เริ่ม Step แรกอย่างมั่นใจ ผิวดูดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!! ด้วย First Treatment Essence จาก Scinic(ไซน์นิค)

7 1
ในอดีต Skincare กลุ่ม Toner, Refresher เป็นสิ่งที่หลายๆ คนมองว่าไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร แต่ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีทางการผลิต และความสามารถในการค้นพบสิ่งใหม่ๆ ของมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในวงการความงามและเครื่องสำอางค์ ทำให้โทนเนอร์ หรือรีเฟชรเชอร์รูปแบบเดิมๆ ถูกเพิ่ม Value และอวาตาลเป็น First Step ของสกินแคร์เพื่อเตรียมผิว และบำรุงผิวเป็นขั้นตอนแรกก่อนลง Skincare ตัวอื่นๆ 

ซึ่ง SCINIC(ไซน์นิค) First Treatment Essence ก็เป็นหนึ่งในสกินแคร์เหล่านั้น โดยทางแบรนด์เคลมว่ามีส่วนผสมของ Galactomyces ถึง 90% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมี Active Ingredients ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับผิวอีกหลายตัว รวมไปถึงยังปราศจากสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่างๆ เอาหละบูมเกริ่นมาขนาดนี้แล้วไปทำความรู้จักกับเค้าหน่อยดีกว่าครับ....

คำเคลมจากแบรนด์

SCINIC(ไซน์นิค) First Treatment Essence : เอสเซนส์ขั้นตอนเเรกในการบำรุงผิว ตบแล้วใส ยิ่งใช้ยิ่งเนียนสวย เป็น Best Seller และ Hot Item ของ Scinic ที่ได้รับรางวัลการันตีว่าเป็น "สุดยอดน้ำตบ 2018" จาก Cleo Thailand และยังพ่วงมาอีก 3 รางวัลจากเกาหลี ด้วยสกัดจาก Galactomyces Ferment Filtrate เข้มข้นถึง 90% เเละสารบำรุงผิวระดับพรีเมี่ยมอีก 14 ชนิด ทั้ง Hyaluronic Acid, Niacinamide, Adenosine, Seawater และปราศจากสารทำร้ายผิว

พร้อมมอบผลลัพธ์ที่ดีให้ผิวเพอร์เฟ็ค 10 ประการ 
- กระจ่างใส     - ดูแลผิวที่มีความหย่อยคล้อย 
- ยกกระชับ     - ล็อคความชุ่มชื้น 
- ดูสุขภาพดี      - ผิวดูฉ่ำวาว 
- ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ  - ผิวจึงดูเรียบเนียน 
- คงความสมดุลให้กับผิวหน้า          - ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก
"เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวที่บอบบางแพ้ง่าย"


เนื้อสัมผัส / กลิ่น / บรรจุภัณฑ์ / ราคา

  • เนื้อสัมผัส : มาในรูปแบบน้ำใสๆ ไม่มีสี เนื้อสัมผัสบางเบาทำให้มนุษย์ผิวผสมแบบบูมใช้แล้วไม่รู้สึกว่าหนักหน้าจนเกินไป สามารถแทรกเข้าไปเป็นอีก 1 Step ของการบำรุงผิวได้โดยไม่มีปัญหา
  • กลิ่น : เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ทำให้ยังคงมีกลิ่นของส่วนผสมหลักอยู่บ้าง แต่ถือว่าเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับบางแบรนด์ที่มีเจ้า Galactomyces เหมือนกันฮะ
  • บรรจุภัณฑ์ : ทางแบรนด์เลือกใช้ขวดแก้ว ซึ่งในจุดนีับูมมองว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย 

    • ข้อดี คือช่วยลดการผ่านของอากาศได้ดีกว่าพลาสติก ช่วยคงประสิทธิภาพ Active Ingredients ไว้ได้นานกว่า แถมยังดูหรูหรา สวยงามด้วยครับ
    • ข้อเสีย : ถ้าเผลอไปปัดตกจากโต๊ะหละก็ ไม่ต้องสืบจ้ารอปาดน้ำตากันได้เลย 555
  • ราคา : หากมองที่ราคา/ปริมาณ 150ml. บูมถือว่าทางแบรนด์ทำราคาออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียวนะ เพราะขนาดนำเข้ามาในไทยแล้วราคายังอยู่ที่พันต้นๆ เท่านั้นเองหละ (ยิ่งถ้าซื้อตอนโปรฯ วัตสัน เผลอๆ ได้ถูกก่าที่ช็อปเกาหลีอีก) ถ้าดูจากปริมาณแล้ว บูมคาดว่าขวดนี้น่าจะใช้ได้ราวๆ 1-2 เดือนเลยทีเดียวครับ ถือว่าคุ้มมากๆ


ส่วนผสมที่น่าสนใจ

  • Galactomyces Ferment Filtrate : คือสารสกัดจากยีสต์สายพันธุ์พิเศษ หรือที่รู้จักกันในนามของ"พิเทร่า" ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้นโดยการกรพตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ ทำให้ผิวดูเต็มและแน่นขึ้น จึงส่งผลให้รูขุมขนดูกระชับ และเล็กลง
  • Niacinamide :  หรือวิตามินบี3 เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวในหลายด้าน อาทิ ช่วยลดริ้วรอย ลดรอยแดง/ดำ(hyperpigment) เพิ่มความชุ่มชื้น ด้วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และเซราไมด์ (ceramide) และยังทำให้ผิวแข็งแรง ต่อสู้กับการระคายเคือง (irritants) ต่างๆได้ดีขึ้น รวมถึงสามารถลดความมันบนใบหน้า (sebum excretion) และยังเป็น Whitening อีกด้วย ซึ่งเจ้าสาร Niacinamide มีผลการวิจัยรับรองว่าสามารถช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน และลดการเกิดสิวได้ เมื่อใช้ติดต่อกันอย่างน้อย 6-8สัปดาห์ ในความเข้มข้นที่เหมาะสม 
  • Adenosine : ได้รับการยอมรับจากผลการทดลองว่า มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย (anti-wrinkle) และสมานแผล (wound healing)
  • Licorice Extract : มีคุณสมบัติ ลดการอักเสบของผิว ลดรอยแดงจากสิว ลดการระคายเคือง ลดความมันของผิว นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการควบคุมความมันบนผิวหน้าอีกด้วย


ความรู้สึกหลังทดลองใช้ 2 สัปดาห์

ถือเป็นช่วงที่หน้าพังระดับสุด ไม่ว่าจะเป็นสิวจากน้ำที่ไม่สะอาดในช่วงตอนไปเที่ยวช่วงปีใหม่ หรือแดดที่แรงประนึงมีประอาทิตย์ส่วนตัวบนหัว ตามด้วยการทำเลเซอร์กำจัดขน ทำให้ผิวหน้าคล้ำเสีย ระคายเคือง และแห้งลอกแบบสุดพลัง ซึ่งก่อนทดลองบูมได้ดูส่วนผสมเบื้องต้นเพื่อประเมินว่าไม่มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองเพิ่มขึ้น และถ่ายภาพก่อนและหลังทดลองเพื่อนำมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ไปดูกันเลยครับ
บูมใช้น้ำตบไซน์นิค เป็นขั้นตอนแรงหลังล้างหน้า ใช้ทั้งเช้า-เย็น ติดต่อกันมา 2 สัปดาห์แล้วครับ ถ้าสังเกตุบริเวณรอบปากจะเห็นว่าสิว และรอยแดงจางลงเกือบหมด ผิวหน้าโดยรวมแข็งแรงขึ้น ผิวดูกระจ่างใสขึ้น (แต่ทั้งนี้อาจเพราะช่วงนี้บูมไม่ได้โดยแดดหนักๆ ก็เป็นได้ครับ) แต่ที่รู้สึกได้จัดที่สุดคือเรื่องความชุ่มชื้นบนผิวที่เพิ่มมากขึ้น ผิวดูสุขภาพดี ฉ่ำน้ำและอาการระคายเคือง(จากการทำเลเซอร์) ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

Tips : บูมลองเทน้ำตบตัวนี้ใส่สำลีให้ชุ่มๆ แล้วเอามาแปะแทนมาส์กชีท เวิร์คมากๆ รอยแดงหรือผดเล็กๆ ลดลงไปเยอะเลยทีเดียวครับ ยิ่งถ้าแช่เย็นด้วยแล้ว บอกเลยว่าสดชื่นมากครับ

สรุป

โดยรวมแล้ว SCINIC(ไซน์นิค) First Treatment Essence เป็น Essence อีกน้ำตบหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจมาก เพราะช่วยในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้น ความแข็งแรง และความกระจ่างใสให้ผิวได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสีสังเคราะห์ ทำให้ลดโอกาสที่จะแพ้หรือระคายเคืองได้อีกเยอะเลยทีเดียวครับ

อีกจุดหนึ่งที่น่าประทับใจคือเรื่อง Texture ของผลิตภัณฑ์ ที่ทำออกมาได้เบากำลังดี สำหรับบูมที่เป็นมนุษย์ผิวผสม - มัน มีโอกาสเกิดสิวอุดตันง่าย ใช้แล้วไม่มีปัญหาเรื่องสิวอัุดตันที่เพิ่มขึ้น ผิวก็ชุ่มชื้นกำลังพอดีหละ

ข้อสังเกตุเล็กๆ อย่างที่บูมเกริ่นไปตอนแรกเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดแก้ว ที่อาจตกแตกได้ง่าย และอีกจุดหนึ่งคือเรื่องของ Active Ingredients ที่ใส่เข้ามา แม้ว่าโอกาสระคายจะค่อนข้างต่ำ แต่อาการแพ้/ระคายเคือง เป็นอาการเฉพาะบุคคล ดังนั้นก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามบูมแนะนำว่าให้ทดลองใช้บริเวณท้องแขน หรือลำคอทิ้งไว้ซัก 1คืนหรือซัก 24ชม. เพื่อสังเกตุอาการแพ้จะดีกว่าขอรับ


Wanviset

Wanviset

✨ สวัสดีฮะ ชื่อบูม นะครับ ✨
สกินแคร์คือหนึ่งในความสุขเล็กๆ ของเราและด้วยความอยากรู้อยากลอง ชอบแชร์ทำให้เราลองเขียนบล็อกเล็กๆ ขึ้นมาฝากเพื่อนๆ ติดตามผลงานของเราด้วยน้า

FULL PROFILE