Crazy Rich Asians In Real Life

41 6
จากความสำเร็จของภาพยนตร์ Crazy Rich Asians ที่ตอกย้ำให้Hollywoodได้ให้ความสำคัญในการสร้างผลงานจากพื้นฐานความหลากหลาย (diversity) romantic comedy สนุกสนานแบบน้ำเน่าอินเตอร์นี้อาจจะทำให้คุณสงสัยว่า ใครกันบ้างที่เป็นหนุ่มสาวสวยหล่อร่ำรวยเป็นบ้าเป็นหลังมีตัวตนในชีวิตจริง  ลองมาชมกันได้เลยค่ะ



Mario Ho

หนุ่มหน้าตาน่ารักคนนี้คือหนึ่งในทายาทของราชาคาสิโนมาเก๊า Stanley Ho มหาเศรษฐีลำกับต้นๆ ของฮ่องกง ที่บอกว่าหนึ่งในทายาท ก็เพราะเป็นลูกคนที่สามของคุของประมุขสกุล Hoกับคุณนายสี่  ..
 ใช่แล้วค่ะ เจ้าพ่อผู้กำเนิดธุรกิจเงินเป็นแสนล้านนั้นมีสตรีที่ยกให้เป็นภรรยาออกหน้าออกตาถึง 4 คน และมีลูกรวมทั้งหมด 17 คน แม่เจ้า!  
ลูกของคุณนายใหญ่ที่ล่วงลับไปแล้วนั้นเข้าวัยชรากันแล้วค่ะ ส่วนลูกๆ ของคุณนายสี่นั้นยังหนุ่มยังสาว เจ้าพ่อก็ต้องอยู่บนเตียงเช่นนี้เพราะวัยก็เหยียบร้อยเข้าไปแล้ว การแบ่งสรรการบริหารกิจการก็ตกอยู่กับครอบครัว ลูกชายลูกสาวที่เก่งธุรกิจก็ขึ้นมาเป็นผู้นำบริหารสาขาที่มีมูลค่ามหาศาล  ส่วนคุณนายสี่ผู้เป็นแม่ของ Mario นั้นได้เป็นผู้บริหารหนึ่งในธุรกิจที่สามีปูทางไว้ให้ทำให้เธอมีทรัพย์สินรวมกันราวๆ 4,100 ล้านดอลลาร์  และความร่ำรวยนี้ก็คงสืบต่อไปยังลูกๆ ทั้งสี่คน รวมไปถึงมาริโอที่เป็นตี๋เล็กของตระกูลนั่นเอง
คูณตัวเลขแล้วเห็นเลขศูนย์เยอะขนาดนั้นก็ให้ความรู้สึกว่ารวยยิ่งกว่าเต้าหมิงซื่อซะอีก แม้จะเป็นหนึ่งในทายาททั้ง 17 คน แต่แม่ก็มีทรัพย์สินเป็นเงินไทยแสนล้าน!

ถ้าให้พูดถึงคุณสมบัติด้านอื่นที่ไม่ใช่ช้อนเงินช้อนทองที่คาบออกมาตั้งแต่เกิด Mario เป็นหนุ่มหัว bright  วิชาการยอดเยี่ยมโดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์  ตอนเด็กๆ เคยแข่งขันเป็นแชมป์ระดับประเทศ เมื่อเรียนจบมัธยมก็ได้รับข้อเสนอจาก Oxford อันแสนโด่งดัง แต่เขาเลือกเรียน MIT ของอเมริกาแล้วใช้เวลาเพียง 3 ปีก็เรียนจบ และต่อปริญญาโททันที กลายเป็นนักศึกษาที่เด็กที่สุด เจ้าตัวบอกว่า ที่จบเร็วเพราะตอนที่เรียนปีสองลงคอร์สมากกว่าคนอื่นเท่าตัว อย่าหาว่าแต่จะมีเวลา party เวลาจะกินยังหาไม่ค่อยเจอ  ทุ่มเทหนักขนาดนี้เพราะต้องการจะตั้งบริษัทของตัวเองและอยากจะพิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่าถ้าพยายามก็สามารถพิชิตเป้าหมายที่ดูยากเย็นได้ 
ใส่สลิงคล้องแขนพิมพ์รัว ในเวลาสองวันได้นอนแค่ 5 ชั่วโมง หลายคนก็อาจจะคิดว่า รวยมากขนาดนี้ ก็ไม่ต้องรีบแบกรับภาระหนักมากก็ได้มั้ง แต่เพราะการเติบโตขึ้นมาในครอบครัวนักธุรกิจทรงอิทธิพล  พี่ๆ ที่อายุห่างกันมากก็ได้เป็นประธานคาสิโนและกิจการมากมายที่พ่อลงทุนไว้ทั่วโลก แม้จะอายุแค่ยี่สิบนิดๆ ก็สปีดตัวเองเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามที่คนในครอบครัว
บน social media ของทายาทมหาเศรษฐีหนุ่มคนนี้ไม่ค่อยเห็นเรื่องวัตถุหรือเงินกองเป็นฟ่อนแนว rich kids ที่สร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์  แต่เจ้าตัวเปิดเผยเต็มที่ว่าหลงไหลในกีฬา Mario เดินทางไปหลายประเทศทั่วโลกเพื่อนั่งชมเกมแข่งขันแบบสดๆ บนที่นั่งวิวดี  จ่ายเงินแบบแฟน VIP เพื่อกระทบไหล่นักกีฬาดังและโค้ช
เปิดดูแต่ล่ะภาพบน Instagram  แล้วMario ดูเป็นผู้ชายธรรมดา สนิทกับครอบครัว แกล้งแม่ หวงน้องสาว ไม่ใช่แนวคุณชายที่มีพ่อบ้านดูแลและมีโชเฟอร์ส่วนตัวคอยตามไปทุกที่ แต่เบื้องหลังที่เค้าไม่ได้เอามาเปิดเผยบนโลกบนโลกออนไลน์ อาจจะเป็นชีวิตความร่ำรวยที่เราจินตนาการไม่ถูกก็เป็นได้
Private Jet เหรอ  ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง แต่รู้มั้ยว่าเค้าคนนี้เคยเดินทางไปกับหุ้นส่วนธุรกิจในไฟลท์ชั้นประหยัดมาแล้ว topicนี้ฮือฮาเพราะ Mario ออกมาบ่นว่า ไฟลท์หุ้นส่วนหา passport ไม่เจอจนต้องติดอยู่ที่สนามบินหลายชั่วโมง ทางพนักงานก็ไม่ได้ใส่ใจมากเท่าใดนัก แต่พอเวลาผ่านไป  อยู่ๆ พนักงานก็เปลี่ยนท่าที ช่วยประสานงานช่วยเหลือจนค้นหา paasport พบที่ช่องตรงที่นั่งบนเครื่องบิน และเค้าก็ได้รู้ว่า ฝ่ายสายการบินเพิ่งสังเกตเห็นจาก passsport ของเค้าว่าเป็นลูกชาย Stanley Ho ผู้ยิ่งใหญ่แห่งมาเก๊าแล้วกลับแสดงอาการนอบน้อมใส่ใจจนรู้สึกไม่ดี ทั้งๆ ที่ตอนแรกเกือบจะได้นอนสนามบินเพราะไม่มีใครช่วยจัดการเรื่องโรงแรมให้ ส่วนคุณนายสี่แม่ของ Mario ก็ออกมายืนยันว่า ไม่ชอบให้ลูกๆ ใช้ชื่อของพ่อไปอวดเบ่งกับใคร ในภายหลังสายการบินก็ต้องออกมาขอโทษ
โพรไฟล์เริ่ดแบบนี้ คนรักที่เคยคบกันมาก็มีแต่สาวสวยทั้งนั้นค่ะ ทั้งดารานักร้องและทายาทมหาเศรษฐีด้วยกัน แต่ตอนนี้ที่กำลังถูกจับตามองคือ Ming Xi นางแบบจากรันเวย์ Victoria's Secret ที่ลือกันว่าซุ่มคบกันอยู่

ในวัย 23  Mario ได้เริ่มพิสูจน์ความสามารถทางธูรกิจการพัฒนา E-Sport เขาจับมือร่วมงานกับบริษัท gaming เจ้าใหญ่เพื่อจัดการแข่งขันและให้บริการ E-Sport แบบครบวงจร ดังที่เราได้เล่าไว้ว่า Stanley Ho ไม่ได้สร้างความร่ำรวยมหาศาลจากคาสิโนเท่านั้น แต่ยังมีสารพัดธุรกิจ การเลือกเส้นทางที่เป็นเอกเทศของลูกชายราชามาเก๊านั้นจึงดูน่าท้าทายจริงๆ



Kim Lim
ทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของสโมสรฟุตบอล  Valencia   เธอคือหนึ่งในอิทเกิร์ทที่โด่งดังของสิงคโปร์
เธอเคยเป็นคนรักของตี๋เล็กคาสิโนแสนล้านคนข้างบน

ในวัย 25  Kim กลายเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง เธอทำให้ชาวสิงคโปร์ฮือฮาจากการปิดการตั้งท้องไว้เงียบเชียบ คนมารู้กันก็ต่อเมื่อแขก VIP ได้เดินทางไปเยี่ยมเธอถึงโรงพยาบาล  คนๆ นั้นคือ Cristiano Ronaldo! เขามีสัญญากับ Media Mint บริษัทจัดการลิขสิทธิ์ภาพของนักบอลดังทีพ่อของเธอเป็นเจ้าของนันเอง
ตอนแรกก็มีเสียงเล่าลือค่ะว่า Mario Ho เป็นพ่อของลูกชาย แต่ก็ไม่น่าต้องปิดบังเรื่องนี้เพราะนั่นหมายถึงการเกี่ยวดองของตระกูลร่ำรวยล้นฟ้าของสองประเทศ สรุปแล้วก็ไม่ใช่ค่ะ เธองดพูดเรื่องนี้กับสื่อ และยังไม่ได้จัดงานแต่งแต่อย่างใด แม้แต่ชื่อเสียงเรียงนามของเค้าก็ไม่เป็นที่เปิดเผยจนประทั่งงานฉลองครบ 99 วันของเบบี้ (น่าจะเป็นประเพณีของทางนั้น?)

แม้จะเป็นไฮโซสิงคโปร์ที่อาศัยในอพาร์ทเมนท์ในย่านคนมีระดับที่ถนน Orchard เพื่อนสนิทของเธอนั้นมาจากเกาหลีใต้ และยังเป็นหนึ่งในบอยแบนด์ระดับตำนาน Seungri และ GD วง Big Bang นั่นเอง
เธอยอมรับว่าเคยเสพติดการช็อปอย่างหนักจนพ่อเตือน "ตอนชั้นยังอายุน้อยกว่านี้ ชั้นช็อปแหลกจนพ่อออกปากให้เพลาๆ ลงบ้าง พอโตขึ้นมาชั้นจึงเรียนรู้คุณค่าของเงินและการหาเงินได้มันก็ไม่ง่ายเลย ชั้นจึงระมัดระวังตัวในการจับจ่ายมากขึ้น เป็นสิ่งของที่มีค่าอย่างเช่น นาฬิกา แต่ก่อนนะคะ ถ้าชั้นไปช็อป Chanel ชั้นจะซื้อทุกอย่างบนชั้นวาง ชั้นก็แค่ชี้ว่าจะเอานี่ นี่ และนี่ แล้วก็ขน Chanel หกใบกลับบ้าน แต่ตอนนี้ชั้นจะซื้อแต่สิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ ค่ะ


Kim ยอมรับว่า ถึงจะรวยแค่ไหนก็ยังเป็นเหมือนกับคนอื่น เธอมีความวิตกกังวลเรื่องรูปลักษณ์จากความฝังใจในตอนเด็กที่ถูกล้อเลียนว่าอ้วน เมื่อไปเรียนต่อที่โรงเรียนประจำในอังกฤษเป็นเวลา 4 ปี ก็มีอาการของบูลิเมียจากความกดดันที่ต้องผอมไม่ให้แพ้เพื่อนๆ คนอื่น "ใช่แล้วล่ะ ชั้นก็เป็นมุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง คนอื่นๆ ก็พูดได้ว่า เธอมีทุกอย่างที่ใครๆ อยากได้แล้วนี่ แต่ทุกคนต่างก็มีปัญหาของตัวเอง คุณแค่ต้องพยายามแก้ไขมัน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบนี่นะ สำหรับชั้นนั้นต้องกังวลใจเกี่ยวกับรูปลักษณ์มาตลอด ชั้นจึงเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน แน่นอนว่าคุณจะเอาแต่อดอาหารไม่ได้ มันทำให้สุขภาพของชั้นแย่ไปเลย"

"ที่จริงแล้ว ก็หลังจากตั้งท้องนี่แหละที่อาการปฏิเสธอาหารของชั้นดีขึ้นมา ลูกชายของชั้นได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ตอนกลับมาจากโรงเรียนประจำชั้นก็เลิกอาเจียนไปแล้วนะคะ แต่ชั้นก็ยังมีนิสัยการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพและใช้ยาลดความอ้วน ด้วยเหตุนั้นระบบอวัยวะที่ท้องจึงมีปัญหา และไม่สามารถรักษากระเพาะให้หาดขาดจนต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้วหลายครั้ง ชั้นต้องรักษาด้วยยาเพื่อควบคุมอาการไปตลอดชีวิต"

ทายาทธุรกิจหมื่นล้านคนนี้มีชีวิตที่หรูหราทุกตารางนิ้ว  แต่เพื่อนของเธอยืนยันว่า "Kim รวยอลังการ  แต่เธอไม่ยกตัวอยู่เหนือใคร" สำหรับคุณหนูตระกูล Lim เธอนั่งเก้าอี้พลาสติกกินบะหมี่เจ้าดังได้ไม่มีปัญหา เธอปลาบปลื้ม Hawker Centre ศูนย์อาหารกลางเมืองที่มีร้านเด็ดหลายเจ้า
คิมยอมรับว่า เรื่องการเงินนั้นไม่ใช่ทางของเธอนัก แต่ถนัดการจัดการและการตลาดมากกว่า และกำลังเรียนรู้เรื่องของบริษัท เธอเดินไปยุโรปด้วยเครื่องบินส่วนตัวราวกับว่ามันเป็นบ้านหลังที่สอง


Wang Sicong
คราวนี้พามาเจอความรวยแบบแรงๆ กันบ้างค่ะ เพราะนี่คือทายาทเพียงคนเดียวของมหาเศรษฐีแสนล้านที่ติด Top 5 รวยที่สุดในจีน รวยมากกกกก ป๋ามากกกก และปากจัดมากกกกกกกกกกกก!
Sikong คือทายาทเพียงผู้เดียวของ Wang Jianlin เจ้าของ Dalian Wanda Group ผู้มีทรัพย์สินรวมกัน 28,300 ล้านดอลลาร์  ลองคูณเป็นเงินไทยแล้วเลขศูนย์มันเยอะไปหมด


Sicongใช้เวลาหลายปีศึกษาที่โรงเรียนประจำชื่อดังที่อังกฤษแล้วต่อมหาวิทยาลัย เมื่อกลับมาที่จีนเพื่อก็ได้ในบอร์ดบริหารเคียงข้างพ่อ เขาได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการ Dalian Wanda Group ภาพลักษณ์ของเขาดูไม่ต่างจาก Tony Stark มากเท่าใดนัก   Sicong มักมีข่าวกับสาวคนดัง เขาพูดจาขวานผ่าซากเรียกว่าอยู่ในขั้น bully     ตัวอย่างชัดเจนก็จากกรณีที่ไปจิกกัด Fan Bingbing ว่าทักษะการแสดงไม่เอาไหนดีก็แต่เดินพรมแดงเท่านั้น เคยล้อเลียนรูปลักษณ์ของผู้เข้าแข่งขัน Produce 101 China แต่เจ้าตัวดูจะไม่ยี่หระอะไรและด่ากลับอีกต่างหาก ฝ่ายพ่อนั้นก็แก้ข่าวกับชาวจีนว่า ลูกชายไปเรียนเมืองนอกเมืองนามาหลายปีจนทำให้พูดจาขวานผ่าซากแบบคนตะวันตก คิดอย่างไรก็บอกไปอย่างนั้น ให้เวลาอยู่ที่จีนอีกสักหน่อยก็คงจะทำตัวเหมือนคนจีนมากขึ้น แต่ปัจจุบันก็ยังมีวีรกรรมเด็ดดวงให้สื่อเล่นข่าวอยู่เสมอ


แต่ความรวยมหารวยทำให้ Sicong ได้รับฉายาว่า "สามีแห่งชาติ" โดยไม่ต้องอาศัยความหล่อเหลาเหมือนพระเอกจีน  การใช้จ่ายเงินของเค้าเข้าขั้น "ระห่ำ" ไม่แพ้กับการใช้คำพูดเลยทีเดียว
ซื้อ I Phone 8 เครื่องเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดกับสุนัข
มีคนนำภาพใบเสร็จจากค่ำคืนสุดเหวี่ยงที่คาราโอเกะมาปล่อยในอินเทอร์เน็ทเพื่อแสดงว่าเขากระหน่ำใช้เงินเลี้ยงเพื่อนฝูงไปถึงสองล้านห้าแสนหยวน !
พ่อของเขายกเงินให้ 500 ล้านหยวนให้ไปสร้างเนื้อสร้างตัวเอง และอธิบายว่า
"เงินจำนวนนี้เพียงพอที่จะให้เขาผิดพลาดได้ถึง 20 ครั้ง ถ้าเกิดเขาใช้เงินหมดไม่เหลือจริงๆ อย่างน้อยเขาก็กลับมาทำงานให้กับ Wanda ของเราได้"

Sicong นำเงินก่ายกองนั้นไปเปิดบริษัทดำเนินธุรกิจ E-Sport ช่องบันเทิง ค่ายหนัง ค่ายดนตรีและยังสร้างโรงแรม 7 ดาวในเซี่ยงไฮ้ และเคยบอกกับพ่อไปว่า ไม่อยากจะใช้ชีวิตเหมือนกับพ่อ นิยามความสำเร็จของเขานั้นแตกต่างออกไป 


มาที่อินเดียกันบ้าง มีมหาเศรษฐีหมื่นล้านกันหลายคนทีเดียว ฝั่งนี้จะโดดเด่นในการเคี่ยวให้ทายาทเป็นหัวกะทิเพื่อพร้อมสืบทอดตำแหน่ง โพรไฟล์จะเริ่ดกันทั้งนั้นค่ะ


Ananyashree Birla

ลูกสาวของประธาน Aditya Birla Group  พ่อของเธอเคยสร้างความฮือฮาด้วยการก้าวมาบริหารกิจการในวัยเพียง 28!  และพาบริษัทเทคไปสู่ความก้าวหน้า ด้วยทรัพย์สินกว่า12,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้เขาติดหนึ่งในสิบคนที่รวยที่สุดในอินเดีย 

ถ้าเราบอกคุณว่า เธอโลดแล่นในวงการบันเทิงอินเดียในฐานะนักร้องนักแต่งเพลง คุณก็อาจจะยักไหล่ คิดว่า Ananya เป็น another rich girl ที่มีทั้งเงินและเส้นสายที่สามารถเนรมิตสิ่งที่ต้องการได้ทุกอย่าง แต่ขอบอกว่าสาววัย 24 คนนี้มีอะไรลึกซึ้งกว่านั้นเยอะ

แม้จะเกิดบนกองเงินกองทองและใช้ชีวิตท่ามกลางสมาชิกตระกูลเก่าแก่  Ananya ถูกส่งไปเรียนรู้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศตามวิถีลูกคนรวย เมื่อก้าวเข้า Oxford สู่สถานศึกษาอันเลื่องชื่อแห่งอังกฤษ Ananya ได้ลองทำในสิ่งที่สวนภาพลักษณ์สาวสังคมชั่นสูงดินแดนภารตะ เธอจับกีตาร์ไปร้องเพลงในผับบาร์ และผลงานไปเข้าตาค่ายใหญ่จนได้ทำงานเพลงที่ขายดีในระดับ Platinum ที่บ้านเกิด
แม้ว่าพ่อของเธอจะมีทรัพย์สินมากกว่าสามแสนล้านบาท แต่ Ananya ถูกเลี้ยงดูแบบไม่ให้เท้าลอยเหนือดิน เธอได้ก่อตั้งหน่วยงาน Svatantra ที่จัดเงินทุนกู้ยืมเพื่อผู้หญิงในพื้นที่ยากจนได้นำไปลงทุนสร้างอาชีพหาเลี้ยงตัวและครอบครัว ตอนที่สร้างองค์กรขึ้นมา  Ananya มีอายุเพียง 17 เท่านั้น!


"ชั้นได้มองเห็นความช่องว่างและความไม่เท่าเทียมทางสังคมและอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในเป็นสะพานเชื่อมต่อการแบ่งแยก แนวคิดของชั้นก็คือการจัดหาวิธีการช่วยเหลือด้านการเงินและด้านอื่นๆ ให้กับผู้หญิงที่ต้องการลงทุน จุดมุ่งหมายคือการทำให้พวกเค้าพึ่งพาตัวเองทางการเงินให้ได้ค่ะ"





ขณะที่เรียนเศรษฐศาสตร์และการจัดการที่ Oxford  Ananyaได้รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับนักศึกษาที่มีความเจ็บป่วยทางจิตใจ เช่น โรควิตกกังวลและโรคซึมเศร้า เมื่อกลับมาที่อินเดียจึงได้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ MPower เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่เป็นโรคทางจิตเวชและลบล้างความเชื่อผิดที่มีต่อผู้เจ็บป่วย

เหมือนกับ generation 2 คนอื่นในคอนเทนท์นี้ค่ะ  Ananya ไม่ได้พุ่งเข้ารับตำแหน่งสูงของ Birla Group ทันทีทันควันหลังจากเรียนจบ แต่เธอกันมาสร้าง startup ของตัวเอง คือ  CuroCarte  ธุรกิจ E-Commerce สินค้าหรูหรามีระดับผ่านอินเทอร์เน็ท
"พ่อแม่ของชั้นทั้งให้ความรักและการสนับสนุนอย่างไร้เงื่อนไข มันเติมเต็มไฟแห่งความุ่งมั่นของชั้น ชั้นหวังเหลือเกินว่าชั้นมีความสามารถเทียบระดับตำนานของครอบครัวได้"

เก็บตกตระกูล Birla อีกนิด  น้องชายวัย 21 ของ Ananya ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวนั้นหล่อคมกริบ ทางพี่สาวอาจจะมุ่งมั่นในทางธุรกิจ แต่ Aryaman Birla นั้นเป็นนักคริกเก็ตดาวรุ่งที่เข้าไปเล่นในลีค first class สลัดสูทนักธุรกิจแล้วโลดแล่นในวงการกีฬา แตกต่างกับผู้ชายแทบทุกคนในตระกูลที่ต้องทำงานธุรกิจสายเทคโนโลยีกันทั้งนั้น
เป็นหนึ่งในทายาทมหาเศรษฐีรุ่นใหม่ที่มี account บน social media แต่ไม่ได้เปิดเผยความร่ำรวยของตัวเองผ่านวัตถุ หลายคนอาจจะนึกถึงภาพชนชั้นสูงของอินเดียที่อาจจะไม่ได้มีอิสระในการตัดสินใจในการดำเนินชีวิตเพราะต้องรับฟังความเห็นของผู้ใหญ่เป็นหลัก แต่ประธาน Birla Group นั้นยังหนุ่มฟ้อในวัยเพียง 50 เศษๆ ดูเหมือนเขาจะปล่อยให้ลูกๆ มีอิสระในการเลือกทางเดิน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกล่าวว่าเขาโชคดีมากที่ได้ทำในสิ่งที่รักมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่แม้จะรวยจริงรวยจังและต้องทุ่มเทกับการฝึกซ้อมคริกเก็ต หนุ่มหล่อคนนี้ก็ยังไม่ทิ้งการเรียน แต่ก็ยอมรับว่าโฟกัสกับอาชีพนักกีฬาเป็นอันดับ  1

"การที่จะหาเวลามาทำให้ได้ดีทั้งสองอย่างก็ยากนะครับ การศึกษานั้นสำคัญแต่ผมไม่มีเวลามาเรียนมากเท่าไร ก่อนที่จะสอบ ผมพยายามจะเข้าชั้นเรียนให้ได้มากที่สุด พ่อแม่คอยสอนผมในเรื่องการจัดลำดับความสำคัญมาโดยตลอด และตอนนี้ผมก็รู้ว่าอะไรสำคัญกับผมที่สุด  แม้ว่านั่นอาจจะไม่ใช่เรื่องการเรียน  แต่ผมก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เป็นไปครับ"

 
สามพี่น้องทายาทแสนล้านตระกูล Birla  

ตอนแรกที่ไปชมภาพบน Instagram ก็คิดว่าจะได้เห็นออร่าความรวยระยิบระยับออกมาผ่านวัตถุราคามหาแพงที่มหาเศรษฐีเค้าใช้กัน  แต่ก็ผิดคาดค่ะ 


Isha Ambani

เธอคือลูกสาวของคนที่รวยที่สุดในอินเดีย หรืออันดับ 19 ของโลก !
ความรวยของพ่อที่เป็นเจ้าของ Reliance Industries อยู่ที่ 45,100 ล้านดอลลาร์     ส่วน Isha ในวัย 26 ที่ลุยงานธุรกิจเต็มตัว ทรัพย์สินของเหนาะๆ ของเธออยู่ที่ 700 ล้านดอลลาร์ โพรไฟล์คุณหนูผู้หรูเริ่ดก็ไม่แพ้ตระกูลอื่น เธอจบตรีจิตวิทยาจาก Yale และโทธุรกิจจาก Stanford

หากไม่ได้กำลังศึกษาที่อเมริกา เธอจะใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใน "บ้าน 27 ชั้น" ที่ตั้งอยู่ในย่านที่ราคาที่ดินแพงที่สุด แต่ล่ะชั้นเพดานจะสูงพอๆ กับ 2 ชั้นของตึกทั่วไป การตกแต่งก็แน่นอนว่าเลิศหรู เรื่องโรงหนัง สระว่ายน้ำคงไม่ต้องพูดถึง แต่บ้านนี้มีกระทั่ง "ห้องหิมะ" ไว้หย่อนใจ รายงานกันว่าต้องใช้กำลังคนงานกว่า 600 คน ในการดูแล "บ้าน" หลังนี้ และถือว่านี่คือบ้านที่แพงที่สุดในโลก เมื่อตีมูลค่าแล้วพุ่งไปได้ถึงสองพันล้านเหรียญ สร้างเสียงวิจารณ์ทั้งแง่บวกและแง่ลบมายาวนาน

เราเคยเห็นในชาวเน็ทอินเดียพูดกันว่าเธอหมั้นหมายกับผู้ชายที่มีฐานะไม่ดีเท่า... เอ่อ พ่อเธอรวยที่สุดในอินเดียค่ะ หนุ่มที่เพิ่งขอเธอแต่งงานก็เป็นทายาทมหาเศรษฐีหมื่นล้านจาก Piramal Group หลายคนอาจะนึกถึง arrange marriage ในอินเดีย แต่ดูเหมือนว่าชนชั้นสูงที่รวยมหาศาลนี้จะเลือกคู่ครองกันเองนะคะ ก่อนที่จะมาเป็นหนึ่งในผู้หญิงอินเดียที่รวยที่สุด แม่ของเธอมาจากชนชั้นกลาง มีอาชีพเป็นครูไม่ได้มีพื้นเพไฮโซแต่อย่างใด


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE