[รีวิวไปบ่นไป] เปิดกรุ!! คสอ.ทุกตัวที่ใช้ตั้งแต่ม.ปลายจนถึงปัจจุบัน

8 1
เกริ่นก่อน
กระทู้นี้เขียนขึ้นเพื่อสนองนี๊ดของเราล้วนๆเลยค่ะ เรียนเครียดๆเลยอยากจะบ่นอะไรซักอย่างแล้วเก็บไว้อ่านเอง 55555 เป็นรีิวิวตามใจฉันอย่างแท้จริง! ไม่มีหลักการ ไม่มีความรู้ใดๆทั้งสิ้น! เป็นแค่ชะนีคนนึงที่แต่งหน้าเพื่อให้เป็นผู้เป็นคนเท่านั้นค่ะ555 ถ้าชอบก็คอมเม้นท์ได้ตามสะดวกเลยค่ะ แต่ถ้าไม่ก็ปล่อยผ่านไปละกันเนอะ

รีวิวทั้งหมดนี้เป็นการรีวิวคสอ.ที่เราเคยใช้เกือบทั้งหมดตั้งแต่ม.ปลาย เหมาะกับน้องๆหนูๆวัยเรียนเลยเพราะคสอ.ส่วนมากที่เราใช้คือแต่งไปเรียนแบบซอฟต์ๆจริงๆ พร้อมทริคคำเตือนการเลือกซื้อคสอ.ต่างๆที่ดิฉันพลาดมาแล้วก็จะบอกให้หนูๆที่เพิ่งหัดแต่งหน้าได้รับทราบไว้จ้ะ

ปล.รูปใหญ่มากไม่รู้จะย่อยังไง ขอโทษไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ

บอกให้ทราบไว้ก่อนว่าพื้นฐานหน้าเราโดยคร่าวๆ คือ
  • ผิวธรรมดา แอบผสมนิดนึงเพราะจมูก คาง มันง่าย (แต่ส่วนอื่นก็ไม่ได้แห้งเบอร์นั้นนะ)
  • คล้ำนิดๆ แต่ไม่ถึงกับน้ำผึ้ง
  • ปากแห้งง่าย

เริ่มจาก lip balm ก่อนเลยค่ะทุกคนน

เนื่องจากเราไม่มีปัญหาปากคล้ำ ดังนั้นลิปบาล์มทุกตัวที่รีวิวเลยเน้นแค่ความชุ่มชื้น ปากไม่ลอกเป็นอันพอใจเด้อค่า (ทุกตัวไม่มีสีนะจ๊ะยกเว้นตัวสุดท้าย เพราะเรากลัวอาจารย์ว่าค่ะ เด็กดีสุดๆ)


1. Oriental Princess Natural Sunscreen UV Protection Lip Care SPF30 PA++

ราคา 225 บาท

ตัวนี้ปลอกเป็นฟีลแบบโลหะ ดูแข็งแรงดี แต่ขอโทษเถอะ ฝาหลวมง่ายมากจ้า ถถถ นี่เคยทำตกละลิปหักเป็นท่อนเลย5555 หน้าตาเนื้อลิปนางคล้ายๆไข่ดาวอะ สวยเก๋ดี ไม่มีสีไม่มีกลิ่น ถามว่าชุ่มชื้นมั้ย ก็ไม่มาก เนื้อนางบางๆอะ ใช้แล้วเฉยๆ ไม่ชอบ ไม่เกลียด ไม่ซื้อต่อ จบค่ะ 55555 (แต่เห็นแบบนี้ก็ใช้หมดไป2-3แท่งละเพราะแม่ซื้อให้ใช้ตั้งแต่เด็กน้อยเลย ประถมปลายเลยมั้ง ไม่รู้ทำไมไม่คิดเปลี่ยนยี่ห้อบ้าง โถถัง)

2. Vaseline Lip Therapy กลิ่น Cocoa Butter

ราคา 159 บาท

ตัวนี้เพื่อนก็แนะนำมาเยอะ เป็นกระปุก แอบเคืองตรงที่ก้นมันลึกแล้วปากแคบ พอมันพร่องจะจิ้มนิ้วลงลึกมันจะเข้าซอกเล็บฉัน! ต้องใช้เล็บปาดๆเอาแทน แง ตัวนี้นางคนละเนื้อกับวาสลีน ปิโตรเลี่ยมเจลกระปุกเหลืองนะจ๊ะ รู้สึกว่าชุ่มชื้นดีมากกก และแน่นอนค่ะ นางหนืดมาก ใครไม่ชอบหนืดๆก็แย่หน่อย (แต่เราชอบมาก อิอิ) กลิ่นนี้ตอนแรกดมแล้วมึนงงมาก กลิ่นไรเนี้ย แต่ใช้ไปใช้มามีแต่คนทักว่ามันหอม เออดีแฮะ ก็ตัวนี้ให้ 10 เต็มไปเรย

3. Laneige Special Care Lip Sleeping Mask #Berry

ราคา ประมาณ 199 บาท (มั้งนะ อันนี้ขนาด 8g ซื้อจาก อีฟแอนด์บอยจ้ะ)

ตัวนี้เป็นที่เลื่องลือในผลลัพท์มากๆ เพื่อนฝูงเรานี่ใช้กันเต็ม ก็อยู่ในกระปุกเช่นกัน แต่ปากนางกว้าง เลยไม่ค่อยมีปัญหาติดเล็บเท่าไหร่ กลิ่นนางหอมม เนื้อก็หนืดๆดีตามที่เราชอบเลย แต่หนืดน้อยกว่าตัววาสลีน ชื่อมันบอก sleeping mask แต่เราก็เอานางมาทาตลอดเวลาอยู่ดี ชอบพอๆกับตัววาสลีนเลยนะ  ความจริงก็คือมีช่วงนึงที่เราปากแพ้ง่าย หมอเลยสั่งหยุดลิปมันทุกชนิดละให้ใช้ของหมอ ตอนนั้นเลยเลิกใช้เจ้าวาสลีนไป ละก็เก็บนางไว้ลึกสุดใจ ต่อมาเริ่มดีขึ้นบวกกับแพ้การตลาด 55555 เลยได้เจ้าลาเนจตัวนี้มาครอบครอง เลยใช้มาต่อเนื่องด้วยประการฉะนี้เอง สรุปคือชอบบ ซื้อต่อแน่นอน เต็ม 10 เช่นกัน

4. Carmex Classic Lip Balm Cherry SPF 15

ราคา ไม่รู้ง่ะ

เจ้าสิ่งนี้เห็นเค้าว่าดังกันพี่สาวเลยซื้อมาให้ตอนนางกลับจากตปท. เจ้านี่มาเป็นหลอด ไม่รู้คนอื่นใช้กันยังไงนะแต่บีบใส่มือละค่อยทาอะ กลิ่นหวานมากกกก ขนมมากก ทาในห้องเรียนทีนี่เพื่อนหันหาของกินกันใหญ่ 5555 พอทาแล้วจะรู้สึกเย็นปากนิดนึงแต่ไม่แสบ ตัวนี้ถ้านางอยู่ในที่เย็นนี่ว่าโอเคเลย แต่อากาศเมืองไทยอะเนอะ... พกไปข้างนอกนี่นางเหลวเป๋วเป็นน้ำมันพืชเลยจ้าาา ทุกครั้งที่ทาเลยแบบ เหมือนเอาน้ำมันมาทาปากง่ะ ฮืออ เลยรู้สึกไม่ค่อยชุ่มชื้นเท่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ยังชอบกว่าตัวลิปไข่ดาวตัวแรกอะนะ (ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่ต้องเลิกใช้ชั่วคราวเพราะปากเราแพ้พวกของเย็นๆซ่าๆ แงงง)

5. U Star - Botanical Lip Treatment

ราคา 95 บาท (แต่นี่หารกับเพื่อนละซื้อ1แถม1มา แบรนด์เค้าออกบู๊ทหน้างานอบรมที่เราไปพอดี)

พนักงานขายเค้าเคลมว่ามันเป็นลิปทรีทเม้นท์ นี่ก็หลวมตัวซื้อมาได้ไงไม่รู้ มันเป็นเนื้อครีมเหลวๆลื่นๆสีขาวอะ กลิ่นเหมือนยาทาแก้แพ้ที่ปากที่อินี่ใช้ แงงงง หลอนเลย ไม่ชอบอย่างแรง ใช้แล้วชุ่มชื้นมั้ยไม่รู้แต่ปากลื่นๆ งงๆ ไม่ชอบ แงงง

6. Mentholatum Lip Ice Sheer Color Strawberry

ราคา 95 บาท

อันนี้เคยเห็นเพื่อนใช้ละเริ่ดเลยซื้อตาม นางเป็นลิปเปลี่ยนสี คือในแท่งสีขาวแต่พอทาแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู น้องๆหนูๆที่ทาไปโรงเรียนระวังอย่ามันมือทาเยอะเกินนะจ๊ะ มันชมพูจริงนะเธอ (ที่พูดนี่แปลว่าอะไร แปลว่าเคยเป็นไง 555555) ความชุ่มชื้นพอใช้นะ มันก็ดีตรงที่ไม่หนักปากมาก แต่ก็รู้สึกว่าชอบเนื้อหนักหนืดๆมากกว่า แต่ถามให้คะแนนเรื่องสีก็ให้เต็ม 10 นะ สีสวยมาก (แต่ก็เป็นอีกตัวที่ต้องเลิกใช้เพราะปากแพ้ของซ่าๆเย็นๆ ไม่มีรูปเพราะยกให้พี่สาวไปแล้ว เสียใจจ)

ต่อด้วย tint เลยแล้วกันจ้ะ ช่วงนั้นเห่อ tint มากกก เทรนด์แต่งหน้าสายเกากำลังฮิต

1. Etude House Fresh Cherry Tint สี PK001

ราคา ไม่ทราบค่า (เพราะเอาของพี่สาวมาใช้)

เป็นธรรมดาของการเห็นทิ้นท์ครั้งแรกค่ะ อหหห สีบับบบ ชมพูวววแบ๊วววมากกก มันจะเหมาะกับเราหรอไรงี้ แต่ตัวนี้นางเป็นทิ้นท์ที่เกลี่ยง่ายมากกก คือนางจะไม่ได้แห้งแลวติดไปเลยแบบชาวบ้านเขา นางจะมีความคล้ายๆลิปกลอสน่ะ แบบเหนอะๆวาวๆนิดนึง แล้วตอนไปไม่ใช่ว่ามันจะไปชมพูแบบนี้บนปากเรานะ ไม่ใช่นะหนูๆ (พูดแบบนี้ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะฉันเคยคิดแบบนี้ไง ถถถ) หัวแปรงก็จะเป็นพู่ๆแบบแปรงทิ้นท์ั่วไปแหละ แต่นางจะมีความกลมๆอ้วนๆบอกไม่ถูก 5555 ส่วนตัวชอบนะเพราะนางใช้ง่าย ปากสวยแบบหวานๆ สุขภาพดี อะให้ 10 เต็ม

2. IN 2 IT Gel Tint for Lip & Cheek สี GT04 Melon

ราคา 99 บาท

ตัวนี้เป็นทิ้นท์ตัวแรกในชีวิตของเราเลยนะไม่ได้เว่อออ ละสีนางแบบแดงงงมากกก แห้งไวและติดทนมาก เกลี่ยไม่ทันนี่เป็นปื้นๆเลยนะ ละตอนนั้นยังแต่งไม่ค่อยเป็นก็ฟาดนางไปเรียนพิเศษเลยจ้า ปากแดงสก๊อยมาก 5555 ยัง ทาปากยังไม่พอ เอาไปทาแก้มด้วยย เป็นจุดๆกันเรยทีเดียว 555 กว่าจะแต่งคล่องๆนี่กินเวลาไปพอสมควร อ้อ หัวนางจะเป็นแบนๆ ไม่เป็นพู่อ้วนแบบอีทูดี้ข้างบน แล้วคือนางทนนะแต่เราว่ามันใช้ยากสำหรับมือใหม่ ก็ถือว่าพอใจอยู่ ให้ 8 ละกัน ภาพที่สวอชนี่คือเราใช้หมดแล้วก็เลยขูดรีดมันออกมาได้เท่านี้แหละ

3.Odbo Freshy Lip Tint สี OD523

ราคา ไม่ทราบจ้า (เพื่อนให้มา)

ตัวนี้จะเป็นสีชมพูแบบแรงๆ55555 มีความรู้สึกว่าทาเปล่าๆแล้วไม่รอดน่ะเธอ เราเลยเอาไปทาผสมกับลิปสติกตัวอื่น (ที่จะพูดถึงในหัวข้อถัดไป) แล้วนางก็มีอาการเหมือนเจ้า in2it เลย คือแห้งไวมากก ติดทนและเกลี่ยยากมากกกก แล้วพู่นางแข็งแบบ กระด้างไม่อมน้ำอะ พอป้ายกับปากเลยรู้สึกว่าคุมไม่ค่อยได้ นั่นแหละ ไม่ทับใจจจ แต่ก็เสียดายเลยเอาไปทาผสมกับตัวอื่นได้บ้างพอกรุบกริบ

4. Etude Dear Darling Water Gel Tint สี OR202

ราคา 200 บาท (แต่นี่ซื้อจาก shoppee มา 99 บาท)

คือหลังจาก in2it หมดเราก็เตรียมหาของใหม่ เจ้าตัวนี้ก็เป็นตัวที่รีวิวเยอะมากและเพื่อนก็แนะนำ เลยจัดสีส้มมาเล้ยย ลองสวอชดูครั้งแรกคือแบบเห้ยยย นางเกลี่ยง่ายและลื่นกว่า in2it มากๆ เรื่องสีขอข้ามไปนะเพราะนางได้อยู่ละ สีชัดจัดเต็มพร้อมปาร์ตี้มาก ตัวนี้เอามาทาแก้มได้โอเคกว่าตัว in2it นะเพราะมันแห้งช้ากว่า (แต่ๆๆๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะฟาดหนักๆที่แก้มได้นะ ทิ้นท์ทั่วไปมันจะแห้งติดและสีจัดอยู่แล้ว ต้องระวังจุดนี้มากๆถ้าน้องหนูทั้งหลายยังไม่ชำนาญ) รุ่นนี้ถ้าแห้งก็คือติดเลยนะ ไม่ได้ฉ่ำแบบตัว etude ตัวแรก หัวแปรงชุ่มๆดี มีความลาดเอียงต่างจาก etude ตัวแรกด้วยเช่นกัน เลิฟมากรุ่นนี้ นี่แหละถูกและดีที่แท้ทรู เอาไป 10 เต็มม

5. Etude Dear Darling Water Gel Tint สี OR201

สีนี้ใครเห็นตอนแรกก็ต้องกรี๊ดด เพรารูปจากเว็บมันส้มชมพูซุกซนกรุบกริบมากกก นี่ก็เกือบจะซื้อละแต่อ่านรีวิวแล้วเขาเตือนกันว่ามันชมพูบาร์บี้มากๆ เลยเปลี่ยนไปซื้อเจ้าสีส้มข้างบนแทนยังไงล่ะ แต่แล้ววว ฉันก็หนีนางไม่พ้น เพราะว่าดันไปรีของแจกในทวิตแล้วได้นังมาาา (บุพเพสันนิวาสที่แท้) เออนะ พอได้มาก็ต้องใช้ สวอชละสียังดูส้มอยู่ แต่ทาบนปากคือไม่ส้มเลยนะ คือชมพูบาร์บี้จริงๆ 555555 แต่ก็ชอบนะ รู้สึกว่ามันไม่หวานเท่า etude ตัวแรกแต่ก็เป็นชมพูที่เด็กๆหวานๆดี ช่างเถอะอธิบายไม่ถูก (ก็บอกแล้วว่ารีวิวตามใจตัวเองงง) เอาเป็นว่าทาแล้วรอด ให้ 10 เช่นกันจ้ะ

6. Peripera Cushion Tint Pang สี 05 MLBB Rose

ราคา ไม่ทราบ แต่เช็คในอีฟแอนด์บอยขาย 420 บาท โฮฮฮฮ T T

เจ้านี่คือเล่นสนุกมาก เราต้องกดปั๊มๆแก๊กๆที่ก้นแล้วเนื้อลิปจะออกมาตรงพู่ฟูๆด้านปลาย ตัวนี้เป็นตัวที่รู้สึกผิดกับนางมากกกก คือรุ่นพี่ซื้อให้เป็นของขวัญวันจบ ละตอนนั้นนี่เอามาใช้ละกดสีน้อยไป สีมันเลยไม่ออก ออกแต่ส่วนที่เป็นบาล์มๆสีเลยออกมาอ่อนมากกกก นี่ก็แบบจะทายังไงเนี่ย ถ้าจะมันขนาดนี้ก็ใช้ลิปมันดีกว่ามะ ก็เลยหมักดองมันไว้เนิ่นนาน จนเมื่อไม่กี่วันนี้เหงาอะไรไม่รู้ เอานางออกมากดๆๆๆเล่นแบบเยอะเลย (ไหนๆก็ไม่ใช้ละ) ปรากฏสีนางออกมาจ้า แม่เจ้าโว้ย นี่เลยเอามาทาๆ หู้ยย สีงามนัก เป็นโทนส้มๆ และตัวนี้คือไม่แห้งแมทแบบทิ้นท์ข้างบนๆนะ นางจะเป็นลุคฉ่ำแบบนี้แหละ ใช้ง่ายมากๆ คือถ้าชั้นรู้แบบนี้ชั้นเอานังทาไปโรงเรียนทุกวันนานแล้ว!! ฮือ จากนี้จะเอาออกมาใช้บ่อยๆนะเจ้าหนูของพรี่ สรุปคือชอบ ให้เต็ม 10

ต่อไปป ก็จะเข้าสู่ประเภท lipstick รวมถึง ลิปจิ้มจุ่ม ทั้งหลายเลยค่า

1. NYX Soft Matte Lip Cream สี 14 Zurich

ราคา ไม่ทราบ (เพื่อนให้มา ตัวนี้เป็นไซส์เล็ก)

เป็นอีกตัวหนึ่งที่เลื่องลือเรื่องสีสวย สำหรับน้องๆหนูทาไปโรงเรียนนี่คือแนะนำมากกกกก *20 ดาว* สีนี้นางเหมือนสีปากแต่ทาแล้วจะดูสดใสขึ้นมากว่าปากปกติ อ.ไม่เรียกแน่นอน เจ้านี่ความจริงชื่อมันบอกว่า matte แต่ตอนทาคือเนื้อมันจะเป็นครีมๆ กลิ่นเหมือนครีมบนขนมเค้กด้วย ทาแล้วรู้สึกว่ามันไม่แห้งแมทซักทีอะ ก็เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยทนเท่าเนื้อ matte ของชาวบ้าน แต่สีสวยมากจริงงง และเราก็เป็นคนไม่ชอบเนื้อแมทอยู่แล้วเพราะปากแห้งง่าย เลยให้อภัย ยอมเติมบ่อยได้จ้ะ ให้ 10 เต็ม

2. NYX Soft Matte Lip Cream สี 17 Ibiza

ราคา 295 บาท (แต่นี่ซื้อตอนมีโปรลด 50% เหลือ148 คุ้มเว่อออร์)

ตัวนี้ได้มาแบบงงสุด ตอนมีโปรนี่จะซื้อสีแดงแรงฤทธิ์ แต่ดันหยิบไปจ่ายเงินผิดรุ่นจ้า พอเอามาเปลี่ยนอิรุ่นลดก็เหลือสีเดียวเลยต้องจำใจเอามา แต่ปรากฏว่าพอลองใช้คือบับบบ แกกก สี! สวย! มากก! เป็นชมพูอมแดง สีเปรี้ยวซุกซนมาก แล้วรู้สึกว่าขับผิวอยู่นะ เราผิวออกคล้ำแต่ไม่ได้รู้สึกว่าทาไปแล้วหน้าหมองเลย เกิดคาดมากๆ เอาไป 10 10 10!!

3. Cute Press Cream Satin Lipstick สี S4

ราคา 199 บาท (เพื่อนให้มา)

ตัวนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นลิปสติกแท่งแรกของเราเลย ตอนเพื่อนเอามาให้เลือกสีนี่กรี๊ดสีนี้มาก เพราะสีนางเป็นแบบ coral อะ ส้มๆชมพูๆ โดนใจเจ้นัก แต่ๆๆๆ ตัวนี้ถือเป็นตัวที่เปิดโลกการเลือกสีลิปให้เราเลยก็ว่าได้ เพราะถึงสีนางจะสวย แต่พอทาบนหน้าคล้ำๆของฉันแล้วดับจ้า หน้าหมองไปเลย คือเตือนน้องๆหนูๆที่หน้าไม่ได้ขาวมากว่าอย่าเลือกลิปโทนสว่างแบบนี้เลยถ้าเธอไม่มั่นจริงๆ มันทารอดยากง่ะ ส่วนเนื้อก็คือจะเป็นแบบแมทนะ ซึ่งเราไม่ทับใจเท่าไหร่เพราะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเนียน ทาแล้วปากแห้ง เป็นขุย ลงลิปมันก่อนก็ไม่ค่อยจะรอด ติดทนมั้ย ไม่ทราบ เพราะไม่ค่อยได้ใช้

4. Liphop Perfect Love Double / Two Tone Color Lipbar สี 02

ราคา จำไม่ได้

ช่วงนั้นหมอคังจาก Descendants of the Sun กำลังดัง ลิปทูโทนของลาเนจคือฮิตมากกก แต่ลาเนจแพง 555 เพื่อนก็ชวนหารลิปอันนี้ และมันก็เป็นอีกตัวที่ชั้นเลือกสีได้พลาดมากกกก ฮือ ตัวนี้นี่ยิ่งกว่า cute press ข้างบนอีก คือนอกจากจะทาให้เป็นทูโทนยากแล้ว สีนางก็เอิ่มมากด้วย ด้านชมพูเราทาแล้วพังมากก ลิเกมากแง ด้านส้มเหมือนจะรอดแต่ไม่ มันสว่างเกินไป (ปัญหาคล้ายเจ้า cute press) เนื้อลิปก็ไม่ค่อยถูกใจเรา เหลวๆยังไงไม่รู้ สรุปเสียเงินฟรีๆเลยตัวนี้

5 - 6. HudaBeauty Lip Cotour (ปลอม)

ตัวนี้เราไม่เคยรู้จักมาก่อน และเคยลองใช้ก็รู้สึกว่ามันเหมือนสีเทียนอะทั้งกลิ่นและเนื้อ คือสีเหนียวมาก แห้งมาก ปาดยาก เกลี่ยยาก ก็เลยไม่ได้ใช้เลย จนวันนี้จะรีวิวเลยลองเสิร์ชราคาถึงได้รู้ว่าเจ้านี่มันของปล๊อมมมม!! ปลอมแบบไม่ใกล้เคียงด้วยนะ ถถถ ตอนนั้นเพื่อนเราก็เด็กน้อย ซื้อมาให้ก็คงไม่รู้เหมือนกันแหละ สสรุปไม่มีรีวิวจะให้เพราะมันปลอมและก็ปลอมได้แย่มาก จบค่ะ

7. Cute Press The Little Mermaid Marine Magic Collagen Lipstick สี 03 Elegant Attina

ราคา 259 บาท (เราซื้อตอนมีโปรลด50% เหลือ 129.5 บาท)

กลับมาสู่ยุครุ่งเรืองของลิปเรากันเถอะ! ตัวนี้ออกมาอย่างปัง ทั้งแพคเกจและคุณภาพ รูปลักษณ์สวยน่ารัก (แต่แอบไม่ชอบตรงที่ปลอกมันเป็นกระดาษอะ รู้สึกว่ามันเลอะง่าย แต่มันก็ดูรักโลกและเบาดี ก็ดีไปอีกแบบ) เนื้อลิปจะเป็นเนื้อครีม ฉ่ำๆหน่อย ไม่แมท ซึ่งเป็นเนื้อที่เราชอบมาก!! เม็ดสีก็แน่นถูกใจเจ้มาก ตอนสวอชดูเหมือนสีเข้มนะ แต่เราเชื่อในรีวิวเลยจัดสีนี้มา สรุปพอทาบนปากจริงๆแล้วปังมากกกกกกก *20 ดาว* คือเราเห็นเป็นแดงๆส้มๆตุ่นๆใช่มั้ยแต่ทาบนปากจริงรู้สึกมันสดขึ้น เชื่อมั้ยทาไปเรียนวันแรกเพื่อนทักเยอะมาก คือเป็นสีที่เราว่าทารอดทุกคนนะ นางขับผิวดีมาก แต่ก็นั่นแหละ ด้วยความที่ลิปมันไม่แมทมันเลยไม่ได้ทนมาก แต่ก็รอมันแห้งจนเซ็ทตัวหน่อยนี่ว่ามันทนระดับนึงเลยแหละ (แต่เราเป็นพวกชอบทาลิปมันและเม้มปากบ่อย มันเลยไปไวกว่าปกติ ช่างเถะ เติมเอาแล้วกัน)

8. Tarte Rainforest of the Sea Hydrating Creamy Lipstick สี Salt Lyfe

ราคา 920 บาท ใน Sephora แต่เราได้มาฟรีจ้ะ

ตัวนี้โดดเด้งออกมาจากตัวอื่นเลยเพราะแพง 5555 เราไปรีของแจกในทวิตเลยได้มาจากบิวตี้บล็อกเกอร์ท่านนึง กราบขอบพระคุณมากๆค่ะ แต่สำหรับยี่ห้อนี้คือของนางดีจริง คือหรูตั้งแต่แพ็คเกจยันเนื้อผลิตภัณฑ์ ปลอกลิปคือจะเป็นลายหินอ่อนด้วยเลอค่ามาก ส่วนเนื้อลิปก็คือนุ่มมากกกก แต่ไม่เหลวเละ เนื้อออกแมทนะแต่ทาแล้วชุ่มชื้น คือปลื้มเนื้อลิปมากจริงๆ แต่นางก็อยู่กับเราไม่ได้เนื่องจากสีไม่ค่อยถูกใจ ตัวนี้จะเป็นสีกะปิๆอะ ซึ่งหลายคนอาจจะชอบนะแต่เราแต่งหน้าโทนนี้ไม่เป็น ก็เลยยกให้หม่ามี้ไป (นางปลาบปลื้มมากเลยทีเดียว) เรื่องติดทนไม่แน่ใจอะ แต่สรุปคะแนนให้ไป 20 เลยละกัน ไว้ทำงานมีเงินเมื่อไหร่จะกลับมาตำแบรนด์นี้แน่นอนค่ะ

9. In2it Color shine lipstick สี SH02 fawn

ราคา จำไม่ได้ แต่เหมือนจะไม่มีขายแล้วเลยอะ หาในวัตสันไม่เจอแล้ว

เป็นลิปอีกตัวที่ชอบมาก คือจะเป็นเนื้อ sheer ใสๆฉ่ำๆ ชุ่มชื้นดี สีส้มๆนู้ดๆแบบสุภาพดี คือทาไปเรียนได้ แพ็กเกจสวย แข็งแรง ปลื้มมากๆตัวนี้ แอบเสียใจว่ามันไม่มีขายแล้วหรอ แงงงง แต่ใจนึงก็คิดว่ามันสีมืดไปหน่อย เราเลยเอาทิ้นท์ทาข้างในแล้วทาตัวนี้ทับ คือเริ่ดมากกกกกก เป็นลิปคู่กายใจมาเนิ่นนานจริงๆตัวนี้ แต่ด้วยความที่เนื้อมันใสๆก็เลยไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่ ต้องทาเติมนะ สรุปคะแนน เอาไป 10 คะแนน

10. Revlon Super Lustrous Lipstick สี 616 Wink For Pink

ราคาประมาณ 170-190 บาท

11. Revlon Colorburst Lip Butter สี 015 Tutti Frutti

ราคา 259 บาท (ตามที่ลองหาดูจากรีวิวอื่น)

12. Maybelline Water Shine Pure Lip Color สี C11

ราคา 199 บาท

สามตัวนี้เอามารีวิวเผื่อๆเพราะเราไม่ค่อยได้ใช้ (ยืมของพี่มาเพราะตอนนั้นจะแต่งหน้าไปกีฬาสีโรงเรียน) ทั้ง 3 ตัวจะเป็นเนื้อ sheer ใสๆเบาๆหมดเลย อย่างตัวสีส้มนี่เห็นส้มขนาดนี้แต่ทาจริงแล้วไม่ได้ส้มแรงขนาดนั้นนะเพราะเนื้อมันใส ตัว 10 กับ 12 จะมีประกายนิดๆด้วยแต่ทาไปก็ไม่ค่อยเห็นหรอกเอาจริง 5555 ถือเป็นไอเท็มกันตายได้ ทาไปโรงเรียนได้อยู่

13. Wet n Wild Mega Last Lip Color สี 974 Call Me Big Papaya

แถมให้ 1 ตัวซึ่งตอนนี้นางไม่อยู่กับเราแล้ว ตัวนี้ได้มาจาก jeban ไปแจกของที่โรงเรียนเรานี่แหละ 555555 สำหรับเราแพ็คเกจมันก๊องแก๊งอะ ฝาใสๆนี่คือถ้าปิดไม่ดีนี่เลอะเทอะทันที เนื้อลิปแมทๆ แห้งๆ ดูแล้วน่าจะติดทนแบบที่หลายรีวิวกล่าวไว้ แต่ๆๆ สำหรับเราคือไม่ชอบง่ะ มันแห้งเกิ๊น ทาแล้วปากแห้งผาก (ลงลิปมันก่อนก็ไม่รอดเพราะนั่นแหละค่ะ เราเป็นคนปากแห้ง) ถ้าถามเรื่องสี คนอื่นอาจจะชอบแต่สำหรับเรา ไม่รอดค่ะ ลิปสีอ่อนๆนี่ไม่เข้ากับผิวคล้ำแบบเราจริงๆ ทาแล้วเหมือนคนจะเป็นลมมากกว่าขับให้หน้าดูสุขภาพดีอะ ไม่ปลื้มเลยยกให้เพื่อนไปละ จบข่าว

ครึ่งทางแล้ววว ครึ่งแล้วมั้ง ครึ่งเถอะ เพราะเราเหนื่อยละ 555555 ไปต่อกันที่ แป้งและรองพื้น ต่างๆกันเถอะ

1. Maybelline Pure Concealer Mineral Healthy Natural Concealer สี 02

ราคา น่าจะ 179 บาท

คอนซิลเลอร์ตัวแรกของเราเลย เป็นแบบลิควิด ความจริงเคยซื้อตัวแรกจริงๆคือเบอร์ 01 แต่มันขาวเกินหน้าเราไปเยอะอะ ทาแล้วใต้ตาเทามากจ้า ไม่รอด เลยซื้อมาอีกตัวเป็นสีนี้ คือเป็นสีที่เท่าหน้าเราเลย ปกปิดรอยคล้ำได้ดีระดับนึงแหละ (อย่าคาดหว่าว่าคอนซิลเลอร์จะปิดให้เธอได้ 100% ถ้าตาเธอแพนด้ามาก) ส่วนตัวคิดว่าเนื้อมันหนาอยู่ ถ้าทาหลายชั้นอาจจะดูเตอะๆได้ มีตกร่องบ้างแต่พอเราแทปเก่งขึ้นก็รู้สึกว่าตกร่องน้อยลงนะ สำหรับคนร่องใต้ตาเยอะๆ (แบบเรา T T) แนะนำว่าปัดๆแป้งฝุ่นทับนิดเดียวพอเพื่อไม่ให้มัน ถ้าโบกแป้งเข้าไปเยอะมันจะยิ่งตกร่องน่ะ ส่วนเรื่องติดทนไม่แน่ใจ ส่วนตัวก็คิดว่าโอเคอยู่นะ แต่ถ้าถามว่าซื้อต่อมั้ยก็อาจจะไม่เพราะยังรู้สึกอยากลองตัวที่ใช่มากกว่านี้ ให้ 8 ก่อนละกัน

2. Tarte Rainforest Of The Sea Water Foundation SPF 15 สี CE01 medium - tan sand

ราคา ประมาณ 1500++ บาท

เป็นอีกตัวที่ได้จากบิวตี้บล็อกเกอร์ท่านหนึ่ง แค่แพ็คเกจก็เริ่ดละ แต่นางเป็นหัวปั๊มแบบเซรั่ม จะดึงเข้าดึงออกต้องระวังเลอะหน่อยนะ สำหรับเรามันเป็นรองพื้นที่เบาหน้ามากกกก (ซึ่งหน้าเราไม่ได้มีปัญหาผิวเยอะ มีแค่รอยสิวเล็กๆน้อยๆ ใช้ตัวนี้คืออยู่แล้ว) คือมันไม่ได้ปกปิดแบบหนาเตอะ คือเป็นงานเผยผิวอะ ปลื้มมากกกก เนื้อเหลว เบาเกลี่ยง่ายมากๆ เพื่อนเอาไปลองใช้นางก็ชอบ แล้วคือมีสีให้เลือกเยอะมากๆ (แต่สีที่เราใช้นี่คือพอดีหน้าเรามากกก มากเกิน 555 งานเลยดูเกรียมๆแดดเหลืองๆไปหน่อยแต่ยังสวยอยู่ ธรรมดาดี ปลื้ม) คิดว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าต่อการลงทุน ให้ 20 ไปเลยยยย

3. Cezanne Shading Stick

ราคา 300 บาท (แต่เราซื้อตอนโปร1แถม1คู่กับบลัชออนที่อีฟแอนด์บอย)

ตัวนี้คือได้มาแบบงงๆแต่ตอนนั้นมันมีโปรไงก็เลยลองซื้อมาใช้ คือแพ็คเกจโอเคเลย เป็น stick แบบที่ต้องหมุนๆขึ้นมา เปิดปิดง่าย เก็บง่าย เนื้อเป็นครีมๆ ออกมันๆหน่อย เกลี่ยง่าย แต่ๆๆๆ มันใช้เฉดหน้าเราไม่ได้เลยเพราะสีจะเท่าหน้าเราอยู่แล้ววว เหมือนมันจะมีสีเดียวด้วยนะ /ล้องห้าย คือคนหน้าขาวๆออกอมชมพูหน่อยนี่น่าจะเวิร์คนะเพราะโทนมันเหมือนมีชมพูๆปนมา แต่หน้าคล้ำแบบอินี่...บายเลยจ้า

4. Nami Magic White One-Step Wow CC Cream

ราคา 39 บาท (แต่เราได้แจกฟรีขนาดทดลองมา อิอิ)

เป็นของดีจากเซเว่นเลยทีเดียวตัวนี้ สีเข้ากับผิวคนไทยมากกก ไม่วอกเลย เราปลื้มมากตรงนี้ แต่รู้สึกว่าเนื้อมันจะข้นๆหน่อย ต้องค่อยๆแทปๆดีๆไม่งั้นอาจจะไปกองๆกันแล้วเตอะได้เพราะมันค่อนข้างแห้งไว ปกปิดร่องรอยความโทรมของหน้าได้ดีเลยแหละ (เหมาะกับคอนเซปต์แต่งหน้าให้เป็นคน555) แต่ถ้าอยากได้ปกปิดเยอะๆก็อาจจะไม่เหมาะ ไปใช้พวกบีบีดีกว่าถ้างั้น ตัวนี้เราใช้แล้วโอเคมากนะ แต่เพื่อนรีวิวมาว่ามันหมองระหว่างวัน อันนี้ไม่แน่ใจแต่เราใช้แล้วไม่มีปัญหาง่ะ สรุปให้ 8 คะแนน หักตรงที่มันแห้งไวเกลี่ยยากไปหน่อย

5. Kiss Mat Chiffon UV Base n Whitening SPF 26 PA++

ราคา ไม่ทราบ

เป็นเบสสีเนื้อ ไม่แน่ใจสีตัวนี้แต่น่าจะ 01 ขาวสุดเลยมั้ง เป็นหัวปั๊ม พี่สาวทิ้งไว้ให้ใช้ คือนางช่วยปรับสีผิวให้ขาวได้จริงเลย ตอนแรกทาใช้ละแอบหน้าลอย แต่ใช้ไประยะนึงก็ชิน (ต้องใช้ต่อเพราะเสียดายของ 555) เนื้อเป็นครีมๆดูบางเบา เกลี่ยง่าย แต่หน้าที่นางคือปรับสีผิวอย่างเดียว ไม่ปกปิดใดๆทั้งสิ้น ถ้าถามว่าซื้อต่อมั้ยก็คงไม่เพราะไม่ได้ว้อนหน้าขาวใสขนาดนั้น แต่สำหรับคนที่อยากขาวนี่แนะนำเลยนะ เราว่ามันโอเคกว่าการใช้เบสเขียวมากๆๆๆ (กำลังจะเอ่ยถึงในข้อถัดไป)

6. The Face Shop Air Cotton Make Up Base SPF30 PA++ สี 01 mint

ราคา 269 บาท

เป็นอีกตัวที่เราจำเจ็บฝังใจมาก 5555555 ซื้อมาตอนม.5 ไง ดูรีวิวอย่างดีว่าเบสเขียว the face shop นี่เลื่องลือมาก ไปดูที่เคาท์เตอร์คือมี 2 สี เขียวกับม่วง BAก็บอกหนูอะขาว ใช้สีเขียวได้ นี่ก็เชื่อ สรุปพอใช้จริงคือวอกมาก ลอยมากจ้า 555555 คือต้องรู้ก่อนว่าเบสเขียวมันมีไว้กลบสีแดง สำหรับคนที่มีสิวแล้วหน้าแดงๆอะใช้แล้วน่าจะเวิร์ค แต่นี่ไม่ไง ละผิวก็ออกคล้ำอยู่ละมาใช้นี่ดับสนิท คือใช้ได้นะ แต่ต้องใช้น้อยมากๆ ไม่ก็แต้มเป็นส่วนๆ แต่ถ้าจะใช้ทั้งหน้านี่ไม่ได้นาจา แต่ถ้าดูจริงๆคือเนื้อนางดีนะ เหลวๆบางๆ เกลี่ยง่าย หอมด้วย แต่เสียใจที่มันไม่ได้เกิดมาเพื่อเรา T T

7. Shiseido Baby Powder Pressed Medicate

ราคา 100 บาทปลายๆ (ซื้อจากเว็บ konvy 1แถม1)

คือนางเป็นแป้งเด็กสีขาวอัดแข็งเลย ไม่ปกปิดไม่ใดๆทั้งสิ้น คือคุมมันอย่างเดียว รู้สึกว่าเนื้อแป้งไม่ได้ละเอียดมากนะ แต่ก็ทาได้แหละ ส่วนบัฟคือดีมาก ฟูนุ่มฟินหนังหน้ามากกกก แต่ด้วยความที่นางเป็นแป้งเด็กเปล่าๆ เนื้อไม่ได้ละเอียดมากเลยรู้สึกว่าบางทีมันเป็นคราบ ไม่รู้ว่าเพรากันแดดเราหรือเพราะแป้ง แต่คือรวมกันแล้วมันเป็นน ส่วนเรื่องคุมมันก็พอใช้ คือเราไม่เคยเติมเยอะเพราะกลัวมันวอกด้วยแหละ เลยเน้นเป็นเติมระหว่างวัน แล้วคือนางใช้คุ้มมากกกกกก อย่าได้หลงเชื่อโปร1แถม1ของ konvy เลยเพราะมันใช้ไม่ทั๊นนน คือนี่ใช้ทุกวันตั้งแต่ม.5 ถึง ตอนนี้ปี1แล้วยังไม่หมดอะคิดดู จะเปลี่ยนไปใช้แป้งอื่นก็เสียดายเพราะนังยังไม่หมด ถถถ สรุปก็คือชอบแหละแต่คงซื้อเพิ่มแล้วจ้า อยากให้หน้าได้สัมผัสแป้งอย่างอื่นบ้าง 555

8. Revlon Touch & Glow Extra Moisturizing Face Powder#1 Translucent

ราคา ประมาณ 300 ปลายๆ - 400 บาทมั้งนะ

เป็นแป้งฝุ่นเนื้อละเอียดใช้ได้เลย ตัวนี้เค้าเคลมว่าไม่มีสี แต่ทาแล้วหน้าดูเนียนๆไปเลยนะ เราใช้ตอนแต่งหน้าไปงานไรพวกนี้ ส่วนตัวคิดว่าคุมมันดีเลย ส่วนตัวใช้แล้วไม่เยิ้มอะ แต่แอบรู้สึกว่าแพ็กเกจมันทำให้ฟุ้งกระจ่ายง่ายเหลือเกิน รูกรองแป้งมันใหญ่ง่ะ 55555 รีวิวไว้แค่นี้แล้วกันเพราะไม่ได้ใช้บ่อย แค่ยืมพี่สาวมาค่ะ

ใกล้หมดแล้วจ้า ต่อไปจะเป็น eye liner คัดมาแต่ตัวท็อปๆเลย อย่าได้รีรอ อ่านต่อกันเลย

1. Lifeford Hi Precise Eye Pen

ราคา 200 บาทปลายๆ

พูดถึงอายไลเนอร์ใครจะไม่รู้จัก lifeford กันเชียว ตัวนี้เป็นหัวเหมือนปากกาเมจิกเขียนง่ายมาก เหมาะสำหรับมือใหม่ เส้นขนาดพอดีนะไม่เล็กไม่ใหญ่เกิน แห้งไว ใช้ง่ายไม่เลอะเทอะ ติดทนอยู่นะ (ทนต่อการล้างออกแต่ไม่ทนต่อการถู5555) แต่มันทาซ้ำไม่ค่อยได้อะเพราะจะไปลบของเดิม ต้องใช้ตัว mistine ข้างล่างช่วย ตัวนี้ถือว่าสีดำประมาณนึง สรุปชอบนะ ให้ 10 คะแนน

2. In2it Waterproof Gel Liner สี Very Black (แถมสี silver ในกล่อง)

ราคา จำไม่ได้

เจ้านี่เป็นแบบดินสอ ใช้ไปพอทื่อๆแล้วต้องเหลาด้วยกบเหลานะ จำได้ว่าตอนใช้ครั้งแรกคือดีงามมาก เนื้อนุ่มกำลังดีเขียนง่าย และดำมากกกสมชื่อจริงๆ แต่หลังจากเราเหลาไปมันก็ไม่ค่อยจะดียังไงไม่รู้ เหมือนพอทิ้งไว้นานๆเนื้อมันเหนียวขึ้น ฟีลลิ่งเหมือนเอาดินสอ EE มาเขียนตา 55555 ละที่เหลาก็ไม่แหลมเหมือนเดิมซักที ยิ่งเหลาไส้ยิ่งหลวม หักในบ้างไรบ้างอีก แท่งก็เลยเหลือสั้นอย่างที่เห็น T T ตัวนี้เราว่าทนมากนะ ล้างทีแบบเหนื่อยเลย ส่วน 3. สี silver นั้น ยังสภาพดีเหมือนเดิม เนื้อนุ่มเขียนง่าย แต่ๆๆ เราว่ามันไม่เหมาะกับเอามาเขียนขอบตาล่างหรือหัวตาเท่าไหร่ สีมันโดดๆไปอะ ดูแฟนซีมาก ถ้าอยากได้หัวตากับขอบตาล่างสว่างๆเกาหลีๆนี่ใช้สีโทนเนื้อๆมากกว่านี้ดีกว่านะ สรุปคือก็ดีแหละแต่แค่ชอบตัวอื่นมากกว่า

4. Mistine So Black liquid eyeliner

ราคา ไม่ทราบ (เพื่อนให้มา)

ตัวนี้เป็นหัวพู่กัน คิดภาพเหมือนเขียนหมึกจีนอะไรแบบนั้นแหละ คือมันต้องจุ่มแล้วเอามาเขียน เจ้าตัวนี้สีดำมากกก เราว่ามันดำกว่าเพื่อนเลย แต่ว่าแห้งช้าหน่อย เขียนเสร็จถ้าเผลอเหลือตานี่จบเลยจ้า ปลายพู่กันก็แหลมดีเขียนง่ายอยู่ สำหรับเราคือชอบนะ ปกติเราจะใช้ lifeford บ่อยสุด แต่ถ้าอยากได้เฉี่ยวขึ้นก็จะทาตัวนี้ทับไปอย่างที่บอก ให้ 10 ละกันตัวนี้

5. กบเหลา ของ In2it

ราคา จำไม่ได้

ก็ใช้ดีประมาณนึงอะ แต่รู้สึกว่ามันเหลาแล้วไม่มีที่สิ้นสุดซักที ไม่รู้ยี่ห้ออื่นเป็นมั้ยอะ 555555 แต่ไม่ได้แพงมากก็เลยไม่อะไร

จะหมดแรงแล้วเด้ออ แต่ของยังไม่หมดเลย! ต่อกันด้วย เขียนคิ้ว และ eye shadow เลยค่ะซิส

1. Etude House Drawing Eye Brow เบอร์ 02 Gray Brown

ราคา 130 บาท

ตัวนี้น่าจะเหมาะกับสาวไทยทั่วไป เราเป็นคิ้วเข้มและเยอะอยู่แล้วตัวนี้คือใช้เขียนแค่เติมหางคิ้วกับถมบางส่วน วิธีใช้ก็คือหมุนๆเนื้อดินสอออกมา หัวเป็นหัวตัด เขียนง่ายอยู่นะ เนื้อไม่แข็งเกินไป เขียนเสร็จก็ใช้แปรงมาเค้าให้มาแหละปัดๆ ใช้ง่าย แนะนำให้ทุกวัยเลยตัวนี้ เต็ม 10

2. NYX Infinite Shadow Stick สี ISS09 Bronze

ราคา ไม่ทราบ

เอาของพี่มาใช้แบบงงๆแต่กลายเป็นชอบบบบมากกกก!! คือใช้ง่ายมากแค่เอานังมาปาดบนตา เนื้อนางหนืดมาก ต้องป้ายแรงหน่อย และเกลี่ยไม่ได้เลย 5555 ตอนใช้คือปาดติดขอบตาแค่นั้นพอ สีจะเป็นทองแดงๆ มีชิมเมอร์ด้วย สวย! เอาตรงๆคิดว่านางไปทาผสมกับตัวอื่นยากนะเพราะเบลนไม่ได้เลย หนืดมาก 555 แต่ใช้เดี่ยวๆคืองามมม ติดทนด้วย ปลื้มมากตัวนี้ให้ 20 คะแนน!!

3. maybelline hypercosmos trio สี 01 copper marks

ราคา ไม่ทราบ (เอาของพี่มาใช้อีกตามเคย)

เป็นตลับขนาดเล็กกระทัดรักพกพาง่ายดีแต่ไม่มีที่ไว้แปรงให้อะ เซ็ทนี้เป็นสีสุภาพหมดเลย เม็ดสีแน่นประมาณนึง ในส่วนของสีที่อ่อนสุดนั้น ก็อ่อนจริงๆ เลยเอาไปทาใต้ตาดีกว่า สีทองแดงกับน้ำตาลที่ให้มาก็สวยอยู่ ทุกสีมีชิมเมอร์เบาๆมินิมอล ความจริงใช้ได้ทุกวันนะอันนี้ (แต่ใช่ค่ะ เราไม่ได้ใช้เพราะขี้เกียจนั่นเอง)

4. essence quattro eyeshadow สี 05 to die for

ราคา 150 บาท

เป็นตลับเล็กกะทัดรัดอีกแล้วอันนี้ นางมี 4 สี โทนใช้ง่าย เนื้อคล้ายของ Maybelline ข้างบนมากแต่แอบนุ่มกว่านะ สีขาวนี่วิ๊งวับได้ใจมาก เอามาทาหัวตา ขอบตาล่าง ท้องคิ้วได้ คือดีงาม ถัดมาสีเนื้อ นางมีชิมเมอร์นะแต่มันอ่อนแอมาก เลยไม่รู้จะเอาไปทาตรงไหน สีถัดมานิยามไม่ถูกว่าจะให้สีอะไร เอาเป็นว่านางวิ้งมากกว่าเพื่อนเลย สีสุดท้ายสีน้ำตาลเป็นตัวเดียวที่เนื้อแมท เข้มกว่าเพื่อนเลย แต่รู้สึกว่ายังไม่เข้มพอจะคัดเบ้าหนักๆ เลยไม่ค่อยได้ใช้เลย

แม่เจ้าโว้ยย เราเดินทางมาถึงพาร์ทสุดท้ายแล้วว นั่นคือ Blush on นั่นเอง!

1. Cezanne Cheek Stick สี 02

ราคา 300 บาท (แต่เราซื้อมาตอน1แถม1จากอีฟแอนด์บอย)

ตัวนี้เป็นตัวโปรดของเราเลยย เป็นสี coral ส้มๆชมพูๆ เห็นเพื่อนใช้แล้วปังมากจนต้องซื้อตาม 5555 เป็นเนื้อครีมนุ่ม ปาดง่ายเกลี่ยง่าย มือใหม่ใช้ได้เลย มีความวาว ออกฉ่ำๆมันๆหน่อย เราใช้ทุกวันเลยตัวนี้ แต่คิดว่าไม่ได้ทนขนาดนั้น เราอาศัยเติมระหว่างวันเอา สรุปคือชอบ เอาไป 10 คะแนน

2. Baby Bright 2 in 1 Eye & Cheek Cream สี hallasan camellia

ราคา 119 บาท (เพื่อนให้มา)

เป็นอีกหนึ่งของดีที่มีขายในเซเว่น เห็นสีตอนแรกตกใจนะ ชมพูม๊ากกก แต่ใช้จริงแล้วแบบเหยสวยยย ตัวนี้เป็นครีมบลัช นางค่อนข้างแห้งนะ มือใหม่ใช้ยากนิดนึง (ตอนเราใช้แรกๆนี่ลำบากมาก55555) ค่อยๆแตะ ค่อยๆปาดๆเกลี่ยๆนะเธอ ทาแล้วสีไม่ได้แรงมากนะ สุขภาพดีเลย ไม่มีชิมเมอร์นะแต่ติดทน ให้ไป 9 คะแนน (หักตรงเกลี่ยยากนี่แหละ)

3. 4u2 shimmer blush สี 04 Dare

ราคา ไม่ทราบจ้า

เอาของพี่มาใช้อีกแล้วตัวนี้ 555555 ตัวนี้เป็นเนื้อฝุ่น มีชิมเมอร์วิ๊งวับเลยยย สีชมพูงามนัก แต่ต้องไปหาแปรงมาเองนะเค้าไม่มีมาให้ เราใช้แต่งตอนบายเนียร์ สวยมากกก เอาไป 10 คะแนนเลย


โอยยยยย จบแล้ววว ไม่คิดเลยว่าการรีวิวของมันจะเหนื่อยขนาดนี้ นั่งเขียนเกือบ 2 วันเต็มเลยนะอันนี้ คือบ่นคนเดียวตามประสานั่นแหละ555555 ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านรีวิวบ้านๆของเราจนมาถึงตอนนี้นะคะ 555555 นี่คงเป็นรีวิวแรกและรีวิวสุดท้ายของเราเพราะคงจะไม่มาเขียนเป็นหน้าๆแบบนี้อีกแล้ว เหนื่อยจัดดด 
เดี๋ยวเราจะไปบ่นต่อในทวิตแล้วกันค่ะ จะสิงอยู่ในแท็ก #รีวิวตะเร้กตะน้อย อิอิ




ใกล้สงกรานต์แล้ว ขอให้เที่ยวกันให้สนุก เดินทางปลอดภัยนะคะ
สำหรับวันนี้ลาก่อน สวัสดีค่าา <3


CttTmo

CttTmo

FULL PROFILE