[Review] รวมเซต skincare รักษาสิว [ ราคาหลักร้อย ] | Smindstyle

45 11
PARTNERS IN BEAUTY

๐ REVIEW ๐


  รวมเซต skincare รักษาสิว  

[ ราคาหลักร้อย ]

_______________

by Smindstyle


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ช่วงนี้มายหน้าเป็นสิวอักเสบเห่อขึ้นมาหลักจากไปกดสิว เลยคิดว่าจะมาแชร์สกินแคร์ที่กำลังใช้รักษาสิวตอนนี้อยู่ เป็นสิ่งที่เพื่อนๆสามารถหาซื้อได้ง่าย ราคาหลักร้อยมีทั้งหมด 5 ชิ้นเท่านั้น ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง ไปอ่านต่อกันเล้ย...


[ * ขอขยายความ ]
: "ไปกดสิว แล้วสิวเห่อคืออะไร? คือทางเราเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสิวอักเสบ จะมีก็ต่อเมื่อจะมี
ประจำเดือนค่ะ แต่ที่ไปกดสิวคือมายไปกดสิวอุดตัน (เราคือมนุษย์สิวอุดตันเลย อุดตันง่ายมาก)
แล้วสิวอุดตันเนี่ยถ้าเราไม่ไปกดออก น้องจะไม่หาย แต่ถ้าเราไปกดแล้ว กดออกมาไม่หมดหรือ
กดแล้วหัวสิวไม่ออก นั่นแหละค่ะ สาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบ น้องที่อุดตันอยู่ ก็จะอักเสบเห่อ
ขึ้นมาเลย"

  [ 5 Skincare in 5 Steps ]  


วันนี้นอกจากมายจะมารีวิวสกินแคร์แล้ว คิดว่ารีวิวทั้งทีก็ต้องครบๆจบในเซตเดียว เลยจัดมาให้ตั้งแต่สิ่งที่ใช้ล้างหน้าไปจนถึงบำรุงผิวกันเลยค่ะ แต่แน่นอนทุกขั้นตอนรวมอยู่ในเซตนี้แล้ว เพื่อให้เข้าใจง่าย มายจะเรียงลำดับตามขั้นตอนที่มายใช้เลยน้า 


Step 1: d program urban damage care foaming wash

Step 2: pixi glow tonic exfoliationg toner

Step 3: skinsista v yoounger skin booster

Step 4: skinsista v acne clear booster

Step 5: bio-piel barrier cream



ก่อนอื่นใด เราดูสภาพหน้ามายตอนนี้กันก่อนดีกว่า

[ รีบมารีวิวให้ดูตอนสิวกำลังเห่อๆนิแหละ จะได้เห็นกันชัดๆ ]

ต้องเข้าใจกันก่อนว่าผิวหน้าของคนเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ไม่ใช่ว่าเป็นคนหน้ามันก็จะมันอยู่อย่างนั้นไปตลอดชีวิต อย่างมายเองตอนช่วงมัธยมก็เป็นคนที่ผิวค่อนข้างมัน เข้ามหาลัยหน้าก็เป็นสิว การรักษาสิวทำให้กลายเป็นคนที่หน้าแห้ง ส่วนอาการที่เพื่อนๆได้ยินกันบ่อยเช่น เป็นคนผิวแพ้ง่าย อันนี้ทางเราก็เคยเป็นมาก่อน แบบว่าใช้อะไรก็แพ้ แต่ปัจจุบันคิดว่าความแพ้ง่ายดีขึ้นแล้ว ผิวแข็งแรงขึ้นจากการเลือกใช้สกินแคร์ด้วย 


แต่มายขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ในช่วงที่ผิวของเราเป็นสิว เป็นช่วงที่ผิวกำลังอ่อนแอ เพราะงั้นเราควรเลือกใช้สกินแคร์กันดีๆนะคะ เป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมเอย ซิลิโคนเอย หรือว่าจะเป็นแอลกอฮอร์ จะได้อ่อนโยนต่อผิว มีอีกหลายตัวแต่มายก็ไม่รู้ทั้งหมด ยังไงเพื่อนๆต้องลองสังเกตุตัวเองเวลาใช้อะไร เค้ามีส่วนผามอะไรบ้าง ดูกันให้ดีๆนะคะ


มาพูดถึงสภาพผิวของมายตอนนี้ก่อนน้าจนตอนนี้หน้าก็ยังแห้งอยู่มาก มีสิวอุดตัน สิวอักเสบ รอยสิวและผิวแห้งลอกแดงๆเป็นพักๆตามจุดเดิมๆ 


[ *ขอขยายความ ]
: "อาการแดงลอก - ถ้าเพื่อนๆที่ติดตามมายอยู่ตลอด ก็จะเห็นว่าจุดแดงลอกที่มายพูดถึง 
เพื่อนๆจะเห็นได้อยู่บ่อยครั้ง แต่เอาจริงๆมายไม่ได้มีอยู่ตลอด นางจะขึ้นมาในตอนที่พักผ่อน
น้อย กินน้ำน้อย ใช้หน้าหนัก ทำให้ผิวขาดน้ำมากๆ รอยแดงลอกๆก็จะขึ้นมาบริเวณข้างแก้ม
และใต้ตา"


เรื่องของผิวเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากๆ เพราะงั้นเรามาเข้าเรื่องสกินแคร์สิวๆกันดีกว่า

ก่อนที่มายจะยืดยาวไปมากกว่านี้ (ตัดบทกันแบบนี้เลย อิอิ)



  [ STEP 1 : CLEANSING ]  


d program 

Urban Damage Care Foaming Wash


วิธีใช้: ใช้ล้างหน้าทั้งเช้าและเย็น

(โดยส่วนตัวเป็นคนผิวแห้งมาก ตอนเช้ามายจะล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดเฉยๆ จะใช้โฟมล้างหน้าแค่ตอนกลางคืนค่ะ)

d program เป็นแบรนด์ใหม่ที่เพื่อนๆบางคนอาจจะไม่คุ้นหูเท่าไร แต่ว่าที่มาที่ไปเค้าไม่ธรรมดา เป็นสกินแคร์แบรนด์ในเครือของ Shiseido เลย พอรู้แบบนี้แล้วเพื่อนๆเริ่มจะสนใจกันแล้วใช่มั้ยละ พอได้ยินคำว่า Shiseido อาจจะมองว่าเป็นสกินแคร์ราคาแพง แต่ไม่เลยค่ะ กลุ่มผลิตพันธ์ของ d program เค้าราคาน่ารักน่าคบหา


มาพูดถึงคำเคลมจากแบรนด์กันก่อน (ซึ่งทางเราก็เป็นคนนึงที่ซื้อของมาเพราะคำพูดเหล่านี้เช่นกัน 55555) “ เค้าบอกว่าโฟมล้างหน้าสำหรับผิวบอบางระคายเคืองง่าย ทำความสะอาดได้ล้ำลึก แม้ฝุ่นอนุถาคขนาดเล็กหรือละอองเกสรดอกไม้ ช่วยให้ผิวละเอียดกระจ่างใส ” เมื่อเห็นคุณสมบัติเบอร์นี้ ทางเราก็ไม่รอช้าที่จะซื้อมาลองเลยค่ะ

๐ ความรู้สึกหลังใช้ ๐


d program urban damage care foaming wash เป็นโฟมล้างหน้ามาในรูปแบบของฟองโฟม มีความเบาๆบางๆ ไทได้หนานุ่มมาก เนื้อสัมผัสคล้ายกับโฟมล้างมือของ kirei kirei เลยจ้า มีกลิ่นสะอาดๆแบบเบาๆจางๆ ข้อดีของโฟมล้างหน้าประเภทนี้คือจะช่วยลดการเสียดสีกับผิวหน้า ทำให้ระคายเคืองผิวน้อยกว่า มายรู้สึกว่าเค้จะเป็นมิตรกับผิวและสิวของมายดี


หลังล้างหน้าด้วยน้องคนนี้ น้องช่วยทำความสะอาดผิวได้ดี ไม่รู้สึกว่าหน้าแห้งเลย แต่เรื่องช่วยลดการอุดตัน มายคิดว่าเค้าก็ช่วยได้อยู่น้า แต่ว่าไม่ได้ถึงขนาดว่า ใช้แล้วสิวอุดตันไม่ขึ้นเลย เพราะตราบใดที่เรายังแต่งหน้า หน้ายังเจอฝุ่นและมลภาวะอยู่ การอุดตันในรูขุมขนของมนุษย์ที่อุดตันง่ายแบบมายก็ยังคงมีอยู่ แต่ว่าน้อยลงกว่าเดิมค่ะ  มีข้อติอยู่นิดนึงคือแพกเกจเค้าแอบใหญ่ พกพายากไปหน่อย แต่ว่าเรื่องดีไซน์ตัวอักษรเค้าดูสะอาดตา มินิมอลเบาๆ น่าใช้พอตัว


ราคา 890 บาท ปริมาณ 150 ml

พิกัด: watsons 



  [ STEP 2 : TONER ]  


pixi

Glow Tonic Exfoliationg Toner


วิธีใช้: ใช้หลังล้างหน้า โดยใช้คู่กับสำลีแบบบางจะช่วยประหยัดไปได้เยอะค่ะ เช็ดให้ทั่วหน้าตามแนวรูขุมขน ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น 

(ถ้าใครที่ผิวแห้งมากๆแนะนำให้ใช้ตอนกลางคืนอย่างเดียวก็ได้ค่ะ)

สำหรับ pixi glow tonic ตัวนี้มายขอพูดสั้นๆ เพราะเป็นตัวที่มายเคยเอามาเขียนรีวิวไว้แล้ว อยากจะเอามาแนะนำอีกครั้ง เป็นคนที่ไม่ได้ใช้โทนเนอร์อะไรมาเยอะแยะ แต่น้องคนนี้เป็นตัวนึงที่มายใช้แล้วชอบ ติดใจ เพราะน้องเค้าช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยส่วนผสม 5% Glycolic Acid นั่นเองค่ะ เป็นปริมาณกำลังดีต่อผิวมาย ใช้แล้วคือไม่แสบผิว ช่วยลดการอุดตันได้ดี (ช่วยลดได้นะคะ ไม่ได้ทำให้หายไปเลย)


มีเพื่อนๆเคยถามเข้ามาว่า ใช้ตัวนี้แล้วสิวจะดันมั้ย จะเห่อขึ้นมามั้ย โดยส่วนตัวที่มายใช้มาไม่เกิด effect แบบนั้นเลยนะคะ เท่าที่ใช้มาคือการอุดตันของผิวลดค่ะ ถามว่ารู้ได้ไงว่าน้อยลง เพราะมายเคยนอกใจน้องเค้าไปใช้คนอื่น แล้วก็กลับมาใช้น้องเค้าอีกทำให้เกิดการเปรียบเทียบได้ชัดเจนเลย ข้อนี้เลยมั่นใจได้ว่า ไม่ได้คิดไปเองจ้า 


ราคา 1,080 บาท ปริมาณ 250 ml

[ ตัวนี้ขอเกินงบที่บอกไว้ตัวนึงน้า แต่เค้ามีขวดเล็กด้วย ราคา 550 บาท ปริมาณ 100 ml ]

พิกัด: Sephora 



  [ STEP 3 : HYDRATING ]  


Skinsista

V Younger skin booster


Skinsista แบรนด์ที่มาแรงอยู่ตอนนี้ บล็อกเกอร์หลายๆคนยกให้เป็นสกินแคร์ที่ช่วยในเรื่องของสิวได้จริง มาในราคาที่เอื้อมถึง หาซื้อง่าย และเหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย เพราะใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งตอนนี้มายเองใช้สกินแคร์ในกลุ่มของ vitamin series อยู่ 2 ตัวคือ v acne clear booster และ v younger skin booster นั่นเอง


[ * ขอขยายความ ]
: “สกินแคร์ในกลุ่ม vitamin series มีลักษณะพิเศษด้วยนวัตกรรมของ เนื้อบูสเตอร์
คือมีความเข้มข้นแต่บางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย ซิลิโคน
น้ำหอม แอลกอฮอร์ และสารให้สี คนที่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ”

วิธีใช้: หยด 2-3 หยดลงบนฝ่ามือ ทูวนเบาๆให้ทั่วมือ และกดลงบนหน้าให้ทั่ว


[เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น มายมีรูปวิธีการใช้มาด้วยค่ะ]

สำหรับ V younger skin booster ทางแบรนด์เคลมว่า “ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ลดการระคายเคืองและอักเสบของผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวเด้ง ฟูและกระชับขึ้น เห็นผลภายใน 14 วัน”

๐ ความรู้สึกหลังใช้ ๐


อย่างที่มายบอกไปว่า มายเป็นคนผิวแห้งมากๆ และด้วยความที่อยากรู้ว่าน้องคนนี้จะช่วยเติมความชุ่มชื้นได้เบอร์นั้นจริงมั้ย ทางเราเลยใช้น้องคนนี้ซึ่งเป็นสกินแคร์ตัวเดียวที่อยู่ในกลุ่มเติมความชุ่มชื้น เรียกได้ว่าพิสูจน์กันแบบชัดๆกันไปเลย 

สิ่งแรกที่ชอบเลยคือ กลิ่นเค้าหอมแบบกลิ่นหวานเย็นน้ำแข็งใสน้ำกระทิ ได้กลิ่นละนึกถึงมากๆ เพราะกลิ่นเค้าจะแบบมีความกลิ่นสดชื่น (ซึ่งในส่วนของกลิ่นนี้แล้วแต่ใครจะจิตนาการนะมายว่า 5555 ) เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมไวจริง หลังใช้คือหน้ารู้สึกชุ่มชื้น เงาๆ แต่ไม่มีความมันหรือเหนียวหน้าใดๆ ตื่นมาตอนเช้า หน้ามายไม่แห้ง แถมมีความเงาๆเด้งๆ นุ่มๆอีกด้วย รู้สึกประทับใจที่เค้าช่วยให้ผิวหน้าเราดูแข็งแรงขึ้น รอยแดงที่แห้งลอกดีขึ้นเลย


ราคา 490 บาท ปริมาณ 15 ml

พิกัด : watsons, lazada และ shopee



  [ STEP 4 : ACNE CARE ]  


Skinsista

V Acne Clear Booster

วิธีใช้: หยด 2-3 หยดบนฝ่ามือ ถูวนเบาๆให้ทั่วมือ กดลงบนผิวหน้าให้ทั่ว และหยดเพิ่มอีก 1-2 หยด ใช้นิ้วมือลงย้ำบริเวณที่มีสิวอักเสบอยู่ ใช้ทั้งเช้าและเย็น


[มีรูปวิธีใช้มาพร้อมค่ะ]

เรามาพูดถึง V acne clear booster กันก่อน ตัวนี้นะคะทางแบรนด์เค้าเคลมไว้ว่า “ผสานวิตามิน บี3 เข้มข้น และสารสกัดใบมิ้นป่าจากชิลี ช่วยดูดซับความมัน ลดการอักเสบของสิว สิวผด สิวสเตียรอยด์ และลดการเห่อแพ้ระคายเคือง พร้อมลดสาเหตุของการเกิดสิว จะเห็นผลดีที่สุดใน 28 วัน”

๐ ความรู้สึกหลังใช้ ๐


มายใช้ตัวนี้มาได้ 4 วัน แต่ว่าอยากจะรีบมาทำรีวิวก่อนเลยค่ะ เพราะว่าแปลกใจที่น้องเค้าทำให้สิวที่เห่อๆของมายดีขึ้นได้ ทาเสร็จหน้ามายจะขึ้นเงา แต่หน้าไม่มันนะ เพราะเค้าซึมไวจริงอันนี้ยอมรับเลย บริเวณที่มายเป็นสิวอักเสบดีขึ้น ซึ่งมายขอแบ่งสิวอักเสบ บนหน้าเป็น 2 แบบ คือ


  • สิวอักเสบหัวหนอง (สิวอักเสบตรงระหว่างคิ้ว) หลังใช้สิวแห้งเร็ว อันนี้มายก็ยังรู้สึกเฉยๆ ต่อพอผ่านมาจนวันนี้ก็ 4 วัน บริเวณเนื้อสิวตรงนั้นยุบตัวลงไปเยอะมาก รวมถึงรอยสิวที่จางลง เพราะว่าสิวเค้าค่อยๆแห้ง และลอกออกมาเป็นแผ่น 

  • สิวที่กำลังอักเสบแต่ยังไม่มีหัว (บริเวณข้างแก้ม) หลังใช้ สิวแห้งและมีหัวเป็นหัวแบบแข็งๆ พร้อมออก มายเอามือไปสะกิดก็หลุด (เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำนะคะ ควรปล่อยให้เค้าค่อยๆหลุดหายไป อย่าไปแคะ แกะ เกา)

แต่ๆ กลิ่นเค้าค่อนข้างจะแรงพอตัวเลยค่ะ เพราะว่าเค้าไม่มีการแต่งกลิ่นหรือใส่น้ำหอม เรียกได้ว่า สกัดอะไรมาก็ใส่กันมาแบบเพียวๆเลยจ้า แต่เอามาเปรียบเทียบกับเรื่องประสิทธิภาพการรักษาสิวก็เลยต้องยอมจริงๆ


ราคา 490  บาท ปริมาณ 15 ml

พิกัด : watsons, lazada และ shopee



  [ STEP 5 : MOISTURIZED CREAM ]  


bio-piel 

Barrier Cream


วิธีใช้: แต้ม 5 จุดและทาให้ทั่วหน้าทั้งเช้าและเย็น แนะนำให้ใช้เป็นตัวสุดท้าย สำหรับตอนเช้าคือทาก่อนลงกันแดดน้า

สำหรับ bio-piel barrier cream มายเคยรีวิวแบบละเอียดไปแล้วนะคะ เพื่อนๆสามารถอ่านกันได้เลยที่ Jeban นิน้า แต่ว่าเรามาพูดกันนิดนึงว่าน้องเค้าคือครีมอะไร เผื่อใครยังไม่รู้จักน้องน้า คำเคลมจากทางแบรนด์คือ เป็นครีมที่มีสารสกัดหลักจาก "มะเขือยาว" ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรียค่ะ ซึ่งจะทำให้ลดการอักเสบของสิวและยับยั้งการเกิดสิวนั่นเอง 


นอกจากนี้เค้ายังบอกว่าช่วยให้ผิวของเราแข็งแรง ปกป้องผิวจากมลภาวะ ปรับสมดุลให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวอุดตัน แถวยังอ่อนโยน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ เพราะปราศจากพาราเบน, เอทานอล, coloring matter, triethanolamine, น้ำหอมและเบนซิลแอลกอฮอล์

๐ ความรู้สึกหลังใช้ ๐


ตอนแรกที่ใช้มายไม่ได้กลิ่น ตอนนี้ใช้มาจะหมดละค่ะ เค้ามีกลิ่นอยู่น้า เป็นกลิ่นอ่อนๆบางๆ กลิ่นหอมแบบสะอาดๆ เนื้อค่อนข้างจะหนักพอตัว หลังทาแล้วรู้สึกว่าหน้ายังมีความหนึบๆ ผ่านไปสักพักเค้าก็ซึม ตอนนี้ใช้มาจนจะหมดแล้วค่ะ มายว่าน้องเค้าช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีค่ะ ช่วยให้หน้าไม่หมองคล้ำ ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้พอสมควร (แต่ถ้าใช้ตัวนี้เดี่ยวๆเพื่อใช้เพิ่มความชุ่มชื้น สำหรับคนผิวแห้งมาก มายว่าตัวเดียวเอาไม่อยู่นะคะ แนะนำให้ใช้ร่วมกับตัวอื่น) เป็นครีมที่รู้สึกเป็นมิตรกับผิวสิวๆของมาย เพราะใช้แล้วไม่แพ้ สิวไม่เห่อ ถือว่าโอเคเลยค่ะ 


แต่ถ้าให้พูดถึงเรื่องที่ช่วยลดการอักเสบของสิวและยับยั้งการเกิดสิว น้องเค้าก็ช่วยได้ในระดับนึงค่ะ เพราะว่าสาเหตุหลักของการที่มายสิวเห่อครั้งนี้ เกิดจากการไปกดสิวมา ก่อนหน้านี้คือผิวมายปกติเลยค่ะ ไม่มีสิวอักเสบอะไร แต่เรื่องสิวอุดตันมีอยู่เหมือนเดิม แต่พอมีสิวอักเสบขึ้นมาแล้ว ครีมตัวนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้สิวอักเสบแห้งเร็วขึ้นแต่อย่างใด


ราคา 1,490 บาท ปริมาณ 50 กรัม

[ ตัวนี้ขอเกินงบน้า ]

พิกัด: koriico, shopee และ lazada


________________________


  สรุปภาพรวม สั้นๆ หลังใช้สกินแคร์เซตนี้  


ช่วยตอบโจทย์ปัญหาสิวอักเสบและผิวที่แห้งมากของมายได้ดี หน้ามายตอนนี้คือชุ่มชื้น เงา ผิวเด้งๆ รอยลอกแดงก็เริ่มจางหายไป สิวอักเสบดีขึ้น แต่เรื่องสิวอุดตันที่มี ยังอยู่เท่าเดิม ไม่ได้เพิ่มมากขึ้น หน้าของมายไม่หมองคล้ำ และสุดท้ายเรื่องของรูขุมขน มายเป็นคนที่ไม่ได้รูขุมขนกว้างอะไรมาก และเท่าที่เห็นรูขุมขนก็เท่าเดิม ไม่เล็กหรือใหญ่ขึ้นค่ะ ทั้งหมดนี้คือทั้งหมดของสกินแคร์รักษาสิวราคาน่ารักของมาย 

มาดูภาพ Before & After กันดีกว่า

จะได้เห็นภาพกันชัดๆเน้อะ

หวังว่าการรีวิวครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆน้า

อย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์รักษาสิวกันด้วยน้า


ตัวไหนดี ตัวไหนโดน ไว้จะได้ไปซื้อมาลองบ้างค่ะ อิอิ

เจอกันใหม่โพสหน้า

_______________________________

ขอบคุณค่ะ

บั๊บ  บาย


Smindstyle

Smindstyle

สวัสดีค่ะทุกคน เค้าชื่อมายด์นะ เป็นคนที่ชอบเครื่องสำอางค์ การแต่งหน้า อะไรที่เกี่ยวกับความสวยความงามคือชอบหมด 5555 หวังว่ารีวิวของเค้าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนๆที่เข้ามาดูน้า

FULL PROFILE