเลยค่ะ กลืนเข้ากับสีผิว ทาแล้วผิวดูเป็นธรรมาติ เกลี่ยง่าย คุมมันได้ดีเลยค่ะ หลังจากที่ใช้ รู้สึกว่า หน้าเรามันน้อยมาก ใครที่สไตล์บางเบา แต่อยากหน้าผ่องคุมมัน เราค่อนข้างจะแนะนำนะ
คำเคลม : เนื้อละเอียดบางเบา ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใส มีส่วนประกอบของ Diamond Powder ทำให้ช่วยอำพรางริ้วรอยได้ดี คุมความมันยาวนานถึง 12 ชม. ด้วยเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้เนื้อแป้งติดผิวได้ดีขึ้น  ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นไปในตัวอีกด้วย Hyaluronic Acid และ PCA Group ที่เป็นอนุพันธ์จากกรดอะมิโนซึ่งเป็น Natural Moisturizing
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิวหน้า ทุกสีผิว คนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย
ความรู้สึกหลังใช้ : บอกตรงๆเลยค่ะว่าชอบมาก ด้วยความที่ว่าหน้าเราเป็นผิวผสมค่ะ ใช้แล้วไม่ลอกเป็นขุยตรงทีโซนก็คุมมันดีมากๆเลย ส่วนตัวเราที่ใช้คือทั้งวันก็ความมันหน้าเราแทบจะไม่มีเลย หน้าผ่องมาก ไม่มีดรอป
ข้อดี : เนื้อแป้งละเอียดมากค่ะ ใช้ได้ทุกสภาพผิวและทุกสีผิว เน้นงานผิว เบาสบาย
ข้อเสีย : คนที่อยากได้การปกปิด ปิดรอยดำรอยสิว ต้องใช้คู่กับรองพื้นนะคะ
ราคา : 319.- (ตอนนี้วัตสันมีโปร 1 แถม1)
พิกัด : วัตสันและบิวตี้ชอปทั่วไป
คะแนน : 10/10
เหตุผลการให้คะแนน : ไม่มีอะไรให้หักค่ะ ชอบหมดเลย แพ็คเกจจิ้งก็ไม่ได้ดูล้าสมัย พกพาง่าย มีพัฟให้ ใช้ได้นาน ใช้ได้ทุกสภาพผิว


Laura mercier
ตัวนี้ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากๆในประเทศไทยเลยนะคะ ก็คือ laura mercier ตัวนี้ที่เราเลือกมารีวิวเป็นรุ่น loose setting powder ตัวนี้เป็นแป้งฝุ่นที่เนื้อของเค้าเราว่ายังไม่ค่อยละเอียดเท่าไร เนื้อออกไปทางแมทมากกว่า บางเบา เรื่องปกปิดเราว่ากลางๆค่ะ เวลาทาแล้วหน้าค่อนข้างโอเคเลย ผิวดูเป็นธรรมชาติ สำหับเราเค้าคุมมันได้ระดับหนึ่ง แต่พอบ่ายๆหน้าเราดรอปลง ก็ต้องเติมแป้งระหว่างวันอยู่ดี จากที่อ่านรีวิวของคนอื่นบวกกับความรู้สึกตัวเองแล้วก็คือ ไม่ซื้อต่อค่ะ เพราะราคามันค่อนข้างสูงค่ะ
คำเคลม : ช่วยกระจายแสง ทำให้ผิวดูเนียน เรียบ กระจ่างใส
เหมาะกับ : คนที่หน้ามันมากๆ ต้องการผิวแบบแมทๆ ใช้ได้ทุกสีผิว
ความรู้สึกหลังใช้ :  เนื้อยังไม่ได้ละเอียดมากเท่ากับแป้งฝุ่นยี่ห้ออื่นๆ รู้สึกว่าหน้าดรอปพอสมควร
ข้อดี : เซ็ตรองพื้นได้ดี ใครที่ชอบแบบไม่หนักหน้าใช้ตัวนี้ได้เลยค่ะ อีกอย่างคือคนที่ผิวมันก็ใช้ตัวนี้ได้ค่ะ เพราะเนื้อค่อนข้างแมท
ข้อเสีย : กระปุกใหญ่ พกพาลำบาก ราคาค่อนข้างสูง ไม่มีพัฟมาให้ ถ้าต้องการพกพาจริงๆอาจจะต้องมีพัฟติดกระเป๋าไปด้วยค่ะ
ราคา : 1,500.-
พิกัด : เคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า
คะแนน : 8/10
เหตุผลการให้คะแนน : ขอหักคะแนนที่เพ็คเกจจิ้งค่ะ กระปุกยังใหญ่อยู่ค่ะ ถ้าใครไม่ชอบพกของเยอะหรือวันไหนเกิดอยากหยิบกระเป๋าใบน้อยน่ารักมาใช้คือต้องวางลอร่าเลยค่ะ พกไปไม่ไหว อีกอย่างคือการไม่แถมพัฟมาให้ค่ะ แล้วกระปุกฝาแตกง่ายมากๆ

Odbo 
ตัวนี้ก็คือซื้อมาเพราะว่าเพ็คเกจจิ้งมันน่ารักกกกกก ความจริงแบรนด์นี้เค้าก็ทำเพ็คเกจจิ้งแบบน่ารักๆออกมาค่อนข้างเยอะขึ้นถ้าเทียบกับเมื่อก่อน มีสองสีให้เลือกค่ะ คือ C1 กับ C2 สีที่เราใช้คือสี C2 ค่ะ ตัวสีแป้งถ้ามองดูเหมือนจะออกสีนะคะแต่พอทางจริงๆแล้วไม่ค่อยออกสีค่ะ เนื้อแป้งเนียนละเอียดค่ะเพราะว่าตรงที่เป็นชั้นกั้นระหว่างตัวแป้งกับพัฟไม่ใช่แบบรูๆเหมือนแป้งฝุ่นทั่วไปนะคะ มันจะเป็นเหมือนที่เอาไว้ร่อนแป้งเค้กอ่ะค่ะ ซึ่งตรงนี้จะทำให้เราได้เนื้อแป้งที่เนียนละเอียดขึ้นด้วย ตัวนี้จะให้ความเป็นผิวมากกว่าค่ะ สำหรับสาวๆสไตล์ทาแป้ง ทาลิปมันแล้วออกจากบ้านเลยตัวนี้ก็โอเคค่ะ เรื่องคุมมันเราว่าได้ระดับนึงค่ะ เรื่องปกปิดก็ไม่เท่าไรค่ะ เหมาะกับคนที่ผิวหน้าดีอยู่แล้วไรงี้
คำเคลม : แป้งฝุ่นควบคุมความมัน เนื้อละเอียด สัมผัสเนียนนุ่ม เน้นลุคผิวสวยธรรมชาติ  เหมาะกับชีวิตประจำวันแม้ในชั่วโมงเร่งรีบ แพคเกจจิ้งลวดลายน่ารัก น่าสะสม น่ารักแบบนี้ไม่มีไม่ได้แล้ว (คำเคลมมาแบบนี้จริงๆค่ะ)
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิวหน้า เน้นลุคแบบธรรมชาติ ถ้าใครมองหาแป้งฝุ่น ตัวนี้ก็เป็นทางเลือกได้อีกทางค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ :  เนื้อแป้งค่อนข้างละเอียดเลยค่ะ เกลี่ยง่ายด้วย โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเรื่องความมันก็โอเคในระดับนึงเลย ถ้าใครมันมากๆก็ต้องอาศัยเติมแป้งระหว่างวันเอาค่ะ
ข้อดี : แพ็คเกจจิ้งน่ารัก พกพาสะดวก พัฟนิ่ม เนื้อแป้งละเอียด เกลี่ยง่าย
ข้อเสีย : ต้องระวังการใช้จะแป้งนิดนึงค่ะคือเวลาใช้ต้องค่อยๆเทแป้งใส่พัฟเบามือนิดนึงค่ะ ไม่งั้นแป้งจะติดพัฟออกมาเยอะมาก
ราคา : 219.-
พิกัด : บิวตี้ชอปทั่ไป
คะแนน : 9/10
เหตุผลการให้คะแนน : ด้วยความมันมีที่กรองแป้งซึ่งแป้งจะออกมาเยอะมาก เยอะกว่าแบบรูๆอีกค่ะ เวลาใช้ก็ต้องระวังกันนิดนึง

Zhe
แป้ง zhe ตัวนี้หยิบมารีวิวเพราะเรามีอยู่ในกระเป๋าพอดีค่ะ หลายคนคงเห็นยี่ห้อนี้กันบ้างแล้ว บางคนบอกว่า หูยดีมากกก บางคนบอก โหยย หนูไม่รอด แล้วบตบก.ในยูทูปก็รีวิวไว้หลายคนเลย อันนี้ก็ตามไปหาดูกันได้เลยนะคะ แล้วเดี๋ยวนี้บตบก.ที่มารีวิวก็เยอะขึ้นสภาพผิวก็หลากหลายขึ้น เราสามารถเลือกดูได้เลยค่ะว่าคนนี้ผิวแทนนะ เค้าใช้แล้วรอดไหมนะ คนนี้ผิวมันเค้าใช้แล้วสวยไหมนะ คนนี้ผิวผสมใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง เข้าเรื่องแป้งของเราดีกว่าค่ะ zhe ตัวนี้เค้ามีทั้งหมด 4 สีคือ 01 ผิวขาวอมชมพู 02 ผิวขาวเหลือง 03 ผิวสองสี 04 ผิวแทน สีที่เราใช้คือสี 02 ค่ะ ตอนเราเอานิ้วลูบเนื้อแป้งค่อนข้างเบาค่ะ แต่ต้องวนหลายรอบกว่าแป้งจะติดนิ้วเรา T T เรื่องปกปิดก็ยังมีรอยให้เห็นอยู่ค่ะแต่เรื่องรูขุมขนอันนี้โอเคอยู่ค่ะ ตรงนี้เราว่าควรใช้คู่กับรองพื้นอีกทีถึงจะปกปิดได้ดีขึ้น ส่วนเรื่องคุมมันอันนี้เราไม่ค่อยโอเคเท่าไรถึงหน้าเราจะเป็นผิวผสมไม่มันแต่ก็ยังมีความมันออกมาให้เห็นบ้างเล็กน้อย ซึ่งความมันบนหน้าเราออกมาเร็วกว่าการใช้แป้งอื่นๆของเราค่ะ ถ้าวันไหนที่หน้าลอกก็คือ...ไม่รอดค่ะ
คำเคลม : แป้งผสมรองพื้นที่ตั้งใจทำมาเพื่อสาวๆ อย่างแท้จริง ทุกขั้นตอนถูกพัฒนาด้วยบุคลากรระดับมืออาชีพ มีมากถึง 4 เฉดสี เหมาะกับทุกเฉดสีผิวของสาวเอเชีย ทำให้มั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้เลย  
เหมาะกับ : คนที่ชอบเนื้อแป้งแบบเบาบาง หรือคนที่มีผิวหน้าดีอยู่แล้ว
ความรู้สึกหลังใช้ : แป้งมีความนุ่มดีค่ะ บางเบามาก
ข้อดี : เนื้อแป้งเบาบาง เนียนไปกับผิวเลย เบลอรูขุมขนได้โอเค สีแป้งเหมาะกับสีผิวคนไทยค่ะ ไม่วอก ไม่เทา ไม่ลอย ไม่มีซิลิโคน
ข้อเสีย : เราว่าคนผิวผสมอย่างเราใช้แล้วไม่รอดค่ะ แต่คนอื่นอาจจะรอดก็ได้ อันนี้ต้องลองดูกันเน๊าะ ส่วนเรื่องปกปิดสำหรับเราเค้าไม่ค่อยช่วยได้เท่าไร
ราคา : 290.-
พิกัด : eveandboy และชอปปิ้งออนไลน์
คะแนน : 7/10
เหตุผลการให้คะแนน : อันนี้ส่วนตัวเราก็หักเรื่องแพ็คเกจจิ้งเพราะด้านหน้าเป็นกระจกเวลาโดนข่วนโดนขีดมันจะเป็นรอยได้ง่ายแล้วก็เรื่องรอยนิ้วมืออะไรงี้อ่ะค่ะ เวลาเป็นรอยอะไรขึ้นมามันจะเห็นได้ชัดมาก

        รีวิวแป้งของเราอาจจะไม่ได้มีแป้งฝุ่น แป้งพัฟมากมายหลายยี่ห้อ หรือเปิดกรุเป็นสิบๆยี่ห้อแบบบตบก.คนอื่นๆ แต่ว่าแป้งที่เรามาแนะนำวันนี้ ก็เป็นแนวทางในการเลือกซื้อแป้งได้อีกทางหนึ่ง เวลาเลือกแป้งอย่าลืมเลือกให้เหมาะกับผิวหน้าของเรานะคะ


luvoiy

luvoiy

FULL PROFILE