Review แป้งฝุ่นคุมมัน ที่ใช้แล้วชอบ

14 4
สวัสดีค่ะสาวๆจีบันทุกคน ก่อนอื่นเราต้องของเกริ่นก่อนว่า ปกติเราเป็นคนที่ชอบใช้แป้งฝุ่นคุมมันมากก วันนี้เลยอยากจะมารีวิว แป้งฝุ่นคุมมันบนโต๊ะเครื่องแป้งของเราเอง ที่ใช้แล้วรู้สึกชอบ และควบคุมความมันได้ดีสำหรับเรา โดยส่วนตัวเราเป็นคนผิวผสม ช่วงระหว่างวันหน้าก็จะมันตรงบริเวณ T-zone นะคะ

พร้อมแล้วเรามารีวิวกันเลย
1. THREE Ultimate Diaphanous Loose Powder (Colorless #1)
เริ่มจากแป้งฝุ่นคุมมันที่ใครหลายๆคน ยกให้เป็น The Best บนโต๊ะเครื่องแป้งอย่าง THREE Ultimate Diaphanous Loose Powder เราใช้รุ่น Colorless #1 ปริมาณ17g ราคา1950 บาท
Packaging: ตลับค่อนข้างใหญ่ มาพร้อมกับพัฟที่นุ่มนิ่มมาก และที่ประทับใจก็คือ เค้าจะมีตัวกรองเป็นตาข่ายละเอียดๆ ซึ่งจะทำให้เนื้อแป้งมีความละเอียด และปริมาณแป้งออกมาพอดีกับการใช้งานในแต่ละครั้ง
เนื้อแป้ง: เนื้อแป้งจะเป็นสีเนื้ออ่อนๆ ไม่มีกลิ่น ไม่มีชิมเมอร์ เนื้อแป้งละเอียดมากกกก แทบจะไม่ติดเป็นก้อนเลย ทาแล้วแป้งจะกลืนไปกับผิวหน้าปรับสีผิวให้สว่างขึ้นเล็กน้อย สามารถใช้ set makeup ได้ดี ไม่รู้สึกหน้าหมองระหว่างวัน
การคุมความมัน: ควบคุมความมันได้ดี แต่ยังแอบหน้ามันระหว่างวันอยู่บ้าง
คะแนนความพอใจ: 9/10 ดีสมคำล่ำลือ เนื้อแป้งละมุนมากแต่ขอตัดคะแนนที่ราคาแพงไปหน่อย และขนาดใหญ่ไม่เหมาะกับการพกพา


2. Innisfree No Sebum Mineral Powder
ต่อมาเป็นแป้งฝุ่นคุมมันสัญชาติเกาหลีนั่นคือInnisfree No Sebum Mineral Powder โดยรุ่นนี้จะเน้นเรื่องการควบคุมความมัน ปริมาณ 5g ราคา 270 บาท


Packaging: กระปุกเล็กกะทัดรัด เหมาะกับการพกพา และแบรนด์นี้เค้าชอบออก ลวดลายบนตลับแบบ Limited อยู่บ่อยๆ ซึ่งจริงๆที่ซื้อมาใช้ก็เพราะตลับน่ารักด้วยส่วนนึง 5555
เนื้อแป้ง: เป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสงสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่มีผสมซิมเมอร์ เนื้อแป้งค่อนข้างละเอียด ทาแล้วผิวดูสดใสเป็นธรรมชาติ แต่ไม่ค่อยติดทน และต้องระวังการทาซ้ำหลายๆที เพราะด้วยเนื้อแป้งเป็นสีขาว
การคุมความมัน: ควบคุมความมันได้ดีเลย โดยปกติเราจะเอาไว้ทาย้ำบริเวณT-zone บนใบหน้า
คะแนนความพอใจ: 7.5/10 ต้องใช้อย่างระวังเพราะเนื้อแป้งเป็นสีขาว และไม่ค่อยติดทน


3SASI Oil Control Powder
มาต่อกันที่แป้งฝุ่นคุมมันสัญชาติไทย น้องใหม่ของเรา นั่นคือ SASI Oil Control Powder ซึ่งเค้าเคลมมาว่า สามารถควบคุมความมัน และติดทนนาน ปริมาณ 30g ราคา 39 บาท 
Packaging: กระปุกแป้งขนาดเล็กทั่วไป เหมาะกับการพกพา ไม่มีพัฟ แต่สามารถใช้มือทาหรือแปรงทาก็ได้
เนื้อแป้ง: เป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสงสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ผสมซิมเมอร์ สามารถเอาไป bake ใต้ตาได้ด้วย เนื้อแป้งเนียนละเอียดดี ทาแล้วผิวสว่าง และเรียบเนียนขึ้น แต่ต้องระวังการทาซ้ำหลายๆที เพราะด้วยเนื้อแป้งเป็นสีขาว
การคุมความมัน: ควบคุมความมันได้ค่อนข้างดี และไม่เป็นคราบ ส่วนตัวเราชอบพกไปเติมระหว่างวัน
คะแนนความพอใจ: 8/10ถูกและดี!! ชอบตรงคุมมันได้ดี และแป้งติดทน แต่ต้องใช้อย่างระวังเพราะเนื้อแป้งเป็นสีขาว


4EGLIPS Blur Powder Pact
EGLIPS Blur Powder Pact เป็นแป้งอัดแข็ง ยอดนิยมของเกาหลี ที่คุณโมเมพาเพลินเคยแนะนำ เราเลยลองไปสอยมาใช้ดู เราใช้รุ่นสีดำ ช่วยในการเบลอรูขุมขน และควบคุมความมัน ปริมาณ 9g ราคา 259บาท


Packaging: ตลับทรงกลม สีดำดูคลาสสิค ขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีพลาสติกขั้นระหว่างพัฟ และเนื้อแป้ง
เนื้อแป้ง: เป็นแป้งอัดแข็ง มีหลากหลายเฉดสีให้เลือก ไม่มีกลิ่น ไม่มีผสมซิมเมอร์ เนื้อแป้งค่อนข้างละเอียด ทาแล้วหน้าดูเนียน และขาวผ่องขึ้น
การคุมความมัน: ส่วนตัวเราว่า คุมมันเพียงเล็กน้อย และยังคงหน้ามันระหว่างวัน
คะแนนความพอใจ: 7/10หน้าดูใสขึ้น รูขุมขนเล็กลง แต่ไม่ค่อยคุมความมันเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะไม่ได้ใช้สูตรคุมมันโดยเฉพาะด้วย


5Laura Mercier Loose Setting Powder (Translucent)
ตัวสุดท้ายที่เราจะมารีวิว ก็คือ Laura Mercier Loose Setting Powder เราใช้รุ่น Translucent ซึ่งก็เป็นอีกตัวอันโด่งดังในเรื่องการควบคุมความมัน ปริมาณ29g ราคา 1590 บาท


Packaging: ตลับไม่ใหญ่มาก ไม่มีพัฟ ต้องใช้แปรงแต่งหน้า และค่อนข้างควบคุมปริมาณเนื้อแป้งยาก
เนื้อแป้ง: เนื้อแป้งจะเป็นสีเนื้ออ่อนๆ ไม่มีกลิ่น ไม่มีชิมเมอร์ เนื้อแป้งเป็นเนื้อแมต ละเอียดมาก ทาแล้วผิวเนียนขึ้น แต่อาจจะต้องรอซักพัก เพื่อให้แป้งเซตตัวเข้ากับผิวเรา
การคุมความมัน: ควบคุมความมันได้ดีมากก แต่แอบหน้าหมองระหว่างวัน T T
คะแนนความพอใจ: 7.5/10ควบคุมความมันได้ดีมาก แต่ว่าหน้าเราหมองระหว่างวัน เสียใจจจ


จบแล้วค่ะ กับการรีวิวครั้งแรกของเรา หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆทุกคนนะคะ ฝากติดตามกระทู้ต่อๆไปของเราด้วยน้า ^^


sakura18

sakura18

FULL PROFILE