Beauty Trend 2018 เทรนด์ไหนจะไป เทรนด์อะไรจะมาแทน
candy366Overlinned Lips VS Blurred Lips
ตั้งแต่ที่ไคลี่สร้างเทรนด์เขียนขอบปากให้ดู oversize ก็ดูเหมือนว่าเทรนด์นี้จะไม่จางหายไปไหนไปได้ง่ายๆ เสพสื่อบิวตี้อันไหนคุณก็จะเห็น How to เขียนปากแบบไคลี่ มันกลายเป็นลุคสุดฮิตของบรรดา youtuber และเน็ทไอดอลบน Instagram
คุณจะเห็นคนดังที่หันมาเขียนปากให้ใหญ่แบบไคลี่
ความแตกต่างที่ชัดเจนกับการเขียนขอบปาก overline กับไม่ได้เขียน
แน่นอนว่าพี่สาวของเธอก็เอาด้วย
แต่ปีหลัง ๆ มาหลังจากที่บิวตี้กูรูบางคนแสดงความเหลืออดกับเทรนด์เขียนปากใหญ่กว่าความจริง บรรดาสื่อแฟชั่นหลายเจ้าก็พยายามนำเสนอเทรนด์ปากแบบใหม่หลายแบบแต่ก็ยังไม่สามารถโค่น Overlined lips ได้สักครั้ง คราวนี้การทาปากที่เริ่มเป็นที่นิยมขึ้นมาและชาวเอเชียนอย่างเราก็รู้สึกคุ้นเคยกับเทรนด์นี้กันมาจากฝั่งเกาหลีใต้กันแล้ว
Blurred Lips
ทาขอบปากให้ดูฟุ้งและsoft กว่าสีปาก และอาจจะเบลนด์ให้เหมือนเลอะออกมานิดๆ
ที่จริงแล้ว Maybelline เคยนำเสนอลิปสติกรุ่น Lip Studio Color Blur มาตั้งแต่ปี 2015 แล้วค่ะ แต่ช่วงนั้นเป็นการกำเนิดใหม่ของปากบิ๊กบึ้มสไตล์ไคลี่ หลังจากที่ยอมรับว่าไปฉีดปากมาและยืนยันว่าพก lip liner เป็นกำ ๆ ในกระเป๋าเพื่อทาปากให้ใหญ่ตู้ม ธุรกิจเครื่องสำอางของเธอได้ก้าวตามมาส่งผลทำให้ลิปจิ้มจุ่มกลายเป็นสิ่งที่หนุ่มสาวมากมายแย่งช็อปกันราวกับแจกฟรี
แต่ในที่สุด กระแสที่ร้อนแรงก็เริ่มซาลง แม้แต่ตัวไคลี่คนปั้นเทรนด์เองก็เพลามือการเขียนขอบปากไปบ้างแล้ว และเราก็ได้เห็นแม็กกาซีนดังดึงตัวเคนดัล เจนเนอร์มาถ่ายปก เธอไม่ได้เขียนขอบปากใหญ่โตแล้วตามด้วยกลอสอิ่มฉ่ำ แต่ขอบปากกลับเบลอดูแปลกตาจากแนวการแต่งหน้าของ KarJenner
MAC นำเสนอลุคมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และคาดหมายกันว่ามันจะกลายเป็นเทรนด์ร้อนแรง โดยเฉพาะการจับคู่กับลิปสติกสีสดและเหลือขอบปากไว้อย่างจงใจ บางส่วนก็เบลนด์ให้ดูลายเส้นเบลอเหมือนกับเพิ่งได้รับจุมพิตจากใครบางคนมา ลืมการเขียนปากเส้นคมกริ๊บเนี้ยบเป๊ะไปได้เลย
แทนที่จะใช้ลิปลายเนอร์เขียนเลยขอบปากจริงออกไป ก็หันมาใช้คอนซีลเลอร์ลงเพื่อให้ขอบปากมีสีอ่อนไล่ระดับไม่เห็นเป็นเส้นชัด
ลุคนี้ไม่จำเป็นตะบี้ตะบันเขียนขอบปากอีกต่อไป
ที่ฮือฮามาจากปีที่แล้วคือสีปากเบลอเลยขอบเหมือนกับเพิ่งไปกินน้ำแดงหรืออมยิ้มมา
Val Garland เมคอัพอาร์ทิสท์ผู้รับหน้าที่ L'Oreal Paris Global Makeup Director. ได้อธิบายถึงลุคที่เธอแต่งให้กับสาวหน้าจิ้มลิ้ม He Cong ว่า
"มันสดใหม่ อ่อนเยาว์และดูพยศอยู่สักหน่อย เป็นอะไรที่สวนทางกับสไตล์ที่เป๊ะเว่อร์จนน่าเบื่อที่คุณได้เห็นบน Instagram ลุคที่ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อยนั้นโมเดิร์นดีค่ะ"
"มันสดใหม่ อ่อนเยาว์และดูพยศอยู่สักหน่อย เป็นอะไรที่สวนทางกับสไตล์ที่เป๊ะเว่อร์จนน่าเบื่อที่คุณได้เห็นบน Instagram ลุคที่ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อยนั้นโมเดิร์นดีค่ะ"
Arched Perfection VS Textured Brow
เราเคยนั่งชม share คลิปการแต่งหน้าของ beauty blogger คนสวยที่ใช้เวลากับคิ้วยาวนานยิ่งดูนานเท่าไร คิ้วของเธอก็ยิ่งเข้มขึ้น... และเข้มขึ้น ในที่สุดก็กลายเป็นคิ้วคันศรโก่งแบบสมบูรณ์แบบ
เป็นคิ้วที่เราเรียกว่า "คิ้วอินสตา" เริ่มมาจากเทรนด์คิ้วหนาของเซเลบที่มีคิ้วหนาตามธรรมชาติแล้วบรรดาเมคอัพกูรูก็เริ่มนำเสนอคิ้วใหญ่เข้มคมชัด รูปทรงเหมือนคันศรแต่เป็นคันศรสตอรงมีความเป็นเรขาคณิตเด่นชัด คิ้วแบบนี้อินกันมากจนมีการ how to เรื่องการปลูกคิ้ว สักคิ้ว สติ๊กเกอร์คิ้ว สารพันวิธีที่จะช่วยให้คุณได้คิ้วใหญ่เป้งคมชัด HD
เทรนด์คิ้วนี้จะดูแตกต่างกับคนที่คิ้วหนาตาธรรมชาติ มันเหมือนกับว่าขนคิ้วทุกเส้นจัดเรียงเป็นทางเดียวกัน ซูมใกล้ ๆ แล้วจะเห็นว่าขนคิ้วตรงแหนวอย่างจงใจ
คุณจะไม่เห็นขนที่โหนกคิ้วขึ้นระเกะระกะ แม้ว่าคิ้วจะหนามาก แต่ก็ grooming ให้เนียนเป๊ะ แล้วเบลนด์คอนซีลเลอร์เน้นให้คิ้วเด่นชัดเหนือความเด่นชัด
ความแตกต่างของคิ้วจากลุคคนดังที่ขึ้นชื่อเรื่องคิ้วหนากับเน็ทไอดอลที่โด่งดังด้วยคิ้วอินสตา
เราคิดว่าความแตกต่างอยู่ตรงที่คิ้วInsta นั้นจะเห็นชัดว่าเขียนให้ใหญ่เข้ม ดูจากแนวคิ้วด้านบนของสาวคิ้วเข้มธรรมชาติและขนคิ้วที่ไม่ได้เรียงตัวเป๊ะ ๆ
คนดังหันมาแต่งคิ้วแบบคันศรคมเข้มกันมากขึ้น ไม่เพียงเฉพาะคนที่มีคิ้วดกหนาตามธรรมชาติเท่านั้น
แต่เทรนด์คิ้วที่กำลังเป็นที่นิยมตามมาคือลุคที่ดูsoft ลง ไม่ต้องถมให้เข้มปื๊ดหรือวาดให้เป็นคันศรโก่งงอนหรือดูstrong แบบเรขาคณิตเหมือน ๆ กันไปหมด แต่สามารถปรับคิ้วทุกรูปทรงให้ดูมี volume โดยที่ขนคิ้วยังดูเหมือนขนคิ้วไม่ได้เป็นเส้นตรงเรียงตัวกันเป๊ะ
ลองชมความแตกต่างระหว่างคิ้วที่ยังไม่แต่งกับคิ้วแบบ textured
จะได้เห็นลุคนี้ทั้งบนพรมแดงและรันเวย์ค่ะ ที่จริงแล้วคิ้วแบบเข้มเป็นบล็อกนั้นอาจจะดูนิยมกันมากบน social media แต่ถ้าเป็นพรมแดงแล้วล่ะ คิ้วที่ strong ขนาดนั้นอาจจะแย่งความโดดเด่นจากเสื้อผ้าหน้าผมโดยรวม แม้แต่คนดังที่คิ้วหนาก็แต่งคิ้วตามรูปทรงเดิมของตัวเองโดยไม่วาดใหม่ให้โก่ง แต่เขียนให้มี texture สวยงามมากขึ้น ส่วนใครที่คิ้วบางหน่อยก็ใช้วิธีสักคิ้ว หลายคนยอมรับว่าไปสักคิ้วเพื่อให้ดูสวยเหมือนขนคิ้วของตัวเองจริง ๆ
เป็นคิ้วที่ดูหนาแต่ยังรกนิด ๆ นั่นเองค่ะ
Baking - Natural Skin
เรามารู้จักคำว่า Baking จากปากคิมเคและเมคอัพอาร์ทิสท์ของเธอ ภาพที่อธิบายได้ชัดเจนคือตอนที่เจ้าตัวโชว์ภาพขั้นตอนความงามดังนี้
เทคนิค "การอบ" เมคอัพนี้ หมายถึงการปัดแป้งtranslucent ทับคอนซีลเลอร์และรองพื้นที่ใต้ตาและรอบปากแล้วรอเวลาให้เซ็ทตัว ซึ่งเลเยอร์คอนซีลเลอร์ทั้งหมดที่ว่านี้จะไม่เบาบางแต่จะลงหนักจัดเต็มเพื่อนสร้างลุคที่สว่าง เรียบเนียน ให้ความรู้สึกไร้ที่ติอย่างหนักแน่น เป็นเทคนิคที่แม้แต่เมคอัพอาร์ทิสท์ของคิมเคเองก็ไม่แนะนำให้แต่งบ่อย ๆ เพราะจะเหมาะกับการถ่ายภาพออกมาไร้สวยโดดเด้งราวกับภาพ HD
คุณจะพบว่าคิม เคอินกับเทรนด์ baking มาตั้งแต่ยังไม่ดัง ปริมาณแป้งดูเยอะมากจนคิดถึงการอบขนมจริง ๆ
และก็ส่งต่อมายังสมาชิกครอบครัวของเจ้าตัวด้วย
ที่ว่าเทคนิคนี้เหมาะกับการถ่ายแบบมากกว่าใช้ในชีวิตประจำวันนั้น ตัวอย่างที่เห็นคือมีคนตกม้าตายกับการเลือกแป้งผิด เมื่อเจอแสงไฟในงานข้างนอกแล้วก็เกิดความขาวสะท้อนแสงดูแปลกไป
หนักกว่าคือ แต่ง baking ออกงานเจอแสงไฟแสงแฟลชจนถ่ายภาพออกมาปรากฏเห็นเแป้งปื้นใต้ตารอบปากคล้ายตัวตลก ในช่วงหลายปีมานี้มีดาราแต่งกันพลาดหลายครั้งค่ะ แต่ก็ดูจะน้อยลงไป เพราะเมคอัพอาร์ทิสท์น่าจะระมัดระวังเมื่อใช้เทคนิคนี้กันมากขึ้น ต้องใช้แป้งที่มั่นใจจริง ๆว่าตบลงไปแล้วจะสะท้อนแสงออกมาโชว์ตัวในภาพ เพราะถ้าพลาดไปแค่ทีเดียว บรรดาสื่อก็จะพร้อมหน้าพร้อมตาจิกกัด ชื่อเสียงเสียหายได้เลยทีเดียว
หลังจากที่เทรนด์การแต่งหน้าที่ทำให้เหมือนถูกรีทัชมาแล้วกลายเป็น mainstream สิ่งที่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นคือเมคอัพที่ปล่อยผิวให้หายใจหายคอได้มากขึ้น ผิวยังดูเหมือนผิวไม่ใช่ภาพ HD ที่เหมือนมีไฟLED Ringส่องหน้าอยู่ตลอดเวลา
คุณจะเห็นเซเลบเริ่มออกงานแบบ bare face เตรียมผิวให้ดี ๆ ทาบาล์มให้ปากชุ่มชื้น ลงมาสคาร่าใสที่ขนตา ปัดคิ้วให้เรียงตัว
อลิช่า คีย์เลิกแต่งหน้าไปพักใหญ่ก่อนที่เธอจะกลับมาแต่งให้เป็นธรรมชาติที่สุด เน้นเปิดเผยผิวสุขภาพดี อายแชโดว์ก็กลมกลืนกับสีผิวธรรมชาติ
เหมือนกับจะประกาศว่า มันโอเคนะที่จะปล่อยให้ใต้ตาดูคล้ำและมีริ้วรอยตามธรรมชาติบ้าง
แม้แต่คิมเคที่เป็นเจ้าแม่ baking ก็ยังโบกมือลาให้กับเทรนด์นี้ด้วยเหตุผลที่ว่า พอใต้ตาสว่างมากเกินแล้วรูปที่ออกมามันดูตลกมาก แม้ปัจจุบันเจ้าตัวก็ไม่ได้แต่งหน้าแบบธรรมชาติตามภาพนี้ให้เห็นอีก แต่ก็เพลาๆเรื่องการโบกคอนซีลเลอร์โปะแป้งใต้ตาสว่างจ้าลงไป
Discussion (6)