Hollywood Powerful Man and Biggest Scandal
candy1622ข่าวที่ The New York Times ได้นำเสนอเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้ชีวิตแต่งงานของ ฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์ ชายที่ชื่อว่าทรงอิทธิพลคนหนึ่งในฮอลลีวูดส่อแววอับปาง จนมีข่าวว่าเขาใช้เงินอุดปาดเหยื่อที่คุกคามทางเพศมายาวนานหลายทศวรรษ เรื่องราวของเค้ากำลังถูกเปิดโปง
Discussion (22)
อย่าลืม อัพ แฟชั่นลอนดอน ด้านล่างนะคะ
จากเรื่องล่าแม่มด เราจึงลองคิดจำลองเหตุกาารณ์เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งดูค่ะ
ในบริษัทแห่งนี้ มีหนึ่งในผู้บริหารที่มีชื่อเสียงมากมาย หากพนักงานคนใดมีหน่วยก้านที่ถูกใจก็จะถูกส่งไปเทรนงานและทำงานผลงานเจ๋งๆ เรียกว่าถ้ากลายเป็นเด็กปั้นแล้วก็การันตีโพรไฟล์งานที่สวยหรูได้เลย
แต่กลับมีข่าวลือเสียหายเกี่ยวกับผู้บริหารคนนั้นว่าเขาชอบทำตัวหื่นใส่พนักงานสาวๆ ที่ไม่กล้ามีปากมีเสียง หรือถ้ามีพนักงานหญิงไฟแรงทุ่มเทกับงาน เขาก็จะเรียกเธอมาให้คุยสองต่อสองเพื่อยื่นข้อเสนอว่าหากยอมมีอะไรด้วยก็จะเลื่อนตำแหน่งให้ แต่คุณก็ได้ยินเรื่องนี้โดยไม่มีหลักฐานเป็นตัวเป็นตนแต่อย่างใด จึงพยายามคิดว่านี่เป็นแค่การนินทากาเล ถ้ามีใครถูกทำมิดีมิร้ายจริงๆ ก็คงไปแจ้งตำรวจเอาผิดกับเขาเอง
วันหนึ่ง เพื่อนสนิทในที่ทำงานเล่าให้คุณฟังด้วยน้ำตานองหน้าว่าถูกเรียกไปตกลงเรื่องอย่างว่ากับผู้บริหารผู้นี้ เขาจู่โจมเธอจนแทบเอาตัวไม่รอด แต่ก็วิ่งหนีมาได้ แต่ก่อนนั้นเขาขู่เธอว่าหากกล้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครก็จะไล่ออกจากงานและใส่ชื่อเธอลงใน Blacklist ไม่ให้บริษัทอื่นพิจารณารับทำงาน เธอหวาดกลัวตัวสั่น คุณเห็นใจมากจึงแนะนำเธอให้ไปแจ้งความและร้องเรียน HR แต่เธอกลับว่ายหน้าบอกคุณว่า
"ไม่ได้หรอก เขามันปีศาจดีๆ นี่เอง ชั้นพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ หลักฐานก็ไม่มี มันจะกลายเป็นเรื่องปรักปรำ คนในบริษัทก็คงมองชั้นเป็นคนโกหกซะอีก" เธอยืนกรานว่าจะทุ่มเททำงานต่อไปแต่จะคอยหลีกเลี่ยงเขานับแต่จากนี้
ต่อมา แม่บ้านที่ออฟฟิศมาเล่าให้คุณฟังว่าได้ยินเจ้านายคนนี้โม้กับเพื่อนฝูงเรื่องบนเตียงกับพนักงานสาวสวยนับสิบคน เธอยืนยันว่าบางคนในรายชื่อนั้นได้เลื่อนตำแหน่งจนเงินเดือนสูงลิ่ว พวกเธอดูสนิทสนมกับเจ้านายไม่มีทีท่าทุกข์ใจแต่อย่างใด
ตัวคุณเอง แม้จะยังไม่ได้เจอกับเหตุการณ์ร้ายแรง แต่ก็เคยถูกเฟลิร์ตใส่ และที่ผ่านมาก็พยายามบอกตัวเองว่ามันเป็นแค่เรื่องหยอกล้อเล่นๆ
คนในบริษัทเองก็เหมือนจะรับรู้ข่าวฉาวคาวของคนๆ นี้กันทั้งนั้น และคุณต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าเพือนที่ถูกล่วงละเมิดถูกย้ายไปประจำสาขาอื่นที่ว่ากันว่าไม่ส่งเสริมให้แสดงศักยภาพการทำงานและต้องทำงานไปวันๆ แบบไม่มีอนาคต ส่วนแม่บ้านที่เอาเรื่องมาขยายต่อก็ถูกไล่ออกไปด้วยคำกล่าวหาว่าทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ
หากเป็นเช่นนั้น คุณที่ไร้หลักฐานประกอบข้อกล่าวหาจะลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรมแทนเพื่อนหรือไม่
เมื่อเพื่อนที่บอกว่าเป็นเหยื่อเจ้านายขอร้องไม่ให้คุณไปบอกใครเพราะเธอไม่อยากหมดอนาคตกับบริษัทแห่งนี้ คุณจะยังนำเรื่องนี้ไปป่าวประกาศให้ทั่ว หรือทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่
ในที่สุดเมื่อเรื่องถูกเปิดเผยจากผู้จัดการสาวเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาหลายปีก่อน เธอเป็นที่นับถือจากพนักงานรุ่นน้องและเพื่อนๆ เมื่อเธอประกาศว่าเคยถูกผู้ริหารลวนลามจนเกือบเอาตัวไม่รอด แต่ก็คิดเผื่อเอาไว้แอบเปิดเครื่องบันทึกเสียงเก็บหลักฐานการล่วงละเมิดของผู้บริหาร เมื่อเธอไปที่สถานีตำรวจก็ได้รับคำแนะนำว่านี่เป็นคดีที่ยอมความกันได้ ถ้าไม่อยากเสียเวลาฟ้องร้องก็ลองเจรจากับผู้กระทำดูก่อน สิ่งสุดท้ายที่เธอไม่อยากจะให้เกิดขึ้นคือการสูญเสียงานและรายได้ เธอจีงเลิกล้มความคิดที่จะฟ้องร้อง เธอทำงานอย่างหวาดระแวง กลัวว่าเขาจะเรียกหาเธออีก
คุณจะเหมารวมรึเปล่าว่าผู้หญิงทุกคนที่ดูสนิทกับเขานั้นต้องเคยมีอะไรเกินเลยเพราะอยากจะไต่เต้าขึ้นสู่ทำเนียบคนดังในบริษัท
และคุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเรื่องราวปรากฏสู่สาธารณชนแล้วมีผู้คนมากมายกล่าวหาว่าคุณและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้ผู้กะทำผิดย่ามใจด้วยการนิ่งเงียบไม่กล้าพูดในเรื่องล่วงละเมิด ...
ในบริษัทแห่งนี้ มีหนึ่งในผู้บริหารที่มีชื่อเสียงมากมาย หากพนักงานคนใดมีหน่วยก้านที่ถูกใจก็จะถูกส่งไปเทรนงานและทำงานผลงานเจ๋งๆ เรียกว่าถ้ากลายเป็นเด็กปั้นแล้วก็การันตีโพรไฟล์งานที่สวยหรูได้เลย
แต่กลับมีข่าวลือเสียหายเกี่ยวกับผู้บริหารคนนั้นว่าเขาชอบทำตัวหื่นใส่พนักงานสาวๆ ที่ไม่กล้ามีปากมีเสียง หรือถ้ามีพนักงานหญิงไฟแรงทุ่มเทกับงาน เขาก็จะเรียกเธอมาให้คุยสองต่อสองเพื่อยื่นข้อเสนอว่าหากยอมมีอะไรด้วยก็จะเลื่อนตำแหน่งให้ แต่คุณก็ได้ยินเรื่องนี้โดยไม่มีหลักฐานเป็นตัวเป็นตนแต่อย่างใด จึงพยายามคิดว่านี่เป็นแค่การนินทากาเล ถ้ามีใครถูกทำมิดีมิร้ายจริงๆ ก็คงไปแจ้งตำรวจเอาผิดกับเขาเอง
วันหนึ่ง เพื่อนสนิทในที่ทำงานเล่าให้คุณฟังด้วยน้ำตานองหน้าว่าถูกเรียกไปตกลงเรื่องอย่างว่ากับผู้บริหารผู้นี้ เขาจู่โจมเธอจนแทบเอาตัวไม่รอด แต่ก็วิ่งหนีมาได้ แต่ก่อนนั้นเขาขู่เธอว่าหากกล้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครก็จะไล่ออกจากงานและใส่ชื่อเธอลงใน Blacklist ไม่ให้บริษัทอื่นพิจารณารับทำงาน เธอหวาดกลัวตัวสั่น คุณเห็นใจมากจึงแนะนำเธอให้ไปแจ้งความและร้องเรียน HR แต่เธอกลับว่ายหน้าบอกคุณว่า
"ไม่ได้หรอก เขามันปีศาจดีๆ นี่เอง ชั้นพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ หลักฐานก็ไม่มี มันจะกลายเป็นเรื่องปรักปรำ คนในบริษัทก็คงมองชั้นเป็นคนโกหกซะอีก" เธอยืนกรานว่าจะทุ่มเททำงานต่อไปแต่จะคอยหลีกเลี่ยงเขานับแต่จากนี้
ต่อมา แม่บ้านที่ออฟฟิศมาเล่าให้คุณฟังว่าได้ยินเจ้านายคนนี้โม้กับเพื่อนฝูงเรื่องบนเตียงกับพนักงานสาวสวยนับสิบคน เธอยืนยันว่าบางคนในรายชื่อนั้นได้เลื่อนตำแหน่งจนเงินเดือนสูงลิ่ว พวกเธอดูสนิทสนมกับเจ้านายไม่มีทีท่าทุกข์ใจแต่อย่างใด
ตัวคุณเอง แม้จะยังไม่ได้เจอกับเหตุการณ์ร้ายแรง แต่ก็เคยถูกเฟลิร์ตใส่ และที่ผ่านมาก็พยายามบอกตัวเองว่ามันเป็นแค่เรื่องหยอกล้อเล่นๆ
คนในบริษัทเองก็เหมือนจะรับรู้ข่าวฉาวคาวของคนๆ นี้กันทั้งนั้น และคุณต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าเพือนที่ถูกล่วงละเมิดถูกย้ายไปประจำสาขาอื่นที่ว่ากันว่าไม่ส่งเสริมให้แสดงศักยภาพการทำงานและต้องทำงานไปวันๆ แบบไม่มีอนาคต ส่วนแม่บ้านที่เอาเรื่องมาขยายต่อก็ถูกไล่ออกไปด้วยคำกล่าวหาว่าทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ
หากเป็นเช่นนั้น คุณที่ไร้หลักฐานประกอบข้อกล่าวหาจะลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรมแทนเพื่อนหรือไม่
เมื่อเพื่อนที่บอกว่าเป็นเหยื่อเจ้านายขอร้องไม่ให้คุณไปบอกใครเพราะเธอไม่อยากหมดอนาคตกับบริษัทแห่งนี้ คุณจะยังนำเรื่องนี้ไปป่าวประกาศให้ทั่ว หรือทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่
ในที่สุดเมื่อเรื่องถูกเปิดเผยจากผู้จัดการสาวเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาหลายปีก่อน เธอเป็นที่นับถือจากพนักงานรุ่นน้องและเพื่อนๆ เมื่อเธอประกาศว่าเคยถูกผู้ริหารลวนลามจนเกือบเอาตัวไม่รอด แต่ก็คิดเผื่อเอาไว้แอบเปิดเครื่องบันทึกเสียงเก็บหลักฐานการล่วงละเมิดของผู้บริหาร เมื่อเธอไปที่สถานีตำรวจก็ได้รับคำแนะนำว่านี่เป็นคดีที่ยอมความกันได้ ถ้าไม่อยากเสียเวลาฟ้องร้องก็ลองเจรจากับผู้กระทำดูก่อน สิ่งสุดท้ายที่เธอไม่อยากจะให้เกิดขึ้นคือการสูญเสียงานและรายได้ เธอจีงเลิกล้มความคิดที่จะฟ้องร้อง เธอทำงานอย่างหวาดระแวง กลัวว่าเขาจะเรียกหาเธออีก
คุณจะเหมารวมรึเปล่าว่าผู้หญิงทุกคนที่ดูสนิทกับเขานั้นต้องเคยมีอะไรเกินเลยเพราะอยากจะไต่เต้าขึ้นสู่ทำเนียบคนดังในบริษัท
และคุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเรื่องราวปรากฏสู่สาธารณชนแล้วมีผู้คนมากมายกล่าวหาว่าคุณและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้ผู้กะทำผิดย่ามใจด้วยการนิ่งเงียบไม่กล้าพูดในเรื่องล่วงละเมิด ...
แปลกใจที่ล่าแม่มดพุ่งเป้าไปที่คนรอบข้างหมด เหมือนต้องการหาแพะมาเพิ่ม คนนั้นผิดนิด คนนี้ผิดหน่อย ประหลาดมากๆ
เป็นเรื่องที่แย่มากจริงๆ ค่ะ
อ่านแล้วหดหู่เพราะเหยื่อก็พูดไม่ได้ ถึงพูดไปก็ยากที่จะมีคนเชื่ออีก
คนกระทำก็ยังลอยหน้าลอยตา ฮึ่มมมม
ยิ่งเรื่องการล่าแม่มดยิ่งแล้วใหญ่ ด่ากราดไปหมดไม่สดว่าใครเกี่ยวข้องหรือไม่
รออ่านรัวๆๆๆ
อ่านแล้วหดหู่เพราะเหยื่อก็พูดไม่ได้ ถึงพูดไปก็ยากที่จะมีคนเชื่ออีก
คนกระทำก็ยังลอยหน้าลอยตา ฮึ่มมมม
ยิ่งเรื่องการล่าแม่มดยิ่งแล้วใหญ่ ด่ากราดไปหมดไม่สดว่าใครเกี่ยวข้องหรือไม่
รออ่านรัวๆๆๆ
ต้นเรื่องคือเธอคนนี้ค่ะ โซฟี ดิกซ์ วัย 48 ตอนที่เธอยังเป็นนางเอกสาวสะพรั่งก็ผ่าน casting ได้แสดงหนังกับโคลิน ซึ่งเป็นพระเอกเนื้อหอม เธอตื่นเต้นกับโอกาสที่ได้รับมากบวกกับความไร้ประสบการณ์ "ชั้นไม่เคยเจอพวกล่วงละเมิดผู้หญิงมาก่อน ชั้นไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ได้" เธอถูกโยนไปที่เตียงแล้วทึ้งเสื้อผ้าออก แต่ก็วิ่งหนีไปที่ห้องน้ำได้ แต่เมื่อตัดสินใจออกมาจากที่ซ่อนก็เผชิญหน้ากับฮาร์วีย์ ที่ยืนสำเร็จความใคร่อยู่ เธอซ่อนตัวในห้องน้ำต่อจนได้ยินเสียงรูมเซอร์วิส จึงได้โอกาสหนีเอาตัวรอดออกมาได้
เธอพยายามบอกเล่าเรื่องราวให้คนอื่นๆในวงการได้รับรู้ แต่ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาหลีกเลี่ยงจะยอมรับเรื่องนี้