ไอเทมเด็ดพกเที่ยวแสนอุ่นใจ ดูแลตัวเองให้สวยปังไม่พังตลอดทริป! [ตั้งแต่หัวจรดเท้า]

62 18

ฮัลโหลลลลสาว ๆ จ๋าาา 

หลังจากที่คราวก่อนเรามารีวิวเมคอัพตัวเด็ด

ที่เราพกไปแซ่บที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม 

กับชื่อทริปที่แสนกตัญญูว่า 

? "พาแม่ไปเช็คอิน ชิค ๆ @ Bana Hill" ?  


แล้วเราก็สัญญาว่าจะมาบอกต่อสกินแคร์ 

และพาทุกคนไปส่องที่เที่ยว ซึ่งบอกเลยว่า ถ้าอยู่ในกระทู้เดียวกันจะต้องกลายเป็นมหากาพย์ยืดยาวแน่นอน ฮ่าาา


 วันนี้เลยขอพาเหล่าสกินแคร์ ทั้งผิวหน้า ผิวกาย รวมถึงแฮร์แคร์ที่รักมากตอนนี้พกไปเที่ยวดานัง หยิบมาบอกต่อสาว ๆ ให้ผิวปัง ไม่มีพังกันก่อนนะจ๊ะ ขอบอกว่าเด็ดจริง ๆ จะเที่ยวใน เที่ยวนอกประเทศพกไว้ดูแลผิวอุ่นใจแน่นอน หรือจะใช้บ่อย ๆ เป็น Skincare Routine ก็ยังได้เพราะเราอ่ะคัด 8 ไอเทมที่ช่วยดูแลผิวให้ดี ช่วยครบจบทุกปัญหาผิวจริง ๆ มาให้แล้วจร้า และยังมีอีก 7 ไอเทมเพื่อผมนุ่มสลวย และผิวกายสดใสอีกด้วย รีวิวนี้บอกเลยจัดเต็มมว๊ากกกก ดีต้องบอกต่อ ไม่กั๊ก!

นี่แม่เองจ้ะลูก...ดูฟินมั้ยล่าาาา
ให้ชมภาพเบา ๆ เกริ่น ๆ ตอนต้นสักนิสสส รีวิวเที่ยวเต็ม ๆ มาแน่ ช้าหน่อยแต่มานะ
ป่วยจริงนะจ๊ะ โปรดเห็นใจ งานก็ทำ รีวิวก็ชอบ รักษาสุขภาพก็จำเป็นนน ><

ใครไม่แคร์แต่สกินแคร์เน้อ นี่คือโฉมหน้าไอเทมที่ใช้กับผิวหน้าทั้ง 8 ตัวที่ควรค่าแก่การจดลิสต์รวมดาวเด็ด #ของต้องมี พราะ #ผิวดีๆรอเราอยู่

แค่สกินแคร์บำรุงผิวหน้าเหนาะ ๆ ก็ปาไปตั้ง 8 ตัวแล้ว มีทั้งหน้าเก่าที่ใช้อยู่แล้ว และหน้าใหม่ที่เราอยากลอง รวมถึงไอเทมใหม่ที่สอยจากสนามบินอี๊กกกก

1. Charis Clear Water
ขอเริ่มกันที่การทำความสะอาดผิวหน้า กับ คลีนซิ่งไมเซล่า สูตรน้ำที่อ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่ายสุด ๆ เราก็ไม่รู้ว่าไปประเทศเขาจะเจอสภาพอากาศที่เหมาะกับตัวเองรึเปล่า จะแพ้อะไรมั้ย ก็ต้องเลือกตัวที่มั่นใจว่าสะอาดและอ่อนโยนที่สุดไปก่อน ตัวนี้นางดีมาก ๆ ๆๆ หมดไปหลายขวดแล้ว ปาดสะอาดไม่เหลือคราบเมคอัพ หรือสิ่งสกปรกไว้ติดผิวเลย ปราศจากสารเคมีที่อาจทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ 5 ชนิด ได้แก่ น้ำมัน สบู่ พาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำหอม แต่ถึงจะไม่ใส่น้ำหอมแต่กลิ่นนางดีเด้อ เช็ดสะอาด แต่ผิวไม่แห้งตึงเลยแม้แต่น้อยยย เหมาะกับทุกสภาพผิว และทุกสถานการณ์ไปเลยจ๊ะตัวนี้
2. The 28 Complete Clear Liquid Foaming Cleanser
ขั้นแรกของการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งวอเตอร์ก็อ่อนโยนแล้ว ลำดับต่อมาเพื่อให้ครบสูตรการ ดับเบิ้ลคลีนซิ่ง ก็ต้องเลือก Foam หรือ Gel ล้างหน้าที่อ่อนโยนเช่นกันด้วยจร้าาา The 28 Complete Clear Liquid Foaming Cleanser ตัวนี้มีมานานมว้ากกกก แต่เราพึ่งสอยมาคู่กันกับตัวเจลบำรุงผิวสำหรับผิวอ่อนโยน ส่วนผสมทำมาจากธรรมชาติซะส่วนใหญ่ จึงมั่นใจว่าสามารถใช้ได้แทบทุกสภาพผิวจริง ๆ เนื้อเจลที่สัมผัสได้จากตอนปั๊มใส่มือคือนุ่มละมุน กลิ่นหอมจากสารสกัดธรรมชาติที่ไม่ฉุน เป็นกลิ่นอ่อน ๆ แต่ช่วยผ่อนคลายผิวหน้า และอารมณ์เราได้ดีจากการได้กลิ่น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ใช้ล้างหน้า แล้วยังได้ฟีลลิ่งการทำสปาผิวไปในตัวตามสไตล์ที่เราชื่นชอบมาก ๆ อีกด้วย นี่แค่กลิ่นก็รักแล้วอ่ะ ใครที่เดินทาง ทำงานหนักกลับบ้านเหนื่อย ๆ ใช้แล้วจะฟินนี่พูดเล่อ ส่วนเรื่องฟองคือน้อยนิดมาก ตามสไตล์โฟมเจลทำความสะอาดหน้า เราชอบเนื้อสัมผัสหลังผสมน้ำมากนะ จัดว่าละมุนณีต่อผิวหน้ามากจร้า ฝ่ามือ และนิ้วที่สัมผัสเนื้อเจลที่ละลายน้ำแล้วลื่นกำลังดี แล้วพอเอามือวน ๆ ไปทั่ว ๆ ผิวหน้ารู้สึกได้ถึงการคลีนผิว และสิ่งสกปรกออกมาได้หมดจดอ่ะ และหลังล้างหน้าก็ไม่ทำให้ผิวเอี๊ยด หรือแห้งตึงด้วยนะ 2 ขั้นตอนแรกของการดูแลผิวในเรื่องการทำความสะอาดนี่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ดี ๆ เลยล่ะให้เหมาะกับสภาพผิว และเมคอัพประจำวันของตัวเอง เพื่อให้ผิวสะอาดปราศจากสารตกค้าง เพราะจะช่วยทั้งปกป้องการเกิดสิว รวมถึงปัญหาผิวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ดีอีกด้วยนะจ๊ะ

The 28 Complete Clear Liquid Foaming Cleanser ก็เป็นอีกตัวที่มาวิน และอยากแนะนำมาก ๆ ทั้งช่วยเรื่องความสะอาดต่อผิว กลิ่นหอมเบา ๆ ฟีลสปา และยังบำรุงผิวให้เรียบเนียนด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติทั้ง 7 ชนิด จากที่เคยแค่เล็ง ๆ ตอนไปเดินใน All About You ตอนนี้คือติดมว้ากกกจนต้องพกติดทุกทริป แล้วใช้ตลอดที่ไทยเป็นสามัญประจำผิวของเราไปแล้ว
นี่ ๆ ๆ อวดก่อนเลยว่า 2 ตัวนี้นางมาคู่กัน เหมาะแก่การใช้ด้วยกันอย่างแรงงงงง
3. Lhamour Anti Pollution Facial Oil
ออยล์ตัวเด็ดจากมองโกเลีย ช่วยเติมสารอาหารผิวจากธรรมชาติ โดยเฉพาะตัวน้ำมัน Sea Buckthorn แอนตี้ออกซิแดนท์ชั้นสูง เพื่อฟื้นฟูผิวให้พร้อมสู้ทุกมลภาวะได้ดีงามเว่อร์ ๆ ใครที่เป็นสาวผิวแห้ง – ผสม - มันที่เคยใช้ออยล์ หรือไม่เคยใช้ออยล์มาก่อน อยากบอกว่า ขอแนะนำให้เริ่มใช้ที่แบรนด์นี้เลยจ้ะ ช่วยเติมเต็มสารอาหารแน่น ๆ ได้อย่างล้ำลึก เราชอบลงเป็นตัวแรกก่อนลงตัวอื่น เนื้อไม่มันลื่น หรือหนักผิวเลยแม้แต่น้อย ลงเช้า - ก่อนนอนได้หมดหน้าไม่เยิ้มระหว่างวัน ช่วยปรับสมดุลลดความมันไม่ให้โผล่มาให้เห็นอีกต่างหาก อยากแนะนำให้คนที่ไม่เคยลองใช้ออยล์ได้มาลองจริง ๆ Lhamour Anti Pollution Facial Oil ตัวเนี๊ยบอกเลยว่าเราปลื้มมาก จัดว่าอีกหนึ่งไอเทมรัก ๆ ที่ไม่ลับ ลงรีวิวบ่อยมว๊ากกกกก ที่สำคัญนะ ขวดละพันต้น ๆ แต่ใช้ยาว 3 เดือนอัพเลยนะ แล้วพอหมดปุ๊บ เราซื้อต่อปั๊บเลยจร้า พูดขนาดนี้ไม่มีเป็นสามัญประจำผิวไม่ได้ล่ะเน้ออออ
4. DIOR Capture Youth Peeling Lotion
โลชั่นน้ำตบตัวเด็ดจากดิออร์ ที่พึ่งออกเมื่อต้นปีนี้เองงง ตัวนี้โดนป้ายยาแรงมาจากพี่ Netty Beauty Life เองจร้าาาา เห็นเขาว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่ช่วยโกงอายุผิว นี่ก็หยิบแบบไม่ต้องคิดกันเลย ด้วยความที่เนื้อเป็นน้ำบางเบาเว่อร์ ๆ ควรใช้เป็นขั้นตอนแรก ๆ หลังล้างหน้านะ จะช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารเต็มที่จากทั้งตัวนี้ และสกินแคร์ตัวอื่น ๆ ที่ลงตาม หลังจากตบลงผิวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีเลยเธอเอ๋ยยย แถมเขาว่า มี AHA อ่อน ๆ จากมะละกอ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ให้ดูเรียบเนียน และสว่างกระจ่างใสด้วยนะ หลังจากออกไปเที่ยวมาเหนื่อย ๆ ตัวนี้ช่วยปลดความโทรมไปได้ส่วนหนึ่งเลยจ๊ะ ใครจะใช้คู่สำลีก็ได้ไม่ว่ากัน แต่เราใช้ตัวนี้หลังทาออยล์ LHAMOUR สุดรักไป เลยไม่อยากนำพาน้องสำลีมาเช็คเนื้อออยล์รักของเค้าให้หายไปนั่นเองน้า อิอิ

5. Lancôme Advanced Genifique Yeux Light Pearl 
ผิวหน้าดี แต่ผิวใต้ตาไม่สวย ตาคล้ำ เหี่ยวย่น ตีนกาประทับรัว ๆ ก็ไม่ไหวน้าาา ตัวดูแลเฉพาะจุดอย่างผิวใต้ตาต้องมาเลยจ๊ะ กับเซรั่มใต้ตาตัวใหม่ของ Lancôme ที่เขาว่า เน้นช่วย 4 เรื่อง คือ ลดรอยบวม ริ้วรอย ถุงใต้ตา ความหมองคล้ำ และที่สำคัญบำรุงขนตาให้ยาวด้วยยย เพราะมีส่วนผสมของ Trio eyelash complex สารอาหารที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Lancôme เค้าที่ช่วยให้ขนตา หนา เด้งดึ๋ง เรียงตัวอวดแผงขนตาที่แสนแข็งแรงขึ้นถึง 2 เท่า!!!  โอ้โหหห เคลมแรงขนาดนี้ อ่านบทความบิ้วตี้นอกมาอีก เค้าว่าดี เด็ดปัง เราเลยไม่รอช้าสอยก่อนวางจำหน่ายในไทยจาก King Power ก่อนบินเลย แล้วใช้ตั้งแต่คืนแรกที่ถึงเวียดนาม ด้วยนวัตกรรมผิวเปล่งปลั่งเหมือนไข่มุกที่สะท้อนแสง ตอบโจทย์สายเที่ยว และสายปั่นงานได้ครบมาก ๆ เนื้อเป็นเซรั่มบางเบาทุกสภาพผิวน่าจะใช้ได้ มาพร้อมหัวลูกกลิ้งกลม ๆ ขนาดเหมาะใต้ตา และเปลือกตาพอดิบพอดี ชอบเนอะ เราใช้นวด ๆ คลึง ๆ ทั้งใต้ตา และเปลือกตา วน ๆ แนวโค้ง ๆ อยากบอกว่าแค่อยู่ในห้องแอร์ตัวที่ทาเค้าออกแบบได้ดีมาว๊ากกก คือให้ความเย็นเบา ๆ ต่อการสัมผัสสุด ๆ ไม่ต้องแช่เย็นเลย ใช้แล้วชอบ คือใช่ฟินสุดจ๊ะ ตื่นมารู้สึกตากระชับเบา ๆ เลยยย เรื่องขนตายาวมั้ยเดี๋ยวจะมารีวิวเต็ม ๆ ให้ดูนะ ตอนนี้ใช้มาเข้าเดือนที่ 2 กันแล้ว เอ่อลืมบอกค่ะ อีกจุดที่เราใช้  Lancôme Advanced Genifique Yeux Light Pearl ทาคือร่องแก้มน้าาา ช่วย ๆ หน่อยร่องแก้มมาแล้ว พูดมากเหลือเกินจ้ะแม่จ๋าาาา >"<
6. Lancôme Blanc Expert Double Essence
เกริ่นก่อนน้า จะเห็นว่าที่ขวดเค้าจะเขียนว่า TESTER ตัวนี้ไม่ใช่ได้สปอนมาจากแบรนด์ หรือไปจุ๊บแจงขโมยจาก Shop ของ Lancôme มาแต่อย่างใด >< เพียงแค่เราได้แถมมาจร้าาา จากโปรเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาโดยรายละเอียดประมาณว่าช้อปปิ้งครบประมาณ 5,xxx จำราคาไม่แน่ชัด จะได้รับ  Lancôme Blanc Expert Double Essence ไปเลยไซส์ขายจริงราคา 3,xxx ไม่อิงนิยาย เอออออ สำหรับขาช้อปที่งกแต้มบัตร งกของแถมแบบเรา ตาวาวววสิคะ จัดไปค่ะ ซื้อตัว Hot โทนเนอร์นมชมพูแสนดังในหมู่ทัวร์จีน ที่เค้ารีวิวกันว่าเริ่ดมากกกก ใช้ทาหน้าได้ ทาตัวได้ ขวดใหญ่เบิ้ม และ สอย Lancôme Renergie Multi-Lift Ultra Full Face Mask อันนี้ยอมรับว่า...โดนตก เพราะวันนั้นทางแบรนด์เชิญไปลองมาส์กชีทตัวใหม่ตัวนี้ล่ะเด้อออ เลยโดน ๆๆๆ หมดตัวไปสิ รูดบัตรไปได้ครบองค์ดั่งใจหวัง! (เดี๋ยวรีวิวจะตามมารอนิด บางตัวใช้อยู่ บางตัวทำรูป และเขียนอยู่ค่ะ ฮ่าาา)

กลับมาที่น้อง Lancôme Blanc Expert Double Essence น้องบำรุง 2 หัวที่ได้ฟรี และคุ้มมากใช้ทาทั้งเช้า - เย็น พกเที่ยวได้สบายใครขี้เกรียจมากสิ่ง แนะนำ!
เค้าเป็นเอสเซ้นส์ดูแลผิวที่ครบ บอกเลยว่า ครบจริง ชื่อ Blanc Expert หลายคนคุ้น ๆ เลยว่า Blanc เค้าจะเน้นเรื่อง brightening ช่วยดูแลผิวให้สว่างกระจ่างใส เซรั่มกลางวันอุดมไปด้วยสาหร่ายสีแดงช่วยลดเม็ดสีเมลานิน ดีนะช่วยที่ต้นเหตุการเกิดผิวหมองได้ และยังมีแพลงตอนฝรั่งเศส ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่อ่อนแอโรยราให้มีชีวิตชีวา ลัลล้าสตรอง ๆ และส่วนเซรั่มกลางคืน เค้าเน้นตัว Top ไว้ใจได้เรื่องผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวเตรียมพร้อมรับกสนบำรุงได้อย่างล้ำลึกมากขึ้นคือควินัว ผสมวิตามินซี เสริมออร่าผิวได้ทั้งสาวผิวน้ำผึ้ง ผิวขาว ให้ดูฉดใฉซ่าบซ่ากันไปเล๊ยยย ตัวนี้เค้าถูกจัดว่าเป็นสกินแคร์ตัวท็อปจากแบรนด์นี้เลย เอาเป็นว่าติดไว้ก่อนเดี๋ยวมาจัดเต็มอีกทีน้า แต่ทริปนี้พกไปด้วย กลับมาเราก็ยังใช้ต่อเนื่องจนทุกวันนี้อยู่น้า
7. The 28 Bio Active Water Seal
เจลบำรุงผิวแบรนด์เดียวกับตัวคลีนเซอร์ที่เราได้เกริ่นไปแล้วก่อนหน้านี้ The 28 Bio Active Water Seal ตัวล็อคน้ำให้ผิวที่มาในรูปแบบนาโน เล็กสุดใจดูดซึมได้ดี และบำรุงผิวได้ล้ำลึกกันไปเล๊ย ตัวนี้ A Must เด็ดในเด็ดต้องมี The 28 Bio Active Water Seal เค้ากำเนิดมาสักพักแล้วนะ แต่ทำไมเราพึ่งมาเจอหื้อออ นางเป็นเจลบำรุงผิวอีกตัวที่เราชอบมว้ากกก ด้วยส่วนผสมที่เน้นธรรมชาติ เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย พร้อมสู้ทุกสถานการณ์อีกแล้วจ้ะ เรื่องความชุ่มชื้นนางยืนหนึ่งมาเลย ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก แถมล็อคความชุ่มชื้นยาวนานถึง 72 ชั่วโมง เขาว่างั้นนะ แต่ด้วยความเป็นเนื้อเจลที่ค่อนข้างเบาบาง ไม่หนักผิว ทาแล้วฟินแลนด์สบายผิวมว๊าก ทาปุ๊บซึมปั๊บ ทาก่อนนอนตื่นมาได้ฟีลเหมือนเกราะป้องกันผิวได้รับการฟื้นฟูระหว่างหลับ และปลอบประโลมผิวอ่อนแอ ขี้แพ้ด้วย ทาตอนเช้าก่อนออกไปลุยอากาศเย็น ๆ หนาว ๆ ฝน ๆ หมอก ๆ หรือช่วงบ่ายร้อนหน่อย ๆ ผิวรอดนะ ตัวนี้อีกหนึ่งไอเทมที่แนะนำมากว่ามีเหอะ เพราะทริปดานังเราทั้งขึ้นเขา ไปทะเลบลา ๆ เจอหลากหลายอากาศมาก แล้วปกติแค่เจอหนาว ๆ เย็น ๆ ผิวหน้าก็ลอกขุยขาว ๆ แล้วนะ แต่งหน้าต่อทีคือน่าเกลียดอ่ะยูว์ แต่ทริปดานังทริปนี้คือรอดมากเรื่องผิวขาดน้ำ ตัวนี้เค้าช่วยได้ดีไม่มีกั๊กเลยนะจ๊ะ ซีลผิวให้อิ่มน้ำตลอดเวย์ ระหว่างวันถ่ายรูปผิวก็ยังนวลผ่อง เอาจริงผิวดีบางทีรองพื้นก็ส่วนนึ่ง แต่บำรุงอ่ะก็สำคัญมากนะบอกเล่อ

ปอลอ ตัวนี้คุณแม่ชอบมากกก เพราะทริปนี้พาคุณแม่เที่ยวด้วย และหม่อมก็ไม่พกสกินแคร์ไรมาเลยจร้า เพราะคงรู้ว่าเรานั้นพกแทนให้แล้ว คุณแม่เอ่ยปากขอยึดกระปุกนี้เลยได้มั้ย แม่ชอบมว๊ากกก ใช้ดีจริงผิวนุ่มเด้ง สรุปกลับไทยต้องไปสอยใหม่ให้คุณแม่เลยเน้ออออ ><
8. Lancôme UV Expert Youth Shield Tone Up Milk Ultimate Multi Protection SPF 50+ PA++++
ลืมอะไรลืมได้ แต่ลืมกันแดด ไม่ด้ายยยยย!! เพราะคือจุดสกัดความหมองคล้ำ และทุกปัญหาผิวที่มีเลยก็ว่าได้ มีหลายตัวแต่มาจบที่ตัวใหม่ในกรุอีกแล้วจ้ะ กับกันแดดที่เกิดมาเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผิว สูตรที่เราเลือกมาคือ ตัวที่เข้ากับผิวอมชมพูแบบเรา เนื้อครีมคล้ายเนื้อมูสเกลี่ยง่าย เหมือนใส่ฟิลเตอร์เบลอผิวให้เรียบเนียน ดูกระจ่างใส เป็นตัวจบสกินแคร์ เพื่อให้พร้อมแต่งหน้าในขั้นตอนถัดไป แดดแรงแค่ไหนก็ป้องกันได้ดีไม่มีหน้าหมองระหว่างวัน ช่วยกันทั้ง UVA UVB พร้อม SPF 50+ PA++++ และต้านมลภาวะ ซึ่งตอบโจทย์สาวออฟฟิศใจกลางเมือง และชอบตะลุยเที่ยว ๆ ๆ ๆ แบบเรามว้ากกก

เน้นอีกทีว่าเนื้อแสนดี เป็นมิตรต่อเมคอัพ ใช้ลงแทนเบสปรับสภาพผิวไปเลยในตัวก็ย่อมได้ ผิวใส ๆ งานอมชมพูก็มา เนื้อดีไม่หนาเหนอะ เที่ยวหนัก ๆ เจอเหงื่อก็ไม่วอก ไม่ขาวลอยเป็นผีไม่มีศาล

ที่สำคัญทริปนี้ขึ้นเขา ลงทะเล เดินเซที่ตลาดพื้นเมืองหน้าไม่ดำคล้ำเลยสักนิสสสสส แต่ผิวตัวนี่ดิ ลืมเอากันแดดตัวไป แล้วชะล่าใจแรง ๆ ว่ามันไม่ร้อน หมอกลง แดดไม่มากไม่ทาก็ได้ แขนยาวก็ใส่ ฮึ ๆ สรูปไม่รอดนะเด้อ ผิวตัวคือคล้ำขึ้นจนคนอื่นทัก เราเองก็เซ็งหนัก ๆ เพราะมันเรื่องจริง พิสูจน์ได้จากรอยนาฟิกาที่ข้อมือ ขาวเชียวตรงที่ใส่นากาอ่ะ แขนมือคือผิวคนละโทนเลยจร้าาาา วัดกะหน้าแล้วผิวหน้านี่สดใส ผ่องแผ่ว เฮ้อออ! ตอนนี้กำลังฟื้นผิวตัว ดีมั้ย ไอเทมไหนเด็ด เดี๋ยวมาแจ้งรอหน่อย ๆ ใช้เวลาเป็นเดือน ๆ โขอยู่จ๊ะ นี่ล่ะบทเรียนแสนแพง ไม่ทากันแดดล่ะรู้เรื่อง :TTT^TTT:
9. Lululun 7 Days Mask Deep Moistureizer & Anti-Aging
มาสก์หน้า สูตร Moistureizer & Anti-Aging เข้มข้นจาก Lululun ที่มีให้มาส์กถึง 7 แผ่นมาสก์รัว ๆ 7 วันติดได้เลยเก๋ ๆ เหมาะกับสาวน้อยผู้ขยันบำรุงผิวแบบเรา (หราาา) เหมาะมาก ๆ ที่จะพกติดตัวไประหว่างเดินทาง ที่เลือกสูตร  Moistureizer & Anti-Aging มานั้น เนื่องจากในกรุที่จัดมามีแต่กลุ่มช่วยผิวกระจ่างใสวิ้ง ๆ และตัวเติมน้ำให้ผิวทั้งนั้นเลย กลัวผิวเหี่ยวอ่ะ นั่งเครื่อง ลงเครื่อ ขึ้นกระเช้าไป ๆ กลับ เขา และพื้นดินบ่อย ๆ กลัวหน้าเหี่ยวไม่ทนแรงโน้มถ่วง เลยจัดมาส์กสูตรนี้มาดีกว่า เป็นแบรนด์ลุกรักที่ใช้บ่อยจะครบทุกสตรแล้วมั้งงง ใช้ดีนะ ชอบมากกกก คุ้มด้วย 1xx ต้น ๆ เลยตกต่อแผ่นไม่แพง เห็นผลดีในหลากหลายสูตรทีใช้มา ส่วนเจ้าตัวนี้แค่คืนเดียวก็รู้เรื่อง! ผิวนุ่มชุ่มชื้น แถมอิ่มฟูเว่อร์ ยิ่งไปไปนาน ๆ ติดต่อกันพวกร่องตามผิว ผิวอ่อนแอ หรือแห้งลอกจะรู้สึกเลยว่า ผิวชุ่มชื้น และยืดหยุ่นมากขึ้นจริง ๆ ถ้าตัดสินใจเลือกสูตรไม่ถูก ก็จัดสูตรนี้เลยจ้ะ ควรค่าแก่การใส่ลงกระเป๋าเดินทางมว้ากกก

อันนี้เราไปทริปไม่ถึง 7 คืนเลยตัดสินใจมาส์กเช้า - เย็น สวย ๆ รวยมาส์กหน้ากันไปจร้าาาาา

ผิวหน้าจัดเต็ม ๆ จบไปแล้ว มาผิวกายกันบ้าง

ดูแลผิวหน้า แล้วต้องมาต่อกันที่ดูแลผิวกายจ้ะ! เราเลือกที่จะพา "ฉัน" [SHAN] ไป ไม่ได้กวนแต่อย่างใด แต่แบรนด์นางชื่อ SHAN Organic ได้ความออร์แกนิคฟินไปกับธรรมชาติ ณ ดานัง กลิ่นของแบรนด์นี้แบบว่าละมุนณีดีต่อใจ ชนิดที่หาใครเปรียบยากมาก ไม่เว่อร์นะ ไปลองดม ๆ กันเอาเองเลยจ้ะแล้วลองวัดว่าถูกใจแค่ไหน แบรนด์นี้เราใช้จริงจังมาก ใช้จากไทยจนอยากพกไปใช้ด้วยทุกที่

เหตุผลที่ต้องเตรีมครีมอาบน้ำ และสารพัดการดูแลผิวตัว เพราะเหตุผลเดิม ๆ ที่ไม่มีผลิตภัณฑ์โรงแรมไหนที่ตอบโจทย์เราได้เลยจริง พกก็ได้ แม่ไม่ว่าเพราะน้ำหนักเหลือ ๆ อิอิ ที่สำคัญแฟนเป็นคนหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ของเราแทนให้ทุกครั้งเน้อ
(มีความอวดดดด อิอิ ^^)
10. SHAN Body Wash : Simply Relax และ Happiness
สบู่เหลวอาบน้ำที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่สบู่ แต่ด้วยส่วนผสมความออร์แกนิคของนางที่ใส่มาเป็นตัวบำรุงระหว่างอาบน้ำด้วยอย่าง น้ำมันออร์แกนิคอาร์แกน น้ำมันอะโวคาโดช่วยทำให้ผิวได้ความชุ่มชื้น ฟื้นความโทรมและป้องกันผิวไม่ให้แห้งตึง รวมไปถึงเรื่องริ้วรอย ถึงจะมีส่วนผสมจากออยล์แต่ล้างออกง่าย แถมสบายผิวไปอีกกก Simply Relax กลิ่น "ฉัน" ผ่อนคลาย จะออกหอมละมุนจากดอกจัสมินผสมเปลือกส้มช่วยให้ผ่อนคลายสบายอารมณ์ทุกครั้งที่ได้อาบ ส่วน Happiness กลิ่น "ฉัน" ร่าเริง จะออกแนวละมุน แต่เพิ่มความรู้สึกสนุก และกระปรี้กระเปร่าจากกุหลาบเจอร์เรเนียม และซิตรัส วันไหนอยากให้ผิวดูมีความตื่น และร่าเริงหน่อย ๆ ก็จะหยิบตัวนี้นี่ล่ะ

ทริคการเลือกใช้ครีมอาบน้ำ "ฉัน" ให้ตอบโจทย์ และฟื้นฟูอารมณ์ของเราคือ:
เช้าใช้ "ฉัน" ร่าเริง (ถ้าตอนอยู่บ้านจะมีขวดใหญ่ของแบรนด์นี้ เราเลือกใช้ "ฉันตื่น" กลิ่นจะมิ้นต์ ๆ เย็น ๆ สดชื่นนนนน~น) แต่ตอนเที่ยวทริปนี้สอย "ฉัน" ร่าเริงมาลอง เพราะยังไม่เคยใช้เลย ได้ฟีลตื่น ๆ กระฉับกระเฉงเสริมอารมณ์รับเช้าวันใหม่ไปอีกแบบ เอามาเที่ยวด้วยนี่รู้สึกกลิ่นยิ่งทำให้ฟิน x2 นะคะ

กลางคืนใช้ "ฉัน" ผ่อนคลาย กลิ่นส้ม ๆ เข้ากันได้ดีกับน้องมะลิที่เค้าทำออกมาได้นวล ๆ หอมสบายทุกครั้งที่สูดดม ช่วยให้ผ่อนคลายสมชื่อมากจริง เราเลยใช้ก่อนนอนเสมอเลย ใช้มาจะครึ่งปีแล้วมั้ง ซื้อซ้ำ 2 - 3 รอบแล้ว

11. SHAN Balancing Body Oil
ทรีทเม้นต์สำหรับผิวกาย ไม่ต้องพกบำรุงผิวกายไปหลายตัว เพราะมีแค่ตัวนี้ตัวเดียวก็จบ นางเป็นน้ำมันธรรมชาติ 100 % มาจากการรวมตัวของ อาร์แกน โจโจ้บาร์ โรสฮิป เกรปซีด ดอกคำฝอย และสวีทอัลมอนด์ อย่าแปลกใจที่ขวดใหญ่ราคาค่อนข้างสูง เพราะดูแค่ส่วนผสมหลักแค่นี้ เราก็หายสงสัยละว่าทำไม คือนางอัดแต่อาหารผิวดี ๆ มาให้เต็มขวด และตรง ๆ เลยนะใช้ได้นานมาก ทาครั้งนึง ตื่นมารู้สึกเลยว่าผิวได้ฟื้นฟูจริง ๆ ทั้งเรื่องความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิว ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ยิ่งลูบ ยิ่งนวดยิ่งผ่อนคลาย ทั้งสัมผัส และกลิ่นหอมละมุ๊นนน ละมุนสไตล์ธรรมชาติ แถมยังซึมง่าย ไม่เหนอะผิวเลยด้วย และเรื่องกลิ่นหอม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มว๊ากดีต่อใจ เค้าใช้กลิ่นที่เราชอบทั้งนั้นเลย Orange, Rosewood, Sandalwood แต่ละกลิ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะมาก ๆ รวม ๆ กันแล้วนัว ๆ เหมือนเจออาหารที่รสชาติกลมกล่อมอ่ะจร้า ฟีลนั้นเลย

12. SHAN Keep Calm Aromatherapy Hand Cream
แฮนด์ครีมบำรุงฝ่ามือให้นุ่มนิ่ม ที่สาวเลิฟออร์แกนิคควรมี เพราะนางใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติสูงถึง 99% สูตรที่เราเลือกมาเป็น Keep Calm หรือกลิ่นฉันสงบ ทาเพลิน ๆ ดม ฟิน ๆ จากกลิ่นเกรปฟรุต ผสมดอกจัสมิน และเปลือกส้ม มีส่วนผสมบำรุงตัวเด็ดจากน้ำมันรำข้าว อโวคาโด และเชียร์บัตเตอร์ ให้ความชุ่มชื้นที่ฝ่ามือได้ดีมว้ากกก แต่นางดีที่ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ หรือเยิ้มนะจ๊ะ คุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ไปเลยจ้ะตัวนี้! ใครไม่เคยลองแนะนำมาก ๆ ๆ ๆ ตัวนี้พกติดเป๋าไปด้วยเติมความนุ่มชุ่มชิ้นได้ในอากาศเย็น หนาว ๆ ที่บนเขาที่เราเดินเที่ยว ทามือ ลามไปยันแขน กลางคืนก่อนนอนใช้แทนโลชั่นทาหลังจากออยล์ได้อีก คุ้มดีนะ!

งานผมเราก็ต้องมานะ หัวจรดเท้าจริง ๆ ทริปนี้ ไอเทมของเราที่มาแนะนำ

ไปหลายวันก็ต้องเตรียมตัวช่วยบำรุงผมด้วยอะเนอะ แม้ว่าตามโรงแรมที่เราพักเค้าจะมีให้ทุกที่ก็ตาม แต่ไม่เคยปลื้มใจเล๊ยยย พูดตรง ๆ โรงแรมกี่ดาว เราใช้สระแล้วก็….เอิ่มหัวฟ่องมว๊ากกก กระด้างแถมให้ด้วยจ้ะเลยต้องเตรียมไปเองอุ่นใจชัวร์ป้าบ ๆ และแน่นอนว่า ขอจบด้วยไอเทมเส้นผมสายออร์แกนิคเช่นเดิม กับแบรนด์ Kaff&Co. แบรนด์ไทยที่ใจเราปลื้มปริ่ม ตั้งแต่แพคเกจ รวมถึงสรรพคุณด้วยนี่ฟินแลนด์แดนสยามเล้ยยย
13. Kaff&Co. Ginger Rhizome & Kaffir Lime Shampoo
ใครไปออกกิจกรรมหนัก ๆ แล้วหนังศีรษะมีเหงื่อ หัวมันง่าย แนว ๆ ว่าขี้ร้อน น้องเหงื่อชอบถามหา ต้องลองกับ แชมพูจากเหง้าขิง และน้ำมันมะกรูดสกัดเย็น ทำความสะอาดพวกสิ่งสกปรก ความมัน ออกจากเส้นผม และหนังศีรษะได้ดี โดยที่ไม่ทำให้สมดุลเสีย แถมเขาว่าช่วยเรื่องป้องกันผมหลุดร่วงง่าย ลดอาการอักเสบบนหนังศีรษะ แถมยังลดโอกาสเส้นผมหงอกก่อนวัยข้อนี้คือดีย์นะ เรานี่เลือกป้องกันก่อนเลย หงอกแล้วดูอาจุมม่าแน่ ๆ กลัว >”< เวลาใช้ฟองอาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ ด้วยความที่นางเป็นสารสกัดจากธรรมชาติด้วยอะเนอะ สรรพคุณต่าง ๆ มั่นใจในผลลัพธ์ดี ๆ ที่ได้มาก เพราะตัวนี้ใช้ตอนอยู่ไทยมาก่อนสักพักแล้ว พอต้องไปแอ่วไหน ๆ ก็สอยเซ็ทพกพามา ใครไม่ลองต้องลองสัมผัสได้ว่านางธรรมชาติเว่อร์ และไม่ทำร้ายเส้นผมกับหนังศีรษะ ใช้เคมีมาเยอะ บำบัดหนังศีรษะกันมั่งเต๊อะ เราแนะนำ
14. Kaff&Co. Aloe Vera Nourishing Conditioner
ครีมนวดผมที่มีส่วนผสมจากว่านหางจระเข้ เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม และหนังศีรษะ เขาว่าช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น ฟื้นผิวอ่อนแอให้แข็งแรง เราว่าเขาช่วยให้ผมนุ่มลื่น และมีน้ำหนักมากขึ้นด้วยเน้อออ แต่ผมไม่ดูลีบแบนติดหนังหัวเหมือนคนเอาน้ำมันมาลูบหัวนะจ๊ะ บอกเลยว่า ดี มีความธรรมชาติสูงมาก คนขี้แพ้ใช้ได้ ใครที่ศีรษะแห้ง หรือมีรังแค แนะนำมาก ๆ ๆๆ ปกติตัวอื่นจะใช้เวลาหลายนาที แต่เจ้าตัวนี้แค่ 1 - 3 นาทีหมักไว้ตามสะดวกก็เอาอยู่แล้วจร้าาา สะดวก แถมช่วยให้ผมสวย สู้แดด ลม ฝน บนยอดเขาที่ดานังมาก ๆๆๆ จ้ะแม่!
15. Kaff&Co. Ginger Rhizome & Kaffir Lime Scalp Treatment
ทรีทเม้นต์เข้มข้น ด้วยสารสกัดจากเหง้าขิง และน้ำมันมะกรูดสกัดเย็น ใครที่หนังศีรษะมันง่ายมาก หรือกลัวเส้นผมหลุดร่วงเยอะ แนะนำเลยจ้ะ ตัวนี้ใช้แล้วค่อนข้างเห็นผลนะ ในเรื่องของการกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม แต่ต้องใช้ต่อเนื่องกันนะ ใช้ 1 - 2 ครั้งอาจจะยังไม่เห็นผลจ้า ก็สไตล์ธรรมชาติอะ แต่ที่รู้สึกตั้งแต่ครั้งแรก ๆ เลยคือ เหมือนนางไปช่วยปรับสมดุลเส้นผมและหนังศีรษะทำให้มันน้อยลง แต่ผิวที่บอบบางมาก หรือแพ้ง่าย ไม่ควรเจอแดดแรง ๆ หลังจากพึ่งทาประมาณ 2 ชั่วโมงเนอะ เอ่ออีกอย่างเลยชอบกลิ่นมากกกกกกกกกกกกกกกกก กอไก้ล้าน ๆๆๆ ตัว ให้เห็นภาพว่าชอบจริง กลิ่นขิง ๆ + มะกรูด ใครจะรู้ว่าดี ว่าผ่อนคลายกว่าที่คิด บางวันเราใช้ก่อนนอน ก็แอบสูดดมน้องเค้าให้ผ่อนคลาย ช่วยได้จริง ๆ ลองกันดูน้า

ยาวนิด แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้สาว ๆ ได้ตัดสินใจเลือกหยิบของคู่ใจพกไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นน้าาา ไว้ครั้งหน้าจะหยิบอะไรมารีวิว อย่าลืมติดตามกันน้าาา จะได้ไม่พลาดรีวิวเด็ด ๆ กันจร้าาา!!!

รวมรูปที่การันตีได้ว่าไอเทมที่เราคัด แล้วคัดอีกไปด้วยกันในทริปดานังนี้ ช่วยได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าจริง ๆ จร้า เขาก็ขึ้น ทะเลก็ไป ลมแรง ฝนตก แดดออก รอดหมด ถ่ายรูปออกมาได้สวยงาม ผมยังอยู่ทรง ไม่ฟูฟ่อง ผิวหน้ายังดีเป๊ะ ไม่แห้งลอกขุย ผิวกายก็รอดด้วย เริ่ดมากจริงไม่จกตาน้า

Camera Mentioned:
Product: Sony A5100
View: Huawei p20 pro

?กด​ VDO ชมน้องผีเสื้อ​? และฟังเพลงเบา​ ๆ​ กันได้น้าา... เดี๋ยวจะมาพาเที่ยวกันรอบหน้าจร้าาา​ ???


Up to Me Review

Up to Me Review

เราคือนักช้อปตัวยง และผู้ใช้ชีวิตแบบตามใจตัวเองของแท้
เพราะการทำงานมันเครียด ชีวิตเลยต้องมีรีวิวให้เป็นทางออกไงล่ะ
มาติดตามเรื่องราวการแฉ..ทุกไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวเราเองไปด้วยกันได้น้าาา ^^

FULL PROFILE