แนะนำซีรีส์สีเทา ความรักแบบสวมเขาเสียดแทงใจ

The Fierce Wife
ต้นแบบของซีรีส์ " เมีย 2018" ที่กำลังเกรียวกราวติดลมบนที่บ้านเรา The Fierce Wife เคยสร้างปรากฏการณ์เรตติ้งในไต้หวันด้วยการสร้างความรู้สึก "อิน" ราวกับว่าผู้ขมได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวด้วยจริงๆ
ว่ากันตามตรง  พล็อทซีรีส์ประเภทความรักบดบังศีลธรรมนอกใจจนชอกช้ำนี้มีมายาวนานจนไม่ได้ดึงดูดให้เราไปนั่งชมให้ตาแฉะ แต่เมื่อหลายปีก่อน เราได้ยินมาว่า The Fierce Wife นั้นถูกยกให้เป็นซีรี่ส์ที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สดในไต้หวัน เพราะเหตุใดกันที่เนื้อหาแบบสามีนอกใจภรรยาไปมีความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัวจึงมีกระแสตอบรับอย่างถล่มทลาย
เนื้อเรื่องว่าด้วยชีวิตของรุ่ยฝานและอันเจิน  หากดูภายนอกแล้วพวกเค้าคือสามีภรรยาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความเข้าใจ แต่ลึกลงไปแล้วสายใยที่ผูกพันกำลังจะคลายตัวหลุดออกจากกันอย่างช้าๆ แม้จะมีลูกสาวที่เป็นเหมือนกับแก้วตาดวงใจ แต่รุ่ยฝานหลีกเลี่ยงที่จะเปิดอกพูดถึงปัญหาชีวิตคู่เพียงเพราะไม่ต้องการทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย มันกลับยิ่งทำให้ความรักจืดจาง และที่เจ็บปวดที่สุด  อันเจินแทบไม่รู้ตัวเลยว่าสามีไม่มีความสุขเมื่ออยู่กับเธอ  เขายังเป็นผู้ชายคนเดิมที่เธอรักและไว้ใจที่สุดตั้งแต่วันวิวาห์  จะให้เธอทำใจเชื่อได้อย่างไรว่าสามีและพ่อของลูกที่แสนดีจะแอบหักหลังอย่างร้ายกาจ

"บอกมาสิว่าชั้นไม่ดีตรงไหน ขาดอะไรไป"  ภรรยาเรียกร้องหาเหตุผลเพื่อที่เธอจะได้ปรับปรุงแก้ไขตัวเอง  แต่มันฏ็สายไปแล้ว  สายตาสามีที่แสดงความรู้สึกผิดล้นเหลือ แต่หมดซึ่งเยื่อใยมันทำให้เราแทบร้องไห้กับเธอไปด้วย
อันเจิน  ผู้หญิงที่ดูเพียบพร้อมหมดจดในฐานะภรรยา สำหรับเธอแล้วไม่มีสิ่งใดสำตัญกว่าครอบครัว เธอจิตใจดีกับทุกๆ คน แม้ไม่ได้ปรุงแต่งความงามให้ดึงดูดใจแต่ก็มีเสน่ห์ที่อ่อนโยนชวนให้เข้าใกล้ พ่อแม่สามีนั้นรักเธอราวกับลูกแท้ๆ เธอถูกแวดล้อมไปด้วยคนที่รักและหวังดีด้วยใจจริง มันอาจจะเป็นเหตุผลที่เธอมองโลกราวกับกำลังสวมเลนส์แว่นวิเศษที่ทำให้มองเห็นทุกสิ่งสวยงามจนมองข้ามรอยตำหนิเล็กๆ ที่กลายมาเป็นความร้าวฉานกับสามีอันเป็นที่รัก

อันเจินไม่สามารถรับได้เมื่อสามีสารภาพว่าได้พบบางสิ่งที่สำคัญกว่าความเป็นครอบครัว  เขายืนยันว่าเธอไม่มีทางเข้าใจ รุ่ยฝานอ้างสาเหตุที่เขาปล่อยตัวปล่อยใจจนตกหลุมรักน้องภรรยาอย่างถอนตัวไม่ขึ้นว่า "ตอนที่ผมอยู่กับคุณ ผมหาตัวตนไม่เจอ" แม้เขาจะขอยอมรับผิดไว้เพียงผู้เดียว  แต่อันเจินไม่พร้อมที่จะสูญเสียครอบครัวที่เธออุทิศกายใจให้ไปกับสิ่งที่เชื่อว่าเป็น "ความหลงผิด" เธอต้องการปฏิวัติตัวเองเพื่อพิสูจน์ให้สามีเห็นว่าเธอไม่ใช่คน คนเก่าที่ทำให้เขาเบื่อหน่าย แต่กลับได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ควรให้ความสำคัญที่สุดคืออะไร 
คุณอาจจะคุ้นเคยภาพของเมียน้อยที่ดูเย้ายวน ทาปากสีสด แต่งกายเปิดเผยสัดส่วนและจิกหน้าตาแบบอาฆาตมาดร้ายเมื่อไม่ได้ดั่งใจต้องการ แต่เมียน้อยเวอร์ชั่น The Fierce Wife นี่คือสาวตาโตผมม้าที่ดูเหมือนเพิ่งเรียนจบมัธยมมาหมาดๆ เธอเป็นสาวแบ๊วผู้มากับแมวน่ารักชื่อโอลิเวอร์และอุ้มตุ๊กตามาเรียกคะแนนความสงสาร ในซีรีส์ชิงรักหักสวาททั่วไปนั้นคุณจะได้พบกับฉากดราม่าน้ำตานองของเมียหลวง แต่เรื่องนี้ทั้งบ้านเล็กบ้านใหญ่ก็ร้องไห้ไม่แพ้กัน

 เหวยเอินในปี 2011 อาจจะเป็นผู้หญิงที่ถูกเกลียดมากที่สุดที่ในไต้หวัน แต่เมื่อคุณได้ชมซีรีย์จนจบก็จะพบกับคำอธิบายของพฤติกรรมที่ดูน่ารังเกียจนี้ น้ำตาของเหวยเอินไม่ใช่แค่แผนการมารยาเพื่อแย่งสามีพี่สาว เมื่อเขาเลือกทิ้งครอบครัวที่อบอุ่นเพื่อมาอยู่เคียงข้างปกป้องดูแลเธอ เหวยเอินคิดว่ามันจะช่วยเยียวยาความเจ็บปวดในใจ แต่แม้เธอจะได้เป็น "ผู้ชนะ" กลับต้องพบกับความทุกข์ทรมานเพราะหัวใจที่หวาดระแวง  แม้จะได้รับความรักมากมาย แต่เหตุใดเธอถึงมีความสุขแบบเต็มที่ไม่ได้ ?
  เหวยเอินเลือกที่จะทำตามใจโดยใช้คำว่ารักแท้มาอ้างกับคนที่ประนามพฤติกรรมกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา "คนอื่นไม่มีทางเข้าใจความรักของเรา" เพราะต้องการไขว่คว้าหารักเพื่อจะเติมเต็มหัวใจที่ว้าเหว่ หลังจากต้องเผชิญกับความทุกข์ใจมาตลอดชีวิต เหวยเอินจึงอยากทำให้คนอื่นลิ้มรสความเจ็บปวดนั้นบ้าง  แม้แต่พี่สาวจิตใจงามที่อ้าแขนยอมรับและช่วยเหลือเธออย่างไร้อคติ เหวยเอินมิใช่นางอิจฉาที่ดิ้นทุรนทุรายด้วยไฟริษยาเพียงเท่านั้น  ภายในใจเต็มไปด้วยความขัดแย้งของความรู้สึกผิดและความเห็นแก่ได้  เธอเลือกเสือกไสความชั่วให้คนอื่นแล้วเอาดีเข้าตัว แต่มันยิ่งทำให้จิตใจอ่อนแอไม่กล้าเชื่อมั่นในความรัก
  รุ่ยฝาน คือตัวอย่างของผู้ชายที่ไม่ได้กล้าหาญหรือมีความคิดรับผิดชอบดังที่เห็นตามภายนอก เขาหลบเลี่ยงปัญหาชีวิตคู่ที่เริ่มจืดจางแล้วใช้ชู้รักมาเป็นข้ออ้างในการจบความสัมพันธ์กับภรรยา ทั้งๆ ที่อยู่กินเป็นปกติสุขมาหลายปี  เขามีเวลามากมายที่จะบอกให้อันเจินได้รับรู้ความรู้สึกคับข้องภายในใจแต่กลับแบกความรู้สึกไว้ แต่เมื่อเหวยเอินก้าวมาในชีวิตก็เหมือนกับการกระตุ้นให้แสดงตัวตนที่ต่อต้านภรรยาออกมา ศีลธรรมในใจที่พอจะหลงเหลืออยู่ทำให้เลี่ยงที่จะเดินก้าวข้ามสะพานที่ทอดมาให้ แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อความปรารถนา  

"ถ้าต้องเป็นสามีแล้วรู้สึกเหมือนกำลังรับผิดชอบต่อหน้าที่  นั่นมันก็ไม่ใช่ความรักแล้ว " สามีผู้เคยแสนดีตอกหน้าภรรยาอย่างเลือดเย็น

The Fierce Wife  ดึงดูดผู้ชมด้วยความสมจริงระดับที่คนไร้ประสบการณ์รักร้าวก็ยังติดหนึบ  ซีรีส์ไม่ได้เน้นเรื่องการห้ำหั่นยื้อแย่งผู้ชาย แต่เต็มไปด้วบทพูดคมคายที่ทำให้เรามองปัญหาจากหลายแง่มุม  หัวใจของเรื่องไม่ได้อยู่ที่คำว่าหญิงร้ายชายเลว  แต่เป็นการเรียนรู้จากความล้มเหลวต่างหาก  ไม่ว่าจะเป็นคนนอกใจหรือคนที่ถูกนอกใจ คุณสามารถใช้บทเรียนนี้เพื่อก้าวไปข้างหน้า  ที่สำคัญอย่างยิ่งคือการหันมารักและให้ความนับถือตัวเองโดยไม่จมปลักกับความผิดพลาด ความทุกข์ที่ไม่อาจบรรยายมาเป็นคำพูดในวันนี้ ก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่คุณพูดถึงด้วยรอยยิ้มอย่างเข้าใจในอนาคตข้างหน้า  
แต่ถ้าใครเคยผ่านเรื่องรักนอกใจมาแล้ว  ต้องบอกเลยว่าชม The Fierce Wife แล้วจุกพูดไม่ออกในหลายๆ ฉาก  แม้จะเป็นเมโลดราม่าที่ไม่ได้หนักขนาดชวนจิตตกทั้งเรื่อง  แต่คำพูดหลายอย่างมันอาจจะย้ำเตือนให้คุณนึกถึงอดีตแสนเจ็บปวด  ข้ออ้างสารพัดตอนที่ถูกบอกเลิกเพื่อจะไปเริ่มต้นกับคนใหม่ หรือจะเป็นเรื่องที่ระเบิดความในใจว่าชีวิตคู่ของเรามันแย่มากขนาดไหน  แต่มาพูดก็ตอนถูกจับได้ว่ามีชู้  แทนที่จะเปิดใจเพื่อปรับตัวเพื่อรักษาชีวิตคู่กันก่อนที่มันจะเสียหายเกินเยียวยา ไหนจะท่าทางเหมือนรู้สึกผิดเต็มประดา  แต่ก็แทบรอไม่ไหวที่จะได้แยกทางกัน
ใครยังไม่เคยดูต้นฉบับ  แนะนำว่าต้องลองจริงๆ นะ  



Doctor Foster

ฟังแค่ชื่อ คุณอาจจะคิดว่านี่คือซีรีย์การแพทย์  แต่นี่คือเมโลดราม่าบีบหัวใจจากอังกฤษที่โกยสูงที่สุดในปี 2015 ด้วยพล็อทสามีนอกใจที่ดูพื้นๆ แต่วิธีการนำเสนอสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ชมจนไม่แทบจะรอดูตอนต่อไปไม่ได้
เจมม่า ฟอสเทอร์ แพทย์หญิงในวัยเฉียดสีสิบที่ปราดเปรียวมีเสน่ห์  ชีวิตของครอบครัวชนชั้นกลางของเธอดูสงบเรียบร้อย แม้จะแต่งงานจนลูกชายเข้าสู่วัยทีนแต่เขาก็ดูรักใคร่เธอเหลือเกิน ไฟรักบนเตียงยังดูร้อนแรง  หาได้จืดจางเย็นชา เขาประกาศต่อหน้าผู้คนว่าเธอคือยอดดวงใจ เป็นทั้งชีวิตของเขาตลอดไป
จนกระทั่งเธอเจอเส้นผมสีบลอนด์บนผ้าพันคอไซมอนผู้เป็นสามี สัญชาตญาณที่ผู้หญิงแทบทุกคนต้องมีก็เริ่มทำงาน  แม้เขาจะมีใส่ใจเธอตามปกติ แต่ผู้หญิงฉลาดที่รู้จักสามีทุกกระเบียดนิ้วย่อมจับคลื่นความมดเท็จที่อยู่ภายใต้ท่าทางแสนดีนั้นได้  เจมม่าเริ่มตามสืบเพื่อหาหลักฐานให้ได้แน่นอนว่าสามีกำลังนอกใจ  แม้ว่าจะทำใจไว้ก่อนบ้าง แต่เมื่อพบกับความจริง  เจมม่าก็รู้สึกเหมือนโลกถล่มลงมาต่อหน้า
คำว่าแค้นจนแทบกระอักเป็นยังไง  คุณจะได้เห็นมันใน Doctor Foster  ฝีมือการแสดงของนางเอกดึงคุณดำดิ่งไปสู่จิตใจอันมืดหม่นของคนเป็นเมีย หลังจากที่เห็นสามีที่รักโกหกหน้าด้านๆ  หมอสาวช้ำรักเลือกจะอดทนปกปิดความชอกช้ำและโทสะอันรุนแรงไว้  สามีไม่รู้ตัวเลยว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับโสมมที่อยู่เบื้องหลัง  เธอกำลังวางแผนเพื่อจะทำให้คนที่ย่ำยีจิตใจทั้งคู่ให้ได้พบกับความเจ็บปวดไม่แพ้กัน  แม้จะยังสับสนว่าใจจริงแล้วต้องการอะไรกันแน่  ความรักต่อตัวไซมอนก็ยังมีมากล้นและยังพอมองเห็นทางที่จะให้อภัยกันได้ แต่ยิ่งเจอความหลอกลวงมากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้ความแค้นที่อยากจะทำให้เขาพังพินาศพุ่งทวีคูณ


เป็นซีรีย์ที่บีบหัวใจเหลือเกิน  คุณหมอลงทุนทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้สามีรู้สึกถึงคำว่าตกนรกทั้งเป็นเช่นเดียวกับที่เธอต้องเผชิญ เธอใช้ความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์คืบคลานเข้าไปสู่ตัวมือที่สามได้ทีละน้อย  แต่ยิ่งเข้าใกล้เป้าหมายที่วางแผนได้มากเท่าไร  เธอยิ่งถลำลึกไปกับไฟแค้นจนทรมานมากไปกว่าเดิมซะอีก  มรสุมชีวิตเกิดขึ้นตามมาจนไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป  แต่เธออยู่ต่อไปเพื่อปกป้องลูกชาย เขาคือเหตุผลเดียวที่ต้องยืนหยัดขึ้นมาใหม่
ที่ต้องยกเครดิตสำคัญให้อีกคนคือนักแสดงผู้ถ่ายทอดบทสามีที่เลวแสนเลวจนอยากจะปาทุเรียนก้านยาวปักหัว ตอนที่ Doctor Foster  ออนแอร์นั้น Twitter ฝั่งอังกฤษได้ร้อนระอุไปด้วยข้อความสาปแช่งไซมอน  ชายคนนี้แอบมีสัมพันธ์สวาทกับหญิงสาววัยคราวลูกนานเป็นปี เขาเก็บงำเรื่องนอกใจจากภรรยาอย่างแนบเนียน  แต่เพราะมันไม่ใช่ความลับอีกต่อไป  ชีวิตแต่งงานแสนสุขสิบกว่าปีก็ไร้สิ้นความหมาย  ชู้ที่เขาแอบซุกซ่อนไว้ทั้งสาวและสวย พ่อของเธอยังเงินหนาช่วยเกื้อหนุนแผนการธุรกิจอีกด้วย   หากต้องหย่าขาดกับภรรยาจริงๆ ชีวิตใหม่กับเมียน้อยดูรุ่งโรจน์กว่าเห็นๆ  เขาจะมาเสียดายภรรยาที่โกรธเกรี้ยวอยู่ทำไม!

ปกติแล้ว ในซีรีย์สีเทาทำนองนี้ ผู้ชมมักจะรู้สึกต่อต้านกับแคแรคเตอร์เมียน้อยราวกับว่าเธอเป็นผู้เดียวที่ลงมือกระทำผิด แต่สำหรับ Doctor Foster  ความเกลียดชังพุ่งประดังประเดไปที่ผู้ชายที่นอกใจ  โดยเฉพาะฉากจบของ Season 1 ที่ทำให้ผู้ชมสะพรึงว่านี่มันซีรีย์drama หรือ thriller กันแน่ !!   
เรตติ้งสูงปรี๊ดปานนั้น Season 2 จึงตามมาในปี 2017 และมีคนดูมากกว่า Season แรกซะอีก ปัญหาความขัดแย้งที่เคยคิดว่าลงตัวไปแล้วกลับปะทุความรุนแรงขึ้นมา   แม้จะเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น  แต่ความ dark ที่สมจริงทำให้เราระแวงอยู่ลึกๆ ว่าหากปล่อยให้ความแค้นครอบงำจิตใจ เราอาจจะต้องพบกับผลร้ายเกินกว่าจินตนาการเหมือนในละครก็เป็นได้



จากที่เคยเป็นครอบครัวที่แน่นแฟ้น  เมื่อแตกหักก็หันมาหาวิธีทำลายอีกฝ่ายให้ย่อยยับเข้าขั้นหมกมุ่น  ผลกระทบที่สะท้อนความเคียดแค้นชิงชังอาจจะร้ายแรงเกินกว่าที่จินตนาการ  คนเราจะก้าวต่อไปอย่างมั่นคงได้อย่างไร ในเมื่อจิตใจไม่เคยให้อภัยกัน

แต่ล่ะ season จะมีเพียง 5 ตอน ดำเนินเรื่องอย่างเข้มข้นกดดัน  ช่วงหนึ่งคุณอาจจะรู้สึกสะใจเมื่อฝ่ายที่ดูร้ายกาจเริ่มจนมุม  แต่ต่อมาก็อาจเจ็บแปลบเหมือนถูกตบหน้าจากเนื้อเรื่องที่พลิกผัน  สำหรับผู้ที่นิยมหนังหวาน  ไม่อยากเพิ่มความตึงเครียด คุณคงต้องข้ามเรื่องนี้ไปก่อนค่ะ


On the way to airport
สองเรื่องแรกที่แนะนำไปเบื้องต้นโกยเรตติ้งสูงปรี๊ด  ซีรีย์เรื่องนี้สร้างกระแสตอบรับแบบกลางๆ ที่เกาหลีใต้ แต่เราสังเกตว่า ในช่วงที่ออนแอร์นั้น กระแสความนิยมที่บ้านเรานั้นไม่ขี้เหร่เลยล่ะ   มันเป็นเรื่องราวของการก้าวข้ามเส้นกั้นของศีลธรรมที่ใกล้ตัวและสมจริง ชมแล้วรู้สึกหน่วงจนต้องถอนใจแรงๆ !
"ชู้ทางใจ" อาจจะเปรียบเหมือนกับโอเอซิสำหรับผู้ที่โหยหาความรักความเข้าใจที่คู่ครองตัวเองไม่หยิบยื่นให้ จุดเริ่มต้นจากมิตรภาพที่บริสุทธิ์ใจก็อาจจะนำไปสู่ความเจ็บปวดที่ยากจะแก้ไขได้

ซูอา แอร์โฮสเตสสาวที่ทั้งทำงานและดูแลครอบครัวไปพร้อมกันอย่างเพียบพร้อม  แต่เธอไม่ได้มีชีวิตแต่งงานที่เท่าเทียมกับสามีนักบินผู้หล่อเหลา  ตลอดเวลาสิบกว่าปี เธอต้องคอยตอบสนองคำสั่งตามความต้องการสามีทุกอย่าง เขาแทบไม่แสดงออกความห่วงใยใดๆ แม้กระทั่งกับลูกสาวก็ยังถูกบงการ  จากที่เคยคิดว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการปกป้องครอบครัว  แต่ความรู้สึกต่อต้านนั้นเริ่มทับถมสูงขึ้นมา ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ตารางงานทั้งคู่จะแยกให้ห่างจากกันจนแทบไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างครอบครัว สายใยความอบอุ่นจืดจางจนแทบมองไม่เห็น  แต่ซูอาก็ยังบอกตัวเองว่ามันจะไม่เป็นไรเพราะ "นี่คือเส้นทางที่ชั้นเลือกเอง"

จนกระทั่งได้มาพบโดอู ผู้ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ
โดอู อาจารย์พิเศษสาขาวิชาสถาปัตย์ผู้มีจิตใจงดงาม แต่ภายใต้รอยยิ้มอบอุ่นนั้น เขาซ่อนบาดแผลใหญ่หลวงที่ได้สูญเสียลูกเลี้ยงไปจากอุบัติเหตุ  ชีวิตแต่งงานแสนสุขไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ความโศกเศร้าและค้างคาใจทำให้โดอูและภรรยาห่างเหิน  ดูเหมือนว่าเธอมีบางสิ่งที่ปกปิดเขาไว้และเขาก็ต้องการคำตอบมาอธิบาย โชคชะตาได้ดึงดูดให้โดอูมาพบกับซูอา เมื่อได้รู้ว่าเธอคือแม่ของเด็กหญิงที่เคยสนิทสนมกับลูกสาวผู้ล่วงลับจึงตกลงติดต่อกัน

พวกเขาไม่ได้คาดคิดไว้ก่อนว่า มิตรภาพของคนแปลกหน้าจะกลายมาเป็นความรัก

เราไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะชอบซีรีย์เรื่องนี้ แต่ต้องเปลี่ยนใจเพราะการแสดงออกทางสายตาของพระนางมันช่างบาดหัวใจเหลือเกิน On the Way to the Airport ไม่ได้ focus ในเรื่องคบชู้แต่เน้นไปที่แง่มุมสวยงามของความรักที่ค่อยๆ เติบโตมาจากมิตรภาพ  มันควรจะทำให้พวกเราอินกับความรักเอื้ออาทรของคนทั้งสอง แต่ศีลธรรมที่ตีกรอบความคิดของผู้ชมนั้นทำให้รู้สึกย้อนแย้งจนอึดอัดไปหมด เมื่อใดที่พระนางห้ามใจไม่อยู่เริ่มแสดงความรักหวานซึ้ง เราไม่สามารถรู้สึกฟินได้เต็มที่เหมือนกับตอนดูซีรีย์เรื่องอื่น  จะเชียร์ให้สวมหวังก็ต้องตะขิดตะขวงใจเพราะชู้ก็คือชู้  ถึงแม้ว่าชีวิตแต่งงานของพวกเค้าจะอยู่ในจุดวิกฤติ  แต่ใครกันล่ะที่เลือกจะจมอยู่กับความทุกข์ไม่ยอมปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการ ?
หากตัดคำว่า "แต่งงานแล้ว" ออก นี่อาจจะเป็นซีรีย์ feel good ที่เต็มไปด้วยโรมานซ์หวานแหววชวนจิ้น  คนที่มีชีวิตคู่แบบ toxic ย่อมโหยหาเพื่อนคู่คิดที่เอื้ออาทรและเข้าใจกันเพียงแค่สบตา  แต่เป็นเพราะว่าขาดการตัดสินใจที่แน่วแน่  เมื่อถลำลึกลงไปแล้วก็อาจพบกับความเจ็บปวดซ้ำเติมมากกว่าเดิมซะอีก  ในขณะที่มีความสุขกับความรักล้นใจ คุณอาจจะลืมไปว่ากำลังสร้างบาดแผลเจ็บลึกให้กับใครบ้าง แล้วไหนจะความอับอายขายขี้หน้าเมื่อเจ้าของมาทวงคู่ครองคืน เรื่องร้ายแรงอาจเกิดตามมาเพราะคุณหลีกเลี่ยงที่จะจัดการสถานะให้กลับมาโสดก่อนที่จะเริ่มมีความสัมพันธ์ใหม่

Discussion (5)

on the way to the airportสนุกจริงๆค่ะ สนุกแบบนวลๆไม่หวือหวา แต่ตัดจบแต่ละตอนได้อกอีแป้นจะแตกจริงๆ #ทีมดูต้นทาง
หัวใจจะวาย ซีรี่ย์ที่จะได้ใจหนูคือ 
1.พล็อต ต้องสนุก เดินเรื่องไม่เยิ่นเย้อ
2.หน้าตาพระนางตัวรองต้องได้ ต้องไม่รู้สึกสะดุดค่ะ
3.คอสตูมต้องได้ เรื่องนี้คอสตูมลำลองสวยมากกันทุกคน ไม่โฉ่งฉ่างแต่แบ่บ สวยจังเล้ย นางเอกใส่แค่เชิ้ตขาวกางเกงยีนส์ืำไมงามแท้น้อ
4.ฝีมือการแสดงต้องได้ พระเอกได้ใจมากค่ะ สายตาคู่นั้น ทำเราแทบเป็นบ้า ตัวสูงหุ่นดี ขายาว ใส่แค่เชิ้ตกับยีนส์ขากระบอก หล่อได้ขนาดนี้เลย ทรงผมก็เข้ากับหน้า ล้อหล่อ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นว่าหล่อ เล่นเรื่องนี้หล่อมาก แทบบ้า อิจฉายูอีแท้ๆ
5.เพลงเพราะ เกาหลีอะเนาะ วางใจได้อยู่ละ 
มาเป็น #ทีมดูต้นทางด้วยกันนะคะ
#ทีมอรุณา ตามที่บอสสุชาติและบอสวศินได้กล่าวไว้ค่ะ
เห็นแล้วต้องระงับอารมณ์ไม่ให้โมโหธาดากับกันยา
ถ้าเค้าเป็นอรุณานะ กันยาหนังหัวเปิดไปแล้ว
#อินละครจัด 555555
#ทีมบอสวศิน ทิ้งๆไปเลยค่ะ อย่าคิดว่าทำเพื่อลูก เค้ายังไม่คิดถึงลูกถึงเมียเลยเรื่องอะไรผู้หญิงอย่างเราต้องเป็นคนเดียวที่ทนเพื่อครอบครัว ร้องเพลงพี่มาช่า ผู้ชายห่วยๆให้ด้วยเป็นของแถม #อินละคร 555