แชร์สกินแคร์ช่วงครึ่งปีแรก 2018 ที่ใช้แล้วใช่ ใช้แล้วโดน (งานผิวสุขภาพดีมงลงต้องมา)

14 1
ครึ่งปีผ่านไป ...ไวเกิ๊นนนน เอาจริง ๆ แทบจะยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เวลาก็ล่วงเลยมาเท่านี้แล้ว นี่ชีวิตชั้นจะไร้ประโยชน์ไปอีกปีแล้วหรอไง (วะ ><*) เอาจริง ๆ ที่ได้มาในปีนี้นอกจากอายุที่มากขึ้นก็แทบจะไม่มีอะไรเลย (ล้อเล่นน่ะ) เอาจริง ๆ นอกจากอายุแล้วก็มีประสบการณ์นี่แหละ ที่ทำให้เราได้ความรู้มากขึ้น ตัดสินใจได้ดีขึ้น และที่สำคัญฉลาดในการเลือกมากยิ่งขึ้นนาจา ดังนั้นในครั้งนี้เอิ๊กก็เลยอยากจะบอกต่อ ขอแชร์ แชร์สกินแคร์ช่วงครึ่งปีแรก 2018 "Face Resurrection" หน้ากลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้งนีงมาให้ได้อ่านกันเนอะ
ต้องบอกก่อนเลยว่าชีวิตก่อนหน้าและในปัจจุบันนี้ เอิ๊กนอนดึกมาก นอนตีสาม ตีสี่  รู้ว่านิสัยไม่ดีทำร้ายสภาพผิว แต่คิดว่าจะเปลี่ยนมั้ย ก็ตอบเลยว่า ไม่!!! ชอบนั่งเล่นเกม นั่งดูหนังยันเช้า มันคือไลฟ์สไตล์อะ มีไรมะ 555+ ดังนั้นพวกสกินแคร์ที่อยากจะมาบอกต่อก็เลยมีแต่ไอเทมพวกเน้นงานกอบกู้หนังหน้า และกระชากความผ่องใสและถีบความหมองคล้ำกลับไปในเงามืดนะ ใครที่มีปัญหาหน้าโทรมหมอง ๆ ล่ะก็ มาศึกษาจากหนูทดลองคนนี้ไปได้เลย
ก่อนที่เราจะไปเริ่ม มาดูสภาพผิวเอิ๊กก่อนเนอะ
จะเห็นได้เลยว่าเอิ๊กเป็นคนผิวมัน/ผิวมัน รูขุมขนกว้าง เอาแหละอย่ารีรอ งั้นมาดูกันเลย ว่าตัวช่วยของเอิ๊กมีอะไรบ้าง
Clinique Anti-Blemish Solutions Cleansing Gel
เริ่มกันที่อันดับแรกต้องทำความสะอาดผิวหน้าก่อน กับเจลล้างหน้าคู่บุญที่อยู่กันมานาน (หมายถึงใช้หมดแล้วก็ซื้อใหม่นะ ไม่ใช่ใช้ยังไม่หมดเลยอยู่มานาน 5555+) ถ้ายังจำกันได้เจ้านี่คือ 1 ไอเทมที่ยังติดชาร์ต ได้ไปต่อมาเรื่อย ๆ ถ้าอ่านรีวิวอันเก่าของเอิ๊กก็จะเห็นเลยว่าใช้มานานมาก ด้วยความดีงามของมันตรงที่ป้องกันเรื่องสิวและคุมมันได้ หน้าไม่รู้สึกแห้งแบบพวกเจลล้างหน้าที่คุมมันที่ล้างแล้วรู้สึกหน้าตึง ๆ แห้งอะ คือเอิ๊กใช้แล้วรู้สึกว่ามันถูกกับผิวหน้า ก็เลยใช้มาเรื่อย ๆ นี่แหละ
​​​​Aesop Lucent Facial Concentrate
อีกหนึ่งไอเทมที่ผ่านมาแล้วไม่ผ่านไป ยังคงใช้อยู่ กับเซรั่มบำรุงผิว ที่ได้มาเพราะพี่สาวตัวดีแนะนำ...เชิงบังคับให้ไปซื้อ แล้วมันก็ดีจริง ๆ แหละเลยใช้ต่อ เพราะเท่าที่ใช้มาแล้วสังเกตได้อย่างเห็นได้ชัดเลยคือผิวหน้าดูสุขภาพดีขึ้นไม่กร้านแบบคนนอนน้อย รู้สึกผิวมีความชุ่มชื้นกว่าตอนที่ปล่อยเซอร์กับหนังหน้าอย่างเห็นได้ชัด ที่ชอบมาก ๆ ก็คือถึงเซรั่มจะเข้มข้นแต่รู้สึกไม่หนักผิว รู้สึกสบายหน้า แถมกลิ่นหอมผ่อนคลายดีด้วย
Vichy Normaderm Beautifying Anti-Blemish Care
มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวและป้องกันปัญหาสิว ที่เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย แต่ด้วยความที่หน้าเราด้านอยู่แล้ว 55555+ ใช้อะไรก็ไม่แพ้แน่นอน เอิ๊กนับว่าเป็นหนึ่งไอเทมที่ช่วยให้ผิวหน้าเอิ๊กกลับมาอยู่ในสภาวะคนปกติได้เป็นอย่างดีงาม เพราะหลังจากที่ใช้แล้ว (เห็นด้วยตาเปล่า ๆ เลยก็คือ) ปัญหาสิวจากการนอนดึกลดลง รอยสิวดูสว่างขึ้นบ้าง แต่จุดที่ชอบที่สุดคือเวลาทาแล้วเนื้อครีมซึมเข้าผิวไปเลยไม่เหนียวเหนอะหน้าอันนี้แหละที่ชอบมาก
Charis Power Recovery White Serum
ไอเทมตัวใหม่ที่ลองแล้วมันรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตาของตัวเองจริง ๆ กับ เซรั่มบำรุงผิวหน้าที่เลียนแบบวิธีการทำงานของเลเซอร์ ที่เน้นความกระจ่างใสทำให้หน้าไม่หมองตัวนี้ คือคนที่รู้จักใช้ด้วย กับลองไปเผือกคนนู้นคนนี้ที่เขาลองรีวิวแล้วส่วนใหญ่ไปในทางดีงาม งั้นก็เลยลองจ่ายเงินซื้อมาลองบ้าง และก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ ตัวเนื้อเซรั่มตอนแรกคิดว่าจะมีกลิ่นหอม พอบีบออกมาดม ๆ มันไม่มีกลิ่นอะ พออ่าน ๆ ดูแล้วที่ไม่มีกลิ่นเพราะเขาไม่ได้ผสมน้ำหอมนั่นเอง ซึ่งดีต่อคนที่ผิวแพ้ง่ายแหละ ซึ่งเอิ๊กเป็นคนผิวมัน เป็นสิวง่าย และเจ้าตัวนี้ใช้แล้วความมันลดลง สิวไม่ขึ้นได้อย่างดีเลยแหละ แถมยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายด้วยเลยไม่ต้องกังวลอะไรมาก อันนี้แนะนำเลย ดีกว่าใช้แล้วแพ้ทีหลังเสียเงินรักษาไปอี๊กกกก พอหลังจากใช้ไป เดือนกว่า ๆ สิ่งที่เห็นได้ชัดและชอบมากคือหนังหน้าเอิ๊กคือดูมีสภาพดีขึ้น สีผิวดูเสมอกัน พวกรอยสิว หรือริ้วรอยต่าง ๆ ที่มากที่ไปเที่ยวตากแดดหนัก ๆ ที่ทำให้หน้าโทรม ดูจางลงมาก และที่รู้สึกได้จริง ๆ เลยคือหน้าเรียบไม่ดูกร้านดูไม่เหมือนคนที่นอนดึก
Delsy Super Solution Repair Night Cream
ครีบบำรุงผิวที่เน้นงานฟื้นชีวิตให้กับผิวหน้า จุดเด่นก็คือตัวครีมมีส่วนผสมจากสเต็มเซลล์จากอาร์แกน ที่ช่วยฟิ้นฟูผิวหน้าและริ้วรอย ปลอดภัยดีต่อผิวแพ้ง่าย ตัวนี้บอกเลยว่าชอบมาก ๆ เพราะตัวครีมมีเนื้อที่เบาบาง ที่ต่างจากไนท์ครีมทั่วไปที่ทาแล้วมีความหนักหน้าและมีความหน้ามัน แต่ตัวนี้รู้สึกได้ถึงความเข้มข้นของครีม แต่ทาแล้วรู้สึกสบายผิวหน้าแถมหน้าไม่มันอย่างที่เคยใช้พวกไนท์ครีมตัวอื่น ๆ ด้วยนะ ใช้แล้วรู้สึกได้เลยถึงความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด แบบตอนที่ตื่นขึ้นมานี่รู้เลยว่าผิวเอิ๊กฉ่ำน้ำดูชุ่มชื่นขึ้นมากจริง ๆ แบบรอยย่นอะไรต่าง ๆ แทบจะไม่มีเพิ่มขึ้นมา ไอ้รอยที่มีอยู่ก็ดูตื้นขึ้นมาเยอะเลย (เพื่อน ๆ หลายคนทักด้วย) ตรงที่ผิวหน้าดูสว่างมีความกระจ่างใสขึ้น จากปกติที่ดูหมอง ๆ โทรม ๆ เหมือนคนพักผ่อนน้อย ซึ่งนอกจากเรื่องหน้าดูสว่างแล้ว ที่ชอบอีกตรงคือหน้าเอิ๊กมีความนิ่ม (แบบจับแล้วมีความรู้สึกผิวเด้ง ๆ อ่ะ) บอกเลยว่าดีงามสะพานสาธรจริง อันนี้แนะนำเลย
Charis Power Night Booster x3
มากันที่ตัวสุดท้ายแว้วววว ครีมบำรุงผิวอีกหนึ่งตัวจาก Charis (ซื้อมาคู่กัน เห็นบอกว่าใช้ด้วยกันจะเห็นผล ไอ้นี้ก็บ้าจี้ซื้อมาลอง) ความรู้สึกเหมือนกับตัวเซรั่มเลย ไม่มีกลิ่นเพราะไม่ผสมน้ำหอม ดีกับคนผิวแพ้ง่าย แต่ครีมตัวนี้บอกก่อนนะว่าเอิ๊กไม่ได้ทาทุกวัน ทาอาทิตย์ละ 3 ครั้งพอ เพราะว่าตัวครีมมีความเข้มข้นมากจุดเด่นตรงที่มีสารสกัดจากยีสต์ที่จะช่วยฝื้นฟูผิวหน้า และ BETA WHITE ช่วยในการปรับสีผิว ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน แต่ช่วงแรกนี่บอกก่อนว่าแทบจะทาวันเว้นวัน เพราะมันช่วยทำให้ผิวเอิ๊กที่ผิวดูเหนื่อยๆโทรมๆกลับมาเด้งสดชื่นขึ้นแค่ข้ามคืน พอหน้าเริ่มกลับมาดีขึ้นแล้วก็ใช้แค่อาทิตย์ละแค่ 3 ครั้งตามปกติ แต่สิ่งที่ชอบในครีมตัวนี้ก็คือถึงแม้เนื้อครีมจะมีความเข้มข้นมาก แต่ทาที่หน้าแล้วมันเบานะ นี่ก็งง ๆ อยู่ว่าตัวเทกเจอร์ของครีมดูแน่นเข้มข้นมาก แต่ทาแล้วเบาไม่รู้สึกหนักหน้า แถมครีมซึมเข้าผิวเร็วมากด้วย ตรงนี้ชอบ ๆๆ //อันนี้ขอแถมนิดนึง แบบว่าถ้าช่วงไหนออกทริปเที่ยวแล้วต้องตากแดดหนัก ๆ กลับมาก็จะใช้ตัวนี้แหละในการกู้ผิว
หวังว่าการรีวิวเล็ก ๆ ของเอิ๊กในครั้งนี้คงเป็นตัวช่วย หรือเป็นสิ่งที่ทำให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจเลือกซื้อสกินแคร์ที่เหมาะกับตัวเองนะครับ ใครที่หน้าหมอง เพราะนอนดึกเนี่ย เอิ๊กคิดว่าคงช่วยได้มากเลยจริง ๆ สำหรับตอนนี้ ก็ต้องขอบ๊ายบายกันไปก่อน ถ้ามีอะไรดี ๆ เอิ๊กจะมาแนะนำอีกเนอะ บั๊ยยยยยยยย


iameark

iameark

อดีตนักเขียนจากนิตยสาร Lisa และ MThai อยากมีบล็อกไว้อัปเล่น ๆ เป็นงานอดิเรก ฝากตัวด้วยนะครับ

FULL PROFILE