ศึกประชันมาสก์มะเขือเทศในตำนาน !!

สวัสดีค่าาา ช่วงนี้ฤดูร้อน กำลังจะเข้าใกล้ฤดูร้อนมาก ประเทศเราจะมีแค่ 2 ฤดูเนี่ยแหละค่ะ เห็นแดดประเทศไทยแล้วเพลีย =.= เลยไปค้นหาวิธีต่อสู้กับแดดมา ค้นไปค้นมา อ๊ะ ! ไปเจอมะเขือเทศ ทุกคนคงรู้กันดีว่ามะเขือเทศทำให้ผิวสวย แต่จะให้อาร์กินก็ยากจังเลย ไม่ชอบกลิ่นมันง่ะ TT

แต่ ! อาร์มีวิธีที่ง่ายกว่านั้น ถ้ากินมันลำบากงั้นก็เอามามาร์คมันซะเลย 5555555 แต่จะให้เดินไปซื้อมะเขือเทศที่ตลาดมาฝานๆแล้วพอกหน้า ก็เสียเวลาอีกอะ เพราะฉะนั้น ไปค่ะ เซเว่น

เดินๆดูโซนพวกครีมซองๆ ก็ไปเจอมาร์คมะเขือเทศอยู่ 2 ตัว ไม่รอช้า สอยมาลองทันที อิ้อิ้

ตัวแรกเป็นของแบรนด์ tony moly

คุณสมบัติ : เค้าเคลมไว้ว่า เป็นสารสกัดจากมะเขือเทศและพืชพรรณธรรมชาติในสูตรเข้มข้น ช่วยบำรุงผิว แล้วก็มีผงไข่มุก และวิตามินบี 3 ที่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

ตัวที่สองเป็นของแบรนด์ smooto

คุณสมบัติ : ส่วนแบรนด์นี้เค้าบอกว่า เป็นมาร์คมะเขือเทศสด บำรุงผิวให้ดูสว่างกระจ่างใส อมชมพู หน้าไม่โทรม รูขุมขนกระชับ หน้าไม่มัน ผิวแลดูเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น (เค้าแอบบอกอีกว่า 1 ซองเทียบเท่ามะเขือเทศ 10 ลูก)

แหม่ คุณสมบัตินี่ไม่มีใครยอมใครเลยจ่ะ งี้ใครจะชนะล่ะเนี่ย

มาเริ่มยกที่ 1 ! : ราคา

Tony moly : 19 บาท ปริมาณ 3.5 กรัม

Smooto : 39 บาท ปริมาณ 10 กรัม

แต่ smooto เค้ามี 2 ซองอะ ถ้าแบ่งเป็นซองละ 5 กรัม ราคาหาร 2 ก็ตกซองละ 19.5 บาท ได้มากกว่า tony moly 1.5 กรัม

พอเถอะๆ เป็นคนโง่เลขมาก ถ้าให้คิดละเอียดกว่านี้วันนี้คงไม่เสร็จ แต่เวลาใช้ tony moly ใช้ได้ประมาณ 1 ครั้งครึ่ง (1 ครั้งกับอีกครึ่งหน้า) ส่วน smooto ใช้ได้ 2 ครั้งเต็มๆ งั้นยกนี้ให้ smooto ชนะละกัน 5555555

คะแนน : 0:1

ยกที่ 2 ! : สถานที่ซื้อ

หาซื้อได้ง่ายทั้งสองตัว มีทุกเซเว่น เอาเป็นว่า ยกนี้เสมอ

คะแนน : 1:1

ยกที่ 3 ! : แพคเกจ

ทั้งคู่มาในรูปแบบเป็นซองฉีกใช้เหมือนกัน ดีไซน์น่ารักพอๆกัน แต่ smooto แอบพับได้อยู่ตัวกว่า tony moly แหละแก เนื่องจากทั้ง 2 แบรนด์ 1 ซองใช้ได้ประมาณ 2 ครั้งพอๆกัน พอใช้ครั้งแรกเสร็จก็มีการพับซองเก็บนิดหน่อย เพราะกลัวฝุ่นละอองธุรีใดๆแทรกซึมเข้าไป ก็เลยต้องพับ เพราะฉะนั้น ยกนี้ smooto ชนะไปแบบงงๆ

คะแนน : 0:1

ยกที่ 4 ! : เนื้อมาร์ค

Tony moly : เป็นเนื้อมาร์คสีขาว ตอนเกลี่ยจะเหนียวๆหน่อย ทิ้งไว้ตามเวลาที่เค้าบอก 10 นาทีเนื้อมาร์คก็ไม่ได้เป็นแห้งๆแกร็กๆเหมือนมาร์คที่ขาวๆทั่วไปนะ คือดีย์ กลิ่นคล้ายๆครีมซิตร้าไข่มุกอะ ไม่ได้ออกไปทางผักผลไม้เท่าไหร่ หอมดี ดีแล้วที่ไม่ใช่กลิ่นมะเขือเทศ 555555 แต่ตอนล้างออกแอบมีติดอยู่ตามซอกรูขุมขนอะ ต้องใช้โทนเนอร์เช็ดออกอีกที ผิวหน้าจะออกหนืดๆขึ้นเล็กน้อย แต่รู้สึกว่าหน้าขาวขึ้นนะ

.

Smooto : เป็นเนื้อเจลสีส้มๆใสๆ เหมือนจะมีเม็ดๆอะไรอยู่ด้วย แต่พอเอามามาร์คหน้ามันก็หายไป (เหมือนมันแตกตัว) กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนสตรอเบอรี่ ตอนทาก็ลื่นๆดีทาง่ายกว่า tony moly ทิ้งไว้ 10 นาที เวลาแห้งหน้าจะเหนียวๆ แต่ตอนล้างออก เหยยยย คือหน้ามันเฟรชมาก สดชื่น ตอนทาครีมหน้าก็ดูนุ่มๆลื่นๆ

ยกนี้ให้ smooto ไปเต็มๆ

คะแนน : 0:1

ยกที่ 5 ! : ประสิทธิภาพ

Tony moly : ที่รู้สึกได้คือหน้าขาวขึ้น และหน้าดูนวลๆ อิ้อิ้ ดี๊ดีย์ แต่ไม่ชอบตรง ที่มันล้างไม่หมดอะ แอบแทรกซึมอยู่ตามรูขุมขน

Smooto : รูขุมขนกระชับอย่างเห็นได้ชัด หน้าดูชุ่มชื้น คนละแนวกับ tony moly อันนั้นเค้าจะดูนวลๆแมทๆ ดีคนละแบบ ขาวขึ้นนิดหน่อย

เทียบให้เห็น after ทั้ง 2 แบรนด์

ความสว่างกระจ่างใส : ใช้แล้วหน้าสว่างกระจ่างใสขึ้นทั้งคู่ แต่ smooto แอบใสกว่าเล็กน้อย

รูขุมขนกระชับ : ที่เห็นได้ชัดเลยคือรูขุมขน แบรนด์ smooto กินขาดเลยจ่ะ

ควบคุมความมัน : ลองสังเกตหลังจากใช้ไปซักอาทิตย์นึง tony moly เค้าแอบลดความมันได้มากกว่า smooto นิดนึงนะ

ผิวแพ้ง่าย : อ๊ะ ! สำหรับคนผิว sensitive smooto จะมียิบๆตรงข้างจมูกนิดหน่อยนะ ส่วน tony moly ไม่เป็น แต่ล้างไม่ออกแทน 555555 (สังเกตจากซอกจมูกฝั่ง tony moly)

ความชุ่มชื้น : ฝั่ง smooto ได้ไปเลย หน้านุ่มขึ้น ตอนทาครีมแล้วหน้าลื่นๆแบบสัมผัสได้เลย หน้าเด้งๆดี ช๊อบชอบ ><

คะแนน : 2:3

มาสรุปกันเลยละกัน

ศึกประชันครั้งนี้ ผู้ชนะได้แก่ !!!!!!!!!

Smooto !!! เป็นมาร์คมะเขือเทศในตำนานที่แท้จริง

หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆที่กำลังจะเลือกซื้อหรือดูแลตัวเองอยู่นะคะ ส่วนใครชอบแบบไหน ก็ไปสอยตามกันเล้ยย ! เจอกันใหม่กระทู้หน้าน้าา บ๊ายบายยย

Discussion (7)