Hollywood Powerful Man and Biggest Scandal

ข่าวที่ The New York Times ได้นำเสนอเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้ชีวิตแต่งงานของ ฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์ ชายที่ชื่อว่าทรงอิทธิพลคนหนึ่งในฮอลลีวูดส่อแววอับปาง จนมีข่าวว่าเขาใช้เงินอุดปาดเหยื่อที่คุกคามทางเพศมายาวนานหลายทศวรรษ เรื่องราวของเค้ากำลังถูกเปิดโปง

Discussion (22)

"ผมเสียใจที่ไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้"  โคลิน เฟิร์ธ พระเอกหนุ่มใหญ่เจ้าของออสการ์ยอมรับว่าเพื่อนนักแสดงหญิงได้เล่าให้เขาฟังเมื่อ 25 ปีก่อนว่าถูก ฮาร์วีย์  ไวน์สตีน ล่วงละเมิดจนกระทบกระเทือนใจเป็นอันมาก  แต่ โคลิน ในวัยหนุ่มก็ไม่ได้ทำอย่างไรอื่นนอกจากแสดงความเห็นใจเธอ



ต้นเรื่องคือเธอคนนี้ค่ะ โซฟี ดิกซ์ วัย 48 ตอนที่เธอยังเป็นนางเอกสาวสะพรั่งก็ผ่าน casting ได้แสดงหนังกับโคลิน ซึ่งเป็นพระเอกเนื้อหอม  เธอตื่นเต้นกับโอกาสที่ได้รับมากบวกกับความไร้ประสบการณ์ "ชั้นไม่เคยเจอพวกล่วงละเมิดผู้หญิงมาก่อน  ชั้นไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ได้" เธอถูกโยนไปที่เตียงแล้วทึ้งเสื้อผ้าออก แต่ก็วิ่งหนีไปที่ห้องน้ำได้ แต่เมื่อตัดสินใจออกมาจากที่ซ่อนก็เผชิญหน้ากับฮาร์วีย์ ที่ยืนสำเร็จความใคร่อยู่  เธอซ่อนตัวในห้องน้ำต่อจนได้ยินเสียงรูมเซอร์วิส จึงได้โอกาสหนีเอาตัวรอดออกมาได้


เธอพยายามบอกเล่าเรื่องราวให้คนอื่นๆในวงการได้รับรู้ แต่ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาหลีกเลี่ยงจะยอมรับเรื่องนี้ 

อย่าลืม อัพ แฟชั่นลอนดอน ด้านล่างนะคะ


จากเรื่องล่าแม่มด  เราจึงลองคิดจำลองเหตุกาารณ์เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งดูค่ะ

ในบริษัทแห่งนี้ มีหนึ่งในผู้บริหารที่มีชื่อเสียงมากมาย หากพนักงานคนใดมีหน่วยก้านที่ถูกใจก็จะถูกส่งไปเทรนงานและทำงานผลงานเจ๋งๆ เรียกว่าถ้ากลายเป็นเด็กปั้นแล้วก็การันตีโพรไฟล์งานที่สวยหรูได้เลย

แต่กลับมีข่าวลือเสียหายเกี่ยวกับผู้บริหารคนนั้นว่าเขาชอบทำตัวหื่นใส่พนักงานสาวๆ ที่ไม่กล้ามีปากมีเสียง   หรือถ้ามีพนักงานหญิงไฟแรงทุ่มเทกับงาน เขาก็จะเรียกเธอมาให้คุยสองต่อสองเพื่อยื่นข้อเสนอว่าหากยอมมีอะไรด้วยก็จะเลื่อนตำแหน่งให้  แต่คุณก็ได้ยินเรื่องนี้โดยไม่มีหลักฐานเป็นตัวเป็นตนแต่อย่างใด จึงพยายามคิดว่านี่เป็นแค่การนินทากาเล  ถ้ามีใครถูกทำมิดีมิร้ายจริงๆ ก็คงไปแจ้งตำรวจเอาผิดกับเขาเอง

วันหนึ่ง เพื่อนสนิทในที่ทำงานเล่าให้คุณฟังด้วยน้ำตานองหน้าว่าถูกเรียกไปตกลงเรื่องอย่างว่ากับผู้บริหารผู้นี้  เขาจู่โจมเธอจนแทบเอาตัวไม่รอด แต่ก็วิ่งหนีมาได้  แต่ก่อนนั้นเขาขู่เธอว่าหากกล้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครก็จะไล่ออกจากงานและใส่ชื่อเธอลงใน Blacklist ไม่ให้บริษัทอื่นพิจารณารับทำงาน  เธอหวาดกลัวตัวสั่น  คุณเห็นใจมากจึงแนะนำเธอให้ไปแจ้งความและร้องเรียน HR  แต่เธอกลับว่ายหน้าบอกคุณว่า
"ไม่ได้หรอก เขามันปีศาจดีๆ นี่เอง  ชั้นพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ หลักฐานก็ไม่มี มันจะกลายเป็นเรื่องปรักปรำ  คนในบริษัทก็คงมองชั้นเป็นคนโกหกซะอีก"  เธอยืนกรานว่าจะทุ่มเททำงานต่อไปแต่จะคอยหลีกเลี่ยงเขานับแต่จากนี้


ต่อมา  แม่บ้านที่ออฟฟิศมาเล่าให้คุณฟังว่าได้ยินเจ้านายคนนี้โม้กับเพื่อนฝูงเรื่องบนเตียงกับพนักงานสาวสวยนับสิบคน  เธอยืนยันว่าบางคนในรายชื่อนั้นได้เลื่อนตำแหน่งจนเงินเดือนสูงลิ่ว พวกเธอดูสนิทสนมกับเจ้านายไม่มีทีท่าทุกข์ใจแต่อย่างใด


ตัวคุณเอง  แม้จะยังไม่ได้เจอกับเหตุการณ์ร้ายแรง  แต่ก็เคยถูกเฟลิร์ตใส่ และที่ผ่านมาก็พยายามบอกตัวเองว่ามันเป็นแค่เรื่องหยอกล้อเล่นๆ  

คนในบริษัทเองก็เหมือนจะรับรู้ข่าวฉาวคาวของคนๆ นี้กันทั้งนั้น  และคุณต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าเพือนที่ถูกล่วงละเมิดถูกย้ายไปประจำสาขาอื่นที่ว่ากันว่าไม่ส่งเสริมให้แสดงศักยภาพการทำงานและต้องทำงานไปวันๆ แบบไม่มีอนาคต ส่วนแม่บ้านที่เอาเรื่องมาขยายต่อก็ถูกไล่ออกไปด้วยคำกล่าวหาว่าทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ

หากเป็นเช่นนั้น  คุณที่ไร้หลักฐานประกอบข้อกล่าวหาจะลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรมแทนเพื่อนหรือไม่ 

เมื่อเพื่อนที่บอกว่าเป็นเหยื่อเจ้านายขอร้องไม่ให้คุณไปบอกใครเพราะเธอไม่อยากหมดอนาคตกับบริษัทแห่งนี้  คุณจะยังนำเรื่องนี้ไปป่าวประกาศให้ทั่ว หรือทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่


ในที่สุดเมื่อเรื่องถูกเปิดเผยจากผู้จัดการสาวเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาหลายปีก่อน เธอเป็นที่นับถือจากพนักงานรุ่นน้องและเพื่อนๆ  เมื่อเธอประกาศว่าเคยถูกผู้ริหารลวนลามจนเกือบเอาตัวไม่รอด  แต่ก็คิดเผื่อเอาไว้แอบเปิดเครื่องบันทึกเสียงเก็บหลักฐานการล่วงละเมิดของผู้บริหาร   เมื่อเธอไปที่สถานีตำรวจก็ได้รับคำแนะนำว่านี่เป็นคดีที่ยอมความกันได้  ถ้าไม่อยากเสียเวลาฟ้องร้องก็ลองเจรจากับผู้กระทำดูก่อน  สิ่งสุดท้ายที่เธอไม่อยากจะให้เกิดขึ้นคือการสูญเสียงานและรายได้  เธอจีงเลิกล้มความคิดที่จะฟ้องร้อง เธอทำงานอย่างหวาดระแวง กลัวว่าเขาจะเรียกหาเธออีก


คุณจะเหมารวมรึเปล่าว่าผู้หญิงทุกคนที่ดูสนิทกับเขานั้นต้องเคยมีอะไรเกินเลยเพราะอยากจะไต่เต้าขึ้นสู่ทำเนียบคนดังในบริษัท

และคุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเรื่องราวปรากฏสู่สาธารณชนแล้วมีผู้คนมากมายกล่าวหาว่าคุณและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้ผู้กะทำผิดย่ามใจด้วยการนิ่งเงียบไม่กล้าพูดในเรื่องล่วงละเมิด ...
แปลกใจที่ล่าแม่มดพุ่งเป้าไปที่คนรอบข้างหมด เหมือนต้องการหาแพะมาเพิ่ม คนนั้นผิดนิด คนนี้ผิดหน่อย ประหลาดมากๆ
เป็นเรื่องที่แย่มากจริงๆ ค่ะ
อ่านแล้วหดหู่เพราะเหยื่อก็พูดไม่ได้ ถึงพูดไปก็ยากที่จะมีคนเชื่ออีก
คนกระทำก็ยังลอยหน้าลอยตา ฮึ่มมมม
ยิ่งเรื่องการล่าแม่มดยิ่งแล้วใหญ่ ด่ากราดไปหมดไม่สดว่าใครเกี่ยวข้องหรือไม่ 
รออ่านรัวๆๆๆ