REVIEW :: Empty Product ใช้หมดแล้ว เม้าท์ได้

53 12
ฮัลโหลลล สวัสดีสาวๆทุกคนค่า วันนี้ข้าวจะมารีวิว Empty Product ใช้หมดแล้ว เม้าส์ได้ เย้! จริงๆอันนี้นี่เป็น EP. 2 ละน้าา คือข้าวเคยทำกระทู้ Empty ไปแล้วกระทู้นึงเมื่อปีที่แล้ว อันนี้ก็นับเป็น EP. 2 แหละเนอะ 555 ตอนนี้คือข้าวก็สะสมขวดเปล่ามาได้มากมายล้นตะกร้า สมควรแก่การมารีวิวอีกรอบมาก (จะได้เอาไปทิ้ง ล้นห้องมาก 555) จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเล้ย
แอบแง้มถุงให้ดูก่อน อันนี้คือแค่ส่วนนึงเท่านั้นนนน มีอีกถุงนึงด้วย ขอบอก 555 ข้าวมีทำกระทู้ไว้เป็นแบบวิดีโอด้วย เผื่อใครขี้เกียจอ่าน เพราะมันเยอะมากจริงๆ แต่ถ้าใครอยากอ่านดูก็เลื่อนต่อได้เล้ย
ข้าวจะไล่ Step ไปตามขั้นตอนในการบำรุงผิวเลยน้า มาเริ่มจากคลีนซิ่งก่อนเลย
Garnier Micellar Oil-Infused Cleansing Water
ตัวแรกเป็น Cleansing Water จาก Garnier คือตัว Cleansing เขาจะมี 2 เนื้อ เป็นน้ำ Micella ใสๆ กับน้ำมัน เวลาใช้ต้องเขย่าให้เข้ากันก่อน เช็ดได้สะอาดมากกก เช็ดสะอาดยันตาเลยอะ พูดเลย เช็ดเสร็จแล้วหน้าไม่ได้มันอะไรเลยนะ เผื่อคนจะกลัวเป็น เป็นน้ำมัน เช็ดแล้วจะมันหรือเปล่า ไม่มันเลยเด้อออ แต่หลังเช็ดผิวจะไม่แห้ง เหมือนมีน้ำมันอยู่บนผิวเบาๆ แต่ขอย้ำว่ามันไม่ได้มันเลยยย ราคาก็ถูกมวากก 300 กว่าบาทเองมั้ง เริ่ดมาก
1028 Visual Therapy Hydrating Eye and Lip Makeup Cleanser
ถัดมาเป็น point makeup remover จากแบรนด์ 1028 เอาจริงถึงข้าวจะบอกว่าคลีนซิ่งของ Garnier เช็ดตาได้ แต่ปกติข้าวก็ใช้ point makeup remover แยกตลอด รู้สึกแบบ ชัวร์กว่า ไรงี้ ตัวนี้คือล้างสะอาดมากกก เอาแปะตาไว้สักพักละรูดออก คือเอามาสคาร่าออกมาเป็นเส้นๆเลย สะอาดดีงาม ไม่แสบตาด้วย ราคาขวดละ 300 บาท
The Body Shop Camomile Waterproof Eye & Lip Make Up Remover
ตัวถัดมาก็เป็น point makeup remover เหมือนกัน ตัวนี้จากแบรนด์ The Body Shop ซึ่งมันก็จะมี 2 เนื้อแยกชั้นกัน อารมณ์เหมือนที่เช็ดตาตัวอื่นๆอะแหละ แต่ด้วยความที่เนื้อ 2 ชั้นมันสีเหมือนกันม้าก ตอนแรกข้าวเลยคิดว่ามันมีเนื้อเดียว ตอนใช้แรกๆเลยไม่ได้เขย่าเลย ซึ่งผลก็คือ เช็ดไม่ออก… แรกๆเคืองมากกก ทำไมมันเช็ดไม่อ๊อกกก ละจู่ๆวันนึงก็สังเกตุเห็นเองว่า อ้าว มันมี 2 เนื้อ ต้องเขย่าก่อน โง่เอ๊งงง 555 (ควรเห็นตั้งแต่แรกละมะ 555) พอเขย่าให้เข้ากันก่อนใช้แล้ว นางก็ดีเฉ๊ย ดีม้ากกก ดีเหมือนตัวเมื่อกี้อะ เช็ดสะอาดหมดจดมากเว่อร์ เข้าตาก็ไม่แสบ ไม่ค่อยได้ยินใครพูดถึงตัวนี้ แต่นางดีจริง ควรลอง
The Body Shop Aloe Calming Cream Cleanser
ตัวถัดมาเป็นคลีนซิ่งครีมจาก The Body Shop ตัวนี้เป็นตัวที่แบบ แอบดีใจที่มันหมดซะที 5555 คือเนื้อนางจะเป็นครีมข้นๆเลย บีบออกมานวดๆทั่วหน้า อารมณ์คล้ายๆออยแหละ แต่เป็นครีม แต่คืออออ นางล้างไม่ค่อยสะอาดอะ กลิ่นก็แปลกๆ โดนปากก็แสบ เข้าตาก็เจ็บ ไร้ซึ่งความอ่อนโยนสิ้นดี แต่ก็ทนใช้เพราะเสียดายจ้า งก
Three Balancing Cleansing Oil
ตัวสุดท้ายในหมวดคลีนซิ่งแล้วว ตัวนี้คือดีแบบ ต้องกราบบบบอะ เป็นออยที่แบบล้างเครื่องสำอางได้สะอาดหมดจดดีม้ากกก เนื้อดี กลิ่นหอม นวดแล้วสบายผ่อนคลายอโรม่ามากเว่อร์ แถมล้างแล้วหน้านุ่มนิ่มมากกก ไม่แห้งตึงเลย ติดแต่ราคาแพงไปนิด ราคาเต็มคือ 1800 บาท แต่ขวดนึงคือใช้ได้นานอยู่นะ
Dove Inner Glow Self-Foaming Cleanser
ตัวถัดไปเป็นโฟมล้างหน้าจากโดฟฟฟ ซื้อมาเพราะเป็นคนที่ชอบโฟมล้างหน้าที่ปั๊มออกมาแล้วเป็นฟองเลย ขี้เกียจตีเอง 555 ตัวนี้กลิ่นหอมดี ฟองก็นุ่ม ล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง….จำได้แค่นี้แฮะ 555 เหมือนเป็นโฟมที่แบบไม่ดีไม่แย่อะ
Theyers Witch Hazel Toner สูตร Rose Petal 
ถัดมา เข้าสู่หมวดโทนเนอร์กันบ้าง ตัวนี้ซื้อมาเพราะเห็นคนพูดถึงในเนตเยอะมากกก จนต้องไปหาร้านพรี 555 ตัวนี้เป็นแบบ โทนเนอร์ออแกนิค ไม่ผสมสารกันเสีย แอลกอฮอล์ พาราเบน อะไรต่างๆ เพราะงั้นเปิดแล้วคือต้องรีบใช้ให้หมด นางมีความอ่อนโยนมั่ก แถมกลิ่นหอมม้ากกก ชอบกลิ่นมากก ใช้แล้วรู้สึกช่วยเรื่องสิวอุดตันนิดหน่อย ช่วงที่ใช้รู้สึกสิวอุดตันลดลง หน้าสะอาดขึ้น ให้ความชุ่มชื่นนิดหน่อย ราคาเอาจริงไม่แพงมาก ต้องหาร้านพรีดีๆเด้ออ 555
The Body Shop Vitamin E Hydrating Toner
ตัวถัดมาเป็นโทนเนอร์ที่เนื้อแอบหนืดนิดนึง กลิ่นหอมเหมือนกัน ใช้แล้วให้ความชุ่มชื่นดีมากกก ชอบใช้ช่วงที่หน้าอ่อนแอ และต้องการความชุ่มชื่นอย่างหนักหน่วง แต่ไม่ช่วยเรื่องความสะอาดหรือไรเลย เน้นปรับสภาพผิว เติมความชุ่มชื่น
Aime Facial Cotton
โทนเนอร์เสร็จแล้วขอพูดถึงสำลีบ้างง สำลีที่ข้าวใช้หมดแล้วช่วงนี้มีอยู่ 2 ตัว ตัวแรกก็คือ Aime ตัวนี้ใช้หมดไปเยอะมากกก เพราะเนื้อนุ่ม ราคาถูก ได้เยอะอีกต่างหาก เหมาะกับใช้เช็ดคลีนซึ่งมากก ถ้าใช้กับโทนเนอร์จะแอบเปลือง แต่ถ้าโทนเนอร์ไม่แพง ก็ใช้กับตัวนี้เหมือนกัน 555
Silcot
ตัวนี้เป็นสำลีที่ดีม้ากกก ดีสุดๆ ใครยังไม่ลอง แนะนำให้ลองงงงง เพราะนางเป็นเนื้อฟองน้ำบางๆ ที่บางมากกก ช่วยประหยัดโทนเนอร์แบบสุดๆ แถมเนื้อก็นุ่ม ละมุนผิว แต่เตือนก่อนว่า ตัวนี้เหมาะกับพวกโทนเนอร์หรือเอสเซนส์ต่างๆเท่านั้น ไม่เหมาะกับพวกคลีนซิ่งนะ เพราะใช้นี้ดดดเดียวก็คือชุ่มละ น้องเขาบางและซับน้ำดีมากจริงๆ พอใช้กับตระกูลคลีนซิ่ง พอมันน้อยใช่มะ มันก็จะเช็ดไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ แต่ใช้คู่กับโทนเนอร์คือเริ่ดดด
The Body Shop Drop of Youth Youth Concentrate
มาเข้าสู่การบำรุงผิวอย่างจริงจังบ้างดีกว่า ตัวแรกขอเปิดมาด้วยน้องคนนี้เลยเป็นเซรั่มตัวดังจาก The Body Shop เลย น้องเขาจะเป็นเซรั่มใสๆ เนื้อข้นๆ เวลาใช้ ใช้แค่ไม่กี่หยด ทาให้ทั่วหน้า มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เซรั่มตัวนี้คือให้สัมผัสแปลกมากเวลาใช้ คือพอทาทั่วหน้าแล้ว มันเหมือนเคลือบหน้าให้ตึงเลยอะ ปกติเวลาทาเซรั่มหรือน้ำตบอะไร ทาแล้วก็จะรู้สึกชุ่มชื้น หรือไรงี้ใช่มะ แต่ตัวนี้ทาไปแล้ว พอมันซึมแล้วรู้สึกหน้าตึงๆเลยจ้า คือเขาเคลมว่าจะช่วยลดเลือนริ้วรอยอะไรงี้ แต่ข้าวยังไม่มีริ้วรอยอะไรมาก ใช้แล้วเลยยังไม่เห็นผลเท่าไหร่
Bioderma Hyabio Serum
ต่อไปเป็นเซรั่มจาก Bioderma แค่ฟังชื่อ ดูแพคเกจก็รู้แล้วว่าช่วยเติมน้ำให้ผิวแน่นวลลล เซรั่มตัวนี้จะเป็นเนื้อเจลใสๆกลิ่นหอม ทาไปแล้วซึมง่ายมาก ไม่เหนียวไม่เหนอะไม่มันเลย แต่ช่วยเติมน้ำให้ผิวได้ดีเลย ใช้แล้วรู้สึกผิวชุ่มชื่นตลอดวัน ช่วยเรื่องอาการแห้งลอกได้ดีด้วย แต่เขาเคลมว่าจะเห็นผลเรื่องความขาวกระจ่างใสด้วย แต่ยังไม่เห็นผลในส่วนนี้เด้อ แต่สำหรับเรื่องความชุ่มชื่นคือให้เลย ช่วยเติมความชุ่มชื่นได้แบบไม่ทำให้หน้ามันเล้ย
Oriental Princess Ultimate Renewal Concentrated Serum
ถัดมาเป็นเซรั่มจาก Oriental Princess ตัวนี้เขาเคลมว่าจะช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ เนื้อเซรั่มเป็นเนื้อเจลขาวๆข้นนิดหน่อย ทาแล้วซึมไม่ช้าไม่เร็ว ให้ความชุ่มชื่นได้กลางๆนะ ไม่ได้ให้ความชุ่มชื่นมาก เรื่องริ้วรอยก็คือ ข้าวยังไม่ค่อยมีงะ เลยให้ความเห็นตรงนี้ไม่ได้เท่าไหร่
Clarins Double Serum
ต่อไปเป็นเซรั่มที่ดีแบบ ต้องกราบบบบบอีกตัว คือแบบ มันดีม้าก ทำไมเราเพิ่งเจอกันนน ตัวเซรั่มเวลากดออกมาจะมี 2 เนื้อ คือเซรั่มกับน้ำมัน ก็ถูๆวอร์มๆให้มันเข้ากัน แล้วก็ทาบนหน้า ใช้แล้วหน้าฟูม้ากกกก ฟูกว่านี้ขนมปังแล้วจ้า ยังกะผงฟู ใช้แล้วหน้าอิ่มฟูเด้ง แถมให้ความชุ่มชื่นดีมากกกก ใครหน้าแห้งลอกเป็นขุย คือลองเลย เอาอยู่แน่นอน โครตตตดี ตอนข้าวลองใช้ครั้งแรกคือตอนนั้นหน้าแพ้อยู่ เป็นขุยๆ แห้งมาก จับแล้วสากๆ ทาไปปั๊บ คืนเดียวคือดีขึ้นแบบเกือบหายยย ตะลึงมากก
Kiehl's Pure Vitality Skin Renewing Cream
ถัดไปเป็นครีมทาผิวจาก Kiehl’s ตัวนี้จริงๆเห็นว่าเลิกผลิตไปแล้วอะ ไม่รู้จะเอากลับมามั้ย ส่วนผสมหลักเขาจะเป็นน้ำผึ้งมานูก้า เนื้อครีมแบบแน่นมากกก เวลาใช้ ปาดออกมานิดเดียว แล้ววอร์มๆบนมือให้ละลาย ละก็แปะๆไปบนหน้าได้เลย เนื้อครีมชุ่มชื่นมากกกก ใช้แล้วหน้าแน่นเลย แถมใช้ได้นานมากก เพราะปาดทีละนิดเดียว ให้ความชุ่มชื่นดีมากก
The Body Shop Oils of Life Intensely Revitalising Eye Cream-Gel
ตัวถัดไปเป็น eye cream จาก The Body Shop ตัวนี้ให้ความชุ่มชื่นได้ดีมากกก แถมเนื้อครีมเขาเป็นแบบกึ่งเจลๆ ซึมง่าย แต่งงมาก เนื้อครีมเหมือนมีชิมเมอร์วิ้งๆผสมอยู่ด้วย ทาไปละใต้ตาจะวิ้งๆเล็กน้อย แต่ช่วงที่ใช้อยู่ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องริ้วรอยอะไร เลยไม่รู้ว่าช่วยเรื่องริ้วรอยหรือเปล่า แต่เรื่องแพนด้าอะไรงี้ คือไม่ช่วยเลยยย ตายังดำอยู่เหมือนเดิมมมม
Sulwhasoo Renovating Eye Serum
คือหลังจากใช้ตัว Oil of Life เมื่อกี้หมด ก็ไม่ได้ใช้อายครีมอยู่สักพักนึง แล้วก็เริ่มรู้สึกว่า ริ้วรอยใต้ตามันเริ่มมา เลยแบบ ไม่ได้ละ มองหาอายครีมที่ช่วยลดริ้วรอย แล้วไปเห็นรีวิวว่าตัวนี้เวิร์ค เลยสั่งตัวนี้มาใช้ แต่เป็นขนาดทดลองนะ ใช้หมดไปแล้ว 2 ขวด ใช้ครีมคู่กันด้วย แต่ครีมยังไม่หมดเลย เซรั่มหมดไป 2 ขวดละจ้า 5555 ยังไม่รู้สึกอะไรเลย ก็ชุ่มชื่นดี แต่ยังไม่เห็นผลเรื่องริ้วรอยเท่าไหร่อะ หรือเพราะใช้ไม่ค่อยต่อเนื่อง เพราะบางคืนก็แอบลืมทา แง
The Body Shop Tea Tree Oil
ตัวนี้ข้าวซื้อไว้แต้มสิว ซึ่งงงง ข้าวแต้มสิวมันทุกชนิดเลย ด้วยเจ้าตัวนี้ 555 ซึ่งเอาจริงๆ ข้าวว่ามันไม่ได้เวิร์คกับสิวทุกชนิดอะ มันช่วยได้กับสิวที่แบบปวดๆเจ็บๆ เหมือนกำลังจะอักเสบ หรืออักเสบแล้ว แต้มละยุบ หรือหายไว แต่ถ้าพวกสิวอุดตัน สิวผด คือไม่ช่วยอะไรเลย
Erbatop Sooting Cream
ตัวนี้เป็นครีมทาผิวที่ข้าวได้มาจากร้านขายยา มีช่วงนึงข้าวเหมือนแพ้อะไรสักอย่าง แล้วมีเป็นผดๆผื่นๆขึ้นที่หน้า เลยไปร้านขายยา เขาเลยให้หยุดใช้ครีม แล้วให้ยามาทา แล้วก็ให้ตัวนี้มาทาเพิ่มความชุ่มชื่น น่าจะอ่อนโยน เพราะเภสัชให้มาทาช่วงหน้าพัง 5555 ให้ความชุ่มชื่นได้ดีกว่าที่คิด ช่วงที่ใช้หน้าก็ไม่ได้แห้งไรมาก ทั้งๆที่ไม่ได้ทาอย่างอืื่นเลย น่าจะเหมาะกะผิวแพ้ง่าย แต่ทาแล้วหน้าแอบมัน
L'Oreal UV Perfect City Resist 8 SPF 50+ PA++++ 
ตัวถัดมาเป็นครีมกันแดดซึ่งข้าวชอบมากกกกก คือเนื้อครีมเขาแบบชุ่มชื่นแล้วก็ทาง่ายมากกก เหมาะจะทาในชีวิตประจำวันมากก ข้าวทาแทน Day Cream ไปเลย กันแดดได้ดี แถมมีเคลมว่ากันมลภาวะด้วย ก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย แต่ทาแล้วรู้สึกอุ่นใจดี ใช้หมดไปหลายขวดมากกกก
BK Mask Tea Tree Oil
ถัดมาเป็นตระกูลมาส์กบ้าง ตัวแรกขอพูดถึง BK Mask ก่อนเลย ตัวนี้เป็นมาส์กที่มีส่วนผสมจาก tea tree อะไรงี้ ช่วยเรื่องสิว ช่วยให้สิวแห้ง สิวยุบ ฆ่าเชื้อ บลาๆ ซึ่งข้าวว่านางจะช่วยเรื่องสิวผด สิวอุดตันเม็ดเล็กๆได้ค่อนข้างดีเลย พวกสิวอุดตันเม็ดใหญ่ๆ สิวอักเสบจะเห็นผลช้ากว่า แต่พอกไปแล้วก็คือจะช่วยให้สิวแห้งไวขึ้น
The Body Shop Himalayan Charcoal Purifying Glow Mask 
ถัดมาเป็นมาส์กโคลนจาก The Body Shop ซึ่งในเนื้อโคลนของเขาเนี่ย จะมีพวกใบชาเขียว แล้วก็ผงหินภูเขาไฟอยู่ คือเนื้อจะหยาบๆเลย กลิ่นแบบเย็นๆ อารมณ์มิ้นท์ๆหน่อย มาส์กแล้วก็เย็นหน้ามาก มาส์กตัวนี้แล้วรู้สึกหน้าสะอาดมากกก ดูดสิ่งสกปรกได้ดีมากกก แต่ทำให้หน้าแห้งสุดๆ มาส์กละหน้าตึงเลยยย (ไม่ใช่เพราะโคลนแห้งนะ 55) มาส์กแล้วต้องอัดครีมอัดมาส์กให้ความชุ่มชื่นตาม
Kiehl’s Calendula & Aloe Soothing Hydration Masque 
ตัวต่อไปเป็นมาส์กดอกคาเลนดูลากับอโลเวร่า นางจะช่วยปลอบประโลมผิว คือมาส์กแล้วเย็นฉ่ำผิวมาก เหมาะจะมาส์กวันที่ออกแดด หรือทำอะไรแล้วรู้สึกระคายเคืองผิวมา มาส์กแล้วรู้สึกเย็นๆ ปลอบประโลมดีมาก ล้างออกแล้วผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้นด้วย
Soap&Glory The Scrub of Your Life
มาถึงหมวดบำรุงผิวตัวกันบ้างแล้วจ้าาา อย่างแรกเป็นสครับจาก Soap&Glory ข้าวชอบสครับแบรนด์นี้มากกก ใช้มาหลายรุ่นมาก รุ่นนี้เนื้อสครับเขาจะค่อนข้างละเอียดมากๆ ถ้าเทียบกับพวกรุ่นที่เป็นกระปุกของเขา คือรุ่นที่เป็นกระปุกจะมีเม็ดสครับเกลือ หรือน้ำตาลอะไรงี้ผสมอยู่ใช่มะ แล้วเม็ดสครับก็จะใหญ่ๆหน่อย แต่ตัวนี้เม็ดสครับจะเป็นเม็ดเล็กๆชมพูๆ กลิ่นก็หอมแบบ Signature ของแบรนด์นี้เลยอะ สครับแล้วกลิ่นหอมติดผิวดี ล้างแล้วรู้สึกสะอาด ผิวนุ่มขึ้นนิดนึง แต่รู้สึกไม่นุ่มเท่ารุ่นแบบกระปุกของเขานะ รุ่นกระปุกจะผสมพวกออยมาเยอะกว่า
Snail White Creme Body Wash
ถัดมาเป็นครีมอาบน้ำบ้าง ตัวนี้จากแบรนด์ Snail White คือข้าวชอบครีมอาบน้ำเขานะ เนื้อกลิ่นหอมดี ล้างแล้วตัวไม่แห้งมากด้วย ชอบซื้อเวลาลดราคา ใช้มาหลายกลิ่นมากกก นี่เอาจริงๆถ่ายมาให้ดูแค่ขวดเดียว แต่จริงๆใช้หมดละ 4ขวด++ อะ คือใช้มาแล้วทุกกลิ่น แต่ชอบกลิ่นสีเขียวอันนี้สุดดด
Sanctuary Spa Wet Skin Moisture Miracle
ตัวถัดไป อันนี้คือน่าสนใจมากกก เป็น Wet Skin Moisture จากแบรนด์ Sanctuary Spa คือเนื้อเขาจะเป็นครีมๆ ให้บีบออกมาทาให้ทั่วตัวตอนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วตัวยังเปียกอยู่ เสร็จแล้วก็เอาผ้าเช็ดตัวซับๆออก แล้วผิวจะนุ่มชุ่มชื่นเหมือนทาโลชันเลยยย แต่ว่าไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยชอบทาโลชันหรืออะไรงี้ เพราะมันจะไม่เหนียว ทาง่าย แต่ยังทำให้ผิวชุ่มชื่นอยู่ ดีงามมาก ข้อเสียคือ หมดเร็วไปหน่อย หรือข้าวใช้เปลืองไม่รู้ หมดเร็วมากกกก เหมือนข้าวจะใช้ไม่ถึงเดือนหมด ละคือราคาเต็มหลอดละ 500 ซื้อตอนโปรเท่านั้นจ้าา 555
Sanctuary Spa Air-Whipped Creme Souffle
ต่อไปเป็นครีมจากแบรนด์ Sanctuary Spa คือข้าวอะชอบตัวบัตเตอร์ครีมอีกอันมากๆ พอเห็นอันนี้เลยซื้อมาลอง เนื้อครีมจะนุ่มๆฟูๆโปร่งๆ ละเหมือนมีฟองอากาศแทรกอยู่ด้านใน ไม่ได้เป็นครีมแน่นๆเหมือนอีกรุ่นอะ เนื้อจะเบาละทาง่ายมากก และยังชุ่มชื่นมากเหมือนเดิม แต่กลิ่นเหมือนจะเพี้ยนๆไปจากรุ่นปกตินิดนึง ไม่ค่อยหอมเท่ารุ่นปกติ
Jergens Overnight Repair
ถัดไปเป็นโลชัน Jergens แบรนด์นี้ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่เนอะ ว่าโลชันเขาดีมากก ทาแล้วให้ชุ่มชื่นสุด ช่วงที่ทารู้สึกเหมือนผิวนุ่มขึ้นนิดนึงด้วย กลิ่นก็หอมดี คือข้าวชอบกลิ่นรุ่นนี้มาก กลิ่นจะหอมๆหรูๆ บอกไม่ถูก
Nivea Oil in Lotion
ต่อไปเป็นโลชันจาก Nivea อันนี้ก็คือดีไม่ใช่เล่นเด้อออ โลชั่นรุ่นใหม่จากนีเวีย ที่ผสมออยล์ลงไปด้วย เพื่อผิวนุ่มชื่นชื่น แต่เนื้อบางเบา ซึมง่ายมากก ไม่หนักเลย ราคาถูก และทำให้ผิวชุ่มชื่นจริง ในรูปคือข้าวถ่ายมาให้ดูแค่ขวดเดียว แต่จริงๆใช้หมดทุกกลิ่นที่มีขายละ 5555 แต่ละสูตรเขียนว่าผสมออยล์ต่างกัน เช่นในรูปผสม Macadamia oil อีกสูตรผสม Jojoba oil ไรงี้ แต่ทุกสูตรข้าวว่าคล้ายๆกันหมดนะ ต่างกันแค่กลิ่น ลองไปดมๆกันดู ว่าชอบอันไหน
Daeng Gi Meo Ri Vitalizing Shampoo
มาเข้าสู่หมวดบำรุงผมกันบ้าง ตัวแรกขอพูดถึงแชมพู Daeng Gi Meo Ri เลย คือส่วนใหญ่ข้าวจะใช้แต่แชมพูสระผมที่ช่วยเรื่องผมร่วง ละใครๆก็ว่าตัวดีก็เลยซื้อมาใช้ดู กลิ่นหอมดี หอมแบบสมุนไพรๆ ล้างแล้วหัวไม่เอี๊ยดเกินไป แต่ที่ชอบมากคือ ใช้แล้วหัวไม่มันไวเลยยย ก่อนหน้านี้ข้าวมีปัญหาหัวมันไวมากก แต่ปลายผมแห้งงงง พอเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้แล้ว คือสระผมวันเว้นวันงี้ หัวก็ยังไม่มันอะ รู้สึกหัวสะอาดขึ้น แฮปปี้
Daeng Gi Meo Ri Vitalizing Conditioner
ต่อไปเป็น Conditioner รุ่นเดียวกับแชมพูด้านบน ซึ่งสิ่งที่ข้าวชอบมากในตัวนี้คือ ข้าวรู้สึกว่ามันบำรุงผมจริงๆอะ ถ้าหมักทิ้งไว้นานหน่อย ตอนมาล้างจะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยกองอยู่บนผมแล้ว เหมือนมันซึมเข้าไป แล้วหลังล้างผมก็นุ่มขึ้น คือดี แต่ต้องให้เวลาอะ ต้องหมักไว้แปบนึง ถ้าพอกๆไว้แปบเดียวก็ล้างออก รู้สึกเหมือนมันไม่ค่อยบำรุงเท่าไหร่ (ซึ่งทำบ่อย 555)
Daeng Gi Meo Ri Dlae Soo
ตัวถัดมาเป็น Daeng Gi Meo Ri เหมือนกัน แต่คนละรุ่น คือซืื้อมาเพราะอยากลองของใหม่ไปเรื่อยๆ 5555 แต่ใช้แล้วข้าวว่าก็คล้ายๆรุ่นสีม่วงตัวเมื่อกี้อะ
Loretta MoltoBene Moisturizing Treatment
ต่อมาเป็นทรีทเม้นต์จากแบรนด์ Loretta คือเนื้อครีมเขาจะนุ่มๆเบา กลิ่นหอมมากก หอมคุณหนูดูดีมากกก มาส์กทิ้งไว้ประมาณครึ่ง ชม ผมจะนุ่มชุ่มชื่นจากโคนจรดปลาย 5555 (แต่จริงๆไม่ควรหมักตรงโคนเด้อ) แถมกลิ่นหอมติดผมสุดๆ ไม่ทำให้ผมมันด้วย แต่อาจจะหาซื้อยากนิดนึง อันนี้คือซื้อมาจากร้านทำผม
L'oreal Elseve Extraordinary Oil สูตร Dry Hair
ตัวสุดท้ายยยยย เป็น Leave on แบบไม่ต้องล้างออก จาก L’oreal คือข้าวอะ ใช้รุ่นธรรมดาที่ออกมาทีแรก ที่สีเหลืองๆ แล้วชอบม้ากก เพราะรู้สึกว่าเนื้อออยล์เบา กลิ่นหอม ใช้แล้วผมนุ่มดี พอใช้ขวดนั้นหมด ข้าวเลยลองซื้อตัวนี้มา ซึ่งเป็นสูตรสำหรับผมแห้งเสียมาก เพราะรู้สึกว่าตัวเองผมแห้งมากกก เปลี่ยนสูตรเผื่อผมมีน้ำหนักกว่าเดิม แต่สรุปว่าไม่ค่อยชอบเฉยเลย เพราะอย่างแรกเลย กลิ่นไม่ค่อยหอมเหมือนอันแรกที่ข้าวใช้ กลิ่นจะหวานๆเลี่ยนๆ ซึ่งตัวแรกข้าวชอบกลิ่นมากไง พอเจองี้เสียใจอย่างแรงงง แถมเนื้อออยล์หนักมากกก ทาแล้วรู้สึกว่าผมแอบมัน เลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็ใช้จนหมดนะ 555
จบแล้ววว สำหรับกระทู้ Empty Product Review ยาวมากกก เยอะมากกก ใครอ่านจบมั่ง ยกมือขึ้น เย้ ซึ้งใจน้ำตาจะไหลม้ากกก กราบขอบพระคุณทุกคนที่อ่านจนจบ (หรือไม่จบก็ขอบคุณอยู่ดีค่า 5555) ใครมีอะไรสงสัย เม้นท์ถามด้านล่างได้เลยน้า เจอกันใหม่กระทู้หน้า บ้ายบายยย :)


kaowkaow

kaowkaow

สวัสดีค่า เราชื่อข้าว เป็นผู้หญิงบ้าเครื่องสำอาง บ้าสกินแคร์ มีครีมเป็นล้านตัวอยู่ในกรุ ใช้ยันชาติหน้าก็ยังไม่หมด แต่ก็ยังจะซื้อต่ออยู่ได้ 555
ชอบรีวิว ชอบเม้า ชอบบอกต่อ
ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะค้า ><

FULL PROFILE