คุณแม่ยังสาว .... ขอแชร์เทคนิคเมคอัพงานผิวใสละมุน แม้ต้องเลี้ยงลูกก็แต่งได้ไม่เสียเวลา

22 10
สวัสดีค่าทุกคน วันนี้ขุ่นแม่มาแนวใสๆ สไตล์น้องพิมฐา บ้างน๊า เพราะเดี๋ยวนี้ใครแต่งหน้าหนา โบกรองพื้น มัน Out ไปแล้วจ้า ยิ่งเราอายุมาก ยิ่งต้องเผยผิวใส สู้วัยทีนค๊า มาค่ะ มาดูเทคนิคที่ขุ่นแม่จัดให้ในวันนี้กันดีกว่า
แต่!!!! ก่อนอื่นจะมาทดสอบอะไรซักเล็กน้อย ให้ทุกคนได้ชมกันค่า รูปนี้คือ Before & After ก่อนและหลังจาก Make up เสร็จแล้ว (ประมาณ 10:00 น.)และ After หลังจากขุ่นแม่ไปทำงานเลี้ยงลูก ซักผ้า ถูบ้าน ล้างจานมาน๊ะค้า (ประมาณ 21:00 น.)
หน้าฝั่งขวาจะลงด้วยรองพื้น THREE Angelic Synthesis Foundation Serum นะคะ หลังจากลงรองพื้นเสร็จแล้วจะเห็นถึงความเนียนดูเป็นผิว ตกเย็น ผ่านมา 12 ชั่วโมง ใบหน้ายังมีความดิวอี้ดูเป็นธรรมชาติ คือไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้นจากเดิมค่ะ จุดสังเกตที่ชัดที่สุดคือ บริเวณใต้ตา แทบไม่มีรอยแตกหรือตกร่องเลยค่ะ
หน้าฝั่งซ้ายจะลงด้วย คุชชั่นของ Estee Lauder Nude Cushion Stick นะคะ จะให้ความรู้สึกถึงความแมทมากกว่า THREE นิดนึง และนั้นแรกๆเรียบเนียนเช่นกัน แต่ตกเย็นมาจะเริ่มมีความมันและเป็นคราบเล็กน้อยค่ะ สังเกตได้ชัดตรงบริเวณใต้ตาค่ะ จะตกร่องเล็กน้อย บริเวณแก้มมันนิดหน่อย หวานว่าแรกๆที่ลงคุชชั่นตัวนี้ถือว่าโอเครนะคะผิวแมทสวยเลย แต่ตกเย็นมาจะไม่อยู่ทนเท่ากับ THREE นี่ไม่ได้อวยน๊า คือหวานว่าของแบบนี้ต้องลองเองค่ะ

นี่ก็เป็นการทดสอบเล็กๆน้อยๆให้เห็นความแตกต่างกันไปแล้วนะคะ แต่ว่าเรื่องความติดทนของรองพื้นบนหน้าเราก็ขึ้นอยู่กับหลายอย่างๆค่ะ ทั้งสภาพอากาศบ้านเรานั้นมีทุกฤดูใน 1 วัน ดังนั้นรองพื้นที่คุมมันจึงเหมาะกับสาวๆบ้านเราเป็นอย่างมาก
Step 1. Illamasqua Matte Veil
ลง Primer กันเล็กน้อยค่า เพราะเป้าหมายคือ งานผิว ดังนั้นต้องเริ่มต้นเตรียมผิวให้ดีก่อนเลย Primer ตัวนี้ช่วยควบคุมความมันและช่วยทำให้ใบหน้าเรียบเนียน เครื่องสำอางติดทน และเติมน้ำให้ผิวค่า และเป็น Primer เนื้อเจลที่ทาแล้วซึมลงผิว ใช้บ่อยๆได้เลย เพราะไม่อุดตัน ไม่ทำให้เกิดสิวค่ะ ตัวนี้จะให้ลุคที่แมทคุมมันนะคะ ต่างจากตัว Hydra Veil ที่ให้ลุคฉ่ำน้ำ คือชอบทั้ง 2 ตัวค่ะ ของเค้าดีจริง นี่ใช้ไปเกือบครึ่งกระปุกแล้ว ใช้ทุกวันยังไม่ลดลงเลยจ้า
Step 2. THREE Airlift Smoothing Wand 
ขอบอกว่าตัวนี้คือ การเติมฟิลเลอร์แบบไม่เจ็บตัวนั่นเองค่า ตัวนี้คือ คอนซีลเลอร์ที่ไม่มีสีนั่นเองค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่า....ไม่มีสีแล้วมันจะช่วยยังไง ที่เป็นเนื้อสีชมพูอ่อนตัวนี้ค่ะจะเป็นตัวที่พอทาแล้วจะทำให้บริเวณที่ทาดูสว่างมากขึ้น เมื่อไปกระทบกับแสง นี่เป็นไงละคะ ที่บอกค่ะว่าตัวนี้เหมือนการเติมฟิลเลอร์ เพราะว่าจะสามารถพรางลอยลึก หรือพวกริ้วรอยต่างๆ จะทำให้ดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น หวานจะลงบริเวณที่เป็นพวกริ้วรอยเยอะๆ คือร่องแก้ม รอยย่นที่หน้าผาก และรอยใต้ตาค่ะ คือมันใช้ง่ายมากเพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัดสามารถเข้าถึงตามซอกจมูกร่องแก้มได้เป็นอย่างดี คือต้องตุนไว้อีกเพราะคิดว่ามันสำคัญมากเวลาแต่งหน้าและได้ใช้บ่อยแน่นอนค่ะ จริงๆใช้ Airlift ก่อนทารองพื้นก็ได้ค่ะ แต่ถ้าให้ถูกต้องคือใช้หลังลงรองพื้นค่า เพราะ ไม่มีสีไม่ทำให้เกิดคราบ สามารถใช้เติมระหว่างวันได้เลยค่ะ
Step 3. THREE Angelic Synthesis Foundation Serum #101
เป็นรองพื้นที่เหมือน Skin care ค่ะ คือจะมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบา เหมาะมากสำหรับ Everyday Look เวลาลงให้ใช้นิ้วมือนวดไปเรื่อยๆค่ะ ความอุ่นจากมือจะช่วยให้ออยล์ ทั้ง 9 ชนิดในรองพื้นทำงานได้ดีทำให้ผิวเนียนและกลืนไปกับผิวที่สุดค่ะ และรองพื้นตัวนี้มีกันแดด SPF 38/PA+++ คือสามารถควบคุมความมันได้ ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มแน่นอน หากต้องหารปกปิดเพิ่มสามารถสร้างเลเยอร์ซ้ำได้เลย ในรูปหวานลง 2 รอบ ยังเห็นเป็นงานผิวอยู่ เป็นธรรมชาติมากค่ะ สำหรับรอยคล้ำตรงใต้ตา หวานลงเพิ่มเป็น Conceler ได้อีก ไม่ตกร่องคอนเฟิร์ม มันเป็นความรู้สึกว่า เห้ยนี่! ลงรองพื้นแล้วหรอ มันดูเป็นผิวมาก นอกจากนี้ยังมีเฉดสีให้เลือกถึง 10 สี ตัวหวานใช้ 101 อาจจะดูขาวไปแต่พอรองพื้นเซ็ทตัวแล้วพอดีผิวค่ะ
Step 4. Illamasqus Cream Blusher #Dixie
ครีมบรัชสีชมพู ที่ลงแล้วดูสุขภาพดี หวานเป็นคนที่ชอบใช้ครีมบรัชมากค่ะ เพราะให้ความรู้สึกว่าเนียนกว่า และดูเป็นธรรมชาติมากและติดทนด้วยค่ะ ตัวนี้เนื้อเบาบาง เกลี่ยง่าย เม็ดสีแน่นตามสไตล์ Illamasqua เลย พอลงแลัวแก้มจะดูมีเลือดฝาด ไม่จับตัวเป็นก้อนด้วยค่า เหมือนตื่นมาแล้วแก้มอมชมพู ไม่ได้ทาอะไรเลยจริงจริ้ง
Step 5.THREE Ultimate Diaphanous loose Powder#1
แป้งฝุ่น THREE ชอบมาก เคยใช้รุ่น Colorless ก็ดีมาก และตัวนี้เป็นสูตรใหม่ เป็นเนื้อ lucentmatte เนื้อเนียนละเอียด คือลงปุ๊ปกลืนปั๊ปอะไรเบอร์นั้น คือมันเบามาก เหมือนไม่ได้ลงอะไรเลย แต่ผิวสวยดูเป็นธรรมชาติ และหวานชอบแป้งฝุ่น THREE ตรงที่มีตาข่ายกรองแป้ง ใช้งานง่านไม่เลอะเทอะ หวานใช้พัฟของ THREE ลงก็นุ่มมากเลย ใครอยากใช้แปรงคาบูกิลงก็จะได้งานผิวเบาๆค่ะ สูตรใหม่นี้จะควบคุมความมันได้ดีกว่าเดิมและ คุมมันได้ยาวนานกว่า ไม่ทำให้หน้าหมองระหว่างวัน ใช้ได้ทุกสภาพผิวค่ะ หวานเป็นคนผิวผสมก็เอาอยู่ค่ะ ยิ่งคนผิวขี้แพ้ก็สามารถใช้ได้ เพราะไม่มีการแต่งสังเคราะห์ ไม่มีการทดลองหรือใช้ส่วนผสมที่มาจากสัตว์
Step 6.Benefit Hoola/Autrium Mono eyes #M18/ Cathy Doll Real Brow 4D Tattoo Tint 
หวานใช้ Eye shadow แบบฝุ่น สีน้ำตาลอมเทา ผสมกับ Benefit Hoola ลงนะคะเพราอยากให้ดูไม่เข้มจนเกินไป แล้วเติมด้วย tattoo tint ของ Cathy Doll ลงตามช่องว่างให้ดูมีขนคิ้วเรียงเส้นสวยดูเป็นธรรมชาติค่ะ เขียนคิ้วแบบง่ายเร็วๆเลยนะคะ 
Step 7. Etude House Play Color Eyes Cherry Blossom
แต่งตาวันนี้ก็ง่ายๆค่ะจะขอลงสีทองอมส้มนิดๆ ที่บริเวณเปลือกตา และ สีน้ำตาลอ่อนบริเวณหางตาค่ะ เบลนให้เข้ากันเป็นอันเสร็จเรียบร้อยหวานไม่เน้นการลงสีตามากนะคะเพราะอยากให้โฟกัสที่ผิวมากกว่าค่า
Step 8. Lancome Grandiose Smudgeproof/ Marc Jacobs Highliner Gel Eye Crayons
วันนี้หวานขอเลือกมาสคาร่าของลังโคมค่ะ เพราะตัวนี้เป็นตัวที่ใช้ประจำเลย เนื่องจากปัดแล้วดูเป็นธรรมชาติสุดๆ ไม่จับตัวเป็นก้อนติดทนนาน ด้วยค่ะ ตัวแปรงจะโค้งแบบ Swan-Neck สามารถเขาได้ทุกมุม ไม่เลอะเทอะเวลาปัดค่ะ ปัดทั้งบนและล่างเลยน๊า ต่อด้วยลง Marc Jacobs In-Liner ที่ขอบตาด้านบนนิดหน่อยเพื่อเพิ่มความหนาของขนตาให้ดวงตาดูกลมโตนั่นเองค่า เสร็จแล้วในส่วนของตา ง่ายๆเบาๆกันไปค่า
Step 9. Dior Addict Lipstick 754 Pandore/MAC kinda Sexy
หวานลง Dior 754 ด้านในก่อนนะคะ เพราะตัวนี้จะให้เนื้อไม่แมทเกินไปทำให้ปากดูสุขภาพดี อมแดงเบาๆค่ะ และจะลงทับด้วย MAC Kinda Sexy เป็นสีนู๊ดที่ไม่ป่วยทาเดี๋ยวๆก็สวย หวานลงรอบๆเพื่อกลบสีปากอันดำคล้ำ แล้วเราใช้นิ้วมือเบลนทั้ง 2 ตัวให้เข้ากันค่ะ ใครอยากจะลงลิปกลอสทับเบาๆตามลงไปก็ได้เลยค่า

    สุดท้ายนี้สำหรับใครที่ต้องการความพุ่ง ก็สามารถลง Hi-Light ได้เลยค่าแต่หวานไม่ได้ลงแล้วเพราะอยากให้ดูเป็นธรรมชาติ แต่หวานจะขอลงเป็นบรอนเซอร์เบาๆแทนนะคะพูดเลยว่าลงเบามากๆ หวานใช้ Benefit Hoola เพราะสีเค้าไม่เข้มไม่อ่อนเกินไปค่ะกลมกลืนดี


rangsinee.w

rangsinee.w

สตรี ผู้ที่รักการแต่งหน้า

FULL PROFILE