How Celebrities Deal With Acne Issues - เซเลบเค้าสู้กับปัญหาสิวกันยังไงนะ?
candy 21 3
Miley Cyrus
"อย่าพยายามไปทำนู่นนี่เองเพราะสุดท้ายมันจะทำร้ายผิวหน้าเรา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเค้าดูแลเถอะ"
"อย่าพยายามไปทำนู่นนี่เองเพราะสุดท้ายมันจะทำร้ายผิวหน้าเรา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเค้าดูแลเถอะ"
ไมลีย์เป็นเซเลบที่เปิดเผยในเรื่องการรักษาสิวอย่างเต็มที่ เธอไปไหนมาไหนแบบที่มีครีมรักษาสิวพอกไว้จุดต่างๆ ที่ใบหน้า และก็เคยยอมรับว่าพฤติกรรมของตัวเองนั่นแหละเป็นต้นเหตุให้มีสิว "ชั้นกินพิซซ่าเยอะเกิน แล้วก็ไม่ค่อยดื่มน้ำอีกต่างหาก"
"ตอนที่ชั้นเติบโตเป็นสาวเนี่ยก็มีผิวที่แย่มากๆ เลยล่ะ ชั้นจึงทุ่มเทดูแลผิวพรรณเต็มที่ ไม่ว่าจะเหนื่อยยังไงชั้นต้องล้างเครื่องสำอางก่อนนอน จะดึกแค่ไหนก็จะลากตัวเองไปที่อ่างล้างหน้า เดินอย่างกะซอมบี้แน่ะ"
"ชั้นแต่งหน้าเองเพราะชั้นใส่ใจเรื่องความสะอาด ผิวชั้นมันเคยดูแย่มาก่อน ถ้าให้ใครแต่งหน้าให้ก็อาจทำให้มันยิ่งแย่ลง แต่ก่อนชั้นก็ไม่เคยใส่ใจเรื่องทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าหรอก แต่ก็มาค้นพบว่ามันสำคัญมากจริงๆ ผู้หญิงควรจะใส่ใจดูแลผิวและรักษาผิวให้สะอาดเข้าไว้ เพราะผิวของเรามันจะสงผลโดยตรงต่อความมั่นใจ เพราะไม่ว่าชั้นจะแต่งเสื้อผ้าหน้าผมแบบไหน ชั้นก็ยังระแวงอยู่ดีว่าคนอื่น ๆ กำลังมองผิวที่มีสิวของชั้นอยู่"
"ชั้นแต่งหน้าเองเพราะชั้นใส่ใจเรื่องความสะอาด ผิวชั้นมันเคยดูแย่มาก่อน ถ้าให้ใครแต่งหน้าให้ก็อาจทำให้มันยิ่งแย่ลง แต่ก่อนชั้นก็ไม่เคยใส่ใจเรื่องทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าหรอก แต่ก็มาค้นพบว่ามันสำคัญมากจริงๆ ผู้หญิงควรจะใส่ใจดูแลผิวและรักษาผิวให้สะอาดเข้าไว้ เพราะผิวของเรามันจะสงผลโดยตรงต่อความมั่นใจ เพราะไม่ว่าชั้นจะแต่งเสื้อผ้าหน้าผมแบบไหน ชั้นก็ยังระแวงอยู่ดีว่าคนอื่น ๆ กำลังมองผิวที่มีสิวของชั้นอยู่"
Rihanna
"ในแต่ละเดือนชั้นจะมีวันสิวค่ะ เรียกว่าสัปดาห์สิวคงใช่มากกว่า"
"ในแต่ละเดือนชั้นจะมีวันสิวค่ะ เรียกว่าสัปดาห์สิวคงใช่มากกว่า"
"เมื่อไหร่ที่ชั้นรู้สึกว่าผิวแย่ไม่ไหวแล้ว ชั้นจะงดเหล้าและก็ดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ ทาลิปสติกสีแรง ๆ สักหน่อยจะได้ดึงความสนใจจากตรงนั้น" ริริให้คำแนะนำ
Chloe Moretz
"การมีสิวมันเป็นช่วงเวลาที่บั่นทอนจิตใจมากเลยนะ"
"การมีสิวมันเป็นช่วงเวลาที่บั่นทอนจิตใจมากเลยนะ"
"พอเริ่มโตเป็นสาว ชั้นก็ต้องรับมือกับปัญหาสิว ต้องเปลี่ยนอาหารการกินแล้วก็พวกสกินแคร์แล้วใช้ยา Accutane ด้วยค่ะ"
Cameron Diaz
"ชั้นพยายามทำทุกอย่าง แต่สิวก็กลับมา"
"ชั้นพยายามทำทุกอย่าง แต่สิวก็กลับมา"
"ผิวของชั้นเคยย่ำแย่มากจริงๆ มันน่าอายมากค่ะ ชั้นทำทุกอย่างเท่าที่จะนึกหาหนทางที่จะทำให้มันหายไป ชั้นแต่งหน้ากลบสิว ชั้นใช้ยาหลายอย่าง กระทั่งตัวยาที่แรงที่สุด แต่ไม่มีอะไรช่วยให้ผิวดีขึ้นได้นานมากนัก
"ย้อนคิดดู ที่จริงแล้วชั้นไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษาสิวเหล่านั้น ชั้นไม่ควรโกรธเกรี้ยวและรู้สึกว่าตัวเองไม่ดี สิ่งที่ชั้นต้องทำคือการรับฟังสัญญาณจากร่างกายของตัวเอง สิวพวกนั้นคือสัญญาณว่ามีอะไรไม่ดีในร่างกาย มันกำลังเตือนให้เลิกกิน fast food ได้แล้ว"
"ย้อนคิดดู ที่จริงแล้วชั้นไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษาสิวเหล่านั้น ชั้นไม่ควรโกรธเกรี้ยวและรู้สึกว่าตัวเองไม่ดี สิ่งที่ชั้นต้องทำคือการรับฟังสัญญาณจากร่างกายของตัวเอง สิวพวกนั้นคือสัญญาณว่ามีอะไรไม่ดีในร่างกาย มันกำลังเตือนให้เลิกกิน fast food ได้แล้ว"
"มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปกปิดสิวจากกล้อง ทำให้รู้สึกอึดอัด อับอายและท้อแท้ มันทำให้ชั้นรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง ชั้นเคยกินชีสเบอร์เกอร์แล้วก็เฟรนช์ฟรายส์ทุกวัน แต่พอเลิกกิน ก็มีเรื่องประหลาดเกิดตามมา ผิวของชั้นเริ่มดีขึ้น คือสิวก็ไม่ได้ยุบลงไปหมดนะคะ แต่มันดีขึ้นเห็นชัดมาก ๆ "
Justin Bieber
"บางสิ่งบางอย่างมันจะมาพร้อมกับการเป็นวัยรุ่น ขนาดเท้าจะขยายออกพรวดพราด ผมห้ามมันไม่ได้ ฮอร์โมนก็พลุ่งพล่าน แล้วก็เรื่องเป็นสิว เรื่องนี้ผมก็ห้ามไม่ได้จริง ๆ "
แตกต่างจากคนดังคนอื่นๆ จัสตินดูไม่วิตกกับเรื่องสิว เขาประกาศด้วยซ้ำว่าตอนนี้เทรนด์สิวกำลังมา!
จัสตินใช้แปรงไฟฟ้า Clarisonic เพื่อช่วยในการทำความสะอาดผิวหน้า
แต่เขาก็โชว์ให้แฟน ๆ เห็นว่าหน้าผากก็ยังมีสิว หลังล้างแป๊บเดียวหน้าก็มัน ดังนั้นไม่ต้องเชื่อมากก็ได้ (ตรงดีค่ะ)
Harry Styles
"ผมทาครีมทาสิวก่อนนอนหนักมือ แม่ผมยังไม่ทาเยอะเท่าผมเลยฮะ"
สื่อบางเจ้าปล่อยข่าวว่าแฮร์รี่ใช้ผง "ไนติงเกล" ที่ขึ้นชื่อในหมู่เกอิชาจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อทาให้หน้าใส เจ้าผลิตภัณฑ์ที่ว่าสร้างความฮือฮาเพราะมีส่วนผสมของขี้นก ...ค่ะ ข สระอี ไม้โท จริงรึหลอกนั้น เจ้าตัวไม่ได้คอนเฟิร์มแต่อย่างใด
ที่รู้ๆ คือ พอผ่านช่วงแตกเนื้อหนุ่มมาแล้ว แฮร์รี่ก็ดูหน้าเนียนใสขึ้นเยอะ จะเพราะผงไนติงเกลหรือไม่....อยากจะทราบจากปากเจ้าตัวเช่นกัน
Kendall Jenner
"ชั้นจะรู้สึกขอบคุณมากถ้าพวกคุณจะเรียกสิวของชั้นด้วยชื่อเค้า นายสิววอลเทอร์น่ะ"
"เรื่องนี้ส่งผลกระทบขนาดที่ชั้นรู้สึกหมกมุ่นมากจนเสียเซลฟ์ไปแบบหมดคราบ ชั้นไม่กล้าที่จะมองหน้าคนที่กำลังพูดคุย รู้สึกแปลกแยกไปเลย เวลาจะคุยกับใครก็ต้องเอามือมาปิดตรงสิวไว้ แน่นอนว่าชั้นปิ๊งคนนู้นคนนี้ในสมัยเรียน แต่ชั้นไม่กล้าแม้แต่จะคิดเรื่องการเหล่หนุ่มด้วยซ้ำไป"
"ชั้นอยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่ากระบวนการรักษาสิวมันต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าจะหายไปง่าย ๆ แค่ชั่วข้ามคืน แต่จะค่อยดีขึ้นช้า ๆ ชั้นพยายามทำใจที่จะไม่ไปหมกมุ่นกับมันมากและตอนนี้พออายุมากขึ้น ชั้นก็ใจแข็งขึ้นเยอะเลยค่ะ"