รีวิว สกินแคร์และเครื่องสำอางที่ใช้แล้วชอบและไม่ชอบ ไตรมาสที่ ¾ ปี 2561 (Best&Bad Skincare Quarter ¾)

19 1
สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วกับการรีวิวสกินแคร์และเครื่องสำอางน้อยๆ ที่ใช้แล้วชอบ และไม่ชอบ ประจำไตรมาสที่ 3 ของปี พ.ศ. 2561 มาดูกันว่าเราไปช่วยผลประกอบการร้านเครื่องประทินผิวไหนขยับขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านๆ มาบ้าง ว่าแล้วไปกันเล้ยค่า)

ที่สุดด้านผลงานการเบิกจ่าย และดีทุกขวดทุกกระปุกที่ได้มา

ณ บ้านหลังหนึ่ง

จ : มือซ้ายกำมือถือกดเฟส มือขวากำบัตรเครดิต กำลังจรดเลขบัตร
ผจ : เธอ เธอ
จ : อะไร แป้บนึงซื้อของอยู่ พร้อมผลักมือแบบรำคาญ
ผจ : ซื้อได้ แต่นั่นบัตรเรา 
จ : อ้าวเหรอ ท่ด โทษ 555 หัวเราะกลบเกลื่อน (ยื่นบัตรกลับไปให้อย่างเสียมิได้ แอบจำเลข 16 หลักแต่ทำไม่ได้)

การไถมือถือดูเฟสบุ๊คเรื่องชาวบ้านนั้น ช่วงนี้ต้องชะลอไว้ชั่วคราวก่อน เพราะการกดเข้าไปชอปปิ้งตามโฆษณานั้นบันเทิงมื้อเที่ยงยิ่งกว่าเป็นไหนๆ แล้วเหมือนรู้ใจเรานะ อยากได้อะไรโฆษณาก็เด้งขึ้นมายังกะแก้วสารพัดนึก และแล้วก็เป็นคราวเคราะห์เสียเงินเสียทองของเราเมื่อดันไปถูกอกถูกใจครีมทาหน้าลังโคมชิ้นหนึ่ง (กระปุกสีม่วง ซื้อมาลองจาก shopee)  
ด้วยกลิ่น ด้วยสัมผัส ด้วยผลลัพธิ์หลังตื่นนอน มันนุ่มลื่น ดีดเด้งแบบหรูหราปารีเซียงยิ่งนัก เกิดความประทับใจและอยากเสียตังค์แบบหนักๆ สักครั้ง จึงกดเข้าไปสั่งซื้อในเวปออนไลน์ของลังโคมในวันที่มีโปรโมชั่น ลด 20% ถ้าซื้อ 3 ชิ้นขึ้นไป และแถมครีมม่วงขนาดจริง 50 ml ถ้าซื้อครบ 6,500 บาทขึ้นไป โห โปรกระแทกใจอย่างรุนแรง เลือกค่ะเลือก จนได้ออกมาตามรูป (รวมของแถม)
กล่องใหญ่เจ้สั่งลุย ได้แก่
1. ADVANCED GÉNIFIQUE 50ML
ยังไม่ได้แกะใช้ แต่ออกมาเชยชมแล้ว ไฮโซโก้เก๋สมราคา สมน้ำสมเนื้อ สมน้ำหน้าตัวเองเสียเงินเลย 55 ไว้ใช้แล้วเป็นอย่างไรจะมาเล่าให้ฟังนะคะ
2. RÉNERGIE NUIT MULTI-LIFT REDEFINING LIFTING NIGHT CREAM 50ML 2 กระปุก (แถมในเซ็ตเจนิฟิกซ์ 1 กระปุก และแถมเพิ่ม 1 กระปุก) 


ต้นเหตุแห่งการเปย์แบบรุกๆ กระปุกหนัก เนื้อครีมสีชมพูอ่อนที่ละมุนละไม กลิ่นหอมพอเหมาะ เป็นเนื้อที่ชอบที่สุดตั้งแต่ซื้อครีมทั้งมวลมา ตื่นเช้ามาหน้านิ่มชุ่มชื้นแบบพอดี พูดไปราคาเต็มคือกระปุกละ 4,900 บาทนะเออ ได้มานี้หอมเช้าหอมเย็น รักที่หวานฉ่ำเป็นแบบนี้นี่เอง

3.  TONIQUE CONFORT โทนเนอร์เพื่อผิวแห้ง 400 ML  
โทนเนอร์ขวดใหญ่มาก อ่านรีวิวแล้วหวือหวา เนื้อเข้มข้นเล็กน้อยสีชมพูอ่อน มีกลิ่นหอมแบบผ่อนคลาย ใช้ร่วมกับสำลีเพื่อทำความสะอาดผิว เหมาะกับผิวแห้ง นัยว่าจะทำให้ผิวสบาย แต่อ่านส่วนผสมแล้วใส่แอลกอฮอส์บริสุทธิ์มาด้วย หรือเราอ่านฉลากไม่ดี เค้าทำออกมาให้ผิวที่ "เปียก" ให้ "แห้ง" รึเปล่าก็ไม่รู้ ผลจากการใช้แล้วหน้าสะอาด แสบๆ นิดหน่อยแถวช่วงริมฝีปาก ถ้าไม่มีแอลกอฮอล์จะน่ารักกว่านี้ 

4. MIEL-EN-MOUSSE โฟมทำความสะอาดเครื่องสำอางจากน้ำผึ้งอคาเซีย 200 ML
โฟมที่ใช้ตอนหน้าแห้งมือแห้ง นวดๆ วนๆ ให้ครีมอุ่นขึ้น เครื่องสำอางละลาย จากนั้นวักน้ำในโอ่งมาขยี้ให้เกิดฟอง แล้วล้างออกด้วยน้ำจนสะอาด อาจตามด้วยโฟมอื่นหรือไม่ก็ได้ วิธีการล้างฮาร์ดคอร์ไปนิด แรกหัดล้างจะฝืดนิดนึง และหน้าอาจเหี่ยวได้ช่วงนี้ แต่พอซักพักเราคอนโทรลมือได้ มันคือการล้างเครื่องสำอางที่ยอดเยี่ยมไปเลยนะ รู้สึกสะอาดและไม่แห้งตึง ลองเช็ดโทนเนอร์แล้วไม่ดำ ประการสำคัญขีดเส้นใต้ไว้เลยว่า ใช้นิดเดียวก็ล้างได้ทั่วหน้า เทียบกับราคาแล้วเราว่าคุ้ม (ราคาปกติ 1,250 บาท/200 ml) ใช้ทุกวันขาดไม่ได้ รัก

5.  ของแถม ได้แก่ อายครีม GÉNIFIQUE 5 ML, เซรั่ม GÉNIFIQUE SENSITIVE 1O ML , กันแดด 10 ML และเซรั่ม 1 ซอง เอาไว้ลองกรุบกริบ (อายครีมนั้นใช้ได้หลายวันอยู่ ขายในเน็ตประมาณ 200 บาท)  
ปิดงบประมาณไปทั้งสิ้นในครั้งนี้ 6,XXX บาท ปฏิญญามหาสารคามไว้ว่าจะไม่ซื้อเครื่องสำอางเครื่องประทินผิวอีก จนกว่าจะสิ้นปี แน่นอน

สุดท้าย อาทิตย์ถัดมา ก็เกิดท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด มีโปรชิเซโด้ในลาซาด้า แรงมาก (อีกแล้ว นางทาสการตลาด) มาพิสูจน์จิตใจที่แกร่งดังหินผาของฉันจนสั่นคลอน น น น

สุดท้าย กล่องแดงมาเลยจ้า แม่รับไว้ให้ถามเลยไหนว่าเลิกแล้ว ?? โอ้ย แม่ อันนี้เล็งก่อนจะประกาศปฏิญญาอี๊ก

ของแถม
นั่นก็คือ กล่องเบนโตะบรรจุสารอาหารที่จำเป็นสำหรับผิวจ้า ลดราคาเหลือกล่องละ 803 บาท (ประกอบด้วยเจลล้างเครื่องสำอาง 50 ml น้ำตบเจล 50 ml และครีม 15 ml) แถมกันแดดรองพื้นเปลี่ยนสีได้ 1 หลอด ที่สำคัญแถมชิขวดแดงขนาด 10 ml 2 ขวด และยังไม่พอแถมครีมวาโซเติมความชุ่มชื้น 15 ml  1 กระปุก เทสเตอร์ลิปสติกสีสวยอีก 4 สี เรียกว่าทรัพย์ที่เสียไปได้มาซึ่งของดีที่คู่ควร (เพราะชิขวดแดงถ้าซื้อในเน็ตก็ 300 บาทไปแล้วนะไซส์นี้) ครีมทุกชิ้นหอมมาก หอมพอประมาณ หอมแบบถูกใจ 

คะแนน รวบตึง
ลังโคม 9.5 คะแนน หักที่บางผลิตภัณฑ์มีความไม่อ่อนโยนซ่อนอยู่ 
ชิเซโด้ 9.2 คะแนน หักที่ตัวครีมกระปุกเติมความชุ่มชื้นแต่แอลกอฮอล์แน่นไปนิด และเนื้อเหนียวไปหน่อย
ทีละหมวด ทีละหมู่ 

หมวดล้างเครื่องสำอาง
1. ชอบ MIEL-EN-MOUSSE โฟมทำความสะอาดเครื่องสำอางจากลังโคม แพงแต่ไม่มาก ใช้นิดเดียวทั่วหน้า ล้างสะอาดดีมาก กลิ่นแนวเดียวกับการ์นิเย่ ประมาณพี่หญิงใหญ่กับยัยหนูเล็ก 

2. ชอบ sulwhasoo oil cleanser ซื้อไซส์ทดลองขนาด 50 ml มา 4 ขวด เพื่อให้ได้ขนาดเดียวกับขนาดจริงในราคาขวดละประมาณ 100 บาท ผลการใช้คืออ่อนโยนกับผิวหน้ามาก ออยล์มีความเบา ใส ไม่มัน กลิ่นหอม ใช้แล้วเหมือนมีคนมารักผิวเรา คล้ายมีชายหนุ่มค่อยๆ บรรจงจุมพิตหน้าผาก ไล่ลงมาแก้มนวล แตะเบาๆ ที่จมูกเรียว และจบลงที่ริมฝีปากที่เผยอสั่นเล็กน้อย เห็นภาพมั้ยคะท่านผู้ชม  
3. ชอบแต่ผิดหวัง Dove  micellar water อ่านรีวิวแล้วคิดว่าต้องเช็ดสะอาดหมดจดพร้อมการบำรุงที่เข้มข้นเหนือชั้น เพราะประกอบไปด้วยเซรั่มและสารบำรุงต่างๆนานา ความรู้สึกพอใช้แล้ว ขอร้องเพลง "หลงลืมว่าเคยเป็นใคร สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ" หน้าหลังเช็ดก็ชุ่มชื้นนะแต่เครื่องสำอางไม่ค่อยออก หรือไม่งั้นเราก็ใช้ผิดวิธี แต่จะมีวิธีใช้อย่างไรให้เข้าถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้นอกจากกดลงบนสำลี 2-3 ปั๊ม เช็ด เช็ดไปแล้วตายังอยู่ครบ ถูแทบถลอกก็ยังมีปื้นดำปรากฏอยู่ หลังๆ เลยเอามาล้างแปรง รวยๆ ขำๆ
แต่เรากลับชอบ DOVE 3 IN 1 MAKE UP REMOVER มาก ล้างแล้วนุ่มผิว ปราศจากความคาดหวังแต่ล้างได้สะอาดในระดับที่ all in one foam ทำได้ดี ราคาก็ถูก แต่อ่านรีวิวแล้วมีคนให้หนึ่งดาวถ้วน

4. ไม่ชอบ Estee Lauder Take It Away Makeup Remover Lotion ล้างแล้วเป็นสิว คือเป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างในโลกเครื่องสำอางที่เราใช้แล้วสิวขึ้น ส่วนตัวไม่ชอบผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการล้างของยี่ห้อนี้เลย
หมวดล้างหน้า
1. ชอบ sulwhasoo cleansing foam ซื้อไซส์นี้มาเลย limited edition 400 ml ขวดเท่าครีมอาบน้ำ ล้างสะอาดดีตามมาตรฐาน กลิ่นไม่หอมไม่เหม็น ถ้าไม่มีอะไรมากระทบใจใหม่ๆ ก็อาจใช้ไปยาวๆ (จริงดิ) ที่สำคัญใช้ได้นานมาก แม้ว่าหลายครั้งจะมีคนหลงเอาไปอาบน้ำก็ตาม  
หมวดโทนเนอร์

1. ชอบ  No.7 Whitening Hydrating Toner แรกเริ่มเดิมทีไม่ได้ใช้โทนเนอร์มานานมาก แล้วพบว่าครีมเอย เซรั่มเอยที่แพงๆ ใช้ไม่ค่อยเห็นผลเหมือนชาวบ้านเลย ก็เลยเพิ่มโทนเนอร์เข้ามาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ให้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่ทาเป็นขั้นตอนถัดไป ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น และดีขึ้นจริงๆ เซลล์ผิวตายคือได้ไปเกิดงานนี้เลย เซลล์ผิวเต่งขึ้น ฟูขึ้น ใครผิวแห้งลองใช้โทนเนอร์ ์No.7 มีหลายสูตรละลานตามาก ถือเป็นเจ้าแห่งโทนเนอร์ รองจาก hp เลยนะ (คนละโทนเนอร์มั้ย) ขนาดคนแนะนำที่ร้านบูทส์ก็ยังแยกไม่ค่อยออกเลยว่าอันไหนคุณสมบัติอย่างไร บอกว่าพี่พอจะดูแลตัวเองได้มั้ย หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน อ้าว ซะงั้น  
2. ชอบลังโคม TONIQUE CONFORT ขวดใหญ่เท่าขวดน้ำ โทนเนอร์ไบโพล่าที่เคลมว่าสำหรับผิวแห้ง แต่กลับใส่แอลกอฮอล์บริสุทธิ์มาให้ผิวสะดุ้งเล่น เนื้อเข้มข้นใช้แล้วสบายผิวดีมาก เหมือนคนที่ปลดแอกหนังกำพร้าที่ไร้ค่าออกไป ใช้แล้วควรตามด้วยอะไรที่กระชากความชุ่มชื้นกลับมานิดหน่อยในทันที เช่น น้ำตบหรือเอสเซนส์ เพื่อไม่ให้ผิวว้าเหว่มากนัก ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีการบำรุงจริงต่อไป
หมวดเซรั่ม 
ขอขายกระทู้เก่าค่ะ ใช้หลายอย่าง ทาต่อกัน ใช้สลับกัน จนกว่าหน้าหรือกระเป๋าตังค์จะพังกันไปข้าง

เพิ่มเติม
ชิเซโด้ขวดแดง ultimune ดีจนทำให้เราซื้อซ้ำบ่อยๆ (เทสเตอร์) เซรั่มเนื้อค่อนข้างเหลว ซึมง่าย กลิ่นหอมแบบผู้ดีญี่ปุ่น ถ้าจะขอดูผิวเราหลังใช้ ให้ดูผิวแต้วก่อนเถอะ เริ่ดมั้ยล่ะ ไซส์จริง 30 ml ต้องรอโปรสถานเดียว (เราว่าแพงนะ เนื้อเหลว ใช้เยอะก็กลัวเปลืดง ใช้นิดเดียวก็ไม่ทั่วหน้า ไม่สบายใจอีก)

หมวดครีม
1. ชอบ RÉNERGIE NUIT MULTI-LIFT REDEFINING LIFTING NIGHT CREAM ที่สุดของครีมบำรุงสูตรกลางคืนที่เกิดกี่ชาติก็ไม่อาจกวนเองได้ดีขนาดนี้ ครีมที่ปรุงขึ้นมาเพื่อเรา ครีมที่รู้สมดุลแห้งเปียกของผิวหน้าเรายิ่งกว่าเรารู้ หยิบครีมค่ะ ทาเลยไม่รออะไรแล้ว  
2. ไม่ชอบ  ÉNERGIE DE VIE NIGHT CREAM เนื้อนาบุญก็ดีนะ นุ่มนวล ซึมเข้าผิวง่ายกว่าครีมด้านบนด้วยซ้ำ แต่กลิ่นหอมของครีมที่ปรุงออกมาจัดจ้านเกินเบอร์ ทะลุพิกัดการชาร์จพลังให้ชีวิตผิวนั้น ทำเอาเราเศร้า และโบกมือหยอยๆ บอกน้อยจะไปชายแดน  
หมวดผิวผมผิวกาย

1. ชอบและซื้อซ้ำตลอดเวลา สบู่อาบน้ำ ยี่ห้อที่โดนใจใช่เลย ได้แก่ Dove โดยเฉพาะสูตรทับทิม หอมแบบไม่ทั่วไป อาบเสร็จแล้วโคตรสดชื่นมีความสุข ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งไม่ลื่น ต้องมีไว้เป็นสต็อกตลอด และล่าสุดไปซื้อสูตรสครับสีฟ้ามาเพิ่ม เม็ดสครับละเอียด กลิ่นหอมสะอาด แต่ความชุ่มชื้นยังไม่เพียงพอสำหรับสาวผิวแห้ง
2. เคยชอบแชมพุและครีมนวดผมของลอรีอัล เอลแซฟ เคราติน สมูท KERATIN SMOOTH เลยซื้อมาลองอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่พบความแตกต่างจากแชมพูทั่วไป อาจเป็นผมเราเองที่แก่ขึ้นทำให้ต้องหาแชมพูใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
3. ซันซิล ขวดสีชมพู สูตรใหม่ แลน่าใช้ ลองแล้วกลับไปใช้สูตรโปรตีนไข่น่าจะดีกว่า 

4. ครีมทาผิวกันแดด นีเวีย สูตรเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว หลอดสวย ดูแล้วใช้ดีแน่นอน พอใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นหอมพอดีไม่ฉุน ถ้าเทียบกับยี่ห้อวาสลีน เราชอบวาสลีนมากกว่า หากซื้อมาแล้วอยากชุ่มชื่นควรทาพวกออยล์หรือครีมวาสลีนหลังอาบน้ำ แล้วค่อยทานีเวียตามก่อนออกแดด
หมวดลองของ โดนป้ายยา เอะอะนึกขึ้นได้ก็ซื้อ และของรักที่ใช้เสมอ

1. ไม่ค่อยชอบ : มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงหน้าทั่วไปหมดพอดี ก็เมียงมองแล้วตามร้านวัตสัน บูทส์ และแล้วก็ได้มา Cerave ที่นำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เลือกสูตรทาผิวหน้าและผิวกาย 50 ml 189 บาท หลอดขาวสะอาดน่าใช้ ผลิตที่โปแลนด์ ได้ลองแล้วเนื้อครีมค่อนข้างหนักและไม่ซึม อ่านรีวิวไม่มีใครไม่ซึม ข้องใจหรือว่าเราเลือกสูตรไม่ถูก ตอนนี้ลดระดับความน่าเชื่อถือมาทาคออย่างเดียวแล้ว
2. ชอบ  : ออยล์เซรั่มบำรุงผม Dcash จาก 7-11 เนื่องจากผมเกิดวิกฤตรังนก สางเท่าไรก็สางไม่ออก จึงต้องถอยมาโดยพลัน ขวดสวยงามน่าใช้ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป  เอาจริงๆ ก็ไม่คาดหวังว่าหยดเล็กๆ จะเสกผมให้เริ่ดเหมือนไปซาลอน แต่โดยรวมใช้แล้วผมหอมขึ้น เรียบลื่นขึ้น พอเอาหวีแซะๆ ออกจากกันได้อยู่ คงใช้ต่อเนื่องเพราะไม่ทำให้ผมมันจนเกินไปดี ใช้นิดเดียวก็ทั่วทั้งศีรษะแล้ว

3. ชอบนะแต่ขอหยุดความสัมพันธ์ สลิปปิ้งมาส์กจาก Pond's ซื้อแบบซองมาเป็นกล่องถูกดี สืบเนื่องจากใช้แบบกระปุกแล้วรู้สึกดีมาก ครีมนุ่มลื่นเติมน้ำให้ผิว แถมมีเม็ดบีดส์สีชมพูที่แตกตัวเป็นสารบำรุงพิเศษเข้ามาอีก กลิ่นก็หอมแบบให้จมูกฟุดฟิดตะขิดตะขวงใจ พอระทวยคนนอนข้างๆ ได้บ้าง (ลูกจามกันใหญ่พอแม่ทา) แต่เรามีความฝังใจกับครีม Pond's ที่เราเคยใช้ตอนเป็นสาวน้อยว่า พอใช้ไปนานๆ แล้ว หน้าจะกร้านขึ้น (ใช่ซี้ เดี๋ยวนี้หาเงินหาทองได้ไปซื้อของแพงแล้วลืมชั้นน่ะสิไม่ว่า) ไม่หรอกจ้า คือเราชอบเธอนะ แต่อยู่กันไปมา ก็กลับไม่ใช่อย่างที่คิด มันเป็นรอยแผลในใจเราเอง อย่าโกรธอย่าโทษตัวเองเลยนะ

4. ครีมกันแดด Nivea instant aura สีชมพู ก่อนที่น้องวี วิโอเล็ต มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราเคยเป็นมาก่อนนะ เอ้ย ใช้มาก่อนนะ ตอนนั้นเนื้อดีมาก เนื้อสีชมพูแบบใช้แล้วหน้าดูดีขึ้นเลยแหล่ะ นวลเนียน อัพออร่า แต่ตอนหลังเหมือนจะปรับสูตรให้ไม่ดีเท่าเดิม กลัวจะขายดี สาแก่ใจหล่อนละ เราซื้อหลอดเดียวพอ
5. รองพื้นลอรีอัล ลูเซ็นต์ เมจิก สี N4-N7 รองพื้นเจ้าสาวค่อนคืน หลังเที่ยงคืนอาจระเหิดหายไปจากหน้าได้ แต่รักรองพื้นอันนี้เหมือนลูกนะ ถึงดีเลวยังไงก็ลูกเรา (เนื้อเนียน ผิวสวยสม่ำเสมอก สีไม่เปลี่ยน สีเหลืองค่อนมาทางผิวคนไทย)

6. เป้าหมายใหม่ของดาวหางฮัลเล่ฮงก้าที่พุ่งชน คือ รองพื้นแมค ความพอเพียงคืออะไรไม่เคยรู้ เดินเข้าเคาท์เตอร์ บีเอแนะนำ nc35 จ่ายเงิน เดินออกมา ใช้ หน้าหมอง คนทักว่าไม่สบาย ใจหล่น เกือบสองพัน น้ำตามา ไม่เป็นไร ฮึดสู้ เสียใจแต่จะเสียเงินไม่ได้ เอาไปผสมกับลอรีอัล ปรากฏว่าฉุดให้ลอรีอัลสูงขึ้น ตัวแมคเองก็ได้กุศลผลบุญ หายหมองหายคล้ำ อยู่เป็นคู่กันตั้งแต่นั้นมา (ใครยังไม่มีรองพื้นแมค ควรรอบคอบในการเลือกซื้อ ใครยังไม่มีรุ่นนี้ nc35 ก็ยังไม่ต้องขวนขวายสาระแนจังหามาก็ได้ studio fix น่าจะดีกว่า แหน่ะ อยากได้อันอื่นอีกแระ)
7. แป้งฝุ่นกิฟฟารีน ใช้ทุกรุ่น รักทุกรุ่น คือเราไม่ค่อยได้ซื้อยี่ห้อที่แพงๆ เราก็เลยเปรียบเทียบไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับคัฟเวอร์มาร์คฝาขาว รุ่นเจหรือคิว ศรีจันทร์กระปุกม่วง เรฟลอนกระปุกดำรุ่นทัชแอนด์โกลว แป้งฝุ่น KMA  แป้งฝุ่นบิโอนาตูแรล แป้งฝุ่นคิวเพรสรุ่น 12beautiful แป้งฝุ่น Mti feel perfect แป้งฝุ่นเมลเบย์ลีน แป้งฝุ่น Kate คือดีกว่าจริงๆ ตัวแป้งโปร่งแสงแต่มีความนวล นัว ไม่แห้ง ไม่เยิ้ม อารมณ์การใช้แป้งเหมือนสาวสมัยโบราณแต่งตัวแต่งหน้าห่มสไบจะออกงานกลางคืน แสงเทียนวับแวมช่วยขับผิวให้ผ่องประกาย ยิ่งยามต้องแสงจันทร์กลมโตที่ลอยเด่นบนท้องฟ้ายามรัตติกาลยิ่งงดงามนัก 
(เดี๋ยวจะเอามาอวด มีทุกรุ่น ซื้อเอง) 

รุ่นนี้ออกมาเน้นวัยสะรุ่น ไฮสคูล กระปุกสวย เนื้อสัมผัสแห้ง
ฟัดกันกับรุ่นนี้ของคิวเพรส แต่เราชอบกิฟฟารีนมากกว่า
8. โรลออนแบบครีมจากวาสลีน 2in1 ป้องกันกลิ่นใต้วงแขนพร้อมการบำรุงจากเซรั่ม กลิ่นหอมทุกสี เลือกไม่ถูก หลับตาหยิบมาหนึ่งชิ้น วิธีใช้ให้เปอดฝาและบีบครีมออกมาทาถูทาถูได้เลย ผลลัพธิ์ เหมาะกับการทาแล้วนอนมากกว่า ให้ทำหน้าที่บำรุงอะไรไป เพราะกันกลิ่นไม่มิดเท่าไร เกือบเข้าข่าย "หลงลืมว่าเคยเป็นใคร สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ" อีกชิ้นหนึ่ง
9. ลิปมันทาปาก Lip Butter กลิ่น cherry ตลับใหญ่บรรจุเต็ม ชุ่มชื้นดี มีสีเล็กน้อย กลิ่นหอมฟรุ้ตตี้ เอาออกมาถ่ายรูป หายไปซะงั้น สงสัยหล่นในนาข้าว
จบก่อนนะคะ ได้ถ่ายรูปเพิ่มแล้วมาคุยให้ฟังเพิ่ม สวัสดีค่ะ


sunis

sunis

เพื่อให้การลดการซื้อเครื่องสำอางเป็นผลสำเร็จ เราจะรีวิวทุกชิ้นที่เราซื้อมา เพื่อป้องกันการเหนื่อยจากการรีวิวและเราจะหยุดซื้อไปเอง

FULL PROFILE