Evil Child Murderers
candy317Jasmine Richardson
ข้อหา ฆ่ายกครัว พ่อแม่และน้องชาย
ข้อหา ฆ่ายกครัว พ่อแม่และน้องชาย
คุณทราบไหมว่า ที่ประเทศแคนาดา ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมที่เด็กที่สุดมีอายุเท่าไร ?
คำตอบคือ 12 ปี
เธอคือเด็กวัยกระเตาะที่เพิ่งพ้นวัยประถมแต่เบื้องลึกของจิตใจนั้นมืดมิดถึงขั้นลงมือเชือดคอน้องชายตัวเล็กๆ และปล่อยให้แฟนหนุ่มแทงพ่อแม่จนขาดใจตายคาบ้านของตัวเอง Jasmine Richardson
ครอบครัว Richardson ในสายตาเพื่อนบ้านในชุมชนชนชั้นกลางชานเมืองดูรักใครกลมเกลียว จนกระทั่งลูกสาวคนโตเริ่มโตเป็นสาว บุคลิคที่สดใสร่าเริงของเธอเริ่มเปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่ได้พบ Jeremy Steinke หนุ่มวัย 23 บนในงานแสดงดนตรีพังค์ร็อค เธอหลงไหลในแฟชั่นแบบ goth ตามแฟนหนุ่มและเริ่มแสดงบุคลิคที่ชวนหวาดผวาจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มเพื่อน
จะมีพ่อแม่ที่ไหนที่ปลาบปลื้มยินดีเมื่อลูกสาวที่เพิ่งเข้าวัยพรีทีนริมีความสัมพันธ์กับผู้ชายวัยกลัดมัน มันผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงซะด้วยซ้ำ ไหนจะพื้นเพครอบครัวของ Jeremy ที่เหมือนมาจากอีกโลก เขามีแม่ที่ติดเหล้าและถูกแฟนแม่ทำร้ายร่างกาย เติบโตมาพร้อมกับการถูก bully และเคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว ความเปลี่ยนแปลงสุดขั้วของ Jasmine ทำให้พ่อแม่ผิดสังเกต เมื่อค้นพบว่าแฟนหนุ่มที่เข้ามาทำให้เธอเปลี่ยนแปลงไปมีอายุมากกว่าถึง 11 ปี พวกเค้าจึงห้ามให้ Jasmin เลิกคบ Jeremy อย่างเด็ดขาด
หายนะมาเยี่ยมเยือนเมื่อเด็กสาวที่เคยไร้เดียงสาวางแผนกับแฟนหนุ่มผ่านอีเมลว่า " ชั้นจะฆ่าพวกเค้าแล้วเราก็จะได้ใช้ชีวิตด้วยกัน" ส่วนหนุ่มอำมหิตก็ขานรับว่า
"ผมชอบไอเดียของคุณนะ แต่เราต้องเตรียมอะไรที่สร้างสรรค์กว่านี้ว่าจะทำกันยังไงบ้าง"
พ่อแม่ของเธอถูกพบเป็นศพถูกแทงหลายแผล ส่วนน้องชายวัย 8 ขวบ ถูกเชือดคอเลือดกระจายทั่วห้องนอน Jasmine หายไปตัวไปจากบ้านพร้อมกับความเป็นห่วงจากหลายฝ่ายว่าเธอคือเหยื่ออีกคนของการฆ่าล้างครัวสุดสะเทือนใจ
*เพื่อนของ Jeremy ให้การว่า Jasmine เป็นคนเชือดคอน้องเอง แต่เธอยืนยันว่า Jeremy เป็นคนลงมือ แม้ว่าน้องจะร้องขอชีวิต ส่วนเธอเป็นคนจับตัวน้องไว้
แต่คู่รักต่างวัยถูกพบตัวห่างจากที่เกิดเหตุไปประมาณ 100 ไมล์ ตำรวจมีเบาะแสหลายอย่างที่ชี้มาที่เด็กวัย 12 ที่แต่งหน้าจนดูโตกว่าอายุที่แท้จริง ทั้งหลักฐานในห้องของเธอ page ที่ MySpace และปากคำจากเพื่อนที่ได้ยินบทสนทนาเรื่องการวางแผนฆ่าพ่อแม่แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะโหดเหี้ยมจะทำลงไปจริงๆ ก่อนถูกจับมีคนพบเห็นพวกเค้าหัวเราะและกอดจูบกันอย่างรักใคร่โดยไม่มีทีท่าหวั่นเกรงต่อเรื่องที่ทำลงไป
ในที่สุด Jasmine ก็สารภาพว่า เธอปล่อยให้แฟนแทงแม่ 12 ครั้ง และพ่ออีก 24 ครั้งจนตายอย่างทรมานและช่วยจับน้องชายให้เขาปาดคอตั้งแต่หูข้างหนึ่งยาวไปถึงอีกข้างก็เพราะหวังว่ามันจะทำให้พวกเค้าผูกพันกันมากยิ่งขึ้น
คืนก่อนที่ลงมือ พวกเขาหาแรงใจเพื่อฆ่าด้วยการดูหนัง Natural Born Killers ที่ว่าด้วยคู่รักบ้าระห่ำที่ไล่ฆ่าคนด้วยความสนุกสนาน Jeremy พูดกับตำรวจว่า "คุณเคยดูหนังเรื่องนี้รึเปล่า ผมว่ามันเป็นหนังรักที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลเลยล่ะ"
ระหว่างสู้คดี Jasmine ยืนยันไม่ยอมรับผิด โดยโยนความผิดไปที่แฟนหนุ่มและแสดงภาพว่าตัวเองเป็นเหยื่อที่ถูกบีบบังคับ แต่ด้วยหลักฐานที่แน่นหนา ลูกขุนให้คำตัดสินว่าจำเลยมีความผิดจริง โทษของผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่า 14 คือการคุมขังไม่เกิน 10 ปี และเธอได้รับโทษสูงสุดนั้นด้วยการถูกส่งไปอยู่ในสถาบันจิตเวชและคุมตัวภายใต้ community supervision ส่วน Jeremy ได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต
Jasmine ถูกปล่อยตัวเข้าสู่สังคมเมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ส่วนจะเป็นที่ไหนนั่นยังถูกรักษาเป็นความลับ
Jasmine ถูกปล่อยตัวเข้าสู่สังคมเมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ส่วนจะเป็นที่ไหนนั่นยังถูกรักษาเป็นความลับ
Seito Sakakibara (นามแฝง)
ข้อหา ฆาตกรต่อเนื่องเมืองโกเบ
คุณอาจจะเคยชมซีรีย์อาชญากรรมของญี่ปุ่นแล้วต้องสะพรึงกับกับความเหี้ยมโหดผิดมนุษย์ของฆาตกรมาแล้ว แต่ในชีวิตจริง เรื่องราวที่สยองจนอาจจะทำให้คุณไม่กล้าวางใจคนอื่นนั้นได้เกิดขึ้นเมื่อ 21 ปีก่อน ฆาตกรจงใจสังหารเหยื่ออย่างเลือดเย็นและยังสร้างจุดสนใจไปทั่วด้วยการติดต่อกับสื่อ เมื่อตำรวจรวบรวมหลักฐานเอาผิดคนร้ายได้ก็ยิ่งทำให้ญี่ปุ่นต้องช็อกกันทั้งประเทศ
เพราะฆาตกรมีอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น!
ไม่มีใครได้เห็นรอยยิ้มชื่นบานของเด็กชาย Hase Junวัย 11 อีก หลังจากที่ถูกฆ่า ฆาตกรบั่นหัวเขาออกจากร่าง ดวงตาของเหยื่อถูกควักออก มุมปากถูกกรีดให้เหมือนกับกำลังแสยะยิ้มและนำชิ้นส่วนหัวไปวางหน้าโรงเรียนอย่างอุกอาจ ในปากของเหยื่อมีจดหมายเย้ยหยันตำรวจถูกยัดไว้
"นี่เป็นการเริ่มต้นของเกมเท่านั้น หยุดชั้นให้ได้สิเจ้าตำรวจงี่เง่า ชั้นอยากจะเห็นคนตายจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว การฆ่าทำให้ชั้นรู้สึกดีจริงๆ คำพิพากษาเลือดนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อเวลาหลายปีที่ชั้นต้องทุกข์ระทมอย่างสาหัส"
"นี่เป็นการเริ่มต้นของเกมเท่านั้น หยุดชั้นให้ได้สิเจ้าตำรวจงี่เง่า ชั้นอยากจะเห็นคนตายจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว การฆ่าทำให้ชั้นรู้สึกดีจริงๆ คำพิพากษาเลือดนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อเวลาหลายปีที่ชั้นต้องทุกข์ระทมอย่างสาหัส"
หลังเหตุฆาตกรรมสยดสยอง ตำรวจจำนวน 500 นายได้ลาดตระเวณในชุมชนอย่างเข้มงวด อาสาสมัครร่วมช่วยกันดูแลเด็กนักเรียนจากฆาตกรเลือดเย็น แต่จดหมายอีกฉบับก็ถูกส่งถึงสื่อ มันเป็นจดหมายยืดยาวที่เขียนด้วยหมึกแดงท้าให้ตำรวจมาจับ พร้อมกับบรรยายว่ามีแต่การฆ่าเท่านั้นที่จะช่วยให้เขาปลดปล่อยตัวเองจากความเกลียดชัง การมอบความเจ็บปวดทุกข์ทรมานให้กับคนอื่นทำให้ความเจ็บปวดของเขาบรรเทาลง เมื่อสื่อญี่ปุ่นนำเสนอนามแฝงของเขาผิดไปจากความตั้งใจ เขาก็ขู่ว่าจะลงมือฆ่าเหยื่อรายต่อไป
"พวกแกคิดว่าชั้นฆ่าแต่เด็กอย่างนั้นรึ" มือสังหารลึกลับได้สร้างความหวาดผวาให้เพิ่มขึ้นไปอีก
"พวกแกคิดว่าชั้นฆ่าแต่เด็กอย่างนั้นรึ" มือสังหารลึกลับได้สร้างความหวาดผวาให้เพิ่มขึ้นไปอีก
1 เดือนหลังจากที่พบหัวเด็กชาย Hase Jun ตำรวจก็ได้เข้าจับคุมผู้ต้องสงสัย เด็กชาย A ที่ต้องปกปิดชื่อจริงตามข้อกฎหมายคุ้มครองเด็ก เขาเป็นเด็กวัยแค่ 14 ปี แล้วยังยอมรับด้วยว่าก่อนหน้านี้ได้ฆ่าเด็กหญิง Ayaka Yamashita แล้วบันทึกความรู้สึกที่แสนตื่นเต้นตอนที่เอาฆ้อนทุบหัวเธอไว้ในไดอะรี่ เขายังกล่าวว่าเป็นผู้ทำร้ายเด็กคนอื่นๆ ในวันเดียวกันรวมถึงเด็กผู้หญิงที่ถูกแทงที่ท้อง
*หนู Ayaka ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสแล้วเสียชีวิตในสัปดาห์ต่อมา เด็กชาย A ได้บันทึกไว้ว่า แม่ของเขาแสดงความเศร้าใจต่อการตายของเด็กหญิง โดยไร้วี่แววใดๆ ว่าจะมีใครสงสัยในตัวของเขา
*หนู Ayaka ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสแล้วเสียชีวิตในสัปดาห์ต่อมา เด็กชาย A ได้บันทึกไว้ว่า แม่ของเขาแสดงความเศร้าใจต่อการตายของเด็กหญิง โดยไร้วี่แววใดๆ ว่าจะมีใครสงสัยในตัวของเขา
เมื่อผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญเป็นเด็ก สังคมก็เกิดข้อโต้แย้งขึ้นทันที
นักการเมืองบางคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าฆาตกรรมอำมหิตจากน้ำมือเด็กชายเกิดขึ้นจากการเสพสื่อรุนแรง บางคนโทษการเลี้ยงดูที่ปล่อยปละละเลยของครอบครัว แน่นอนว่าครอบครัวของเหยื่อโกรธแค้นต่อฆาตกรเพราะพวกเค้ารู้ดีว่า การเอาผิดอาชญากรวัยเยาว์นั้นจะไม่ "สาสม" หรือ "เป็นธรรม" ในความรู้สึกของพวกเค้า
แม้จะมีการปิดบังที่อยู่และชื่อจริงของฆาตกรและครอบครัวอย่างเข้มงวด แต่ก็มีคนสามารถปะติดปะต่อเหตุการณ์และค้นหาตัวตนของ Seito Sakakibara จนเจอ หลักฐานต่างๆ เช่น ไดอะรีและอาวุธที่ใช้ลงมือนั้นชี้ว่าเด็กชาย A คือผู้กระทำผิด แต่ก็ยังมีทนายและคนจำนวนหนึ่งเชื่อว่าตำรวจญี่ปุ่นต้องการสร้างผลงานด้วยการจับแพะ แต่หลายปีต่อมาหลังจากที่เด็กชาย A ถูกคุมขัง แม่ของเขาได้เดินทางไปเยี่ยมและคาดคั้นเอาความจริงจากปากลูกชาย และเขาก็ยอมรับฆ่าเด็กที่น่าสงสารทั้งสองลงจริงๆ
หลังจากที่ถูกคุมขังในทัณฑสถานเด็กประมาณ 7 ปี จนบรรลุนิติภาวะ Seito Sakakibara ถูกปล่อยตัวกลับสู่สังคมท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของประชาชนที่หวาดผวาต่อเหตุที่อาจจะเกิดซ้ำในวัย 32 เขาตัดสินใจเขียนหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองที่รวมถึง detail การฆ่าเหยื่ออย่างไร้ผิดชอบชั่วดี ครอบครัวของน้อง Jum ประท้วงไม่ให้มีการตีพิมพ์แต่มันกลายเป็นหนังสื่อขายดีที่ทำรายได้เป็นล้านให้กับอดีตฆาตกร
ความโกรธแค้นของผู้คนนั้นเป็นช่องทางให้แทบลอยด์ญี่ปุ่นฝ่าฝืนกฎด้วยการเปิดโปงตัวตนโดยระบุชื่อจริงของ Seito Sakakibara และยืนยันว่าเขาได้อาศัยที่ไซตามะไม่ได้ห่างจากเมืองหลวง
หลายคนอาจจะคิดว่า ชีวิตของอดีตอาชญากรวัยเยาว์ช่างราบรื่นดีแท้ พรากชีวิตที่สดใสของเด็กไร้เดียงสาไป 2 คน และทิ้งความทรงจำอันเลวร้ายไว้เบื้อหลัง แต่ถูกคุมขังเพียง 7 ปี และยังหารายได้จากการกระทำอันเลวร้ายได้อีกด้วย
แต่ถ้าคุณได้ยินเรื่องของสังคมญี่ปุ่นมาบ้าง ก็น่าจะทราบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของฆาตกรก็ไม่ต่างจากการเดินสู่ขุมนรก พวกเขาจะถูกรังเกียจ กลั่นแกล้งและถูกกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุของฆาตกรรมไม่ต่างจากตัวลูกชาย เพียงแต่ไม่ได้ลงมือเอง เรื่องของเด็กชาย A ทำให้เรานึกถึงซีรีย์ญี่ปุ่น Soredemo Ikite Yuku ที่ได้สะท้อนความเจ็บปวดของสองครอบครัว ทั้งฝั่งครอบครัวของฆาตกรและครอบครัวเหยื่อที่ต้องผจญกับบาดแผลที่กรีดลึกไม่มีทางรักษาหาย พล็อทของเรื่องน่าจะมาจากเหตุฆาตกรรมเด็กที่โกเบ จากแคแรคเตอร์ของฆาตกรเด็กวัยมัธยมต้นที่เอาค้อนทุบเด็กประถมจนตายแล้วเอาอาวุธซ่อนไว้ที่บ้านเหมือนกับคดีดังที่ช็อกญี่ปุ่นไม่มีผิด
Graham Young
คดี ฆาตกรต่อเนื่อง วางยาพิษครอบครัวและคนรอบข้าง
อย่าให้ดวงตาและรอยยิ้มไร้เดียงสาหลอกลวงคุณ เพราะนี่คือเด็กอัจฉริยะที่ฝักใฝ่เรื่องยาพิษตั้งแต่ยังตัวจ้อย เมื่อฝึกปรือฝีมือแล้วก็ริทดลองยากับสมาชิกครอบครัวสายเลือดเดียวกัน Graham Young หนุ่มน้อยชาวอังกฤษที่หายใจเข้าออกเป็นเรื่องสารเคมีได้ก้าวข้ามเส้นของความอยากรู้อยากเห็นด้วยการลงมือวางยาพิษคนรอบข้างจนสังเวยไปหลายศพ
มันเริ่มต้นจากการอาการปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนสร้างความเข้าใจว่าสาเหตุมาจากโรคติดต่อ แต่เมื่อพี่สาวป่วยหนักจนเข้าโรงพยาบาลและได้รับคำวินิจฉัยว่าถูกวางยา พ่อของ Graham ก็เริ่มสงสัยในตัวลูกแต่ก็ยังจับไม่มั่นคั้นไม่ตาย คนในครอบครัวรู้ดีว่าเขาหลงไหลในเรื่องสารเคมีมากเพียงใด แต่ก็ไม่กล้าฟันธงไปว่า Graham จะเลือดเย็นฆ่ากันได้ลงคอ
แต่เมื่อแม่เลี้ยงเสียชีวิต รวมถึงพ่อที่เกือบไม่รอด คนใกล้ตัวอย่างป้าและครูที่โรงเรียนก็พบหลักฐานบ่งชี้ว่า Graham คือผู้วางยาสมาชิกครอบครัวและเพื่อนจนถึงขั้นล้มตาย เขาถูกส่งตัวไปพบจิตแพทย์และถูกจับกุมในที่สุด
มันเริ่มต้นจากการอาการปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนสร้างความเข้าใจว่าสาเหตุมาจากโรคติดต่อ แต่เมื่อพี่สาวป่วยหนักจนเข้าโรงพยาบาลและได้รับคำวินิจฉัยว่าถูกวางยา พ่อของ Graham ก็เริ่มสงสัยในตัวลูกแต่ก็ยังจับไม่มั่นคั้นไม่ตาย คนในครอบครัวรู้ดีว่าเขาหลงไหลในเรื่องสารเคมีมากเพียงใด แต่ก็ไม่กล้าฟันธงไปว่า Graham จะเลือดเย็นฆ่ากันได้ลงคอ
แต่เมื่อแม่เลี้ยงเสียชีวิต รวมถึงพ่อที่เกือบไม่รอด คนใกล้ตัวอย่างป้าและครูที่โรงเรียนก็พบหลักฐานบ่งชี้ว่า Graham คือผู้วางยาสมาชิกครอบครัวและเพื่อนจนถึงขั้นล้มตาย เขาถูกส่งตัวไปพบจิตแพทย์และถูกจับกุมในที่สุด
Graham วัย 14 ถูกคุมตัวในโรงพยาบาลจิตเวชที่มีการรักษาความปลอดภัยสูง ผู้ป่วยแทบทั้งหมดคืออาชญากรคดีรุนแรง หลังจากที่ใช้เวลาบำบัดรักษาอาการป่วยทางจิตประมาณ 9 ปี ก็ถูกปล่อยตัวออกมาพร้อมกับคำยืนยันจากจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าเขาหายดีและเลิกหมุกมุ่นกับยาพิษ แม้ว่าระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ในโรงพยาบาล เจ้าตัวได้ศึกษาตำราแพทย์เพิ่มเติมจนมีความรู้แตกฉานเรื่องยาต่างๆมากกว่าเดิม เพื่อนผู้ป่วยนักโทษสังเวยชีวิตจากการถูกวางยาไปหนึ่งศพ ร่ำลือว่าเขาหาวิธีใช้ไซยาไนด์กับเพื่อนนักโทษ แต่ไม่มีหลักฐานที่โยงไปถึงตัว เขาได้รับอิสระตอนที่เป็นหนุ่มเต็มตัวทั้งๆ ที่ในไฟล์ประวัติมีบันทึกปากคำของนางพยาบาลว่า เขาบอกความใจให้เธอรู้เรื่องแผนการฆ่าคนให้เท่ากับจำนวนปีที่ได้ถูกคุมขังในสถานพยาบาลแห่งนี้
ดูเหมือนว่าแพทย์และทางการต้องการจะส่งฆาตกรต่อเนื่องกลับคืนสู่สังคมเหลือเกิน ..
การปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่คุมประพฤติและการวินิจฉัยที่ผิดพลาดนั้นทำให้เกิดเหตุน่าสลดใจตามมาอีกระลอก Graham เริ่มงานใหม่โดยที่ไม่มีใครทราบว่านี่คือฆาตกรเด็กเมื่อเกือบสิบปีก่อน Graham ยังวางยาในน้ำชาให้คนอื่นดื่ม เพื่อนร่วมงานของเขาเริ่มเจ็บป่วยและคิดว่าเป็นโรคติดต่อ ไม่ต่างจากในอดีต เขาทำให้คนหลายสิบคนเจ็บป่วยและตายไป 2 ศพ ตำรวจจับกุมฆาตกรถ้วยชาอีกครั้ง หนนี้มีการค้นหาหลักฐานมัดตัวอย่างแน่นหนา นั่นรวมไปถึงไดอะรี่ที่ว่าด้วยรายละเอียดของโดสยา และแผนการตัดสินใจจะให้ใครตายและไว้ชีวิตใครบ้าง!
"ฆาตกรถ้วยน้ำชา" คือฉายาจากวิธีการฆ่าให้ตายทั้งเป็นนั่นเอง แม้จะรู้สึกตื่นเต้นกับความสนใจจากสื่อ แต่เจ้าตัวไม่ชื่นชอบชื่อนี้นัก เขาคิดว่าชื่อ "นักวางยาระดับโลก" นั้นฟังเหมาะสมกว่า
ดูเหมือนว่าแพทย์และทางการต้องการจะส่งฆาตกรต่อเนื่องกลับคืนสู่สังคมเหลือเกิน ..
การปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่คุมประพฤติและการวินิจฉัยที่ผิดพลาดนั้นทำให้เกิดเหตุน่าสลดใจตามมาอีกระลอก Graham เริ่มงานใหม่โดยที่ไม่มีใครทราบว่านี่คือฆาตกรเด็กเมื่อเกือบสิบปีก่อน Graham ยังวางยาในน้ำชาให้คนอื่นดื่ม เพื่อนร่วมงานของเขาเริ่มเจ็บป่วยและคิดว่าเป็นโรคติดต่อ ไม่ต่างจากในอดีต เขาทำให้คนหลายสิบคนเจ็บป่วยและตายไป 2 ศพ ตำรวจจับกุมฆาตกรถ้วยชาอีกครั้ง หนนี้มีการค้นหาหลักฐานมัดตัวอย่างแน่นหนา นั่นรวมไปถึงไดอะรี่ที่ว่าด้วยรายละเอียดของโดสยา และแผนการตัดสินใจจะให้ใครตายและไว้ชีวิตใครบ้าง!
"ฆาตกรถ้วยน้ำชา" คือฉายาจากวิธีการฆ่าให้ตายทั้งเป็นนั่นเอง แม้จะรู้สึกตื่นเต้นกับความสนใจจากสื่อ แต่เจ้าตัวไม่ชื่นชอบชื่อนี้นัก เขาคิดว่าชื่อ "นักวางยาระดับโลก" นั้นฟังเหมาะสมกว่า
Graham ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป เขาเข้ารับการพิจารณาคดีในฐานะผู้ใหญ่ที่ตั้งใจทำผิดซ้ำแบบฆาตกรต่อเนื่องแต่กลับไม่ยอมรับผิดและอ้างว่าบันทึกในไดอะรี่เป็นเพียงนิยายที่แต่งขึ้น แต่นั่นไม่ทำให้โทษของเขาเบาบางลง ศาลตัดสินให้เขาจำคุกตลอดชีวิต แต่เจ้าตัวมีชีวิตอยู่ไม่ถึง 43 ปีก็หัวใจล้มเหลวตายคาห้องขัง
*แม้จะเป็นฆาตกรเด็กจากยุค 60s แต่อิทธิพลของฆาตกรถ้วยน้ำชาก็ยังหลงเหลืออยู่ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน หนังที่สร้างจากชีวิตของ Graham ทำให้เด็กสาวญี่ปุ่นวัย16 เขียนบล็อกบอกเล่าเรื่องราวความหลงไหลในการใช้ยาพิษฆ่าคน เธอใช้ thallium กับแม่แท้ๆ ของตัวเองจนเจ็บป่วยรุนแรง มันคือสารเดียวกันที่ Graham ใช้วางยาร่วมงาน เมื่อทำสำเร็จก็ตามไปถ่ายภาพแม่ที่นอนไม่ได้สติในโคม่า เมื่อตำรวจพบพิรุธและค้นหาหลักฐานในห้องของเธอก็พบกับหนังสือเกี่ยวกับ Graham Young และสาร thallium เหมือนกับฆาตกรเด็กโกเบ ห้องของเธอยังมีซากชิ้นส่วนสัตว์ที่เจ้าตัวชำแหละแล้วบันทึกความในใจไว้ว่า การแทงมีดเข้าไปในร่างสิ่งมีชีวิตทำให้เธอรู้สึกสบายใจเป็นอย่างยิ่ง!
*แม้จะเป็นฆาตกรเด็กจากยุค 60s แต่อิทธิพลของฆาตกรถ้วยน้ำชาก็ยังหลงเหลืออยู่ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน หนังที่สร้างจากชีวิตของ Graham ทำให้เด็กสาวญี่ปุ่นวัย16 เขียนบล็อกบอกเล่าเรื่องราวความหลงไหลในการใช้ยาพิษฆ่าคน เธอใช้ thallium กับแม่แท้ๆ ของตัวเองจนเจ็บป่วยรุนแรง มันคือสารเดียวกันที่ Graham ใช้วางยาร่วมงาน เมื่อทำสำเร็จก็ตามไปถ่ายภาพแม่ที่นอนไม่ได้สติในโคม่า เมื่อตำรวจพบพิรุธและค้นหาหลักฐานในห้องของเธอก็พบกับหนังสือเกี่ยวกับ Graham Young และสาร thallium เหมือนกับฆาตกรเด็กโกเบ ห้องของเธอยังมีซากชิ้นส่วนสัตว์ที่เจ้าตัวชำแหละแล้วบันทึกความในใจไว้ว่า การแทงมีดเข้าไปในร่างสิ่งมีชีวิตทำให้เธอรู้สึกสบายใจเป็นอย่างยิ่ง!
Philip Chism
คดี ข่มขืนครูสาวแล้วเชือดคอเธอกลางห้องน้ำหญิง
เมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะรู้สึกสะพรึงว่า ไม่มีฆาตกรวัยเยาว์คนไหนที่ได้รับโทษทัณฑ์เทียบเท่ากับผู้ใหญ่และผู้คนก็ต้องหวาดผวาว่าโทษในสถานพินิจเพียงไม่กี่ปีไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยว่าจะไม่เกิดเหตุสะเทือนขวัญซ้ำรอยเดิม
เราขอบอกว่า มีผู้เยาว์ที่ต้องโทษเหมือนกับผู้ใหญ่มาแล้วค่ะ
เราขอบอกว่า มีผู้เยาว์ที่ต้องโทษเหมือนกับผู้ใหญ่มาแล้วค่ะ
Colleen Ritzer ครูสาววัย 24 ผู้มีรอยยิ้มสดใสต้องมาจบชีวิตอย่าอเนจอนาถในสถานที่ทำงานซึ่งดูเหมือนจะไม่อันตรายแม้แต่น้อย เธอเพียงแค่ไปเข้าห้องน้ำหลังจากเลิกสอน และวันต่อมา ร่างไร้วิญญาณของเธอถูกพบในถังขยะที่ป่าข้างโรงเรียน ร่างกายของเธอพรุนไปด้วยรอยแทง 16 แผล คอหอยถูกเชือด ผลการชันสูตรชี้ชัดว่าคนร้ายยังข่มขืนเธอ ที่เลวร้ายไปกว่านั้น ร่างของเธอมีร่องรอยการกระทำชำเรารอบสองด้วยกิ่งไม้ในป่าแห่งนั้น
หลักฐานการฆาตกรรมชี้ชัดไปที่ผู้ต้องสงสัยเพียงรายเดียว Philip เด็กชายวัย 14 ผู้อยู่ในคลาสวิชาคณิตศาสตร์ของครูผู้เคราะห์ร้าย กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพตอนที่เขาตามครูเข้าไปในห้องน้ำหญิง แล้วออกมาเพื่อนำถังขยะใบใหญ่ยัดร่างของเธอไปทิ้งในป่าได้อย่างชัดเจน ขากลับจากทิ้งศพเหยื่อ คุณยังจะได้เห็นเขาเดินเท้าเปล่าโดยมีคราบเลือดติดตามกางเกงอย่างน่าสยดสยอง
เมื่อสังหารครูด้วยการบีบคอและใช้คัทเทอร์แทงและปาดคอ เขาเปลี่ยนเสื้อ และกลับไปที่ห้องเรียนเพื่อขโมยทรัพย์สินของเธอ ใช้บัตรของเธอซื้อตั๋วหนังและไม่ยอมกลับบ้านจนทำให้คนรอบข้างเป็นห่วงเป็นใยออกตามหา และติดแฮชแทกให้สังคมออนไลน์ได้ช่วยค้นหาตัวอีกแรง มันจึงเหมือนกับการตบหน้าพวกเค้าเมื่อได้รู้ว่า Philip คือผู้ต้องสงสัยเหตุฆาตกรรมครูสาวที่ใครๆ ต่างยกย่องว่าเป็นคนแสนดี
"เค้าไม่ได้เป็นคนรุนแรงเลยครับ ตรงข้ามกับความรุนแรงซะมากกว่า " เพื่อนบอกกับสื่อด้วยความช็อก
"เค้าไม่ได้เป็นคนรุนแรงเลยครับ ตรงข้ามกับความรุนแรงซะมากกว่า " เพื่อนบอกกับสื่อด้วยความช็อก
หลักฐานไม่ว่าจะเป็นภาพวงจรปิด, อาวุธ, DNA บันทึกการใช้จ่ายจากเครดิตการ์ดของเหยื่อที่ถูกขโมย พยานแวดล้อม ทุกอย่างมัดตัว Phillip ไว้จนดื้นไม่หลุด แต่กระบวนการยุติธรรมนั้นใช้เวลาถึง 2 ปีในการพิพากษาความผิดของฆาตกรเด็ก ฝ่ายทนายจำเลยนั้นสู้คดีด้วยอาการจิตเภทที่อ้างว่ามีอาการรุนแรงแต่ไม่แสดงออกให้ใครเห็น ส่วนอัยการนั้นงัดหลักฐานและคัดค้านเรื่องอาการป่วยทางจิตว่าการลงมือฆ่าข่มขืนหญิงสาวผู้บริสุทธิ์คาโรงเรียนนั้นเกิดขึ้นตอนที่เขามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน เจ้าตัวรู้ถึงผลแห่งการกระทำจึงนำศพของเหยื่อไปซ่อนในป่า แม้ทนายจะเชิญจิตแพทย์มาให้การยืนยันเรื่องความผิดปกติทางจิต แต่ฝ่ายตรงข้ามก็มีผู้เชี่ยวชาญที่มากับข้อพิสูจน์ว่าฆาตกรคนนี้แสดงละครหลอกลวงให้คนอื่นเชื่อได้
ในปี 2016 ลูกขุนให้คำตัดสินว่าเขามีความผิดจริง และต้องถูกจำคุกยาวนานถึง 40 ปี จึงจะมีสิทธิ์ยื่นขอรับการปล่อยตัวก่อนกำหนด แต่ในเวลาก็มีการเปลี่ยนแปลงว่า การอนุญาตให้นักโทษรายนี้ยื่นขอปล่อยตัวนั้นอาจจะไม่ถึง 40 ปี ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้พิพากษา จากการเปลี่ยนแปลงของกฏหมายเมื่อไม่กี่ปีก่อนที่เอื้อให้กับเยาวชนที่ต้องโทษรุนแรงให้มีโอกาสในการขอลดโทษ และนั่นทำให้ครอบครัวของเหยื่อรู้สึกเหมือนกับถูกทรยศเมื่อได้รู้ว่า ฆาตกรอาจจะมีโอกาสได้ออกจากคุกหลังจากที่ชดใช้ความผิดขั้นต่ำ (15 ปี) แม้ว่าเขาจะถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ใหญ่ตามกฏหมายของรัฐ Massachusetts แต่เพราะในระหว่างลงมือนั้นยังเป็นเพียงเด็กชายวัย 14 จึงมีช่องทางให้รับโทษน้อยลง
แม่ของเหยื่อประกาศว่า ฆาตกรเป็น "ปีศาจ"ขนานแท้ และไม่มีการบำบัดรักษาใดๆ จะทำให้ปีศาจตนนี้ดีขึ้นได้ "Colleen ไม่มีวันจะได้รับโอกาสที่สอง เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่สมควรจะได้มันเช่นกัน"
Discussion (7)