รวมสกินแคร์ต้านมลภาวะ...ฉบับสาวเมืองกรุง (เลี่ยง PM 2.5 ไม่ได้แต่ก็ป้องกันได้นะ!)

43 3
ฮัลโหลลลทุกคน รีวิวนี้เป็นอะไรที่อยากบอกต่อสุดใจ ให้กับสาวเมืองกรุงที่ต้องพบเจอกับมลภาวะร้ายๆ ยังคงอยู่กันที่สายมลภาวะอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เจอ PM 2.5 ช่วงปลายปีจนถึงตอนนี้ และไม่รู้จะต้องทนไปอีกนานแค่ไหนด้วยฮือออ อยากเลี่ยงแบบบินไปเที่ยวสวยๆ ที่เมืองนอกจนกว่า PM 2.5 จะหมดเหมือนกันนะ แต่คาดว่าอยู่นานขนาดนั้น เงินอาจหมดก่อน เพราะนี่ติดช้อปมากกกก 
หลุดจากความฝันมาเจอความจริงกันจ้ะ ก็ในเมื่อมันเลี่ยงสิ่งที่ต้องเจอไม่ได้ก็ต้องหาวิธีป้องกันแทนนะคะสาวๆ ขอบอกเลยว่า รีวิวนี้ครบมากกก สำหรับการป้องกันผิวจากมลภาวะร้ายที่อาจจะต้องเจอในแต่ละวัน ตั้งแต่การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดไปจนถึงการบำรุงให้ครบ ฟื้นฟูผิวให้แกร่งเว่อร์ เราเลยไปหาข้อมูล ส่องรีวิว จนเอามาทดลองใช้จริงแล้วมันเวิร์คจริง ฟินจริง ไม่ผิดหวังที่สอยมา จะมีอะไรบ้างมาดูกันน้าาา
เริ่มที่การคลีนผิวให้สะอาด ไม่ว่าจะเมคอัพ หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก กับ CHARIS Clear Water คลีนซิ่งเวอร์ชั่นโลชั่นน้ำ เนื้ออ่อนโยนและไม่แห้งตึง ไม่มีสี/กลิ่น/น้ำมัน/พาราเบน/แอลกอฮอล์ ช่วงผิวแห้ง หรือแพ้ฝุ่นก็ใช้ได้สบายใจ ไม่ต้องกลัวระคายเคืองเลยยย แถมพอเช็ดเสร็จ ก็ให้ฟีลเหมือนมีฟิล์มชุ่มชื้นบางๆ มาคลุมผิวอยู่ไปอีกกกก และถึงนางจะอ่อนโยนมากเว่อร์ แต่เรื่องความสะอาดก็ไม่มีขาดตกบกพร่องเลยนะเธอจ๋า จะเมคอัพ หรือฝุ่นที่ลอยมาติดหน้าก็เก็บหมด บางคนอาจจะใช้คลีนซิ่งเช็ดเฉพาะวันที่ลงเมคอัพออกไปข้างนอก แต่นี่จะไปข้างนอกหรืออยู่บ้านก็ใช้หมดจ้ะ เพราะบางทีฝุ่นที่เราไม่เห็นด้วยตา ก็ใช่ว่าจะไม่มีนะจ๊ะ! อยากบอกว่าขวดนี้ใช้มาหมดไม่รู้กี่ขวด มีทั้งไซส์ปกติ ไซส์เล็กพกพา คือชอบแค่ไหนคิดดู๊
มาต่อกันที่ CLARINS Water Comfort One-step Cleanser ความจริงคือนางเป็นคลีนเซอร์ทำความสะอาดได้ทุกระดับภายในขั้นตอนตั้งแต่เมคอัพไปจนถึงสิ่งสกปรกตกค้างนะบอกก่อน แต่เราเอานางมาใช้แทนโทนเนอร์เลย ด้วยความที่ไม่ใช่แค่ทำความสะอาดผิว แต่นางช่วยปรับสภาพผิว ปลอบประโลม และขจัดสารพิษตกค้างในผิว ผิวมันใช้ได้ แต่ผิวผสม-ผิวแห้งควรมีมาก ๆๆ เนื้ออ่อนโยนจริงงงง เช็ดแล้วผิวไม่ตึงด้วยนะ ได้รับความนุ่มชุ่มชื้นมาก ๆ  ขอแนะนำเลยจ้ะ หอมพีท และตอนเช็คหน้าคือสดชื่นมากกก ตัวนี้พี่ที่รู้จักแนะนำมา ป้ายยาเราตอนไปช้อปปิ้งที่ CLARINS บอกว่าลูกปลา ๆ ลองเช็คหน้าด้วยตัวนี้ดู สดชื่นแบบที่ไม่เคยเจอ พูดขนาดนี้ เอ้าลองที่ใต้คางนิดนึง เพราะไม่ลองเทสอะไรที่เคาน์เตอร์กับผิวหน้า นอกจากมือ และแขน  อันนี้คือยอมใต้คางจัดไป ลองเช็ดเท่านั้นล่ะ อือหื้ออออ สุดสดชื่นจริง ๆ ค่ะ กลิ่นไม่แรงไป สรุปเสียตังได้ขวดนี้มาครอบครอง แต่ไม่ผิดหวังนะ ใช้จนจะหมดต้องสอยใหม่แล้วค่ะ
ยังคงอยู่ที่การทำความสะอาดผิวหน้า ขาดไม่ได้กับ THREE Balacing Foam โฟมล้างหน้าที่ชอบมาก ๆ เนื้อโฟมสีขาวแน่นเนียนละมุน ที่เน้นเรื่องคืนความสมดุลให้กับผิว นอกจากจะทำความสะอาดผิว ยังกำจัดสิ่งสกปรกตกค้างที่เหลือจากการทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่ง และน้ำมันส่วนเกินได้ดีงามมม แถมนางช่วยเรื่องรักษาสมดุลผิวด้วยนะเออ จะสภาพผิวแบบไหนก็ใช้ได้ไม่แห้งตึง ใช้แล้วหน้าสะอาด เนียนละเอียด ผิวนุ่มขึ้นจริง ดีมาก ๆ
ยังคงอยู่กันที่มาร์ก กับ MERASKIN จ้า นางเป็นมาร์กแถมสครับได้ในตัว ที่เหมือนแยมส้มมว้ากกกก ทั้งกลิ่น และหน้าตา ทา ๆ ช่วงตอนหิวบางทีก็อยากจะกินเข้าไปเลยฮือออ ตัวนี้จะใช้ทุกวันก็ได้ แต่เราจะสลับวันใช้กับตัวมาร์ก ORIGINS นางช่วยเอาเซลล์ผิวเก่าออก ผิวผ่อง เด้ง ฉ่ำน้ำ แบบอ่อนโยนมากเว่อร์ ส่วนผสมส่วนใหญ่ทำมาจากธรรมชาติเน้นๆ ทั้งส้มเอย น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้มเอย คือหลังใช้ผิวจะดูโกลว์ ๆ วาว ๆ ดูสุขภาพดี มีอีกทริคในเช้าวันสำคัญ ๆ ที่ตื่นมาแล้วหน้าไม่สดชื่น ให้มาร์ก MERASKIN ตัวนี้ค่ะ มาร์กปกติ 20 – 30 นาทีล้างออก ผิวจะลื่นนน ชุ่มชื้น ดูสดใสมาก ๆ เลย เพื่อน ๆ ลองดูน้า
ในที่สุดก็ได้เริ่มการบำรุงซักที ฮ่าาา ตัวนี้คือเคยรีวิวเต็ม ๆ แพคเกจเก่ามาแล้ว เป็นออยล์ที่ดีเริ่ดในสามโลกก็หายากที่จะดีขนาดนี้ นางชื่อ LHAMOUR Anti pollution facial oil ของเด็ดจากมองโกเลีย ออร์แกนิคแท้ ๆ และทำจากแฮนด์เมดด้วยนะเออ นางเป็นออยล์เนื้อบางเบาเว่อร์ จนต้องถามตัวเองว่า นี่ออยล์เหร๊ออออ หรือเซรั่มทาแล้วหายว้าปซึมผิวดีเชียว นอกจากเนื้อจะช่วยผ่อนคลายผิว ฟื้นฟูผิวอ่อนแอแพ้ง่าย สร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ถูกทำลายจากมลภาวะร้าย ๆ ได้ดีแล้ว กลิ่นยังหอมอโรม่าซะฟินสุดดด ใครที่รักออยล์หรือกำลังสนใจออยล์ขอแนะนำน้องตัวนี้เลย ดีงามมาก ๆ จ้ะ โดยเฉพาะมลภาวะช่วงนี้ เหมาะกับการใช้มาก หรือใช้ยืนพื้นเพื่อสมดุลผิวที่ดีก็แนะนำใช้กันยาว ๆ ได้เลย วอร์มมือให้อุ่น ๆ ทาเช้าเย็นหลังล้างหน้าหมาด ผิวเด้ง ๆ บังเกิดแน่นอนจ้า
นี่คือผลจากการตามน้องฟ้า Sarika บิ้วตี้บลอคสายสกินแคร์ และออร์แกนิค ที่น่าสนใจมากอีกคนนะคะ น้องเค้าแนะนำว่าตัวนี้เป็นเอสเซ้นส์น้ำตบต้านมลพิษ ชื่อ Chanis B. Anti-Pollution Essence เน้นสารสกัดจากธรรมชาติ เกลี่ยง่าย ซึมไว และเบาสบายผิว แต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากกก เป็นอีกตัวที่ช่วยเรื่องการสร้างเกราะป้องกันให้ผิวได้ดี จริง ๆ สำหรับตัวนี้ เราทาทั้งเช้า และก่อนนอนเลย โดยการวอร์มมือให้อุ่น ๆ แล้วหยดน้ำตบน้ำใส่นิ้วที่วอร์มไว้พร้อมแล้ว ตบ ๆ ที่ผิวหน้าเบา ๆ กลิ่นหอมดอกไม้นานชนิดมากกก คือชอบกลิ่นมีเอกลักษณ์ ใครชอบกลิ่นหอมดอกไม้คือฟินมว๊าก ๆๆๆๆ
มาเสริมเกราะอีกขั้นด้วยตัวบูสเตอร์น้ำแร่ SEPHORA COLLECTION Revitalizing Booster ฟื้นฟูผิวเหนื่อยล้า ปรับผิวให้สดชื่นนนน เหมือนเอาน้ำมาลูบผิวให้ผ่อนคลาย เน้นหนักเรื่องปรับผิวเรียบเนียนและสว่างกระจ่างใส จะเอาไปผสมครีมมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ หรือรองพื้นก็ได้นะจ๊ะ ตัวนี้มีแมกนีเซียมส่วนสำคัญที่ช่วยเยียวยาผิวอักเสบ ฟื้นผิวล้า ๆ จากการทำงาน และใครเป็นสิวก็ช่วยได้ด้วย แต่เราเอามาใช้เสริมเป็นเกราะอีกชั้น ป้องกันหนาแน่นขนาดนี้ PM 2.5 จะเข้ามาปะทะผิวยังไง พูด!?
น้องตัวนี้เคยรีวิวเต็ม ๆ ไปแล้ว ลองไปอ่านกันได้นะจ๊ะ ส่วนใครที่ขี้เกียจไปอ่านจะขอสรุปสั้น ๆ ตามนี้นะ คือนางชื่อ THE WEEKEND SKIN REST UP Purifying Serum ช่วยสร้างเกราะ Anti Pollution ให้กับผิว แถมช่วยฟื้นฟูผิวจากการถูกทำลายโดยมลภาวะต่าง ๆ โดยให้ผิวพักผ่อนเต็มอิ่มขณะเรานอนหลับ ด้วยการช่วยดีท็อกซ์ผิวเอาของเสียออก และเติมสารสกัดธรรมชาติเข้าไปเติมลงในผิว ทาหลังน้ำตบ หรือทาเคลือบผิวก่อนลงกันแดดก็ได้หมดเพราะจะเป็นฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิวได้ ล็อคน้ำในผิวก็ดี ป้องกันมลภาวะก็ได้
กรี๊ดกร๊าดกับตัวใหม่ล่าสุด กับ La Roche Posay Hyalu B5 Serum แค่แพคเกจก็ได้ใจเราไปแล้ววว นางช่วยเติมความชุ่มชื้นลงผิวเน้น ๆ ในรูปแบบของเซรั่มเข้มข้น แต่ซึมไว ไม่หนักผิว ช่วยให้ผิวอิ่มฟู ฉ่ำน้ำ ไร้กังวลเรื่องริ้วรอย ช่วยเสริมเกราะป้องกันให้ผิวอีกชั้น เรื่องความอ่อนโยนไม่ต้องพูดถึง เพราะการันตีด้วยชื่อแบรนด์ไปแล้ว สาวคนไหนผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น หรือกำลังกังวลเรื่องริ้วรอยถามหา นางตอบโจทย์มากกก อยากให้ลอง เพราะด้วยไฮยา 2 โมเลกุล ที่มีทั้งแบบใหญ่ที่เคลือบผิว เติมความฉ่ำน้ำ ยังมีโมเลกุลเล็กที่ซึมเข้าผิวล้ำลึกกว่าไฮยาแบบอื่น ๆ ทำหน้าที่บำรุงได้อย่างดี ผิวไม่เด้งไม่ชุ่มน้ำ บอกเลยว่าใช้ Hyalu B5 ตัวนี้ช่วยได้แน่นอนจ้ะ ได้ลองเองก็หลงรักจริง ๆ
มาถึงกันแดดจากแบรนด์รักที่ใคร ๆ ก็เห็นว่าชอบรีวิวบ่อย  ๆ เราเลือกกันแดดตัวนี้มาช่วยเตรียมผิวก่อนออกจากบ้านไปเจอมลภาวะ ด้วย UV Plus Anti Pollution SPF 50 PA++++ จาก Clarins เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมที่ทาแล้วกลืนไปกับผิว ไม่ทิ้งคราบขาว และความมันใด ๆ ทั้งสิ้นเลยจร้าาา น้องตัวนี้เป็นเนื้อ Fairness ดังนั้นเนื้อครีมจะเป็นสีฟ้า ทำหน้าที่คล้ายเบสปรับสีผิว ให้ดูผ่องขึ้นอีกระดับ แต่ไม่รบกวนการแต่งหน้านะ คือทาแล้วไม่ได้ไปทำให้หน้าวอกลอย หรือรองพื้นเทา หายห่วงเลยใช้ได้มั่นใจจมาก ๆ ทาแล้วผิวดูใสไปอีกกก แถมมีสารบำรุง และต้านอนุมูลอิสระด้วย ใครอยากได้กันแดด เบสเมคอัพ และบำรุงในตัวจัดเลยจ้ะ นางเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ววว จัดสิรออะไรเนอะ
จบด้วยรีวิวแถม กับไอเทมพิเศษที่ฮอตมากเว่อร์ จะหันไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึง จนเราอดใจไม่ไหวต้องฝากพี่ที่รู้จักหิ้วมาจากปุ่นให้น้องหน่อยยย เพราะราคาปุ่นไม่แพงเลย เจอไทยอัพกันไปหงายหลังมาก ๆ ฮ่า ๆ  บอกก่อนเลยรู้สึกว่า ตอนที่เห็นครั้งแรกน่าจะมาจากรีวิวของพี่แป้ง Kirarista มั้ง แล้วมาตอกย้ำด้วยรีวิวของน้องฟ้า Sarika ผู้ป้ายยาคนดีคนเดิม ขวดสแปรย์หน้าตาทันสมัยนี้คือ IHADA Aller Screen สเปรย์ที่เกิดมาเพื่อเสริมเกราะป้องกันเราจาก PM 2.5 โดยเฉพาะ เอาไว้ฉีดเสื้อผ้า หน้า ผม และหน้ากากปิดปากอีกชั้น ป้องกันได้จริงมั้ยไม่รู้ ฮ่าาา แต่ส่วนตัวคิดว่าช่วยได้จริงนะ อย่างน้อยก็ช่วยให้กล้าออกจากบ้านได้อย่างไม่ต้องกลัวมลภาวะมากขึ้น ฉีดหลังจากเมคอัพเสร็จได้เลย ไม่มีผลต่อเมคอัพนะ ไว้ใจได้  

ว่าจะมาสั้น ๆ แต่จบด้วยการเป็นมหากาพย์อีกแล้ว ใครที่รู้ตัวว่า ตัวเองเป็นสาวชาวกรุงแล้วต้องเจอมลภาวะบ่อย ๆ ก็อย่ามองข้ามมลภาวะร้ายๆ ที่ยังคงอยู่กับเรานะจ๊ะ เพราะถึงจะมองไม่เห็นก็ใช่ว่าจะไม่มีเนอะ แถมหนีก็ไม่ได้อีก ทำได้เต็มที่และดีที่สุดก็คือหาตัวช่วยมาป้องกันและฟื้นฟูผิวนี่แหละจ้ะ วันนี้ก็ไปก่อนน้า คราวหน้าจะมารีวิวอะไร อย่าลืมติดตามน้าาาา


Up to Me Review

Up to Me Review

เราคือนักช้อปตัวยง และผู้ใช้ชีวิตแบบตามใจตัวเองของแท้
เพราะการทำงานมันเครียด ชีวิตเลยต้องมีรีวิวให้เป็นทางออกไงล่ะ
มาติดตามเรื่องราวการแฉ..ทุกไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวเราเองไปด้วยกันได้น้าาา ^^

FULL PROFILE