Review Nuceara Asco C+ Serum วิตามินซีเข้มข้น 12% ทาครึ่งหน้า 10 วันวัดกันไปเลย ขาว ใส ผิวดีขึ้นไหม มาดู

21 18

สวัสดีจ้า Jebanista ทุกคน ช่วงนี้เราหายไปจากหน้ากระทู้จีบันเลย แต่ซ่อมเบิ่งอยู่เด้อ 555 เพราะเราได้ของเล่นใหม่มาจากทางแบรนด์ Nuceara นั่นคือ Asco C+ วิตามินซีเข้มข้น 12% ทางแบรนด์ส่งมา บอกว่าอยากให้ลองใช้ เห็นเรามีปัญหาเรื่องกระ ก็เลยไม่ได้ทำอะไร เพราะมัวแต่ลองและเก็บผลลัพธ์เจ้าตัวนี้อยู่ (ชอบทำอะไรให้เสร็จเป็นอย่างๆไป 555)

ก่อนจะใช้เราก็กล้าๆกลัวๆ ว่าหน้าจะบางไหม เลยลองศึกษาสรรพคุณดูก่อน ก็หน้าอะนะ ทาแล้วแพ้ขึ้นมานี่เซ็งนะ พออ่านแล้วก็เริ่มอยากลอง เพราะส่วนผสมและสรรพคุณน่าสนใจมาก

เลยนึกสนุก เอาฟะ ลองทาวัดกันไปเลยแค่ครึ่งหน้า เอาครึ่งที่กระเยอะๆนี่แหละ ดูซิว่าจะหน้าใสขึ้น กระจางลงบ้างไหม เรามีกระ 2 ฝั่งเลย อีกฝั่งเข้มและเยอะกว่า

ยังไม่เฉลยนะว่าเป็นยังไง ให้ภาพเล่าเรื่องดีกว่า มาเลย ตามเรามา

เท่าที่อ่านดูเกี่ยวกับเจ้า Asco C+ สิ่งที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าพิเศษกว่าวิตามินซีแบบธรรมดาคือ เค้าใช้ L-Ascorbic Acid เข้มข้น 12% ซึ่งเป็น Vitamin C รูปแบบดั้งเดิม Original ตามธรรมชาติ 

เป็นรูปแบบที่สามารถออกฤทธิ์ได้โดยตรงกับผิวทันที (แต่ไม่ค่อยมีใครใช้ในความเข้มข้นขนาดนี้นะ เพราะความ sensitive เรื่องการคงตัว/เสถียรมันน้อย)

แต่เพราะ Vitamin C L-Ascorbic Acid มันมีความบริสุทธิ์สูง และอนุภาคเล็กพิเศษ ซึมได้เร็วที่สุด ทางแบรนด์จึงนำ Vitamin C ตัวนี้มาเพิ่มความสเถียรของ โดยใช้เบส Propanediol ที่สกัดจากธรรมชาติ (ได้จากข้าวโพด) เป็นหลัก ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

นอกจากนี้ทางแบรนด์ Nuceara ได้เติม Ethoxydiglycol ซึ่งช่วยนำพา Vitamin C ให้ซึมเข้าผิวได้ลึก และไวขึ้น และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีการออกฤทธิ์ที่คล้ายคลึงกับธรรรมชาติมากที่สุด โดยการเพิ่มส่วนผสมจากธรรมชาติ อย่างสารสกัด Naringenin สารออกฤทธิ์ flavonoid จากผลเกรปฟรุต ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้าน Whitening ให้มีประสิทธิภาพขึ้น ซึ่งผลไม้ที่มี Vitamin C สูง มักมี flavonoid เป็นองค์ประกอบเสริมฤทธิ์กัน

นอกจากคุณสมบัติเด่นเรื่อง Vitamin C เค้ายังเน้นเรื่องความอ่อนโยนเพราะไม่ใส่น้ำหอม สีสังเคราะห์ สารกันเสีย และซิลิโคนจึงไม่อุดตันรูขุมขน

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อเหลวใส มีสีอมเหลือง เป็นสีจากสารสกัดธรรมชาตินะจ๊ะ ไม่ต้องตกใจ เหลืองๆแบบนี้ไม่ได้เสื่อจ้า

มาดูคำเคลมเรื่องสรรพคุณกันบ้างดีกว่า

1. ช่วยให้ผิวกระจ่างใส

2. ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวคล้ำ ลดความเข้มของเมลานินที่สร้างขึ้นมาแล้วให้สีจางลง

3. ลดริ้วรอย กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนมากขึ้น

4. ลดรอยแผลจากสิวทั้งรอยดำ รอยแดง หลุมสิวเกิดใหม่ โดยผ่านกลไกการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน

5. ช่วยลดการอักเสบรอยแดง ด้วยสาร Naringenin เป็นสารฟลาโวนอยด์บริสุทธิ์จากเกรปฟลุต

วิธีใช้

ปั๊มผลิตภัณฑ์ลงบนฝ่ามือ และลูบไล้ทั่วใบหน้า และลำคอ เน้นบริเวณที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษเช่นรอยแผลจากสิว ฝ้า กระ ริ้วรอย

วิธีลองของเราคือ

  1. 5 วันแรกทา Galactomycese ทั้งหน้าหลังล้างหน้า แล้วทา Asco C+ แค่ครึ่งหน้าแบบเดี่ยวๆเลย = เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของตัว Asco C+ เองแบบเดี่ยวๆ ไม่เพิ่งพาตัวช่วยอื่นๆ
  2. 5 วันหลังจากนั้น ใช้ Galactomycese ทาทั่วหน้าหลังล้างหน้า ตามด้วยสกินแคร์ตามปกติที่ใช้อยู่ทั่วทั้งหน้า (Kiehl's Quinoa Serum + L'oreal White Perfect Clinical) แล้วทา Asco C+ แค่ครึ่งหน้า = เพื่อทดสอบว่าสามารถใช้ร่วมกันสกินแคร์ทั่วไปได้ไหม 
หมายเหตุ อย่าลืมทากันแดดนะสาวๆ สำคัญมาก โดยทิ้งระยะ 15 นาทีหลังจากทา Asco C+ นะคะ เพราะผลิตภัณฑ์กลุ่ม Whitening หรือผลัดเซลผิวจะเผยผิวใหม่เรา ซึ่งยังเป็นผิวที่บอบบาง ต้องทากันแดดทุกวันนะคะ

พอมันเป็นเนื้อลื่นๆก็เลยแอบกลัวว่า อ้าวแล้วถ้าทาตอนก่อนแต่งหน้า มันจะทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบไหมเนี่ย??? ก็เลยลองทาครึ่งหน้า แล้วแต่งหน้าไปทำงานดู วัดดวงเอา กะว่าถ้าด่างอย่างมากก็อาย 5555555555555

ผลคือ อ่าวเห้ย ไม่คราบ ไม่ด่าง รอดเฟ้ยยยยยยยย ไม่รบกวนเครื่องสำอางบนหน้านะจ๊ะ

นอกจากวิตามินซี Asco C+ แล้วทางแบรนด์ยังส่ง Naturalist Galactomyces 96.5 concentrate essense มาให้เราลองด้วย เราเลยใช้คู่กันไปเลย ขนาด 100 ml ทางแบรนด์เคลมว่า บางเบา ชุ่มชื่น อ่อนโยน

มาดูผลกันดีกว่า อันนี้หลังใช้ทาครึ่งหน้ามา 5 วัน เราไม่ปรับแสงรูปนะ หน้ามืดบ้าง สว่างบ้าง ขอให้ดูจำนวนกระ และความใสของหน้าแทน (นึกว่าเล่นเกมจับผิดภาพแล้วกันเด้อ 555)

อันนี้หลังใช้ครบ 10 วัน ถ่ายตอนเพิ่งตื่นนอนเลย 555 สิ่งที่เรารู้สึกได้คือ "ผิวใส" ขึ้น คำว่าใสในที่นี้ไม่ใช่ ไสว่าสิบ่ถิ่มก๊านน// ผิดๆ ใสในที่นี้ไม่ใช่ขาวซีด ขาวแว้บ ขาวโอโม่ แต่มันคือผิวดูเปล่งปลั่ง ดูสดใสขึ้น คือหน้าใสนั่นเอง (งงมะ 555)

อะมาเล่นเกมจับผิดภาพให้ตาลายกันไปเลยดีกว่า

คำถามนะครับ... เตรียมตัว...

กระบนหน้าเรามีกี่จุดครับ!! 10 วินาที ตอบ!!!!!!!!!!

...

ไม่ขำเหรอ

เราขอโทษ

อะๆ ไม่พาเล่นแล้ว มาดูแบบรวบตึงกันดีฝ่า

จากผลการใช้มา 10 วัน คือจริงๆเรากะว่าจะใช้ให้หมดหลอดแล้วค่อยมาสรุปผล แต่พอผ่านมา 10 วันเท่าที่สังเกตกระบนหน้า เราว่ามันก็เห็นผลได้ชัดเจนนะ เลยรีวิวเลยแล้วกัน

ผลที่ได้คือ

1. กระจางลง มันไม่หายแว้บไปหมดนะ แต่มันจางลง

2. หน้าใสขึ้น ไม่ใช่ขาวแว้บ ขาวแสบตานะ แต่มันใส มันเปล่งปลั่ง ดูผิวดีอะ

3. ผิวเรียบขึ้น

4. สีผิวบางจุดที่ด่างๆ ก็สม่ำเสมอกันมากขึ้น

5. สิวอุดตันน้อยลง ยกเว้นอีกฝั่งที่ไม่ได้ทามีสิวรอบเดือนขึ้น

สิ่งที่ชอบ ที่ทำให้คิดว่าจะซื้อต่อ

1. ส่วนผสมดี เข้มข้น และใช้ส่วนผสมที่แตกต่างจากในท้องตลาด

2. ขวดปั๊ม ทำให้ยืดอายุการใช้งาน และความคงตัวของ Vitamin C ได้มากขึ้น ใช้ง่ายด้วย

3. อ่อนโยน ไม่ผสมสารที่อุดตันและระคายผิว เราใช้แล้วไม่แสบ ไม่แดง หน้าไม่บางนะ ปกติหน้าเราคล้ำแดดง่ายมากเพราะเคยใช้พวก AHA, BHA, Retin A อย่างหนักแล้วไม่ทากันแดด ผิวพังยับไปเลยก่อนหน้านั้น

สรุป ถ้าหมดจากที่แบรนด์ให้มา เราก็คงไปซื้อมาใช้เองต่ออะ 555555555 นี่งานรีวิวชวนเสียเงินชัดๆ แบรนด์มารับผิดชอบเลย ก่อกิเลส

สำหรับนักช้อป และนักกดเครื่องคิดเลข เจ้าตัวนี้ขนาด 9 ml ราคา 250 บาท แต่ตอนนี้เห็นมีโปร 199.-

หวังว่ารีวิวเราจะมีประโยชน์กับคนที่มองหา Vitamin C ที่อ่อนโยน หรือคนที่อยากลองของใหม่ๆ หรือคนที่เห็นเจ้าตัวนี้แว้บๆ แต่ไม่แน่ใจว่าจะซื้อดีไหม

ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านกระทู้เรา ขอบคุณทุกเลิฟ ทุกเม้นท์ ทุกแชร์จ้า

เจอกันกระทู้หน้าเด้อ สวัสดีจ้า


พุงนำนม

พุงนำนม

เจ้หุ่นถังแก๊สผู้รักการแต่งหน้า บ้าสกินแคร์ แต่ขี้เกียจอาบน้ำ // ติดต่องาน & ติดตามเม้าท์มอย ได้จ้า
Facebook Fanpage / Twitter / YOUTUBE ด้านล่างสุดเด้อ?

♥•-*-.-*-•♥ About Me ♥•-*-.-*-•♥
Name ทิพ
Born 1984
Facial Skin Type: Oily, inner dry, comedones & acnes
Weight 90 Kgs+
Height 160 cms
Skin colour: Fair with neutral or slightly yellow/warm undertone (NC15)

FULL PROFILE