Jung Saem Mool workshop glass skin look งานผิวฉ่ำวาว✨ สาวๆต้องไม่พลาด

58 25

สวัสดีคร้าชาวจีบันนิสต้าทุกคน เป็นยังไงกันบ้างคะช่วงนี้

ใครกำลังอินกับอะไรกันบ้างคะ ส่วนขวัญตอนนี้รู้สึกอินกับแบรนด์

JUNG SAEM MOOL

ส่วนตัวยังไม่เคยได้มีโอกาสได้ลองผลิตภัณฑ์ของเค้าเลยสักชิ้น

แต่ได้รู้จักแบรนด์นี้ผ่านทางโซเชียลต่างๆมากมาย

ความล่ำลือถึงงานผิว glass skin มันเป็นยังไงหนอ

และพอทางแบรนด์ได้มี workshop 

 กับคุณจูน เมคอัพอาร์ตติสรุ่นใหม่ ที่มากับเทคนิคต่างๆ

ที่ทำให้ความเชื่อเรื่องการแต่งหน้าแบบเดิมๆ ของเราเปลี่ยนไปตลอดกาล

มาเริ่มที่บรรยากาศงานก่อนเนอะ งานworkshop จัดที่ JUNGSAEMMOOL Pop-up Counter ชั้น G โซนเอเทรียม 2 สยามเซ็นเตอร์

งานworkshopเค้าจะจัดไปถึงวันอาทิตย์นี้  พื้นที่จัดงานค่อนข้างใหญ่คะ ถ้าใครไปก่อนก็สามารถจับจองที่นั้งด้วยตัวเอง แนะนำให้เลือกที่นั้งใกล้ที่สุดคะ ยิ่งถ้าตัวเล็กอย่างขวัญด้วยต้องด้านหน้าอย่างเดียว ? ด้วยความที่เป็น workshop แรกเนอะข้าวของก็ใหม่มาก แปรงแต่งหน้านี้คือยังไม่ผ่านมือใครมาก่อนเริ่ดตรงนี้?? แต่เพราะครั้งแรกเช่นกัน ของพวกรองพื้น ดินสอเขียนคิ้ว และอื่นๆ ค่อนข้างกระจายไปตามโต๊ะต่างๆอาจจะทำให้แต่งตามไม่ทันและไม่ต่อเนื่อง แต่เค้าจะมีผู้ช่วยประจำโต๊ะคอยอำนวยความสะดวกให้ตรงนี้

คุณจูนเมคอัพอาร์ตติส ของงานให้ความสำคัญกับงานผิวตั้งแต่การเตรียมผิว 

เพราะต่อให้เมคอัพดีแต่ผิวไม่รับก็ไม่สามารถจะเป็น glass skin ที่สวยอย่างที่ควรจะเป็นไปได้

คุณจูนแนะนำตัวนี้คะ Essential Mool Essence เอสเซ้นส์บำรุงผิวหน้าที่ใช้อย่างต่อเนื่องมาตลอดหลายปี

ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความกระชับให้แก่ผิวก่อนการแต่งหน้า 2ปั๊ม

สำหรับผิวแห้งถ้าใครผิวขาดน้ำบริเวณไหนก็เน้นบริเวณนั้นก็ได้คะ และ 1ปั๊มสำหรับผิวมันและผิวผสม

จากนั้นลง SKIN SETTING BASE 

จุดเด่นของเค้าคือ ช่วยปรับผิวเรียบเนียน  ล็อคความชุ่มชื่นผิว 

เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผิวมากขึ้นก่อนลงรองพื้นเพื่อให้ผิวดูใส สุขภาพดี 

เมกอัพติดทนตลอดวัน และเป็นผิว glass skin ที่สาวๆตามหา

เมื่อทำการเตรียมผิวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

เราก็มาถึงขั้นตอนการลงรองพื้นกันบ้าง

คุณจูนแนะนำควรมีรองพื้นอย่างน้อย2สี เข้ม กับ อ่อน

 เพราะสีผิวคนเราเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาการมีรองพื้น2สี 

จะช่วยให้เราผสมออกมาเป็นสีรองพื้นที่ให้สีใกล้เคียงกับผิวของเรามากที่สุด 

และให้ลงบริเวณกรอบหน้าเข้าไป V Zone ก่อน

 แล้วค่อยๆเกลี่ยเข้าไปช่วง T Zone 

โดยที่ยังไม่ลงรองพื้นเพิ่มเติม

 ใช้จากการกดปั้มครั้งแรก เพื่อกระจายเนื้อรองพื้นไม้ให้ไปกองอยู่บริเวณกลางหน้า แล้วค่อยๆแตะเบาๆ 

ส่วนเรื่องจะเลือกเป็นรองพื้นหรือเป็นคุชชั่นนั้น อันนี้ทางBA เค้าแนะนำว่าตอนเช้าให้ลงรองพื้นก่อน และระหว่างวันค่อยเติมคุชชั้น จะให้ลุคที่เป็นธรรมชาติกว่า 

การลงรองพื้นอยากจะบอกว่าให้สาวๆในเย็นๆเพราะจากworkshop 

เป็นขั้นตอนที่คุณจูนใช้เวลากับงานผิวนานที่สุด 

ค่อยลงเบาๆทีละชั้น ค่อยๆเก็บลายละเอียดด้วยคอนซิลเลอร์ในบริเวณที่ผิวมีปัญหา งานละเอียดมากพูดเลยจร้าาาา 

ส่วนบริเวณใต้ตาขวัญใช้คอลแล็กเตอร์สีส้มในการกลบรอยคล้ำใต้ตา และลงคอลซิลเลอร์ตามเพื่อเก็บลายละเอียด โดยใช้แปรงแบนเพราะเค้าการเกลี่ยเนื้อครีมได้ดี

ในบริเวณใต้ตา ถ้าใต้ใต้ตาเป็นริ้วรอยหรือบวมมากคุณจูนไม่แนะนำให้ลงแป้งเพิ่มเพราะจะยิ่งจะทำให้ปัญหาที่เราปกปิด ยิ่งเด่นขึ้นมา 

หรือหากใครใต้ตาบวมมาก ก็ควรเบนความสนใจไปตรงบริเวณอื่นแทน 

เช่นการแต่งตาให้เด่นขึ้น

งานคิ้วคุณจูนก็ละเอียดมากกกก เปลี่ยนความเชื่อแบบเดิมๆไปเลยจร้า ว่าหัวจางหางเข้ม 

เพราะโดยธรรมชาติของคนเอเชียแบบเราๆหัวเข้มหางจางจร้าาาา 

เพราะฉะนั้นเราต้องยกเลิกการฝนคิ้วให้เป๊ะแบบที่เคยทำอย่างที่แล้วๆมา

 แล้วค่อยๆเติมส่วนที่เราแหว่งให้เต็มอย่างดูเป็นธรรมชาติ 

งานคิ้วคุณจูนเบามากและดูเป็นธรรมชาติมาก 

ยิ่งตอนน้องนางแบบเดินเวียนให้ดูตามโต๊ะแบบใกล้ๆ

คือแบบนี้แหละสิ่งที่เรียกว่าสวยไม่โป๊ะ 

อันนี้ก็เป็นอีกอย่างที่เขียนคิ้วนอกจากผิดทรงแล้วยังผิดวิธีมาทั้งชีวิต5555


งานแก้มก็เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ เมื่อก่อนคิดว่าปัดไปเถอะมันไม่ต่าง มางานนี้ต้องทิ้งความคิดแบบเดิมออกไปทุกอย่างเลยคร้า คุณจูนใช้แปรงปัดแก้มปัดบลัสออนแบบให้ทั่วแปรงแล้วค่อยเคาะออกจากนั้นค่อยๆแตะลงเบาๆกดเบาๆไล่ลงมาหน้าแก้ม และลงตรงห้าผากด้วยนะ เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ตอนแรกแบบคิดว่ามันจะติดทนเหรอว้าาาา แต่ก็ทำตามเค้านะ

ปรากฎว่าวันนั้นหลังจากจบ workshop ออกไปใช้ชีวิตนอกห้าง ไปออกกำลังกายอีก 1ชม แก้มที่คิดว่าอ่อน ยังอมชมพูอยู่เลยคร้าาาา เริ่ดดดมากปัดถูกชีวิตเปลี่ยนเลย??


ส่วนการลงคอนทัวน์ ลงแค่บริเวณกรามก็พอเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ หากใครรู้สึกว่าอยากจะให้กรอบหน้าดูเล็กลง ให้ลงบริเวณกรอบผมแทนให้ดูผมดำขึ้นชัดขึ้น


ส่วนอายไลเนอร์ให้ชิดโคนขนตามากที่สุด มือใหม่อย่างขวัญยังไม่เซียนการกรีดอายไลเนอร์ก็เขียนแบบจุกไข่ปลาแล้วค่อยลาดเชื่อมกันไปก่อนคะ สำคัญคือต้องชิดโคนขนตามากที่สุดแล้วเส้นไม่ใหญ่มาก

ส่วนการลงเฉดดิ่งถ้าหน้ากว้างให้ตั้งองศาให้มากกว่าแนวนอน หลอกสายตาให้อยู่ที่จุดเดียว 


**ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของเทคนิคที่ได้มากจากงาน workshop ในครั้งนี้คะ อาจจะมีลายละเอียดปีกย่อยอีกบางส่วน ที่กำลังตัดออกมาเป็นคลิปวีดีโอมาให้ชมกันแบบจัดเต็ม หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยนะคะ

มาถึงงานปากกันบ้างเพราะตั้งแต่แรกที่เริ่มแต่งหน้าคุณจูนก็ถามสาวๆในงาน

ว่าอยากให้แต่งลุคไหน 

สาวๆส่วนใหญ่ก็ลงความเห็นว่าอยากได้ลุค signature คือ glass skin whit red lips ปากไม่แดงไม่มีแรงเดินจร้าาา เดี๋ยวจิหมดแรงกลับบ้านซะก่อนอิอิ

และด้วยลิปที่ฮือฮากันมากและเป็นสีที่ขายดีมากกกกนั้นก็ต้องสีแดง JUST RED เท่านั้น จริงๆเค้ามีสีแดงหลายเฉดมากๆนะคะ ลายละเอียดและเทคนิคการเลือกสีแดงให้เหมาะกับแต่ละบุคคล จะอยู่ในวีดีโอที่กลับตัดอยู่นะคะ รอแปปนึงน่าาาา

จบงานแล้ว ขวัญก็ขอถ่ายรูปและถามเรื่องปัญหาในการแต่งหน้าเพิ่มเติม คุณจูนน่ารักมากให้คำแนะนำกับทุกคนที่ร่วม Workshop ในครั้งนี้เป็นกันเองสุดๆเลยคะ บอกเลยว่าประทับใจในตัวคุณจูนมากกก?❤️??

สำหรับเพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจหรือลังเลอยู่ว่าตัวไหนของแบรนด์นี้เค้าน่าสนใจบาง ขวัญบอกได้เลยว่าทุกตัวเค้าน่าสนใจหมด อิอิ แต่จะให้เหมาหมดก็คงเกินเบอร์เกินงบไปไกล ขวัญเลยคัดตัวเด็ดๆที่ทางเราไปลองมาแล้วว่าดีมาป้ายยาต่อให้เพื่อนๆได้ตัดสินใจกันดูนะคะเริ่มที่ตัวแรกกันเลย 

  • Essential Mool Cream
    ราคา 1,900 บาท ขวัญจะเลือกตัวนี้เป็นตัวแรกเลยลองแล้วชอบมาก วันที่ไป Workshop นอนน้อยมาผิวขาดน้ำ และบริเวณคางจะแห้งเพราะทายาแต้มสิว แต่พอได้ตัวนี้ ผิวที่เคยลงรองพื้นและเป็นขุยบริเวณคางไม่เป็นเลย รองพื้นไม่ลอก คือดีงาม ชอบเนื้อของเค้ามากเพราะให้ความชุ่มชื่นและสบายผิว

  • JUNGSAEMMOOL Skin Setting Base ราคา 1,100 บาท เป็นอีกหนึ่งตัวที่รู้สึกว่าของมันต้องมีแล้วละ เพราะเค้าทำงานเสริมกันกับ Mool Cream ช่วยปรับผิวเรียบเนียน  ล็อคความชุ่มชื่นผิว 

  • Essential Star- Concealer Foundation ราคา 1,400 บาท ตัวนี้คือตัวที่เล็งไว้ตั้งแต่แรกว่าฉันต้องได้น้องเค้ากลับบ้าน และก็ได้มาสมใจ ชอบที่มีทั้งคอลซีลเลอร์ และ ฟาวเดชั่น ในตลับเดียวกัน รู้สึกจบในตลับเดียว

  • Essential Skin Nuder Cushion และ Long Wear Cushion
    ราคา 1,400 บาท ตัวนี้ตอนแรกแอบมองข้ามเพราะรู้สึกว่าคุชชั่นไม่ค่อยเหมาะกับอากาศเมืองไทย แต่วันที่ได้ลองเค้าทั้งนั้นแหละคร้าาา ของมันต้องมีอีกแล้ว ชอบตอนที่เค้าเอามาเติ่มระหว่างวันแล้วมันให้ความรู้สึกเบาไม่หนักหน้า และรู้สึกว่าเป็นงานผิวที่แท้ทรู

  • Lip-pression ใครกำลังมองหาลิปสติกที่เนื้อกำลังดี และแพ็กเกจจิ้งสวยตาแตก หยิบขึ้นมาทาเพื่อนต้องทัก แนะนำลิปสติกรุ่นนี้เลย ดีงามทุกสี โดยเฉพาะสีในโทนแดงเค้ามีแดงหลายเฉดที่เข้ากับอันเดอร์โทนของแต่ละสีผิวด้วยนะคะ    

ปล.ไปลองเล่นที่เค้าเตอร์กันก่อนนะคะสาวๆ เพราะสีผิวแต่ละคนไม่เหมือนกันความต้องการของแต่ละคนก็แตกต่างกัน เค้ามีให้ลองหลายสีหลายสูตร จะได้ตรงกับความต้องการของสาวๆคะ ช่วงนี้คนอาจจะเยอะหน่อยแต่พนักงานทุกคนให้คำแนะนำดีมากกกก รักเลย ?

ขวัญได้สองตัวนี้มาขออุปไว้กระทู้ถัดไปนะคะ 

ว่าแต่ละตัวเค้าแต่กต่างกันยังไง ชอบอะไรในตัวหนมากกว่ากัน

 ขอเวลาลองเล่นน้องเค้าอีกนิด 

จะได้รู้จักน้องทั้งสองมากขึ้น แล้วจะมาป้ายยารัวๆเลยละทีนี้?

สุดท้ายนี้หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ 

ขวัญอาจจะเก็บเทคนิคมายังไม่ค่อยละเอียด อาจจะมีผิดพลาดบ้างก็ให้อภัยเค้าด้วยนะ

 ส่วนที่ขวัญซื้อมาจากงานก็มี2ชิ้นด้วยกันคือรองพื้นตลับเหลี่ยมในตำนาน กับ

คุชชั่นตลับกลับ ขอได้ไปลองเล่นก่อนนะ แล้วจะรีบทำกระทู้เปรียบเทียบให้ชมทั้ง2ตัว  

จนกว่าจะเจอกันใหม่ XoXo ? ?


Khwan Tem

Khwan Tem

?? ขวัญ=Quan
? 1985
?? 144 cm.
? 37-38 kg.
? Fashion addict.
☺️ Minimal girl.
? bags lover.
? Healthy lifestyle.
?Vintage fashion.
?#minimebyquan
? Welcome to my little world

FULL PROFILE