ศึก Johnny Depp VS Amber Heard ใครกันแน่ที่บอกความจริง ?

30 16
ชาวจีบันสายกอสสิปไม่น่าจะพลาดข่าว พระเอกซุปตาร์รุ่นป๋าอย่าง Johnny Depp ลุกขึ้นมาฟ้องอดีตภรรยาสาวงามหยดย้อยด้วยข้อกล่าวหาว่าหมิ่นประมาท และตั้งค่าเสียหายไว้สูงลิบลิ่วถึงห้าสิบล้านเหรียญ


เราจึงขอนำเสนอ  timeline การหย่าร้างที่ฉาวโฉ่ไปทั่วโลกและนำไปสู่คดีฟ้องร้องครั้งใหม่ ข้อมูลเหล่านี้คงไม่สามารถทำให้ฟันธงได้ว่าใครเป็นผู้ร้ายตัวจริง แต่มันอาจสั่นสะเทือนความรู้สึกของใครหลายคน ใครกันนะที่เป็นฝ่ายโกหก?  


ข้อตกลงการหย่าและค่าเลี้ยงดู



แม้จะไม่ได้มีการประกาศว่าข้อตกลงในการจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับ Amber Heard มีอะไรบ้างนั้น คุณสามารถเดาได้ง่ายๆว่า หนึ่งในข้อตกลงนั้นคือการถอนคำพูดว่าถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกาย จะเห็นได้ชัดจากแถลงการณ์ร่วมหลังจากที่ตกลงรับค่าเลี้ยงดู หลังจากที่เธอระบุว่าหวาดกลัวว่าถูกทำร้ายถึงชีวิต

" พวกเราเคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกล้ำดูดดื่มแต่ตอนนี้มันจืดจางหายไป แต่เรามีความรักให้กันเสมอ"

ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยจุดประสงค์เรียกร้องเงิน ไม่เคยมีการทำร้ายร่างกายและสร้างความเสียหายทางจิตใจด้วยเจตนาใดๆ ทั้งนั้น

Amber หวังไว้ว่า Johnny จะมีชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคต Amber จะบริจาคเงินที่ได้รับจากการหย่าร้างทั้งหมดให้กับการกุศล และจะไม่มีแถลงการณ์ใดๆ ต่อจากนี้อีก"



Fact - Amber บริจาคเงิน 7 ล้านเหรียญให้กับการกุศลเมื่อปีที่แล้วค่ะ



และการเปิดตัวในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิหญิงและต่อต้านการใช้ความรุนแรงก็ได้เริ่มต้นขึ้น ตามที่เราคาดเดาไว้นั้น Amber ไม่สามารถระบุชื่ออย่างตรงไปตรงมาว่าถูก Johnny ทำร้ายร่างกาย แต่ผลงานการเขียนคอลัมน์ในสื่อดังก็ได้สื่อความหมายอย่างชัดแจ้งว่าได้ไป "เกี่ยวข้อง" กับเรื่องการใช้ความรุนแรงในครอบครัว หลังจากนั้นก็มีคนเตือนเธอไว้ว่าจะถูกอิทธิพลมืด (จากใครบางคน) กีดกันเธอออกจากวงการ และเธอก็ถูกปลดจากบทหนังทั้งยังถูกขู่ฆ่า!  และมันก็ทำให้เธอต้องต่อสู้กับสังคมที่ปกป้องผู้ชายที่ถูกกล่าวหาเรื่องใช้ความรุนแรง


เธออาจจะไม่ได้เอ่ยชื่ออดีตสามีเลยสักนิด แต่ไม่ว่าใครที่อ่านบทความของเธอก็รู้สึกได้ว่านี่คือคำกล่าวหาใหม่ว่า Johnny ได้ใช้อิทธิพลตามกลั่นแกล้งบีบให้ Amber หมดอนาคตใน Hollywood นั่นเอง


Fact - Amber คว้าบทหนังออสการ์อย่าง The Danish Girl และบท Mera แห่ง Aquaman บทนำจากหนังฟอร์มยักษ์เรื่องแรกในชีวิตนักแสดงของเธอตอนที่ยังมีสถานะเป็นภรรยาของ Johnny

ช่วงต้นปี 2016 ที่มีข่าวหลุดออกมาว่าค่ายหนังได้ทาบทามให้ Amber มาทดสอบบทนี้ก็มีเสียงวิพากษ์จากชาวเน็ทจำนวนหนึ่งว่า เพียงเพราะเธอแต่งงานกับพระเอก A List ก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะได้รับโอกาสที่ดีกว่านักแสดงคนอื่นที่เหมาะสมกับบทดังๆ แม้แต่คนที่ไม่ได้มีอคติต่อตัวเธอก็คงจะรับรู้มาตลอดอยู่แล้วว่า ความสามารถเรื่อง acting นั้นไม่ใช่จุดเด่นของ Amber เลย แม้เธอจะเข้าวงการมาแล้วสิบกว่าปีแต่ก็ยังไม่มีหนังเรื่องใดที่น่าจดจำ ตอนแรกที่ประกาศยืนยันเรื่องการคว้าบท Mera มีกระแสไม่เห็นด้วยออกมาพอสมควร เสียงแย้งเรื่องบทนี้มาจากความไม่แน่ใจเรื่องทักษะการแสดงของเธอมากกว่า ขอยกตัวอย่างคำวิจารณ์จาก blog theicon.com ประกอบเพื่อให้เห็นภาพกันชัด ๆ

"Heard ถูกวิจารณ์เรื่องความสวยที่ครบเครื่องแต่ขาดพรสวรรค์เรื่องการแสดงมาโดยตลอด และน่าเศร้าที่ฉันไม่เห็นว่าการถูกตราหน้าไว้เช่นนี้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงจากการรับบทที่สร้างจาก comic อย่างหนัง Justice League แน่ล่ะ เธอได้เล่นหนังเรื่อง Danish Girl แต่เธอต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้มากกว่าหนังออสการ์เพียงแค่เรื่องเดียวที่จะโชว์ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอมีดีมากกว่าแค่หน้าสวย (และเป็นภรรยาของ Johnny Depp) แต่อย่างน้อยเธอก็จะได้รับค่าตัวแบบอู้ฟู่จาก Warner Bros ล่ะนะ"


ในตอนที่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าถูกสามีทำร้ายร่างกาย Amber ไม่สามารถเลี่ยงข้อติฉินนินทาเรื่องการเลื่อนสถานะทางสังคมจากการแต่งงานกับพระเอกโด่งดังแห่งวงการไปได้ เพราะในช่วงเวลาชีวิตคู่เพียงไม่กี่ปี จากการเล่นบทสมทบที่ไม่มีใครจดจำรวมไปถึงบทนำของหนังเกรดบี เธอก็ได้เล่นหนังที่สร้างมาเชื่อชิงออสการ์ (oscar campaign) และหนังทุนสร้างบิ๊กบึ้มที่คาดหวังรายได้มหาศาลทั่วโลก เธอต้องออกมาแก้ต่างให้ตัวเองว่าสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งบารมีของสามี


ซึ่งทุกวันนี้ เธอกลายเป็นนางเอกที่มีชื่อเสียงโด่งดังกว่าในอดีตมากมายนัก






ชีวิตที่ดำเนินต่อหลังการหย่าร้างที่ฉาวโฉ่



หลังจาก Amber จะเปลี่ยนคำพูดจากถูกทำร้ายมาเป็น "ไม่มีฝ่ายใดพูดโกหก" ชีวิตก็ต้องก้าวต่อไป ชีวิตนักแสดงของเธอดูรุ่งโรจน์ขึ้นมาหลังจากที่ Aquaman ทำรายได้ทั่วโลกไปเกินพันล้านเหรียญ และเริ่มต้นบทบาทของนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรี กล่าวสุนทรพจน์ในอีเวนท์สำคัญที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนพลังหญิงและต่อต้านการใช้ความรุนแรงในครอบครัว

ภาพลักษณ์ของ survivor ผู้ต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมในวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อย และดูเหมือนว่า คำปรามาสเรื่องความสามารถทางการแสดงก็ไม่น่าจะเป็นอุปสรรคต่อการโลดแล่นในวงการมายาอีกต่อไป

หากดูเผินๆ หลายคนอาจคิดว่า Johnny ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากนัก หนัง Pirates of the Caribbean ก็ยังสร้างกำไรได้มากมาย และเขาก็ยังคว้าบทใหญ่ระดับมหาวายร้ายในหนังตระกูล Fantastic Beasts แต่ทว่า ภาพพระเอกสุดเซอร์ขวัญใจมวลชนได้มัวหมองลงไป ชาวเน็ทจำนวนหนึ่งลุกขึ้นมาบอยคอตต์ Fantastic Beasts และโจมตี JK Rowling ที่สนับสนุนให้เขาเล่นบท Grindelwald อย่างเผ็ดร้อน

ตาม blog ข่าวบันเทิง Hollywood ที่เต็มไปด้วยคอมเมนท์ชื่นชมจากแฟนๆ ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นคำพูดดูแคลนเย้นหยันว่าเขาเป็นพระเอกที่ไร้ยางอาย หน้าด้านใช้ power หากินในวงการทั้งๆ ที่เป็นชายชั่วช้าทำร้ายร่างกายผู้หญิง

แม้จะมีแฟนๆ ที่ยืนหยัดเชื่อมั่นคำพูดของพระเอก A List ว่าเขาไม่เคยทำร้ายอดีตภรรยาคนงาม แต่กระแส anti ก็ยังไม่จางหายไปไหน เมื่อใดที่ Amber บอกเล่าถึงประสบการณ์ถูกทำร้ายร่างกาย ผู้ที่ยึดมั่นหลักการที่ "ต้องเชื่อผู้ที่ถูกกระทำไว้ก่อน" ก็โจมตี Johnnyโดยไม่ลังเลใจ เพราะนอกจากคำพูดบอกเล่าแล้ว Amber ได้แสดงหลักฐานเป็นภาพใบหน้าที่มีรอยฟกช้ำรวมไปถึงคลิปแอบถ่ายตอนที่ Johnny ระเบิดอารมณ์ใส่และทำให้คำกล่าวหาของเธอมีน้ำหนักในสายตาคนจำนวนมาก



แต่หลังจากเมื่อมีภาพรอยม่วงช้ำบนใบหน้าของฝ่ายชายถูกปล่อยออกมาในโลกออนไลน์ สังคมมีปฏิกิริยาอย่างไร ?



เมื่อ Johnny Depp  เริ่มเคลื่อนไหว 


หลังจากดำเนินเรื่องหย่าร้างกับนางเอกคนงาม คุณอาจจะมองว่า Johnny มีชีวิตดี๊ดี ขนาด JK Rowling ก็ยังออกปาปกป้อง แล้วยังคว้ารางวัล Favorite Movie Icon จาก People's Choice Award แต่เมื่อเกาะติดข่าวจริงๆ พระเอกหนุ่มใหญ่ต้องพบกับมรสุมชีวิตลูกใหญ่ซัดเข้าไปหลายครั้ง

- มีคดีฟ้องร้องบริษัทจัดการทรัพย์สินว่าทำหน้าที่หละหลวมและผลาญเงินที่เขาหามาได้จนก่อให้เกิดทางการเงิน และถูกโต้กลับว่าที่เป็นความผิดของเขาเองที่ใช้จ่ายแบบไม่บันยะบันยัง และกล่าวหาว่าเขายังติดเงินค่าจ้างบริษัทอยู่เป็นจำนวนมาก

Johnny รวบรวมหลักฐานใหม่มาสู้คดี และในที่สุดก็เจรจาหาข้อตกลงร่วมกันได้ โดยที่มีรายงานว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็พอใจกับข้อตกลงจนไม่ต้องเดินหน้าฟ้องร้องต่อไป ( ส่วนฝ่ายไหนเป็นผู้ต้องจ่ายเงินเพื่อยุติคดี อันนี้เค้าว่าเป็นความลับสุดยอด)

- ฟ้องอดีตทนายที่ทำงานร่วมกันมาสองทศวรรษว่าใช้กลโกงคิดค่าว่าแบ่งเปอร์เซนต์ไปจากรายได้ของเขาเกินกว่าจากข้อระบุในลายลักษณ์สัญญาถึงสามสิบล้านเหรียญ ฝั่งทนายอ้างว่าเป็นข้อตกลงทางคำพูดและอดีตลูกความก็ยอมรับอัตราค่าว่าจ้างด้วยการใช้บริการจาก firm มาตลอดโดยไม่ได้โต้แย้ง และคดีนี้เป็นฝ่ายพระเอกที่เป็นผู้ชนะ ศาลตัดสินให้ "สัญญาปากเปล่า"นี้เป็นโมฆะ

- ถูกอดีตบอดี้การ์ดฟ้องเรื่องทำร้ายร่างกายและโกงค่าจ้าง

- ถูกผู้จัดการฝ่าย location จากหนัง City Of Lies ฟ้องร้องว่าทำร้ายร่างกาย และถูกแฉว่าเสพยากลางกองถ่าย ในที่สุดหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้เข้าฉายในโรง



เมื่อมีคนออกมากล่าวหาเขาเรื่องทำร้ายร่างกายไม่ต่างจากอดีตภรรยา บางคนจึงมั่นใจว่าเขาคือปีศาจในคราบนักแสดงขวัญใจมวลชน และต่อต้านทุกผลงานที่ Johnny มีส่วนร่วมด้วย


หลังจากเก็บตัวไม่พูดถึงข้อกล่าวหาต่างๆ ในที่สุด Johnny ก็เอ่ยปากเล่าความฝั่งตัวเอง



คำอธิบายเรื่องคลิปฉาว

คงยังไม่ลืมคลิปที่มี "บุคคลลึกลับ"  นำมาปล่อยก่อนที่คู่ร้างคนดังจะตกลงเรื่องตัวเลขเงินการหย่าได้นะคะ  มันแสดงภาพของ Johnny ที่เต็มไปด้วยโทสะทำเสียงปึงปัง ในขณะฝ่ายคนตั้งโทรศัพท์อัดคลิปพยายามประนีประนอม  เมื่อรู้ตัวว่าเธอกำลังแอบทำอะไรก็เอาโทรศัพท์ไปโยนไว้ที่อื่น
"เทปที่ถูกปล่อยออกมา เป็นเทปที่ใครบางคนใช้โทรศัพท์ถ่ายไว้ แล้วมันก็ไปปรากฏบน youtube ราวกับเสกได้ สถานที่ในเทปไม่ใช่บ้านที่ L.A. เธอทำเหมือนว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แต่มันเกิดขึ้นตั้งนานก่อนหน้า เป็นวันที่ผมได้รู้ว่าตัวเองได้สูญเงินไปเป็นร้อยๆ ล้าน"

"สิ่งที่ทำร้ายจิตใจผมก็คือ การที่ต้องมาถูกตราหน้าว่าเป็นไอ้คนที่ไม่ใกล้เคียงกับผมเลยสักนิด การทำร้ายคนที่เรารักงั้นเหรอ ตามกลั่นแกล้งรังควานกันเนี่ยนะ ไม่ได้ฟังเหมือนตัวผมเลยสักนิด ก่อนนี้ผมก็ได้แต่ปิดปากเงียบ ผมรู้ดีแก่ใจว่าภาพแย่ๆ นี้มันจะติดตัวผมไปและมันจะยิ่งเตลิดเปิดเปิงไปยกใหญ่ และผมไม่ได้ไปร่วมแข่งใส่ร้ายป้ายสีกับใคร ผมจะพูดในสิ่งที่ผมจำเป็นต้องพูด และทนายของผมจะจัดการเรื่องทั้งหมดเอง ผมไม่เคยออกไปป่าวประกาศกล่าวหาใครเลย"



ความเห็นต่อรอยช้ำที่สร้างความกังขาของ Amber

"หลังจากที่เกิดเรื่อง เธอก็ยังไป party อยู่เลย ตาของเธอไม่ได้บวมจนปิด เธอเอาเส้นผมมาบังตานะ แต่คุณจะเห็นได้ว่าตาเธอไม่ได้บวมปิด ผมยืนห่างเธอตั้ง 25 ฟุต แล้วผมจะไปทำร้ายเธอยังไง การทำร้ายเธอคงเป็นสิ่งสุดท้ายในโลกที่ผมสามารถทำได้ ผมอาจจะดูโง่ แต่ผมไม่ได้โง่บรมแบบนั้นนะ"


"ที่จริงแล้วเราไม่น่าจะพูดถึงประเด็นนี้ แต่ผมมีความกังวลนะ ผมยังกังวลกับคนที่เชื่อเรื่องพวกนี้ ผมกังวลเรื่องเธอ มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลย ผมจะไม่หยุดต่อสู้ ไม่มีวัน   พวกเขาต้องมายิงกันให้ตายกันไปข้างจึงจะหยุดผมได้ เรื่องพรรค์นี้มันต้องใช้เวลาในการเยียวยา มันคือการไว้อาลัยให้กับคนที่คุณเคยเชื่อว่า...." เขาไม่ได้บรรยายต่อ แต่พวกเราคงเข้าใจว่าหมายถึงอะไร


" แน่ล่ะว่าผมกังวลว่าลูกๆ และครอบครัวจะคิดอย่างไร และที่แย่ไปกว่า มันได้พรากเอาสิ่งที่สร้างไว้เพื่ออนาคตลูกๆ ไป ผมทำทุกอย่างมาเพื่อลูก เพราะอะไร คนเราจึงได้มาทำกันได้ถึงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่มันไม่ได้มีความจริงแม้แต่น้อย ผมแน่ใจว่าเด็กชายวัยแค่ 14 ไม่ได้รับมือเรื่องนี้ง่ายๆ คุณเข้าใจมั้ย เวลาที่เค้าไปโรงเรียน เวลาที่มีคนเอานิตยสารมาเรียกให้ดูแล้วบอกว่า เฮ้ พ่อแกตบตีผู้หญิงหรอกเรอะ ทำไมลูกชายลูกสาวผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย "







เอกสารทางกฎหมายที่หลุดมาถึงสื่อ


Hollywood Reporter นำหน้าสื่ออื่นด้วยการเผิดเผยข้อมูลจากสำเนาคำให้การของพยานไว้ดังนี้ค่ะ


- Amber ให้การว่าในวันเกิดเหตุ Johnny ได้โยนโทรศัพท์มาที่เธอสุดแรงจนกระแทกหน้าเธอแล้วจิกหัวเธอจนต้องกรีดร้องขอความช่วยเหลือ เขาทิ้งแก้วแตกเกลื่อนกลาดที่พื้น และยังข้าาวของอื่นๆ เสียหาย

- Raquel เพื่อนของ Amber ระบุว่าได้รับข้อความขอความช่วยเหลือจากเพื่อน เธอได้ยินเสียงร้องตะโกนของ Johnny และเมื่อนางเอกสาวบอกเธอว่าถูกปาโทรศัพท์ใส่หน้า เธอก็ได้เห็น Johnny ควงขวดไวน์เดินไปมาแล้วทุบสิ่งของบนเคาน์เตอร์ด้วยขวดนั่นเอง เมื่อการ์ดได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของเขาก็เข้ามาห้ามและขอร้องให้เขาออกไปจากตรงนั้นไป เธอยืนยันว่าเคยเห็นรอยช้ำจากหน้า Amber มาก่อนแล้ว และเคยถ่ายรูปไว้เป็นสิบๆ และรวมไปถึงรอยช้ำจากเหตุการณ์ล่าสุดด้วย

- เจ้าหน้าที่ LAPD สองคนได้เข้ามาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหลังจากได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่หญิงได้ให้ปากคำว่า Amber ไม่ยอมบอกชื่อ กว่าจะรู้ว่าเป็นคนดังก็หลายวันต่อมา เจ้าหน้าที่เห็นว่าเธอร้องไห้อยู่ แต่ไม่เห็นร่องรอยการถูกทำร้ายที่ใบหน้าอย่างรอยเขียวช้ำ อาการบวม หรือสัญญาณใดของความบาดเจ็บที่ใบหน้า เจ้าหน้าที่ไม่พบว่าในบ้านที่แก้วแตกหรือสิ่งของเสียหายเกลื่อนพื้น เมื่อตั้งคำถาม Amber ก็เอาแต่ส่ายหน้าและเธอไม่ต้องการให้ปากคำแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงไม่ติดใจว่ามีการก่อเหตุอาชญากรรมในสถานที่แห่งนั้น

- เจ้าหน้าที่ชายให้การคล้ายคลึงกัน

- Amber ให้การว่า เธอปฏิเสธการร่วมมือให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะทนายแนะนำ ส่วนเพื่อนของเธอก็ให้การยืนยันว่า เจ้าหน้าที่มองเห็นความเสียหายจากแก้วที่แตกบนพื้น และยังบอกพวกเธอว่า หาก Amber แจ้งความ ก็จะไปจับกุมตัวเขาทันที


- เจ้าหน้าที่ทั้งสองให้การปฏิเสธว่าไม่ได้พูดเช่นนั้น


- ทนายของJohnny ตั้งคำถาม Amber ว่า เธอพยายามจะขว้างสิ่งของหรือตบตี Johnny หรือไม่ คำตอบของเธอคือ ได้พยายามป้องกันตัวจากสามีที่ตัวใหญ่กำยำกว่าอย่างเต็มที่


- เพื่อฟ้อง The Sun ด้วยข้อหาหมิ่นประมาท (สื่อแทบลอยด์ชื่อดังลงข่าวว่า Johnny เป็นชายที่ชอบทุบตีเมีย) พระเอกหนุ่มใหญ่ได้ระบุว่า อดีตภรรยาเคยแสดงออกถึงความรุนแรง เธอชกเขาที่หน้าสองครั้งในเดือนเมษายนปี 2016 เพราะไม่พอใจที่เขามาถึงงานฉลองวันเกิดของเธอสาย ตอนที่เขากลับไปเอาของที่เพนเฮาส์ก็ต้องให้การ์ดเข้าไปด้วยเพราะไม่ไว้ใจว่าเธออาจจะทำอะไรรุนแรงขึ้นมา


- Johnny บอกว่าโยนโทรศัพท์ไปที่โซฟา และมันไม่ได้ไปถูกตัวของ Amber และเขาก็ไม่ได้แตะต้องเธอแม้แต่น้อย เธอส่งเสียงดังตะคอกใส่เมื่อเห็นเขาเดินไปยังอีกมุมห้อง เมื่อการ์ดเข้ามาถึง เธอก็เริ่มร้องห่มร้องไห้ เขายืนยันว่าภาพของแตกหักในเพนเฮาส์และใบหน้าที่มีร่องรอยถูกทำร้ายของ Amber ไม่ได้เกิดจากฝีมือตัวเองแน่นอน ภาพที่ถูกตีพิมพ์ออกมานั้นถูกใช้มาเป็นหลักฐาน แต่ไม่ได้มีการแนบต้นฉบับจริงๆ มาใช้ด้วย



candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE