บอกลาผิวที่แห้งตึง จากการใช้สบู่ก้อนทั่วไป แล้วมาสวัสดีผิวสวย จากสบู่กวนเย็น กันเถอะ

12 1
สวัสดีค่าา วันนี้ปายไม่ได้มาทำกระทู้ฮาวทูค่ะ 
แต่จะมาแบ่งปันความรู้ และการดูแลผิวพรรณ ฉบับ Bekinner กันค่าาาา
(อ๊ะๆ ถ้าเห็นชื่อของ bekin co กลับมาตั้งกระทู้แบบนี้
คุณผู้ชายอย่าเพิ่งปิดไปนะคะ จริงๆ กระทู้นี้คุณผู้ชายก็สามารถรู้ได้ค่ะ 
กระทู้นี้จะไม่ได้เกี่ยวกับการแต่งหน้าค่าา)

คอนเส็ปเดิมของ bekin co เลย คือ พื้นฐาน การเริ่มต้นที่ถูกต้อง คือสิ่งที่สำคัญที่สุด 
และเป็นทริกง่ายๆ ที่เราสามารถนำไปปรับใช้กับทุกๆเรื่อง 
(เช่นเดียวกันการแต่งหน้า เช่น การเริ่มต้นเลือกรองพื้นอย่างถูกต้อง 
การรู้จักอันเดอร์โทนสีผิว เพื่อนำไปใช้กับการเลือกสีผม สีเครื่องสำอางค์ โทนสีในการเลือกเสื้อผ้า) 

ในส่วนของวันนี้ เราจะมาเริ่มด้วยเรื่องการดูแลผิวพรรณ ตั้งแต่การ “อาบน้ำ” 

ใช่แล้วค่ะ ! จริงๆแล้วบางคนอาจนึกไปถึง การทาครีมบำรุง โลชั่น กันไปแล้ว
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมองข้ามไป คือ ก่อนที่จะไปถึงขั้นการทาครีมบำรุงนั้น 


“การอาบน้ำ” ก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ

วันนี้ เราจะมาพูดเรื่องของ การเลือก “สบู่” กันก่อนนะคะ 

สบู่นี่ ค่อนข้างวาไรตี้มากๆ ทั้งสบู่ก้อน สบู่เหลว สบู่ขาวกระจ่างใส สบู่สมุนไพร เป็นต้น

ถ้าเป็นผู้หญิงวัยรุ่น หรือวัยทำงานตอนต้นๆ ส่วนใหญ่ก็มัก 
จะเน้นเลือกไปทางแนว Whitening คือ ผิวขาว กระจ่างใส ออร่าพุ่ง 

ส่วนถ้าเป็นผู้หญิงวัยทำงาน (หรือคุณผู้ชายด้วยก็ดี) ไปแล้ว
ก็จะเลือกเน้น กระชับผิว หรือ สมุนไพร เพื่อช่วยดูแลปัญหาผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอยตามวัย อาการคัน ผื่นแพ้  คราบไคล ลดกลิ่นตัว หรือรวมไปถึงเพื่อช่วยลดเลือนจุดด่างดำ สว่างกระจ่างธรรมชาติ เน้นไปทางแนว Brightening มากกว่า

ทีนี้ก็จะมีทั้ง สบู่ก้อน และ สบู่เหลว ไปอีก
บางคนก็บอกแบบสบู่เหลวไม่ดี ล้างยาก 
ใช้เวลานานกว่าจะล้างออก แถมหลังอาบน้ำเสร็จ ซักพักจะเหนอะตัว 
บางคนก็บอกแบบสบู่ก้อนไม่ดี ใช้แล้วผิวฝืด ตึง


ตกลงว่า แบบไหนที่ควรเลือกใช้กันแน่​ !?


(อันนี้ ต้องเกริ่นก่อนว่า 
ข้อมูลทั้งหมดจะเป็นข้อมูลที่ปายรีเสิร์ช + ทดลองใช้จริงกับตัวเองนะคะ 
ดังนั้นบางคนอาจคล้อยตาม หรือบางคนไม่เห็นด้วย ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคน กับการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ)
ปายเป็นคนผิวคล้ำ ผิวหน้าปกติ
มันเฉพาะส่วนทีโซน แต่ผิวกายแห้ง และระคายเคืองง่าย
(โอ้ย คุณพระ อะไรของแจ้อะ งงไปอีก)

ส่วนตัวปายเอง แรกเริ่มเดิมที สมัยวัยรุ่น (โอ้โห วัยรุ่นมาอะ กี่ปีแล้วอ่ะ 5555+)
ปายเริ่มต้นจาก 

สบู่ก้อน 

ที่โฆษณาว่าผิวขาว ลดรอยสิว ดูแลจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ 
ก็เพราะเราคล้ำ แล้วอยากขาวเหมือนคนอื่น


ผลลัพธ์ที่ได้คือ ฝืดผิวมาก รู้สึกตึงๆ
พออาบเสร็จ รู้สึกผิวแห้งกว่าเดิม (มีอาการคันด้วยในบางสบู่ - คันเพราะผิวแห้งตึงเกินไป)


และอะไรที่โฆษณามา เช่นลดรอยสิว ดูแลจุดด่างดำ คือไม่ได้เลย
ไม่แน่ใจเลย ว่าใส่สารสกัดพวกนั้นจริงๆหรือเปล่า
จากนั้นเมื่อโตขึ้นมาหน่อย (มีเงินละ 555) เลยเปลี่ยนมา เป็น

สบู่เหลว 


ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวไม่ฝืดแล้ว
แต่กว่าจะล้างออกคือ นานมาก ลื่นตัว บางครั้งล้างแล้วเหมือนออกไม่หมด 

เหมือนอาบน้ำไม่สะอาด
หลังจากนั้น สบายผิวชั่วครู่ รู้สึกมีความชุ่มชื้นเคลือบผิวดี เหมือนว่าจะเหมาะกับเรา
แต่พอระหว่างวัน พออากาศร้อน รู้สึกเหมือนมันยิ่งเหนียวตัว

จากการรีเสิร์ช จึงพบข้อมูลที่น่าสนใจ

สบู่ก้อน

 - มีค่า pH ไปทางด่าง (pH 10-11) ทำให้เรารู้สึกแห้งตึง
(ปายผิวแห้ง จึงรู้สึกได้มากกว่าผิวมันค่ะ แต่ถ้าผิวมัน อาบแล้ว อาจจะรู้สึกโอเค)

สบู่เหลว 

- มีค่า pH ต่ำกว่า (pH 5-7)  อีกทั้งสบู่เหลวมีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์
(ปายผิวแห้ง จึงได้รับความชุ่มชื้น แต่หลังจากนั้นพอเจออากาศร้อน
ก็จะรู้สึกเหนอะเหนียว เช่นเดียวกับคนที่ผิวมัน อาบแล้วจะรู้สึกไม่โอเค)
แต่เราไม่หยุดแค่นั้น เรายังคงพยายามศึกษาค้นคว้าต่อไป 
(มีไปเรียนทำสบู่ด้วยนะคะ อยากรู้ว่าเค้าใส่สารสกัดกันจริงๆมั้ย 
ก็ไปถามอาจารย์ เค้าบอกว่า มันก็ต้องดูที่ราคาและหลายอย่างประกอบ 
เค้าขายเราถูก ต้นทุนก็ต่ำ สารสกัดก็อาจเป็นเกรดไม่ดีลดหลั่นกันไป ตามลำดับ)
จนเรามาเจอข้อมูลของ “สบู่แบบกวนเย็น หรือ Cold Process” 
(โอโห สบู่ก้อน สบู่เหลว ยังปวดหัวอยู่เลย มาแบบใหม่อีกเหรอนี่ !)
ปายไปเจอสบู่ลักษณะนี้จากต่างประเทศค่ะ คือเค้าจะใช้แนวนี้กันเยอะ
ทั้งในงานแต่ง เค้าก็ให้ของชำร่วยเป็นประมาณนี้ ซึ่งดูน่ารัก น่าใช้มากๆ
แล้วดูเป็นธรรมชาติ คือแนว Natural เลย สมุนไพรจ๋า งานรักผิว
เพราะฝรั่งเค้าจะเป็นอะไรที่ชอบดูแลตัวเอง เน้นไปทางธรรมชาติ
ซึ่งสบู่แบบกวนเย็นนี้ มีความน่าสนใจมาก
เค้าบอกว่า เป็นการผลิตที่เริ่มตั้งแต่ทำเบสสบู่กันเลยทีเดียว
ใช้เวลาบ่มสบู่ที่ค่อนข้างนาน เป็นสบู่ที่ปล่อยให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีอย่างช้าๆ
ไม่อาศัยความร้อน จึงทำให้สารสกัดที่เลือกใส่ลงไป ไม่ถูกความร้อนลดประสิทธิภาพ
เห็นผลลัพธ์จากสารสกัดได้ดีกว่าสบู่ทั่วไป
และสามารถทำให้ค่า pH อยู่ที่ประมาณ 8 

คือตอบโจทย์ ! 
ค่า pH ไม่สูงเกินไป = ไม่ทำให้ตึงผิว ผิวเราจะไม่คัน ไม่แห้ง
ใช้เวลาบ่มสบู่นาน ไม่ผ่านความร้อน = ได้สารสกัดแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

แล้วก็เพิ่งมารู้ ว่าในไทยเนี่ย เค้าก็ใช้ เจ้า สบู่กวนเย็น กันเยอะ อยู่นะ 
ใช้เวลาค้นหาเลือกร้านและทดลองใช้อยู่ซักพัก
ปายรู้สึกว่าเจอตัวที่ตอบโจทย์
จึงนำมาทดสอบความแตกต่างเปรียบเทียบ

ระหว่าง สบู่ก้อน VS สบู่กวนเย็น

ในคลิปและรูปภาพต่อไปนี้ สบู่ก้อน ปายขอไม่เอ่ยแบรนด์
ส่วน สบู่กวนเย็น ปายใช้ของแบรนด์ โอมาริ ค่ะ 
(ต้องขออนุญาตเอ่ยชื่อแบรนด์ของสบู่กวนเย็น
เนื่องจากในไทยมีหลายแบรนด์มาก
บางแบรนด์อาจได้ผลลัพธ์ไม่ตรงกับปาย
แล้วจะมาว่ากันทีหลังว่าเราสปอยสบู่กวนเย็นโอเว่อรรร์)

หัวข้อที่เราจะมาทดสอบเปรียบเทียบความแตกต่างก็จะมีดังนี้ค่ะ 
โดยปายทดลองใช้ก่อนฤดูหนาว
และคาบเกี่ยวในช่วงฤดูหนาวพอดี (ที่มันหนาวในกรุงเทพอยู่ไม่กี่วันเนี่ยยยย)

  • กลิ่น
  • ลักษณะการขึ้นฟอง
  • การล้างออก
  • ขัดขี้ไคล ลดผิวลาย หัวเข่า-ข้อศอก-คอ-ขาหนีบ-รักแร้ ด้านดำ
  • ความนุ่มชุ่มชื้น อ่อนโยนกับผิว ไม่แสบผิว หรือแห้งตึง
  • ลดกลิ่นตัว 
  • ลดสิวที่แขนและหลัง
  • ราคาและความคุ้มค่า
***หมายเหตุ***
  • การบรรยาย ทดลอง และให้คะแนนสบู่ทั้งสองชนิด เกิดจากที่ปายทดลองและสัมผัสได้จริง
    ทั้งนี้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับสบู่ทั้งสองชนิด บางคนอาจจะไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกันก็ได้ค่ะ 
  • ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ 

กลิ่น

กลิ่นนี่จะบ่งบอกถึงความพิถีพิถันในการเลือกใช้เบสสบู่
รวมถึงสารสกัดด้วยนะคะ
ถ้าใส่แค่น้ำหอม ใช้ไปไม่นานซักพักกลิ่นจะหายไปค่ะ 
สบู่ก้อน : (4/10) 
ตอนแรกซื้อมาหอมมาก สบู่โกจิเบอร์รี่ไวท์เทนนิ่งอะไร
นางหอมยั่วยวนออกมาจากกล่อง
พอใช้ไปและทิ้งไว้ประมาณ 14 วัน กลิ่นหายไปหมด
คิดว่าที่เหลืออยู่น่าจะเป็นสารเคมี หรือไขมัน หรืออะไรซักอย่าง
ที่ไม่ค่อยหอมเท่าไหร่ค่ะ 

สบู่กวนเย็น (โอมาริ) : (9/10)
กลิ่นหอมสดชื่น แบบธรรมชาติ (ออกแนว กลิ่นพีชผสมดอกไม้)  
คือ เป็นสบู่สมุนไพรที่กลิ่นไม่แก่อะ
ส่วนตัวชอบกลิ่นอะไรที่มันธรรมชาติๆอยู่แล้ว เลยรู้สึกถึงความสดชื่นค่ะ
วางไว้ในห้องน้ำ คือหอมอบอวล เหมือนวางน้ำมันหอมระเหยไว้ในห้องน้ำ
วางทิ้งไว้นาน 14 วันเท่ากัน กลิ่นก็ยังไม่หายไปค่ะ
เหมือนเดิมกับตอนที่ซื้อมาใช้ครั้งแรก

ลักษณะการขึ้นฟอง

สบู่ก้อน : (8/10) 
ยี่ห้อที่ปายใช้ ขึ้นฟองดีค่ะ ถูๆนิดเดียวก็ขึ้นฟองแล้วค่ะ 
แต่ฟองไม่ค่อยนุ่ม

สบู่กวนเย็น (โอมาริ) : (9/10)
ตีขึ้นฟองดีเช่นกันค่ะ ต่างจากสบู่ก้อนคือ ฟองนุ่ม แล้วรู้สึกไม่บาดผิว

การล้างออก

สบู่ก้อน : (9/10)
เทียบกับสบู่เหลวแล้ว ล้างออกง่ายค่ะ ตามปกติของสบู่ก้อน
เช็ดตัวก็รู้สึกสะอาดดีค่ะ ไม่ต้องมานั่งขัดซ้ำๆเหมือนสบู่เหลว


สบู่กวนเย็น (โอมาริ) : (9/10)
เช่นเดียวกันกับสบู่ก้อนค่ะ ล้างออกง่ายมาก
หลังจากอาบน้ำแล้ว จะรู้สึกได้ชัดเลย ว่าตัวสะอาดมากๆค่ะ
ไม่มีคราบ หรือเหนียวเหนอะเลย

ขัดขี้ไคล ลดผิวลาย หัวเข่า-ข้อศอก-คอ-ขาหนีบ-รักแร้ ด้านดำ

สบู่ก้อน : (4/10)
โอเค ขี้ไคลออกมากระจาย จนคิดว่านี่ใช่ขี้ไคลเราจริง หรือเค้าใส่สารสังเคราะห์อะไรรึเปล่า? มันแบบเยอะเกินอ่ะ แต่ในส่วนของ ลดผิวลาย ข้อศอก หัวเข่า ด้านดำ ทดลองฟอกทิ้งไว้ 2 นาทีแล้วล้างออก เป็นประจำทุกวัน
ทดลองดูผลลัพธ์ใน 14 วัน ความเห็นส่วนตัวไม่ค่อยรู้สึกอะไรค่ะ 


สบู่กวนเย็น (โอมาริ) : (10/10)
แตกต่างชัดเจน คือ ขี้ไคลออกมาในปริมาณที่เหมาะสม 
รู้สึกว่าได้ว่าเค้าผลัดเซลล์ผิวเราอย่างอ่อนโยนค่ะ ไม่บาดผิว หรือทำร้ายผิวเลย
เมื่อทดลองใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ประมาณ 14 วันเท่ากัน รู้สึกว่า
ขี้ไคลลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้บริเวณที่ผิวลาย สีผิวที่ไม่เรียบเสมอกัน
เห็นผลลัพธ์ได้ชัดขึ้น

ความชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง

สบู่ก้อน : (5/10) 
ตอนใช้ระหว่างอาบน้ำ ไม่แห้งฝืด 
(สำหรับสบู่สมุนไพรแบบก้อนที่ปายซื้อมานะคะ ยี่ห้ออื่นอาจฝืดก็ได้ค่ะ
เคยเจอบ่อยๆ)
แต่หลังจากพอเช็ดตัว ผิวเริ่มฝืดค่ะ แล้วเมื่อมาเจออากาศเย็น ผิวแห้งแตกเลย

สบู่กวนเย็น (โอมาริ) : (10/10)
เทียบเท่ากับสบู่เหลวเลย คือ แทบไม่ต่างเลย ชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง
หลังอาบเสร็จ คือไม่มีตึง ไม่แสบผิว ไม่คัน ประเด็นนี้ สบู่โอมาริทำได้ดีมากๆค่ะ

ลดกลิ่นตัว

สบู่ก้อน : (4/10)
คือให้ความรู้สึกเหมือนว่า หอมเพราะน้ำหอมที่ผสมอยู่ในสบู่มากกว่า
และปกติสบู่ก็ชำระล้างสิ่งสกปรก แบคทีเรียอยู่แล้ว ช่วงแรกๆหลังจากอาบน้ำ เลยไม่มีกลิ่นตัว
แต่พอเหงื่อออก รู้สึกกลิ่นทะแม่งๆ แบบกลิ่นตัวตีปนๆกับน้ำหอม 
ไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ค่ะ 

สบู่กวนเย็น (โอมาริ) : (10/10)
ต่างจากสบู่ก้อนทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด คือเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องแล้ว
หลังจากที่เหงื่อออก รู้สึกว่ากลิ่นตัวลดลงไปอย่างชัดเจน 
ประทับใจมากๆค่ะ 

ลดสิวที่แขนและหลัง

สบู่ก้อน : (5/10)
จากระยะเวลา 14 วันที่ใช้ โอเค รู้สึกสะอาด (และผิวแห้งไปอีก) 
สิวที่แขนและหลัง ก็ไม่ได้มีเพิ่มขึ้นค่ะ แต่ไม่ได้ลดลง

สบู่กวนเย็น (โอมาริ) : (10/10)
ใช้เวลาประมาณ 14 วัน เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนค่ะ   คือสิวที่แขนและหลังค่อยๆลดลง 
(บางจุดที่เป็นมานานแล้ว ก็อาจจะต้องใช้เวลา ตามปกติของผลิตภัณฑ์ที่เป็นสกัดธรรมชาติ)
รอยดำต่างๆที่เคยเกิดจากสิว ก็ค่อยๆเลือนหายไปด้วยค่ะ 
ชอบจุดนี้มาก เพราะเราอยากใส่พวกชุดโชว์หลัง หรือสายเดี่ยวออกงานบ้าง
ส่วนใหญ่ต้องใส่ชุดปิดๆ หรือทาบีบีครีมเอา

ราคาและความคุ้มค่า

สบู่ก้อน : (6/10) 
ราคาต่อก้อนไม่แพงเลย แค่ 80 บาท ปริมาณ 100 กรัม
แต่ใช้ได้ไม่หมดก้อน มันก็ใช้ต่อไม่ได้แล้ว แห้งๆกระด้างๆ
แบบนี้ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ เพราะใช้ไปได้ครึ่งก้อนต้องซื้อใหม่แล้ว

สบู่กวนเย็น (โอมาริ) : (8.5/10)
ปายซื้อมาราคาโปรโมชั่น ก้อนละ 150 บาท ปริมาณ 100 กรัม
ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสบู่ก้อนทั่วไป
แต่ก็เข้าใจได้อีกเช่นกัน เนื่องจากเข้าไปศึกษาแล้วพบว่า
ทางแบรนด์มีการเลือกใช้ น้ำมันจากพืชเกรดพรีเมี่ยม
เพื่อให้คงคุณค่าของคุณสมบัติจากน้ำมันธรรมชาติ และสมุนไพร แล้วสามารถใช้ได้จนหมดก้อน

จะเห็นว่าทั้งสบู่ธรรมดาและสบู่กวนเย็นโอมาริ มีขนาด 100 กรัม เท่ากันค่ะ
ที่เห็นนี้คือใช้ไปแล้ว 14 วัน
สำหรับสบู่ธรรมดา มีใช้ไปซัก 5-6 วัน ปรากฏว่าบางส่วนเริ่มกระด้าง 
เลยต้องใช้วิธีเอาคัตเตอร์ตัดออก ซึ่งเยอะพอสมควรค่ะ
ถ้าเรื่องราคา สบู่ธรรมดาถูกกว่าค่ะ
แต่ถ้าเรื่องของความคุ้มค่า สบู่กวนเย็นโอมาริชนะขนาดลอยค่ะ 
เพราะใช้ได้ต่อเนื่องจนหมดก้อน
และไม่ใช่แค่ว่าผู้หญิงเท่านั้นที่ใช้ได้นะคะ
แฟนปายก็ชอบใช้เช่นกัน เค้าบอกว่า
ส่วนใหญ่สบู่ผู้ชายใช้แล้วตึงผิว ไม่ก็เหนอะไปเลย
แต่สบู่กวนเย็นตัวนี้คือ ใช้แล้วสบาย ถูกใจจนนางจิ๊กไปแล้วจ้าาาา
ของดีจริงๆ อยากให้เปิดใจลองใช้สบู่กวนเย็นดู
อาจจะต้องควักตังกันซักนิด
แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมา คือคุ้มกับเงินที่เสียไปจริงๆค่ะ

ถ้าขั้นตอนแรก เปิดมาดีขนาดนี้ รับรองว่าผิวจะสุขภาพดีขึ้นมาอย่างแน่นอนค่ะ
ครั้งหน้า Bekin co จะมาแบ่งปันความรู้เรื่องอะไรมาฝากนั้นน
ต้องกดติดตามเค้าไว้น้าาา 


kinistapai

kinistapai

kinistapai ❤︎ ชื่อ "ปาย" น้าค้าาาา
Designer | Traveller | Beauty & Skincare lover

❤︎Skin type : ผิวแห้งขาดน้ำ มันตรงช่วงทีโซน (Combination skin type)
❤︎Hair : ผมเส้นเล็ก ขาดหลุดร่วงง่าย ดูแห้งฟู ไม่มีน้ำหนัก

FULL PROFILE