[All about my lippies 3/5] เทหมดใจกับลิปที่สุดของแจ้

56 18

ฮายยยย ซิสสสส กลับมาเจอกันอีกแล้วค่าาาา


เดินทางมากันถึงครึ่งทางแล้วกับลิปที่คิสใช้แล้วอยากนำเหนอว่ามันดีจริงจัง


Ep. นี้ก็จะรวบตึงลิควิคลิปที่คิสปลื้มในเนื้อ Texture/Finish ที่ต่างกันมาฝาก


เอาละ วันนี้จะเคาะรัวๆ ป้ายยาเร็วๆ อิอิ

6. Liquid Lip Matte


ลิควิคลิปเนื้อแมท ที่ให้ฟินิชดู Matte ไม่เงา ไม่วาว ให้ลุคที่ดูเนียบกริบ


ส่วนใหญ่ลิปแมท มักจะมีหลายเนื้ออีกเหมือนกัน เนื้อ Creamy เนื้อเบาๆ เนื้อ semi matte แต่มีเม็ดสีที่ชัด บางรุ่นก็ทำได้เบาสบายปาก บางรุ่นก็แห้งสะใจเหลือเกิน


ลิปแมทที่เปิดใช้งานอยู่ในตอนนี้จะมี 2 แบบ คือแมท และแบบเนื้อทิ้นท์

STILA


Model: Stay All Day Liquid Lipstick

Shade: Biscotti

Life Time: 12 months

Made in Italy

Size: 3 g.

Price: 780-850 thb

Where we can get it: Sephora


อันนี้ต้องยกมาก่อนตัวอื่นเลย เพราะเป็นลิควิคลิปตัวแรกๆทึ่คิสซื้อมาใช้ พร้อมๆกับ Bourjois(อันนี้จะเป็น Velvet Matte ที่ดีมากแต่เหม็นสุดๆ)

เนื้อเป็นแมท สีค่อนข้างชัดมาก ปาดที่เดียวรู้เรื่อง เนื้อกำลังดี ไม่เหลวไป ไม่ข้นไป คือมันพอดีไปหมดเลย ความหนาก็ไม่ได้หนาไม่บางอีก คือมัน optimal กำลังดีไปซะทุกอย่าง และเป็นลิปที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไป เพราะดันออกมานานมาก และไม่ค่อยมีใครรีวิว แถมไม่มีเคาทเตอร์ในไทยแล้ว ต้องไปซื้อที่ Sephora อย่างเดียว

ตัวนี้ทาแล้ว comfy นะ สบายผิวปาก แต่ติดทนมาก ข้อเสียคือตัว applicator หน้าตาน่าเบื่อมาก ธรรมดาเหลือเกิน แพคเกจก็ดูธรรมดา แต่คือมันก็สมกับราคา ถ้าให้เทียบคือ Stila กับ the Balm นี่คือพอๆกันเลย น่าเบื่อทั้งคู่ แต่ใช้ดีทั้งคู่

แล้วทำไมถึงไม่เลือก the Balm?? เทียบกันแล้วคิสชอบ Stila มากกว่าค่ะ แต่ปริมาณและราคาของ the Balm ดีกว่า และอันนั้นมีกลิ่นมิ้นท์ ใครชอบกลิ่นมิ้นท์เย็นๆคงชอบ

About "Biscotti"


สีนี้เป็นแท่งที่ 3 ที่คิสมี สีแปลกที่สุดในกรุแล้ว ชื่อเหมือนร้านอาหารนึงที่คิสชอบไป(บอกทำไม 55) แต่คิสก็ชอบมากกก ทาเดี่ยวๆอาจจะดูสายฝอ.ไปหน่อย ไม่เข้ากับหน้าตาคิสที่ดูออกนอกกรอบสังคมอยู่แล้ว แต่สีมันเก๋ มันแปลก และมิกซ์กับสีอื่นได้ดีสุดๆ ทำให้ทุกสีด้วยสวยแปลกตาได้หมดเหมือนมีเวทมนตร์ คิสคิดว่าลิปของ KKW หรือของ Lime Crime, Jeffrey Star น่าจะมีสีพวกนี้แน่ๆ

ถ้าให้แนะนำสาวๆว่าควรมีสีไหนเป็นแท่งแรกก็คงเป็นเฉดสีแดงอย่าง beso, fiery(อันนี้คิสมีอยู่ค่ะ สวยแซบมาก) รวมถึงเฉดผู้หญิ๊งผู้หญิงอย่าง Patina ที่คิสก็ซื้อมาตามรีวิวคนอื่นนั่นละ สีสวยคุณหนูมาก สีสวยเยอะค่ะ ต้องลองๆ

KAT VON D


Model: Everlasting Liquid Lipstick

Shade: Berlin

Life Time: 12 months

Made in Italy

Size: 6.6 ml

Price: 700 thb

Where we can get it: Sephora


คิสรู้สึกว่ามันมีการปรับราคาให้ถูกลงนะสำหรับ KVD เพราะจำได้ว่าราคาประมาณพันนึง

อันนี้เป็นลิปที่คิสว่าเป็นลิปแมทที่แห้งกว่าของ Stila หน่อย แต่ก็คือยังทาง่าย และสีสวยชัดมากกกก บางคนอาจจะว่าหนา แต่คิสว่ากำลังดี ปาดทีเดียวรู้เรื่องเหมือนกัน

อันนี้คิสว่าความติดทน คิสขอให้คะแนนพอๆกับ Stila, the Balm มันพอๆกันค่ะ ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ พอดีคิสเพิ่งเห็นราคาใหม่ ทำให้รู้สึกว่าแนะนำทั้งตัวบนและตัวนี้เลยค่ะ เพราะความยากง่ายในการหาซื้อพอๆกัน ราคาพอๆกัน

ตัว Applicator ตัวนี้จะใช้ง่ายกว่า Stila แต่คือไม่ได้เป็นหัว Tip ปลายแหลม ทำไห้เขียนขอบปากลำบาก ตัวแท่งสลิม แต่ให้ปริมาณจุใจ ดู sleek กว่าของ Stila

เอาว่าใครอยากมี liquid lip สีครีมมี่ที่ติดทน สบายปาก ไม่ตึง ไม่แห้งมากไป แต่ปาดทีเดียวรู้เรื่อง ต้องตัวนี้เลยค่ะ

About "Berlin"


ตัวนี้คิสซื้อมาสนองนีดตัวเองล้วนๆ เพราะคิสจะชอบสีชมพู shocking pink หรือพวกสีชมพูนีออน สีชมพูมาเจนต้า (MAC candy yum yum คือสีโปรดคิสอะ แรว๊งงง) ทาตัวนี้ตัวเดียว คือเพื่อนบ้านรู้อะ เพราะมันเด่นมากๆ

ตัวนี้เป็นเฉดชมพูอมแดงที่ทาแล้วยังถือว่าทาง่ายอยู่ และทาแล้วดู outstanding กำลังดี ไม่มากไปค่ะ

ถามว่าถ้าให้แนะนำสาวๆคนอื่นจะแนะนำเฉดนี้มั๊ย ก็ไม่นะ 55 KVD มีเฉดสีที่ปลอดภัยและสุดอันตรายให้เลือกเยอะมากกกกก คิสมองว่าควรเริ่มต้นที่ lolita, double dare, outlaw สีตระกูลแบบนี้ค่ะ foolproof ซื้อแล้วได้ใช้งานประจำวันแน่นอน เป็นสีแบบ KVD starter ควรไปก่อนเลย เพราะสีใช้ง่าย

สีแปลกขึ้นมานิดๆ แต่ยังใช้ง่ายอยู่ แนะนำ mother ค่ะ คิสได้มาเป็นของ redeem และก็ชอบนะ คือสียังทาง่ายอยู่ ใครกลัวการทาลิปสีชมพูอมม่วง ลองเริ่มที่ตัวนี้ เพราะเป็นสีที่ทาแล้วสวย ดูหวานๆ น่ารักค่ะ

L'OREAL


Model: Rouge Signature Matte Lip Ink

Shade: 121 I CHOOSE

Life Time:  n/a

Made in PRC

Size: n/a

Price: 299 thb (i got mine at 220 thb i guess) 

Where we can get it: everywhere


มาแล้วววว ลิป drugstore หนึ่งเดียวที่หลุดเข้าโผคิสเลย มันดีมากกก

คิสอเมซิ่งมากกับตัวนี้ เพราะที่จริงก็มีลิปของ l'oreal, maybelline มาเยอะมาก คิดว่าออกมากี่รุ่นคิสก็จะไม่พลาดซื้อมาลอง ลองแล้วส่วนใหญ่จะยกให้คนอื่น เพราะมันก็มีข้อเสียเยอะ ติดไม่ทนเป็นเหตุผลหลัก หรือเนื้อแปลก หนาไป กลิ่นแปลก คือมักมีจะเหตุผลให้ไม่ใช้ต่อ

แต่ตัวนี้คือข้อยกเว้น คิสถึงกับเบรคตัวเองให้ยังไม่ซื้อ YSL เพราะใช้ตัวนี้ไปได้ มันเป็นลิปแบบ Lip Tattoo/ Lip Stain เนื้อเบาๆ เนื้อ runny มากกก เหมือนน้ำแบบ Lip Tint แต่เนื้อสีก็กลบมิดอยู่ ทาสองรอบก็เอาอยู่ค่ะ

เรื่องความสบายปากคิสว่าโอเคเลย คิสทา layer ได้ระหว่างวันได้เรื่อยๆ ความติดทน คิสว่าไม่ได้ดีเว่อร์อะไร แต่คือถือว่าดีมากๆแล้วเมื่อรวมคุณสมบัติทุกอย่างเข้าด้วยกัน

แพคเกจสวยแปลกๆ แต่ก็ราคานี้คิสมองว่าสวยแล้วก็ละกัน applicator ดีมาก ชอบมาก คิสพกตัวนี้ติดตัวบ่อย เพราะมันทาได้เรื่อยๆทั้งวันค่ะ

About "121 I CHOOSE"


เป็นหนึ่งเฉดสีที่ทาง่ายมากกก สุดๆของในคอลเลคชั่นที่เข้ามาเมืองไทยค่ะ มีอยู่สัก 3 สีได้ที่คิสว่ามันสีที่ทาง่าย ทาได้ทุกโอกาส

เป็นสีที่คิสแนะนำสุดๆๆๆๆ สำหรับสาวๆทุกสีผิวเลย เพราะเฉดสีนี้ไม่โดด ไม่ลอย สีทาแล้วดูโอเคมากๆ ถึงจะไม่ใช่ MLBB แต่คือดูสวยสุภาพค่ะ เหมาะกับทุกวันเลย

โอ๊ย ไม่รู้จะแนะนำยังไงแล้ว ควรกวาดให้หมดทุกสีค่ะ เพราะมันถูกและดีจริงๆ

7. LIQUID LIP (CREAM)


อันนี้ไม่รู้จะนิยามยังไงดีเลย 55 คือเป็นลิควิคลิปที่ไม่แมท และไม่มันจนถึงลิปแลคเกอร์ เป็นลิปสีๆธรรมด๊าธรรมดา ที่ทาได้เรื่อยๆ ไม่ต้องทาลิปบาล์มก่อนก็ทาได้ เพราะค่อนข้าง moisturize ผิวปาก แต่ก็คือไม่ได้เยิ้ม


เป็นลิปที่เรื่อยเปื่อย ทาได้ตลอดวัน คิสว่าเนื้อนี้ก็หายากนะ เพราะส่วนใหญ่เค้าจะทำมาเป็นลิป matte, semi-matte กันหมด ลิปที่เนื้อแบบนี้ หายากมาก มันอยู่ตรงกลาง

ARMANI BEAUTY


Model: Lip Maestro

Shade: 500 BLUSH

Life Time:  24 months

Made in France

Size: 6.5 ml

Price: 1xxx thb

Where we can get it: ARMANI only


อันนี้เกือบจะไม่ได้เข้าเส้นชัยละ เพราะคือคิสซื้อมานานมาก แต่มันยังไม่เสีย สีและกลิ่นไม่เปลี่ยน อายุการใช้งานค่อนข้างยาวนานมาก

สำหรับลิปตัวนี้คิสว่า ซื้อเหอะ เป็นเนื้อที่ดีมาก สีสวย พิคเมนท์แน่น และสบายปากมาก ความหนาคิสว่าเฉยๆนะ เป็นลิปที่ครีมมี่ แต่ไม่ได้หนาอย่างที่คิด ทาได้เรื่อยๆ ความติดทนคิสก็ว่าเฉยๆอีก คือไม่ใช่ลิปแมท แต่ทำได้แบบนี้คือติดทนมากแล้ว

สิ่งที่คิสชอบเกี่ยวกับ Lip Maestro คือความสบายค่ะ เหมือนนั่งคาร์ดิแลค มันรู้สึกดีต่อริมฝีปาก ไม่มีตกร่อง ไม่มีรู้สึกว่าเป็นก้อนๆติดริมฝีปาก เนื้อดี สมูท ไม่ได้คิดไปเอง มันดีจริงๆ ใครมีเข้ามายกมือหน่อยว่ามันดีเว่อร์ คิสซื้อซ้ำแน่นอนค่ะ

ข้อเสีย คิสให้ข้อเดียวจริงๆ หาซื้อลำบากค่ะ เพราะราคาก็ไม่ได้สูงเว่อร์จนซื้อไม่ลง แต่ต้องไปซื้อที่ช้อปกับ King Power ดีที่ CTW มีขาย เลยถือว่าก็ยังโอเคอยู่

About "500 BLUSH"


เป็นเฉดสีที่คิสรักที่สุดในกรุเลย คิสว่าเดี๋ยวอาจจะทำโพสแยกเป็นที่สุดของเฉดสี สีแดง สีชมพู สีส้ม สีคอรัล สีนู๊ด สีม่วง ทำออกมาว่าที่สุดของคิสในแต่ละสีคือตัวไหน

อันนี้คิสนับให้เป็นที่สุดของสีคอรัลค่ะ มันสวยจริงๆ นับเป็นของดีที่สุดของตัวนี้เลยยังได้ เป็นเฉดที่ทายังไงก็รอด วันไหนที่หน้าโทรม แย้เหมือนเพิ่งออกมาจากเขาชนไก่วันสุดท้าย ก็รอดอะ มันดีงามเว่อร์ คิสเชียร์ทุกคนที่ถามคิสเกี่ยวกับ Armani เลยว่า 400 เค้าดี ไม่เถียง แต่ให้หยิบ 500 ติดมือมาด้วยนะ เพราะจะติดใจ

พี่สะใภ้ รุ่นพี่ที่ทำงาน เพื่อนคิส โดนกันมาแล้วถ้วนทั่ว รับประกันค่ะว่าคุณจะหลงรัก

8. LIP LACQUER


ลิปแลคเกอร์ เป็นลิควิคลิปที่เหมือนเอาลิปครีมมารวมกับลิปกรอส แต่ติดทนแบบ Lip Stain


หลายๆแบรนด์ที่เคลมว่าเป็น Lip Lacquer แต่พอทาออกมาคือลิปกรอสที่มีเม็ดสีแค่นั้น สำหรับคิสทาแล้วแยกได้ชัดเจนเลยนะว่า Lip Lacquer มันต่างจากนั้นแบบชัดเจน ทาแล้วคนละฟิิลลิ่ง


ความวาวนี่คือระดับสุด มันวาวมากกกก แต่ดันติดทนได้ไงไม่รู้ สีจะหลุดยากมาก ไม่เหมือนลิปกรอสมีสีที่ทาไปก็หลุดค่ะ

LANCOME


Model: L'Absolu Lacquer

Shade: 378 Be Unique 

Life Time:  12 months

Made in France

Size: 8 ml

Price: 1400 thb (I got mine at discount)

Where we can get it: Lancome Counter, Sephora, King Power


มาถึงลิปแบรนด์เดียวที่มีติดโผคิสถึง 2 รุ่น ทั้งลิป Plumper และลิปแลคเกอร์

ตัวคิสคิสรู้สึก love it, hate it นิดๆเนื่องจากเหตุผลเดียวเลยคือน้ำหอมกลิ่นประหลาดเกินไป คนอื่นคงว่าหอมอะ แต่คิสเวียนหัว

ตัดแค่เรื่องนี้คือมันเป็นลิปแลคเกอร์ที่ดีมากกกก โอ้ย ดีเว่อร์จริงๆ สัมผัสดีมาก ทาได้หลายเลเยอร์ จะ sheer ก็ทารอบเดียว แต่ก็มีพิคเมนท์และติดทน

จะเอาสี opaque แบบชัดๆ ทาสามรอบก็ยังรู้สึกไม่หนักปาก คือคิสแนะนำเลยค่ะ คิสเคยรักรุ่น lip lover มาแล้ว แต่อันนี้เค้าพัฒนาสูตรให้ดีขึ้นไปอีก คือเหมือนรวม Lip Balm, Lip Color, Lip Gloss มาจบในแท่งเดียว แล้วก็คือติดทน

แพคเกจก็ดีงาม Applicator คือดี ไม่รู้จะติอะไรจริงๆ หาซื้อง่ายด้วย ติดตรงกลิ่นมันนี่ละ หอมเกิน คิสอาจจะลองยี่ห้ออื่น แต่ก็คิดไว้แล้วว่าตัวนี้อาจจะดีที่สุดนั่นละ (เล็ง Burberry, Marc Jacobs ไว้ค่ะ)

About "378 Be Unique"


เฉดสีที่เหมาะกับความเป็นคิสมากกก สีชมพูอมม่วง ทาแล้วหน้าดูสว่าง ดูไบรท์มาก คิสชอบเฉดสีโทนประมาณนี้ เพราะทาแล้วลงพอดีกับสีผิว

ถ้าแนะนำคนอื่น...คิสคงไม่กล้าแนะนำเท่าไหร่ เพราะอาจจะเฉดมันชมพูมากๆ คนที่ชอบสี neutral หน่อยอาจจะส่ายหัวได้ แต่รุ่นนี้สีค่อนข้างทาง่ายเกือบทุกเฉด หลับตาเลือกยังได้เลย สวยทุกสีค่ะ

ก็หมดแล้วนะคะ สำหรับตระกูลลิปจิ่มจุ่มทั้งหลาย


ที่จริงมีลิปที่คิสชอบอย่าง Lime Crime, Jeffrey Star, Smashbox, Dose of Color, the Balm ที่ไม่ได้เอามารีวิวในนี้ แต่อาจจะยกไปอยู่ใน Ep. สุดท้าย เพราะมีเหตุผลทั้งหมดเลยที่สุดท้ายคิสก็ว่ามันยังไม่สุด


หวังว่าสาวๆคงชอบรีวิวนะคะ คิสก็ขอโทษด้วยที่ไม่ได้สวอชให้ดู เพราะเป็นคนที่ค่อนข้าง Hygiene Freak แท่งไหนชอบมากๆ คิสทาคือทารอบเดียวตอนเช้า ระหว่างวันจะมีพวกลิปราคากลางๆไว้ทา ปาดๆแบบไม่กลัว germ, bacteria ถึงเวลาก็โยนทิ้ง ไม่เสียดาย


ให้ทาสวอชนี่ต้องแยกไปสวอชชั้นล่างด้วย เพราะชั้น 3 คิสเลี้ยงแมวเลยไม่ค่อยอยากเปิดแล้วถ่ายรูปค่ะ อาการหนัก 55


ไปแล้วค่ะ Have a perfect weekend กันนะคะ ขอบคุณสาวๆทุกคนที่เข้ามาทักทายด้วยค่ะ คิสอ่านทุกๆคอมเม้นท์และรู้สึกดีมากๆจริงๆนะ


^^


King of Eugenie

King of Eugenie

คิสรู้คุณรู้โลกรู้ ของดีโลกต้องรู้ :)

Line ID: kingofeugenie
FB: fb.me/911beaute

FULL PROFILE