[ Review ] เปิดกรุสกินแคร์ Laneige เท่าที่มีให้ใช้ เราก็ใช้เท่าที่มี

20 9

สวัสดีค่าา  วันนี้เมย์มาพร้อมกับ Laneige ที่กำลังใช้อยู่  และมีบางอย่างที่ใช้หมดไปแล้วค่ะ  อาจจะมีไม่เยอะมาก  แต่บางอย่างก็ยังไม่ค่อยเจอใครรีวิวเท่าไหร่  ขี้เกียจหารีวิวเลยมารีวิวเองซะเลย 55555  ไปค่ะ  เริ่มมม!!

1. Laneige Clear C Advanced Effector 92.5% Super Berry Extract

นางเป็นเอสเซนส์บำรุงผิวที่มีวิตามินซีเข้มข้นจาก Super Berry Extract ถึง 92.5% เลยนะจ๊าา  ตอนซื้อมาเค้าแถมสำลีมาให้ด้วยเพราะเค้ามีวิธีใช้โดยการหยดลงลำสีแล้วเช็ดหน้าค่ะ  แต่ว่าเมย์มีโทนเนอร์อยู่แล้ว (จริงๆ กลัวเปลือง 55555) ก็เลยเอานางมาทำเป็นน้ำตบแทนค่ะ  กลิ่นนางจะออกหอมหวานๆ มากกว่าออกแนวฟรุตตี้ (ที่คิดไว้)  เนื้อเหลวเหมือนน้ำเลยจ้าตัวนี้  ซึมเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะ  อยากตบหน้ากี่รอบก็ทำวนไปเลยค่ะตัวนี้ 555  เมย์ชอบหัวกดเอสเซ้นส์เค้ามากเลยนะ  กดง่ายและสามารถควบคุมปริมาณได้ง่ายเช่นกัน  ตัวนี้ใช้มาสักพักแล้วค่ะ  ค่อนข้างเห็นผลเร็วนะสำหรับตัวนี้  หน้ามันไม่ได้ขาวนะคะทุกคนนน  แต่หน้ากระจ่างใสค่า  หน้าตาเรามันดูสดใสแบบสุขภาพดี  ดูไม่โทรมเหมือนนอนครบ 8 ชั่วโมง 555  อย่าถามเรื่องความชุ่มชื้นนะคะเพราะนางไม่ได้ช่วยอะไรมาก  ส่วนเรื่องสีผิวสม่ำเสมอขึ้นก็นิดนึงนะสำหรับเมย์  แต่ก็ถือว่าพอใจกับตัวนี้เพราะเห็นผลเร็วสำหรับเมย์เลย  ระวังนิดนึงก็ตรงขวดนางนี่แหละจ้า  นางเป็นขวดแก้วที่ดูไฮและลูบๆ คลำๆ แล้วฟินมาก (ใครสาวกสีชมพูนี่ต้องยอมเลยยย)  สวยแค่ไหนแต่ถ้าร่วงแตกขึ้นมานี่ก็ไม่น่ารักเลยเด้อออ 55555

2. Laneige Clear C Peeling Serum

ตัวนี้เมย์ซื้อมาพร้อมกับเอสเซ้นส์ข้างบนค่ะ  กะว่าเอามาใช้คู่กันแล้วน่าจะเห็นผลเร็วขึ้น  ซึ่งก็จริง!!  ตัวนี้เป็นเซรั่มที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวด้วย AHA จากธรรมชาติ  ด้วยความคิดเราที่ว่าผลัดเซลล์ผิวไปด้วยพร้อมกับบำรุงด้วยวิตามินซี  มันต้องออกมาเริ่ด! 55555  ขวดจะออกแนวเดียวกับข้างบนเลยค่ะ  ขวดแก้วสีชมพูดูไฮเนื้อด้านๆ (ถ้าบอกว่าซื้อมาเพราะเห็นขวดจะผิดมั้ยง่ะ 55555)  เนื้อเซรั่มก็เป็นสีขาวขุ่นๆ  กลิ่นจะแอบมีกลิ่นเปรี้ยวจากผลไม้นิดๆ  เนื้อเกลี่ยง่ายมากก  กดมานิดเดียวแต่ก็ทาได้ทั่วหน้าแล้ว  ซึมเร็วด้วยนะ  ชอบตรงนี้ 555  เมย์ว่ามันเห็นเร็วขึ้นเพราะใช้คู่กับตัวบนแน่เลย  รู้สึกได้ถึงความเนียนของผิวและรูขุมขนดูเล็กลงนิดๆ  เผยผิวแบบใสๆ วัยรุ่นชอบเลย 555  ใครที่หวังจะความขาวจากตัวนี้ขอบอกเลยว่าอาจไม่เหมาะ  เพราะนางจะค่อยๆ ผลัดเซลล์ผิวไปเรื่อยๆ ให้ผิวเราดูสดใสเรียบเนียนแค่นั้น  แต่ถ้าใครที่เป็นคนขาวแบบเมย์แต่เจอปัญหาผิวหมองคล้ำไม่สดใสจะเหมาะมากกว่า  ด้วยความที่เมย์เป็นคนขาวอยู่แล้วแต่มันหมองๆ  ตัวนี้เลยช่วยให้ผิวดูมีออร่ามากกก  แบบว่าเผยความขาวของเราให้พุ่งกระจายออกไป 55555  

3. Laneige Water Sleeping Mask

ตัวนี้ซื้อมาใช้เป็นอย่างแรกเลยของลาเนจเพราะทนกระแสผิวอิ่มน้ำไม่ไหว 555  เมย์เป็นคนผิวผสมแต่ขาดน้ำค่ะเลยต้องเน้นสกินแคร์ที่ช่วยเติมน้ำและไม่เน้นพวกออยล์ (ผิวอุดตันง่าย)  ตัวนี้กลิ่นหอมสมคำร่ำลือมาก  หอมมากกกกก  ดมเช้าดมเย็นดมก่อนนอนเลยก็ว่าได้ 555  ได้กลิ่นแล้วมันผ่อนคลายมาก  เนื้อมาส์คจะเป็นเจลสีขาวขุ่น  พอเกลี่ยลงผิวแล้วจะแตกตัวได้ง่าย  ถ้าลงบนหน้าเยอะจะรู้สึกเหมือนมีน้ำเคลือบผิวอยู่เลยแหละ  เหมือนเพิ่งล้างหน้ามาหมาดๆ  บางวันเมย์ก็ทาบางๆ แทนไนท์ครีมไปเลย  แต่ถ้าวันไหนนอนดึกมากแล้วต้องตื่นเช้าไปเรียนก็โบกไปเลยจ้าา  ตื่นเช้ามาหน้าไม่มันแต่ดูอิ่มน้ำสุดดด  หน้าไม่โทรมเหมือนนอนมาเพียงพอ  มันทำให้การแต่งหน้าตอนเช้าเป็นไปด้วยความสะดวกสบายมาก 55555

4. Laneige Special Care Water Sleeping Mask #Lavender

หลังจากตัวบนหมดก็ซื้อตัวนี้มาต่อค่ะ  แล้วด้วยความที่อยากลองของใหม่ด้วยเนาะเลยเลือกกลิ่นนี้มา  แต่ทว่า...มันไม่เป็นไปตามที่หวังไว้  เพราะเมย์ไม่ชอบกลิ่นนางฉุนมาก 555  คือมันก็ออกลาเวนเดอร์แหละ  แต่เมย์ลืมไปว่าเมย์ไม่ชอบกลิ่นดอกไม้ 55555  แต่ถ้าเทียบๆ กันแล้วเมย์ว่ากลิ่นลาเวนเดอร์ฉุนกว่าเยอะเลยนะ  สูตรเดิมกลิ่นจะอ่อนและออกอโรม่ามากกว่า  ให้แฟนใช้ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน  ใครมีความคิดเห็นว่ายังไงบอกเมย์ด้วยนะว่ากลิ่นไหนหอมกว่ากัน 55555

5. Laneige Lip Sleeping Mask

ถามว่าลิปมันในห้องใช้หมดรึยัง  ฉันบอกเลยว่าไม่ 55555  ซื้อมาเพราะเมย์ชอบลาเนจมาตั้งแต่ Water Sleeping Mask แล้วล่ะ  พอเห็นว่าเค้าออก Lip Sleeping Mask มาก็เริ่มคิดว่าเฮ้ย  เราปากแห้งมากเลยนะ  ตอนกลางคืนก็ต้องโบกลิปมันหนาๆ ทุกคืนเลย  สุดท้ายก็เลยได้ตัวนี้มาเพราะกิเลสล้วนๆ เลยยย 55555  ตัวนี้เค้าแถมแปรงทาลิปที่ทำมาจากซิลิโคนนุ่มมาให้ด้วยนะเออ  เนื้อลิปเป็นสีชมพูเนื้อเนียนมาก  กลิ่นหอมเหมือนลูกอมรสเบอร์รี่เลย (กินแทนได้มั้ย 555)  ตอนแรกคิดว่าเนื้อจะเหนียวๆ เกาะปากแน่น  ผิดคาดจ้า  พอปาดลงปากปุ๊บเนื้อลิปจะละลายเคลือบปากเลย  ปากจะวาวมากกก  และจะไม่รู้สึกหนักปากหรือเหนียวที่ปากเลย  เนื้อลิปจะเกาะปากดีมากไม่ไหลเยิ้ม  แล้วใครที่เคยโบกลิปหนาๆ ก่อนนอนแล้วเป็นคราบจะไม่เจอปัญหากับตัวนี้เลยจ้า 555  ถ้าถามเรื่องความชุ่มชื้นก็ได้ผลดีในระดับนึงสำหรับเมย์  ตื่นเช้ามาก็ยังมีเหลือเคลือบปากอยู่ (คาดว่าที่หายไปเมย์จะกินไปตอนหลับ 555)  ปากไม่ได้นุ่มขนาดนั้น  แต่ปากไม่แห้งลอกก็โอเคอยู่นะเธออ 555  แต่ก็แปลกใจทำไมทาลิปแมทของ wet ‘n wild แล้วลิปอยู่ทนขึ้น  เอ้อดี 55555

หมดไปแล้วกับ Laneige เท่าที่เมย์มีให้ใช้นะคะ  ผิววัยยังไม่เกิน 25 ปีแบบเมย์ก็เน้นไปที่เติมความชุ่มชื้นและผิวกระจ่างใสไว้ก่อน  ยังไม่ค่อยมีปัญหาผิวอะไรมาก  ถ้าผิวชุ่มชื้นมากจนผิวแข็งแรงดีจะไม่มีปัญหาเรื่องสิวเลยอันนี้เมย์รับประกัน  เพราะแต่ก่อนเมย์เป็นคนที่สิวอุดตันขึ้นง่าย  วันดีคืนดีสิวอักเสบก็ถามหา  แต่พอเริ่มมาเน้นเติมความชุ่มชื้น (พักเรื่องขาวไว้ก่อน) ปรากฏว่าสิวอักเสบไม่ขึ้นเลย  ถ้าขึ้นก็ไม่เกิน 3 เม็ดต่อเดือน 555  ส่วนเรื่องสิวอุดตันหรอ  แทบจะหายลาจากหน้าไปเลย 555  ใครที่เล็งๆ ตัวไหนในนี้ไว้ก็ขอให้รีวิวเมย์ช่วยตัดสินใจนะคะ  อย่าลืมมาสลายกิเลสไปด้วยกัน 555

เจอกันครั้งหน้าค่ะXOXO


MayPannapat

MayPannapat

สวัสดีค่ะ ชื่อเมย์นะคะ
มีผิวผสม-ขาดน้ำค่าา
เมย์คลั่งไคล้ในสกินแคร์มากกกๆ
คอนเซ็ปท์ผิวเมย์คือ "ผิวดี อะไรก็ดี"
เป็นคนขี้เกียจใช้รองพื้นเพราะตื่นสาย
อะไรที่ทำให้ผิวสวยเลยก็ชอบสรรหามา

ชอบรีวิว skincares มากกว่า cosmetics ค่ะ

E-mail : pannapat2539@gmail.com

FULL PROFILE