ดราม่าพ่อแม่เซเลบที่ถูกชาวเน็ตโจมตี


หลายคนอาจจะมองว่าเซเลบนั้นมีอภิสิทธิ์ล้นเหลือในการดำเนินชีวิตอย่างสุขสบาย แต่ใต้ภาพความสวยหรูนั้น พวกเขากลับถูกตัดสินจากคนนอกในทุกรูปแบบ ชีวิตส่วนตัวอย่างสไตล์การเลี้ยงลูกก็กลายมาตัวล่อให้ชาวเน็ตเข้ามาสอดแทรกความเห็นในแง่ลบจนกลายเป็นดราม่า


คนดังที่ต้องเผชิญกับกระแสการโจมตีมีใครกันบ้าง ลองมาติดตามสิคะ



David Beckham   


จุ๊บลูกสาวก็มีดราม่า


David Beckham คือคุณพ่อคนดังที่ขึ้นชื่อเรื่องความรักความหลงลูกสาว คุณจะได้พบกับภาพความน่ารักของพ่อลูกคู่นี้นับครั้งไม่ถ้วน
เมื่อหลายปีก่อน Beckham เคยปรี๊ดใส่สื่อ tabloid และชาวเน็ตที่โจมตีเรื่องน้อง Harper ติดจุกหลอกด้วยการอ้างอิงเหตุผลว่า หากหล่อยให้ลูกติดจุกต่อไปก็จะกลายเป็นผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก เขาโต้กลับว่ามันไม่ใช่ธุระกงการของใครที่จะมาสอดเรื่องการเลี้ยงลูก  
"คิดกันให้ดีๆ อีกรอบก่อนที่จะมาพาดพิงถึงลูกคนอื่นเพราะคุณไม่มีสิทธิ์ใดเลยที่จะมาวิจารณ์เรื่องการทำหน้าที่พ่อของผม" Beckham ประกาศกร้าว


แต่นั่นก็ไม่หยุดเสียงวิจารณ์จากโลกออนไลน์ บางคนขัดหูขัดตาที่ Harper ยังติดดูดนิ้วและโจมตีคู่สามีภรรยาคนดังว่าตามใจลูกเกินไปจนอาจจำให้เธอเป็นเด็กฟันไม่สวย

ล่าสุด  ดราม่าเรื่องใหม่ก็บังเกิด


ทันทีที่เขาลงภาพตอนที่กำลังจุ๊บลูกสาวที่ริมฝีปาก parenting debate ก็ร้อนระอุขึ้นมาทันที 
คุณผู้อ่านคงทราบถึงวัฒนธรรมตะวันตกในหลายประเทศที่พ่อแม่ลูกแสดงความรักกันด้วยกับสัมผัสปากต่อปาก แน่นอนว่ามันไม่ใช่การจุมพิตอ้อยอิ่งหรือเต็มไปด้วยเสน่หาแบบคนรัก แต่เป็นการจุ๊บเบาๆ ที่ไม่ต่างจากการจุ๊บแก้ม  


ภาพของลูกสาววัย 7 ขวบที่จุ๊บพ่ออย่างสนิทสนมนั้นสร้างความไม่ชอบใจให้กับผู้ชมบางคน พวกเขากล่าวหาว่านี่คือ "ภาพที่ไม่เหมาะสม" และ "ข้ามเส้นความสัมพันธ์ร่วมสายเลือด"  บ้างก็รุนแรงจนใช้คำว่า "วิปริต น่าขยะแขยง"


"ดูแล้วรู้สึกแปลกพิกล  นี่วัฒนธรรมคนอังกฤษเหรอ" user คนหนึ่งแดกดัน


"โทรเรียกตำรวจจะดีกว่ามั้ย " อีกหนึ่งเม้าอย่างสนุกปาก


"ชั้นไม่มีวันจะยอมให้พ่อมาจูบที่ปาก นี่น่าแหวะสิ้นดี พ่อชั้นจูบที่ใบหน้าไม่ได้จูบปาก นี่มันไม่โอเคเลยนะ"




"ผมจุ๊บลูกๆ ทุกคน แต่อาจจะไม่ใช่กับ Brooklyn เพราะเค้าโตเป็นหนุ่มแล้ว ถ้าจุ๊บกันลูกก็คงคิดว่ามันแปลกๆ แต่ผมเป็นคนที่แสดงความรักกับลูกๆ อย่างเปิดเผย มันเป็นวิธีการแสดงออกในแบบฉบับของพวกเรา ผมถูกเลี้ยงดูมาแบบนี้ และผมกับ Victoria ก็ทำเหมือนกันครับ"
สมับ Brooklyn เป็นเด็กก็จุ๊บกันไม่ต่างจากน้องๆ



ความไม่พอใจในเรื่องการแสดงความรักของครอบครัว Beckham ยังไปลงกับ Victoria ที่เคยโชว์ภาพตอนกำลังจุ๊บปากลูกสาว หลายคนตำหนิเธอว่าล้ำเส้นและเข้าข่ายล่วงละเมิดลูกสาว แต่ก็ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ลุกขึ้นมาปกป้องครอบครัว Beckham และแชร์ภาพตอนที่กำลังจุ๊บลูกที่ริมฝีปากว่ามันเป็นการแสดงความรักที่ธรรมดาไม่ได้เสียหายดังที่มีคนคิดอกุศล และยืนยันว่าแม้คุณจะรู้สึกไม่โอเคที่จะจูบพ่อแม่ที่ริมฝีปาก แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะไปตัดสินครอบครัวที่ปฏิบัติเช่นนั้น ยังมีคนตะวันตกจำนวนไม่น้อยที่ประกาศว่ายังจุ๊บพ่อแม่วัยชราที่ริมฝีปาก เพราะสำหรับพวกเค้า มันไม่ใช่สิ่งที่ชวนกระอักกระอ่วนแต่อย่างใด มันคือเรื่องของต่างจิตต่างใจ หาใช่เครื่องมือตัดสินคุณภาพของการเลี้ยงดูบุตร


นี่คือชาวเน็ตที่โพสท์ภาพตอนที่กำลังจูบลูกๆ เพื่อสนับสนุน Victoria
Dr. Gail Saltz จิตแพทย์ผู้มีผลงานทางหนังสือขายดีและรายการ TV ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNN ต่อกระแสวิจารณ์นี้ว่า ภาพนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดและการแสดงความรักของพ่อแม่ต่อลูกๆ ต่างหากที่มีความสำคัญ

"ข้อแนะนำก็คือเราต้องปล่อยให้ลูกเราตัดสินใจเองว่าจะแสดงออกเช่นไร ตอนที่พวกเค้ายังเล็กอยู่ พวกเค้าก็อาจจะจูบพ่อแม่ที่ริมฝีปาก แต่ความคิดของพวกเค้าอาจจะเปลี่ยนไปตอนที่โตเป็นวัยทีน ดังนั้นเราควรดูทีท่าของลูกๆ" แต่สิ่งที่คุณหมอรู้สึกกังวลจากดราม่ากับเป็นเรื่องของ "การจับผิดของเหล่าแม่ๆ "


"คนเป็นแม่ต่างก็ต้องเผชิญกับหลายเรื่องที่สร้างความรู้สึกผิดมากพออยู่แล้ว พอมีพวก mom police เข้ามาจุ้นจ้าน มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย"


เซเลบคนอื่นๆที่เคยถูกกระหน่ำโจมตีเรื่องจูบลูกที่ริมฝีปาก
เมื่อลูกชายของ Olivia Wilde ยังเป็นเบบี๋ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครแสดงความกังขาเมื่อเธอจุ๊บลูกน้อยที่ริมฝีปาก แต่เพียง 3 ปีผ่านไป กลับมีคนคิดว่านี่คือภาพที่แสดงความวิปริตจากความสัมพันธ์ต้องห้ามของแม่ลูก !!
Hilary Duff เป็นคุณแม่อีกคนที่แสดงความรักกับลูกชายด้วยการจุ๊บปาก และเธอก็ต้องปรี๊ดสุดๆ หลังจากที่โพสต์ภาพตอนจุ๊บลูกชายวัย 4 ขวบแล้วมีคนกล่าวหาว่าเธอมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เจ้าตัวประกาศว่า ถ้าจะตัดสินกันด้วยอคติคับแคบแบบนั้นก็กด unfollow ไปเลย  


มันคือการแสดงความรักที่บริสุทธิ์หรือข้ามเส้นความเหมาะสม ภาพจากเซเลบทั่ววงการก็น่าจะบอกได้ชัดเจน ถ้ามันเข้าข่ายไปหมิ่นเหม่เรื่อง abuse จริงๆ หน่วยงานพิทักษ์สิทธิ์เด็กจะนิ่งเฉยอยู่ฤา  ?

การเลี้ยงดูและวัฒนธรรมทำให้ผู้คนมีแนวคิดที่แตกต่างกันไป การนำกรอบแนวคิดของตัวเองไปจำกัดเส้นทางการดำเนินชีวิตของผู้อื่นนั้นทำให้เกิดการโต้แย้งในสังคม เป็นเวลาหลายปีที่ผู้คนถกเถียงกันว่าควรจะจูบลูกที่ริมฝีปากหรือไม่ มันมิใช่การจิกกัดในโลกออนไลน์เท่านั้น สื่อชื่อดังและนักวิชาการต่างพยายามนำเสนอมุมมองของตัวเอง แต่ก็ยังไม่ได้บทสรุปที่แน่นอน เท่าที่เราสัมผัสได้ ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้มองเรื่องนี้เสียหาย แต่ก็ยังมีคนที่รับไม่ได้และพร้อมที่จะตำหนิการแสดงออกถึงความรักเช่นนี้เมื่อได้พบเห็น  ฟันธงได้เลยว่า พ่อแม่เซเลบจุ๊บลูกเมื่อใดก็จะมีดราม่าตามมาเมื่อนั้น


ดราม่านมแม่ 


ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจเรื่องนี้จากเหตุการณ์ที่เจอมากับตัว เพราะตัดสินใจหยุดให้นมเมื่อครบปีกว่าๆ หลังจากที่ลูกสามารถกินอาหารได้หลากหลายขึ้นประกอบกับความผกผันในชีวิตช่วงนั้นทำให้มั่นใจว่านี่สมควรแก่เวลาแล้ว แต่ยังได้ยินเสียงจากบางคนว่า

- ทำไมไม่ปั๊มเก็บไว้ให้ลูกกินได้อีกสักปี เดี๋ยวจะไม่มีภูมิต้านทาน
- ลูกผอมลงเพราะหย่านมใช่มั้ย เมื่อก่อนจ้ำม่ำจะตาย
- ทำไมไม่ให้ลูกเข้าเต้า ปั๊มล้วนแล้วให้กินผ่านขวดมันไม่มีสายใยผูกพันเหมือนกับนมจากเต้านะ

มันเลี่ยงไม่ได้เลยที่เราจะรู้สึกขัดแย้งกับข้อความเชิงตำหนิที่แอบแฝงมาในคำพูดเหล่านั้น เหมือนกำลังถูกจับผิดว่าไม่พยายามทำหน้าที่แม่ได้ดีเพียงพอ แต่เพราะเป็นแม่จิตแข็งจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วเปลี่ยนเรื่องสนทนาไปซะ 

จากความรู้ที่ได้ศึกษาทั้งจาก internet และผู้เชี่ยวชาญทำให้เรามั่นใจว่าได้เลือกทางที่เหมาะสมกับตัวเองและลูกแล้ว เราเป็นหนึ่งในแม่ที่เชื่อว่าคนเป็นแม่มีทางเลือก นมผสมไม่ใช่อาชญากรรม นมแม่เป็นสิ่งดีงามมีคุณค่า แต่ไม่ใช่เครื่องมือนำมายกตัวว่าอยู่เหนือกว่าคนอื่น เราไม่เคยมองว่าแม่ที่ให้ลูกกินนมขวดทำหน้าที่บกพร่อง ไม่ว่าจะมีเหตุผลใดก็ตาม

แต่สำหรับบางคน เมื่อต้องพึ่งพานมผสมกลับถูกจิกกัดราวกับว่ากำลังป้อนของมึนเมาให้กับลูก

โดยเฉพาะเซเลบ..


"ชั้นเคยรู้สึกว่าเหมือนถูกมองไม่ดีมาก่อนค่ะ" Hilary Duff เปิดใจ "ชั้นให้นม Luca ประมาณ 6-7 เดือน แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นนมผสมและป้อนอาหาร แต่พอพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนอื่นก็ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังถูกพิพากษาว่าทำไม่ดี"

หลังจาก Chrissy Teigen โพสต์ภาพที่เบบี๋กำลังดูดนมจากขวดก็ถูกชาวเน็ทคาดคั้นถามว่า "เธอเลิกให้นมจากเต้าซะแล้วเหรอ"
แต่เมื่อเธอโพสต์วีดีโอในขณะที่กำลังใช้ไซริงดูดนมแม่ที่ทำหกทุกหยดกลับคืนมา กลับกลายเป็นว่ามีคนกล่าวหาว่ามันเป็นการเย้ยหยันแม่ที่ใช้นมผสมเลี้ยงลูก ทำให้ Chrissy ต้องออกมาเคลียร์ เธอยืนยันว่าไม่ได้ว่าร้ายใครเรื่องนี้ เพราะตัวเธอเองก็ให้นมแม่ควบคู่ไปกับนมผสมด้วย จะไป shame คนอื่นทำไม


เห็นมั้ยล่ะ ไม่ว่าจะให้นมแม่หรือนมกระป๋อง คุณก็ไม่สามารถชนะใจใครได้เต็มที่ มีคนพร้อมที่จะตำหนิคุณได้ตลอด
 แม่จำนวนมากได้ระบายถึงความคับข้องใจที่บรรดา "มือปราบฝ่ายน้ำนมแม่" ออกอากาจุ้นจ้านลามไปถึงหยามเหยียดแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมผสมว่าบกพร่องในหน้าที่ความเป็นแม่ ในช่วงหลังๆ จึงมีคนรณรงค์ร่วมสร้าง awareness ให้ยุติการสร้าง stigma ให้กับคนที่เลือกเส้นทางที่แตกต่าง โดยยึดหลักสำคัญคือการเคารพสิทธิของผู้อื่น มันก็น่าพิศวงไม่ใช่น้อยเมื่อคนที่ไม่ได้รู้จักมักจี่กันถือวิสาสะตั้งคำถามกดดันแม่ที่ทุ่มเทเเลี้ยงดูลูก หากไม่ได้คำตอบที่ถูกใจในเรื่องนมแม่ พวกเค้าก็พร้อมจะพิพากษาให้คุณยอมรับว่าเป็นแม่ที่ขาดความพยายาม "ชั้นเป็นแม่ที่ทำงานไปด้วยก็ยังเลี้ยงนมแม่100% ได้เกิน 2 ปี ทำไมเธอไม่พยายามมากกว่านี้ล่ะ" คำพูดทำนองนี้มักจะถูกอ้างว่ามาจากความหวังดี โดยไม่ยอมรับความจริงว่าผู้คนร้อยพ่อพันแม่นั้นมีวิถีการดำเนินชีวิตที่แตกต่าง คุณอาจเคยได้ยินเรื่องราวของแม่ที่มีอาการซึมเศร้าจากความกดดันจากการให้นมจากเต้ามาแล้ว Brooke Shields เคยเปิดเผยว่าเกือบจะฆ่าตัวตาย หลังจากพบว่าชีวิตของแม่ลูกอ่อนได้แตกต่างจากที่วาดภาพไว้โดยสิ้นเชิง การให้นมกลายเป็นสิ่งเดียวที่ผูกพันเธอกับลูกไว้ได้ แต่มันกลับสร้างความเครียดให้มากขึ้นไปอีกเพราะอาการป่วยจนต้องใช้ยาทำให้เธอไม่สามารถให้นมได้เต็มที่

ส่วน Adele ก็ปรี๊ดจัดเมื่อได้ยินคำพูดของ Jamie Oliver ชักชวนให้แม่ๆ หันมาเลี้ยงลูกด้วยนมจากเต้าด้วยคำพูด "มันง่ายจะตาย สะดวกสบายกว่านมขวด เต็มไปด้วยสารอาหาร ฟรีอีกต่างหาก"

Hello ! นี่ชายที่ไม่มีน้ำนมที่กล้าประกาศว่าการให้นมแม่นั้น "ง่ายดาย" แม้แต่ตัวเราที่มีน้ำนมเยอะและไม่ค่อยพบอุปสรรคมากนักจากการให้นมลูก (ถ้าไม่รวมถึงหัวนมแตก เลือดไหลซึม ท่อน้ำนมอุดตัน เจ็บจนต้องนวดเปิดท่อ) ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยดีกับการเหมารวมแบบนี้ แต่ Adele นั้นมีความเจ็บปวดและรู้สึกผิดที่ทำวิธีใดก็ไม่สามารถให้นมจากเต้าได้ เธอจึงโต้กลับแบบไม่ยั้งว่า

"มันน่าเหลวไหลจริงๆ ค่ะ ขอบอกถึงคนที่มากดดันพวกเราไว้เลยนะ ไปตายซะเถอะ! จบมั้ย เพราะการให้นมแม่มันยากมากนะคะ ผู้หญิงบางคนไม่สามารถทำได้ ชั้นพยายามอยู่ 9 สัปดาห์ ดึงทึ้งนมตัวเองเละไปหมด เพื่อนของชั้นบางคนก็ถึงขนาดเป็นโรคซึมเศร้าเพราะเจอพวกมิดไวฟ์พูดกดดันแบบแย่ๆ ใส่ งี่เง่ามาก


"ถ้าคุณสามารถ ก็ให้นมจากเต้าไปเลยค่ะ แต่อย่าวิกตกกังวล นมขวดก็โอเคนะ ชั้นปลื้มการให้นมจากเต้ามากค่ะ มันเป็นสิ่งที่ชั้นปรารถนา แต่แล้วกลับทำไม่ได้ แล้วชั้นก็ต้องดำดิ่งกลับความรู้สึกแย่ๆ ที่ว่า ถ้าเป็นยุคโบราณที่เราต้องอาศัยในป่าเขา ลูกชั้นคงตายไปแล้วเพราะชั้นไม่มีนมเหลือให้เค้าได้กิน"


หลังจากที่ Adele และแม่อีกหลายคนออกมาประท้วง Jamie Oliver ก็ต้องออกมาขอโทษตามธรรมเนียม

  
แม้จะมีรณรงค์ให้ผู้คนรู้จักเคารพสิทธิผู้อื่น แต่เมื่อ Beyonce ได้โชว์ภาพกำลังดื่มไวน์หลังจากที่คลอดลูกแฝดได้ไม่นาน

"เธอดื่มแอลกอฮอลแล้วจะไปให้นมลูกๆ ต่อเหรอ"

"ไม่รู้รึไงว่ามันส่งผลเสียต่อทารก"

"เธอช่างไม่รับผิดชอบเลย"

"ไม่ให้นมลูกแล้วสินะ น่าผิดหวังจัง"

ชาวเน็ทเริ่มส่งแรงกดดันไปยังแม่ลูกอ่อนคนดัง
แรงกดดันในรูปแบบ "คุณแม่สุด perfect" นั้นทำให้ผู้หญิงหลายคนต้องจิตตกและอับอายเมื่อไม่สามารถให้นมจากเต้าได้  จนบีบให้พวกเธอต้องชี้แจงกับคนอื่น ทั้งๆ ที่มันเป็นชีวิตส่วนตัวที่ไม่จำเป็นต้องคอยอธิบายแก้ตัวกับใคร

เมื่อ Khloe Kardashian ได้แชร์ประสบการณ์เลี้ยงลูกสาวตัวน้อยว่าเธอผลิตน้ำนมได้ไม่เพียงพอจนต้องใช้นมผสมควบคู่ไปด้วย แต่กระนั้นก็ยังมีคนมาคอมเมนท์ในเชิงตำหนิว่า "ขึ้นอยู่กับว่ามีความตั้งใจอยากจะให้นมลูกจริงๆ รึเปล่า"

"Mommy-shaming มีอยู่จริง" Khloe ยอมรับ "ชั้นพยายามแล้วพยายามเล่า แต่ก็ไม่สำเร็จ ชั้นอยากจะให้นมลูกจริงๆ นะคะ"




ทรงผมก็ดราม่ากันได้


Kim K คือเซเลบที่สร้างข้อถกเถียงในโลก internet ได้เสมอ ดูเหมือนว่าจะมีแผนกจับผิด Kim กระจายอยู่ทุกที่ และเมื่อเธอได้พาลูกสาวมาฉลองวันคล้ายวันเกิดก็มีกระแสวิพากษ์เรื่องผมตรงสลวยของหนูน้อยตามมา
อย่างที่ทราบกันดีว่าน้อง North คนสวยนั้นเป็นลูกครึ่งเชื้อสายแอฟริกันผิวดำที่ได้รับกรรมพันธุ์ผมหยิกสีเข้มมาจากพ่อ บางคนได้เห็นผมของเด็กหญิงวัย 5 ขวบเหยียดตรงก็พุ่งโจมตี Kim ว่าไม่ยอมปล่อยให้ลูกมีความน่ารักตามธรรมชาติ และรีบร้อนเสริมสวยให้เร็วเกินไป
"เกลียดจังเวลาที่พวก Kardashian ยืดผมเด็กๆ ที่น่าสงสาร กว่าจะ 10 ขวบ ผมของ North ก็คงจะแห้งเสียจากความร้อนไปแล้ว"
"ดูสิพวกเธอ Kim ให้ลูกสาวยืดผมจริงๆ นั่นมันน่าเศร้านะ เธออายุเท่าไร แค่ 6 ขวบใช่มั้ย ปล่อยผมเด็กให้เป็นธรรมชาติเถอะ"

บางคนกล่าวหา Kim ว่าเป็นแม่ยอดแย่ บ้างก็ดักคอไว้ว่าไม่ใช่อีกไม่นานก็ทำสีซะแล้วนะ จนในที่สุดเจ้าตัวก็ต้องออกมาชี้แจง

"North อยากจะทำผมตรง ชั้นก็เลยบอกลูกว่าจะยอมให้ทำแค่ในงานวันเกิดและก็ตอนไป New York เท่านั้น เราจำกัดไว้เพียง 2 ครั้งและเธอก็เข้าใจดี ชั้นว่าผู้คนคิดอะไรไปกันใหญ่ ชั้นก็แค่ใช้เครื่องรีดผม แต่กลับมีคนบอกว่าชั้นให้เธอต่อผมปลอม ไม่ใช่เลย ผมของลูกหยิกมาก พอรีดผมตรงก็ยาวออกมาราวๆ นั้น พออ่านคอมเมนท์พวกนั้นแล้วก็คิดว่ามันช่างเหลวไหลแท้ๆ"




Blac Chyna ก็เคยถูกถล่มหลังจากที่ติดคลิปผมสีชมพูให้กับน้อง Dream

"เด็กน่ารักดี แต่แม่กลับแต่งให้ดูสลัมซะงั้น"

"ลูกเธอไม่ใช่เครื่องประดับหรือตุ๊กตาให้จับเล่นแต่งตัว"

"น่าสงสารเด็ก หวังว่าเธอจะไม่โตมาเป็นแบบแม่นะ"

ข้อความร้ายกาจเหล่านี้ผุดขึ้นมาเพียงเพราะว่าแม่ติดคลิปผมให้ลูก อาจจะทำเล่นๆแค่ไม่กี่นาทีแล้วถ่ายภาพเก็บไว้ มันไม่ใช่ผมต่อที่ต้องใช้สารเคมีหรือถักติดกับผมจริง แต่แม่ลูกกับถูกเย้ยหยันราวกับว่าทำผิดข้อหาหนัก

Discussion (5)

เหตุผลของพวก tabloid ช่างปัญญาอ่อนสิ้นดี
คนที่คอยจับผิดคนอื่นในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี่ชีวิตคงมีปมอะไรสักอย่างนะคะ น่าสงสาร
การให้นมแม่ไม่ง่ายนะ เราเสียน้ำตากับมันมาเยอะยังไม่สำเร็จเลย แต่การเป็นแม่ที่ดีไม่เกี่ยวกับการให้นมแม่ซะหน่อย กินนมผฃนมผสมลูกก็โตได้