Most Iconic Bridal Gowns

Princess of Wales's Puffy Gown

ชุดของเจ้าหญิงไดแอนน่าจัดอยู่ในหมวด "โลกไม่ลืม "  และยังสร้างข้อถกเถียงกันแบบ love it or hate it  ถ้าไม่ชอบก็ยี้ไปเลย
ยุค 80 s เป็นยุคแห่งความเยอะ over the top  แต่เมื่อนึกย้อนไปถึงชื่อเสียงของหญิงสาวตระกูลสูงที่อยู่ใกล้ชิดกับราชวงศ์มายาวนาน  เลดี้ไดแอนน่า สเปนเซอร์ที่ยังอยู่ในวัยรุ่นนั้นดูขี้อายถึงขนาดถูกเรียกขานว่า Shy  Di  ชุดพองฟูฟู่ฟ่าที่ทำให้เธอเหมือนกับตุ๊กตาเจ้าสาวมีชีวิตนั้นเรียกว่าสร้างความตะลึงพรึงเพริดให้กับโลกที่เฝ้าจับตามองเจ้าหญิงผู้ที่จะกลายเป็นราชินีในอนาคต

ดีไซน์เนอร์  
David และ Elizabeth Emanuel

งบประมาณ
 £9000  ถ้าเทียบกับค่าเงินในปัจจุบันคือ £35,000  งบนี้ดูเบาไปเลยค่ะเมื่อนึกถึงชุดเจ้าสาวเชื้อพระวงศ์ในยุคต่อ ๆ มา  หรือแม้กระทั่งเซเลบหลายคนก็งบหนักอึ้งกว่านี้ แต่มูลค่าของชุดนี้ในปัจจุบันพุ่งสูงขึ้นไปอีก เนื่องจากเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของพิธีเสกสมรสแห่งประวัติศาสตร์นั่นเอง

ความยาว
7.62 เมตร




ดีไซน์เนอร์บอกเล่าว่า เลดี้ไดแอนน่ายืนยันจะให้พวกเค้าทำหางชุดให้ยาวออกไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ไม่สามารถนั่งในรถม้าได้  จนต้องช่วยกันหาวิธีการพับที่ช่วยจัดการความใหญ่อลังการของชุดให้ลงตัวกับขนาดพาหนะ     และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมปลายชุดจึงมีรอยยับมากกว่าที่อื่น 
ถ้ามองไกล ๆ อาจจะไม่คาดคิดเลยว่ามีการประดับประดาไข่มุกนับหมื่นเม็ด!  ชุดนี้ยังได้ใช้ผ้าลูกไม้โบราณเคยเป็นของสมเด็จพระราชินีแมรี่อีกด้วย
เลดี้ไดแอนน่าที่เรียกใช้บริการดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ที่อยู่ในวงการเพียง  7 ปี  ในขณะที่ห้องเสื้อชั้นสูงชื่อดังมากมายต่างรอคอยให้เธอติดต่อให้ตัดเย็บชุดเจ้าสาวให้   คู่รักเอมมานูเอลมีเพียงสตูดิโอเล็ก ๆ ไม่ได้เป็นดีไซน์เนอร์ชื่อเสียงก้องโลก  เมื่อพระคู่หมั้นที่เคยสวมใส่ชุดสวยที่พวกเค้าดีไซน์เพียงไม่กี่โอกาสได้ติดต่อให้พวกเค้าเป็นผู้สร้างสรรค์ชุดเจ้าสาวระดับตำนานก็สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง


เจ้าหญิงไม่ได้ขอยืมเทียร่าจากคอลเเลคเครื่องเพชรเลอค่าของสมเด็จพระราชินี  แต่ปฏิบัติตามธรรมเนียมดั้งเดิมด้วยการสวมเทียร่าอันเป็นสมบัติตระกูลสเปนเซอร์  ดังที่ได้เล่าไว้ในเบื้องต้นค่ะว่าครอบครัวของเธอนั้นเป็นผู้ดีสืบเชื้อสายขุนนางชั้นสูงมาตั้งแต่ในอดีต  เทียร่าอันนี้เป็นสมบัติตกทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เลยทีเดียว 
ถ้าชมวีดีโอจะพบว่าเทียร่าระยิบระยับโดดเด่นเป็นที่สุด
ข้อเท็จจริงที่น่าเศร้าก็คือ  ชุดที่ถูกเรียกว่า "ชุดเจ้าสาวแห่งศตวรรษ" นี้คือจุดเริ่มต้นของโรคปฏิเสธอาหารของเจ้าหญิงผู้โด่งดัง ดีไซน์เนอร์กล่าวพ้องกันว่า ใน fitting พวกเค้าต้องแก้ไซส์ให้เล็กลงเรื่อยๆ  เพราะเธอลดน้ำหนักลงไปจนเอวคอดกิ่ว

แม้เจ้าหญิงไดแอนน่าจะเปิดเผยเรื่องการต่อสู้กับบูลีเมีย  แต่เมื่อปีที่แล้วนักเขียนหนังสือชีวประวัติของเจ้าหญิงได้รับเทปที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนว่าความผิดปกตินี้เริ่มขึ้นเพราะพระสวามีเคยหยอกเย้าว่าเธอเป็นสาวจ้ำม่ำตั้งแต่ยังหมั้นหมายกัน  เธอจึงเริ่มลดน้ำหนักและทำให้ตัวเองอาเจียน  ก่อนพิธีเสกสมรสนั้นจากที่มีรอบเอว 29 นิ้วก็ลดลงมาเหลือเพียง 23 นิ้วครึ่ง    และยังมีสัมภาษณ์ที่เปิดเผยกับสาธารณชนว่า ความสัมพันธ์ของพระสวามีและชู้รักนั้นทำให้เธอรู้สึกไร้ค่าและอาการแย่ลงไปอีก


Princess Grace's Classic Gown
ดีไซน์เนอร์
Helen Rose  ผู้รังสรรค์ลุคอันเฉิดฉายให้กับเธอในหนังดังอย่าง High Society และ The Swan


งบประมาณ

$8,000 หรือเทียบกับค่าเงืนปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ $68,000

พูดได้อย่างมั่นใจว่า นี่คือชุดแต่งงานที่ยังทรงอิทธิพลมถึงปัจจุบันแม้เวลาจะผ่านไปมากกว่า 60 ปี  รวมไปถึงเจ้าสาวคนดังที่ได้แรงบันดาลใจจากชุดของเจ้าหญิงเกรซ ตัวอย่างเช่น  มิแรนด้า เคอร์  นิกกี้ ฮิลทัน  อีวังก้า ทรัมป์ และร่ำลือว่า ชุดของดัชเชทแคทเธอรีนนั้นมีความคล้ายคลึงกันไม่น้อยทีเดียว
มาเปรียบเทียบรายละเอียดจากภาพในอดีตที่อาจจะไม่ค่อยชัดเจนกับชุดจริงที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่ Philadelphia Museum of Artค่ะ  ด้านหลังดูงดงามอ่อนหวานไม่แพ้กัน
เป็นชุดแบบอนุรักษ์นิยม ปิดคอ แขนยาว ตัดเย็บด้วยผ้าไหมแพรแข็งและผ้าลูกไม้บรัสเซลโบราณที่มีอายุถึง 125 ปี  ท่อนบนฟิตและเน้นรูปร่างอันบอบบางและกระโปรงผ้าศาติน Peau de Soie ที่พองออกไม่ต่างจากเจ้าหญิงในเทพนิยาย
ต่างจาก royal bride คนอื่น  เจ้าหญิงเกรซไม่ได้ใส่เทียร่าเพื่อเข้าพิธีเสกสมรส  แต่เลือกเครื่องประดับศีรษะที่เรียกว่า The Juliet cap ที่ปักด้วยไข่มุกอย่างสวยงามแล้วเย็บติดกับผ้าคลุมหน้า 
ท่อนเสื้อที่ตัดเย็บจากลูกไม้โบราณนั้นได้ปักมุกเล็กๆ ประดับประดานับพันเม็ด
ผ้าคลุมหน้าได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ปิดบังใบหน้าอันงดงามของเจ้าสาว


The Queen's Rebelliou Gown


แม้สมเด็จพระราชินีวิคทอเรียแห่งอังกฤษจะไม่ใช่ราชนิกูลองค์แรกที่สวมใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวครีม  แต่ผู้คนยกย่องให้พระองค์เป็นผู้นำเทรนด์เจ้าสาวในชุดขาว เพราะเมื่อก่อนนั้น ผู้หญิงไม่นิยมเลือกชุดขาวมาใส่ในวันวิวาห์  แต่เมื่อคือพระประสงค์องค์ราชินี  ใครเล่าจะยืนกรานทัดทาน


(ในอดีตนั้น เทคโนโลยีการซักล้างยังห่างไกลจากปัจจุบันและมีค่าใช้จ่ายสูง  สำหรับคนทั่วไป แม้จะเป็นชุดเจ้าสาวก็ยังนำมาสวมใส่ในโอกาสอื่นได้  หากเลือกสีขาวที่เปรอะเปื้อนได้ง่าย เมื่อนำมาใส่ซ้ำก็คงไม่น่าดู  ผู้ที่จะใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวได้ก็มีแต่คนฐานะมั่งคั่งที่สามารถจ่ายค่าซักรีดชุดได้ )
เหตุผลที่สมเด็จพระราชินีผู้มีวัยเพียง 20 พรรษาได้เลือกชุดเจ้าสาวสีขาวไม่ได้มาจากสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง  แต่ทรงเชื่อว่าสีขาวนั้นจะยิ่งขับให้ผ้าลูกไม้ดูงดงามมากขึ้นไปยิ่งกว่า
ทรงขอความร่วมมือให้แขกเหรื่อสวมชุดมีสีสันเพื่อพระองค์จะได้เป็นนางเอกแห่งพระราชพิธีที่แท้จริง 
ทรงสวมมงกุฎดอกไม้ มิใช่เทียร่าเพชรพลอย
ชุดที่ทำจำลองขึ้นมาในซีรีย์ Victoria ที่ทำเรตติ้งได้ดีที่อังกฤษ

Discussion (6)

ยุคใหม่ หนูชอบชุดเจ้าหญิงแอน เจ้าหญิงแมรี่ less is moreสวยจริงๆ 
ชุดของดัสเชสเคทคล้ายกับเจ้าหญิงเกรซจริงๆ ค่ะ คงได้แรงบันดาลใจมา
ชุดเจ้าหญิงไดอานาส่วนตัวไม่ชอบนะ ดีเทลมันเยอะไป จริงๆ เจ้าสาวสวยอยู่แล้วไม่น่าเอาชุดมาบัง (แต่หางยาวๆ อลังการดี)
สวยมากๆ ค่ะ ทุกชุดเลย เพราะต่างก็มีเรื่องราวที่ต่างกันออกไป
อ่านเรื่องราวของเจ้าหญิงไดแอนน่าทุกครั้ง ก็รู้สึกหดหู่ทุกครั้งเลย 

ขนาดอ่านเรื่องที่ไม่น่าจะเศร้าได้ แถมคิสก็ชอบเรื่องแฟชั่นเป็นที่สุด อ่านแล้วรู้สึกบีบหัวใจยังไงไม่รู้ เจ้าหญิงในวังวินเซอร์น่าจะได้รับความสุขในชีวิต ได้ยิ้มแบบนั้นตลอดไป