[จับฉ่ายทัวร์ 1/2] เยือนเคาทเตอร์ Diptyque แร๊ปใส่พนักงานกันรัวๆ by หนูคิส

14 2

สำหรับใครที่ไม่ต้องการฟังคิสพูด ดูแค่บรรยากาศร้าน ข้ามไปนาทีที่ 2.52 คิสได้ถ่ายวนรอบร้านไว้สั้นๆค่ะ ที่เหลือคิสจะคุยกับ SA และไม่ได้จ่อกล้องไปทางอื่น คิสมัวแต่คุยอย่างเดียว คิสพูดเร็วหน่อยนะคะ เพราะคิสรีบมากจริงๆ ปรกติก็พูดเร็วแต่ไม่ใช่สปีทนี้ อันนี้คิสต้องรีบทำเวลาค่ะ

อันนี้คิสไปมาเมื่อวานนะคะ ไปแบบรีบๆ เพราะจริงๆสภาพไม่ค่อยเอื้ออำนวยให้ใช้ชีวิตข้างนอกบ้านเท่าไหร่


เพื่อนสาวชาวตปท.คิสถามราคาน้ำหอมของร้าน Diptyque ให้คิสไปเอาราคามาให้ คิสก็บอกว่า ได้ เดี๋ยวไปถามให้ เพราะก็ยังไงก็ต้องไปสยามอยู่แล้ว


พลาดที่ไปสัญญากับใคร เพราะนางทวงรัวๆ แต่ก่อนหน้าคิสไม่สะดวกจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่ย(ช่วงที่คิสหายจาก Jeban นั่นละ) คิสเข้าโรงบาล ไม่ตายก็บุญแล้ว


คิสบอกว่าคิสอยู่รพ. นางก็บอกว่านางรีบ นางจะมาไทยแล้ว นางขอราคาจะได้เตรียมเงินได้


เออ ดีจัง คิสก็รู้สึกนะ ว่าคิสยินดีทำให้ละ เรื่องเล็กมาก โทรหาก็ได้ แต่คือติดต่อพนง.ไม่ได้ ก็ต้องถ่อมาถึงสยาม


(ปรกติคิสชอบไปที่เอ็มควอเทียร์มากกว่านิดหน่อย เพราะพารากอนคนเยอะทุกจุด คิสพยายามเลี่ยงคน ทั้งประเทศนี้มี 2 สาขา เลือกกันตามลำบากค่ะ พนักงานบริการดีมากๆทั้ง 2 ที่ ถ้าเอาสะดวกใจกลางเมืองก็พารากอน เอาสบายๆ comfy เลือกของชิลๆ ไม่ต้องแย่งใครหายใจไปเอ็มควอเทียร์ คิสไปทีรู้สึกเหมือนจองร้านไว้เป็นของตัวเอง อยากดมอะไรก็สบายใจมาก ไม่ต้องเกรงใจลูกค้าท่านอื่น)

คิสเคยแต่ซื้อเทียนหอมเค้า ตอนแรกคิสโง่มาก คิสไม่รู้จักหรอกแบรนด์นี้


คิสเห็นพวกบล๊อกเกอร์ตปท.ทุกคน ย้ำ ทุกคน ต้องใช้แก้วแบรนด์นี้ใส่แปรงแต่งหน้า ไม่รู้เป็นอะไรกัน จนคิสเข้าใจว่า มันคือ "ยี่ห้อจากชามแก้ว" คือเหมือนพวกตราม้าลาย ตรานกพิราบ ตราโอเชียน อะไรแบบนี้ เหมือน glassware 


ปรากฏว่าไม่ใช่ มันเป็น myth มากๆว่าทำไมทุกคนพร้อมใจกันเอาแก้วเทียนหอมของยี่ห้อนี้มาใส่แปรง หรือวางไว้บนโต๊ะแต่งหน้า พอไปสืบมา อ๋อ มันเป็นยี่ห้อเครื่องหอมนี่เอง เหมือนโจมาโลนสำหรับทางฝรั่งเศสเค้า ประมาณๆนั้น


Diptyque(ออกเสียงตามสำเนียงภาษาอังกฤษว่า "ดิปทีค") ดังเรื่องเทียนหอม คิสก็ไปซื้อเทียนเค้ามาใช้ ใช้ด้วยความระมัดระวังพอๆกับของโจ กลัวหมด 


แต่....ไม่เคยสนใจอย่างอืนเลย เค้ามีหลายอย่างนะ เยอะมาก คิสก็ไม่เคยสนใจ


ก็ขนาดแค่เทียนยังแพงขนาดนี้ น้ำหอมคงไม่ต้องคุยกันแล้ว และก็เป็นตามนั้น





คิสถามราคาแล้วกะว่าส่งให้เพื่อนจบ กลับบ้าน


ไหนๆก็ไหน ทำไมมันต้องมาไล่จี้คิสนัก ดมหน่อยวะ ถึงที่ละ ดมกลิ่นที่ 2 ก็ขอพนง.อัด Video เลย คือแบบ........มัน...ดี...มาก


กลิ่นมันช่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก sophisticated สุดๆ คิสป่วยอยู่นะ ดมแล้วแบบ...คิสหายวะ ว่าเว่อร์ก็ได้ กลิ่นมันพัดพาคิสไปไกล คิสดมจากกระดาษด้วย ไม่ได้ให้ฉีดตัว คิสหาความชอบในน้ำหอมยากมาก ตัวนี้จับคิส take off ขึ้นเครื่องไปถึงเวียดนามได้เลย


ถ้าคนรู้เรืองชีวิตคิส(ซึ่งไม่มี) คิสผูกพันกับประเทศเวียดนามเป็นพิเศษ กับทะเลสาบที่ฮานอย(ห่าหน๋อย) กับคน กับเบียร์ กับอากาศ เวลาคิสออกจากประตู arrival hall คิสมักจะยืนสูดอากาศของที่นั่นสักพัก สูดเต็มๆปอด ไปให้ถูกช่วงนะคะ สูดผิดฤดูก็หายนะได้ เพราะมลภาวะที่นั่นเอาเรื่องอยู่ แต่ช่วงฤดู Autumn ที่นั่นคือสวรรค์ของคิส


Tam Dao(ตั๋มด๋าว แปลว่าอะไรก็ไม่รู้ ลืมภาม)....ค่าตัว EDP 85 ml อยู่ที่ 6,700 thb


คิสสตั๊นราคา คือเดาได้ว่าแพง คิสจบคลิปก่อนถามราคา ซึ่งก็คิดถูกแล้ว ไม่งั้นคิสคงไม่กล้าคุยกับ SA ขนาดนั้น เกรงใจพนักงาน


ขอบคุณคุณน้อง SA มากนะคะสำหรับข้อมูลแบบอัดแน่นมาก(ก่อนอัดคลิปน้องอธิบายเรื่องราวของกลิ่นไป 4-5 กลิ่นได้ นานโคตรๆ น้องดูแลคิสดีมาก น้องชื่อจอร์น ขอบคุณน้องจอร์น ณ ที่นี่และที่นั่นด้วย)

คิสอยากมีความสามารถในการอธิบายกลิ่นน้ำหอม แต่คิสทำไม่ได้


เอาว่าใครสนใจแบรนด์น้ำหอมทางเลือก น้ำหอมที่ไม่ใข่พวกสังเคราะห์ หรือออกมาจากพวกบริษัท mass สั่งผลิตกลิ่นขึ้นมา


อันนี้คือมันกลิ่นซับซ้อนมาก มากขนาดที่คนไม่เก่งเรื่องน้ำหอมดมแล้วรู้สึกว่า โน้ดมันเบียดกันในนั้นอยู่ พอมาดมแบบ blend กับผิวตัวยิ่งรู้สึก


น้ำหอมของแบรนด์นี้และโจ ไม่ใช่แบบติดทนน้ำหอมอาหรับ น้ำหอมแขกนะคะ อันนี้หอมแบบกำลังดี คนชอบกลิ่นแรงๆอาจจะไม่ถูกใจ เพราะเค้าใส่ essential oil ลงไปมากกว่าของสังเคราะห์ แต่กลิ่นจะดีจริงๆ


คิสกลับบ้านมายังได้กลิ่นอยู่จางๆ ไม่ชัดแล้ว แต่ได้กลิ่นอยู่แน่ๆ เทียบกับโจ คิสว่าพอๆกัน โจว่ากลิ่นบางแล้ว ความติดทนก็ไม่หนีกัน แค่กลิ่นโจจะอีกแนว โจหอมคุณหนู ผู้ดีๆ Diptyque หอมแบบ....มีเสน่ห์ มีสไตล์ มีที่มาที่ไป ให้ความรู้สึกผู้ชายมมากกว่ามากๆ


SA บอกคิสว่ามันออกแบบมาเป็น Gender Free คิสก็ว่ามันอธิบายได้ดีนะ คือมันมากกว่า unisex แล้ว คิสว่าหอมแบบผู้ชายด้วยซ้ำ เหมือนผู้ชายถือกระเป๋าเดินทางวินเทจหนึ่งใบ แล้วออกเดินทาง กลิ่นที่เราดม เป็นกลิ่นที่เราได้ยืนรอผู้ชายกลับมาแล้วกอดเค้า ได้กลิ่นของการเดินทางตั้งแต่ต้นจนจบ


เว่อร์ปะ ไปดมกันเองละกัน และรับผิดชอบชีวิตกันเอง คิสเองก็เดือดร้อนอยู่ว่าจะซื้อเมื่อไหร่ดี ทำใจยังไงดี ที่บ้านรู้ตายแน่นอน ถ้าคิสแต่งงานแล้วก็ต้องบอกว่าหลบคุณสามีซื้อเลยละ แพงมากกกก -  -"

สรุป


ขอโทษนะที่คิสพล่ามยาวตลอด แต่อันนี้ประทับใจโคตรๆอะ หวังให้เป็นทางเลือกให้สาวๆคนอื่นกันค่ะ คิสไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ ไม่ได้ค่าคอมจากพนง.นะคะ มาเชียร์เพราะมันโคตรหอม และดูคนไม่ค่อยนิยมกัน คิสกลัวมันจะไปจากประเทศเราค่ะ หลายแบรนด์แล้ว ดีๆทั้งนั้น มาไทยได้แป่บเดียวก็ต้องไป หาซื้อลำบากอีก



______________________________

คิสรักอะไรยาก รักแล้วรักเลย หมดใจ น้ำหอมเป็นสิ่งที่คิสหาได้ยาก ยากจนหมดชีวิตคิสเจอกลิ่นที่ชอบอยู่ 5 กลิ่นได้ แล้วคนละทิศทางกันหมดเลย จนบอกลำบากว่าต้องโทนไหนคือที่ใช่ของตัวเอง ใครอ่านแล้ววิเคราะห์ความเป็นคิสได้ช่วยด้วยค่ะ 55


คิสชอบกลิ่นที่ดมแล้วรู้สึกอยากนอนอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องไปไหนอีก ไม่อยากเดินจากไปไหน คิสนิยามว่าฟิลแบบ....นิพพานอะ Nirvana มาก


1. Still by JLo

2. Issey pour Homme

3. Versense by Versace

4. Nectarine blossom & honey by Jo Malone

5. Laya by Ne`emah


King of Eugenie

King of Eugenie

คิสรู้คุณรู้โลกรู้ ของดีโลกต้องรู้ :)

Line ID: kingofeugenie
FB: fb.me/911beaute

FULL PROFILE