รีวิวเปรียบเทียบสีและความทนของเมคอัพจากแบรนด์ Nami งบน้อยก็หน้าไม่ไหลได้ในสงกรานต์นี้

15 3
สวัสดีค่ะทุกคน สำหรับการกลับมาอัพกระทู้รีวิวของไม้วันนี้ ก็อยู่ในหมวดของ ‘ถูกและดี’ อีกเช่นเคยค่ะ หนึ่งในคำถามที่มีหลายคนถามไม้กันเข้ามาเยอะมากๆๆๆก็คือเรื่องของ ‘เมคอัพ-งานผิวที่ไม้ใช้บ่อย’

คือส่วนตัวไม้จะเป็นคนผิวมันแต่ในบางครั้งก็ผิวผสม (คือมีอาการขาดน้ำ-ผิวแห้งขุย) ไม้จะเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ใช้รองพื้นเลย เพราะชอบในความสะดวกรวดเร็วของพวกคุชชั่น หรือ BB CC ต่างๆมากกว่า รวมถึงเพราะ Finish Look ที่ได้มันเบาสบายผิวด้วยนั่นเองค่ะ

เกริ่นกันมาซะขนาดนี้แล้วก็มาเฉลยกันเลยแล้วกันว่า สำหรับรีวิวผลิตภัณฑ์ดีๆในวันนี้เป็นพวกเมคอัพแบบซองกับคุชชั่นที่มีวางขายใน 7-11 นั่นเองค่ะ

หลายๆคนคงจะคุ้นเคย เห็นรีวิวกันมาเยอะ รวมถึงอาจจะได้ลองใช้กันมาบ้างแล้วกับผลิตภัณฑ์ 3 ตัวนี้จากแบรนด์ Nami

วันนี้ไม้รวบรวมมารีวิวเปรียบเทียบ-ทดสอบความทนของเมคอัพในเรื่องของการกันน้ำกันเหงื่อ-ไปจนถึงสรุปความต่างของทั้ง 3 ตัวค่ะ เพื่อคลายความสงสัยสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้เป็นแบบไหน ตัวไหนดี กระทู้นี้มีคำตอบค่ะ!

ก่อนอื่นมาเริ่มจากภาพบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัวที่เราจะมารีวิวในวันนี้ค่ะ
แน่นอนว่าเราก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเนอะกับ 3 อย่างนี้ เพราะวางขายใน 7-11 มาก็ค่อนข้างนานแล้ว

ส่วนตัวไม้จะชอบใช้แบบผสมกันระหว่าง BB CC 2 ซองนี้มากกว่าการใช้แบบเดี่ยวๆนะคะ ส่วนนึงเพราะไม้ต้องการงานผิวที่ไม่แมทจนเกินไปและให้ความโกลวฉ่ำกับผิวอยู่บ้าง (แต่เป็นในแบบที่ไม่ต้องใช้ไฮไลท์ คือให้ผิวดูสุขภาพดีค่ะ)
ส่วนนี่จะเป็นเนื้อและสีของผลิตภัณฑ์ค่ะ มาดูเปรียบเทียบสีกันคร่าวๆก่อน

ซึ่งไม้ว่าหลายๆคนคงเคยคิดว่าตัว BB กับ Cushion เนี่ย โทนสีคงจะไม่ต่างกันมาก แต่พอไม้มาสวอชเปรียบเทียบให้ดูกันแบบนี้แล้ว คงจะเห็นความแตกต่างกันแบบชัดเจนเลยใช่ไหมล่ะคะ 
เนื่องจากว่าตัว Cushion มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มในเรื่องของความกระจ่างใสเข้าไปนั่นเองค่ะ สีเลยจะดูขาวสว่างกว่าตัวอื่น แต่ข้อดีของมันก็คือเมื่อเซ็ทตัวเข้ากับผิวแล้ว มันจะไปปรับให้เป็นสีที่ใกล้เคียง ไม่ทำให้ดูลอยจนเกินไปค่ะ
ถัดมานะคะจะเป็นการทดสอบความทนว่ากันน้ำ กันเหงื่อได้จริงหรือไม่ โดยเนื้อของผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ถูกสวอชลงบนผิวนั้นจะเซ็ทตัวดีแล้วทั้งหมดนะคะ

(ตามภาพจะเห็นเลยว่าทั้ง BB และ Cushion จะดูแมทกลืนกับผิวไป ส่วนตัว CC จะยังดูมีความฉ่ำๆอยู่บ้าง เป็นความต่างในเรื่องของ Finish Look นั่นเองค่ะ)
ส่วนนี่จะเป็นผลที่ได้จากการที่ไม้ใช้สำลีซับน้ำออกจากผิวนะคะ คือเมคอัพยังเกาะติดกับผิวอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือหลุดติดสำลีไปเพียงเล็กน้อย (ตรงบริเวณที่วงกลมเอาไว้) เท่านั้นเองค่ะ ถือว่าโอเคเลยนะ
ผ่านในเรื่องของการเปรียบเทียบสี-ทดสอบความทนมาแล้ว ทีนี้เรามาดูในเรื่องของการปกปิดกันค่ะ

จากรูปบนจะเห็นเลยว่าไม้เป็นคนที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีรอยแดง รอยดำจากสิว
แต่พอลงด้วยเมคอัพแล้ว (ในภาพนี้ไม้ใช้ BB ซองดำผสมกับ CC ซองขาวค่ะ) กลับปกปิดรอยต่างๆนั้นเอาไว้ได้แทบทั้งหมดโดยที่ไม้ไม่ได้ลงคอนซีลเลอร์เลย ถือว่าโอเคมากๆค่ะ
(ปกติไม้จะเป็นคนที่ชอบเลือกใช้อะไรที่สีเข้มกว่าผิวหน้าอยู่แล้ว และจะเซ็ทหน้าด้วยแป้งที่ให้ความกระจ่างใสกับใบหน้าเพิ่มขึ้นนะคะ ส่วนนึงเพราะอยากได้ความเป็นธรรมชาตินั่นเองค่ะ)

และเรามาปิดท้ายด้วย Finish Look ที่ได้จากการใช้ BB CC ผสมกันค่ะ
จะเห็นเลยว่าผิวของไม้ดูแมท แต่ก็มีบางส่วนที่ดูโกลว ซึ่งเวลากระทบกับแสงปกติแล้วจะให้ลุคที่ดูผิวดีมาก
สรุปนะคะ
  • สำหรับคนที่มีผิวผสมแต่อยากได้ผิวที่แมท แต่แมทไม่มาก รวมถึงโกลวแต่ไม่ต้องโกลวจนดูเหมือนหน้ามัน ไม้แนะนำให้ใช้แบบผสมกันเลยค่ะ มันโอเคมาก
  • แต่คนที่หน้ามัน อยากจะให้ผิวดูขาวกระจ่างใสขึ้น ไม้แนะนำให้ใช้คุชชั่น
  • ส่วนคนหน้าแห้งแน่นอนว่าใช้ตัว CC จะดีกว่าค่ะ
  • หากคนที่หน้ามันมากๆจริงๆ และคิดว่าใช้รองพื้นแบบสีเสมอหน้า ไม่ต้องผ่องกว่าก็ใช้ตัว BB แล้วค่อยไปลงแป้งที่ทำให้หน้าดูกระจ่างใส-ผ่องขึ้น (แบบไม้) ก็ได้ค่ะ
สุดท้ายสำหรับสายประหยัดและเดินทางบ่อย ทุกครั้งที่ไม้ใช้คุชชั่นจนหมด ไม้ก็จะเอาตัว BB นี่แหละค่ะ มาเทใส่ในตลับคุชชั่นและใช้ต่อ

โดยเนื้อของคุชชั่นที่เหลือบางส่วน เมื่อผสมกับ BB มันจะไม่ได้มาทำให้ BB เปลี่ยนสี หรือมีสีขาวขึ้นนะคะ

(เพราะปริมาณของคุชชั่นเหลือน้อยกว่าที่จะทำแบบนั้นได้) แต่ถ้าใครอยากให้สี BB ดูสว่างขึ้น ก็ค่อยแกะผสมไปตอนที่ปริมาณของคุชชั่นยังเหลือสักครึ่งนึงของตลับก็ได้ค่ะ ไม่ต้องรอจนใกล้หมด)
ไม้ก็ต้องขอจบการรีวิวทั้งหมดแต่เพียงเท่านี้นะคะ

หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่ติดตามและเข้ามาอ่านกันค่ะ ไว้พบกันใหม่กระทู้หน้า

ขอบคุณค่ะ^^


looookmai

looookmai

สามารถติดตามรีวิวของไม้ได้อีกช่องทางที่ทวิตเตอร์ @looookmai นะคะ ^^

FULL PROFILE