[Review] แป้งผสมรองพื้น ตั้งแต่ Hi-end ยัน Low-end บอกเลยว่าเริศ

86 25

สวัสดีค่า วันนี้จอยจะมารีวิวสารพัด “แป้งตลับ” กันจอยเป็นคนที่บริโภคแป้งตลับ มากกว่ารองพื้น โดยเฉพาะตลับแป้งจำพวกผสมรองพื้นนี่แหละเพราะรู้สึกว่ามันใช้ง่าย ประหยัดเวลา ไม่ต้องมาคอยเกลี่ย แถมไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหน่ะ

มาดูผู้ท้าชิงทั้งหลายกัน จอยเลือกมา 6 ตลับ ได้แก่

1. Cezanne UV Foundation EX Plus EX1 cream beige2. Dior snow white reveal pure transparency spf 30 pa+++ สี 0203. Chanel double perfection lumière 22 beige rose4. Chao Nang perfect bright UV 2 way power foundation SPF20/PA+++ สี 01 ผิวขาว5. M.A.C mineralize skinfinish natural - light plus6. Jill Stuart Fluffy Silk Powder Foundation -  101 linen

อธิบายโทนสีผิวที่จอยมักจะเลือกใช้กันก่อน คือจอยผิวค่อนข้างขาว ใช้แป้งได้ทั้งโทนชมพูและเหลือง แต่จะออกไปในทางเหลืองมากกว่านิดหน่อยผิวแห้ง เป็นขุยบางจุด เช่นปีกจมูก และหน้าจะมันช่วงทีโซน (หรือผิวผสมนั่นเอง)มีรอยแดง และจุดด่างดำบ้างเล็กน้อย ต้องการการปกปิดพอสมควร

มาดูกันที่แป้งตัวแรกเลย

Cezanne UV Foundation EX Plus - EX1 cream beige(11g/ 420baht - refill 330baht)

เป็นแป้งที่หยิบบ่อยสุดๆ มาจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นแป้งสิ้นคิด คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะเลือกแป้งอะไร ก็หยิบตัวนี่ขึ้นมาปัดทุกที เพราะปัดกี่ครั้งก็รอดทุกครั้งสวยงามเนียนกริบ ปกปิดได้ดี สามารถกดย้ำๆในจุดที่ต้องการปกปิดได้ จอยชอบเอามากดซ้ำๆ บนผิวที่มีรอยแดง คือปกปิดได้สนิท โดยไม่รู้สึกหนาหนัก ได้ลุคแมตเวลาผ่านไปซัก 3-4 ชม หน้าก็จะเริ่มฉ่ำวาว โดยที่ไม่เป็นคราบ อาจจะมีคราบเล็กน้อย ถ้าเราเผลอไปถูหรือเกาหน้า หรือใส่แว่นตากันแดด (ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าคงไม่ค่อยได้คุมมันมากเท่าไหร่)แป้งถูกและดี มีในโลกจริงๆ ยกให้ญี่ปุ่นเขาเลยค่ะ

Dior snow white reveal pure transparency spf 30 pa+++ สี 020(9g/ ไม่แน่ใจราคา ประมาณ 2,450baht)

ส่วนตลับนี้ เรียกได้ว่าตลับพกพา คืออยู่ติดกระเป๋าจอยไปทุกๆที ที่จอยชอบเอามาติดกระเป๋า เพราะแป้งตัวนี้จอยหยิบขึ้นมาเติมระหว่างวันได้ไม่เป็นคราบมีระดับความปกปิดพอสมควร (เวลาร้องไห้แล้วจมูกแดง ชอบเอาขึ้นมาโบ๊ะจมูก ปิดกริบค่ะ)ปาดหนักๆ ก็หนานิดหน่อย ขาวด้วย snow สมชื่อ แป้งค่อนข้างแมต ไม่มันวาวค่ะพอแป้งเซ็ตเข้ากับผิวแล้ว ผิวจะสวยมากกกกก เนื้อแป้งนุ่มมากกก เป็นสัมผัสที่ฟินสุดๆ พัฟที่มากับตลับก็คุณภาพดีมากๆ นุ่มกำมะหยี่ ดีงามตลับสวย ดูดี เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ชอบพกไปด้วยไปไหนมาไหน

Chanel double perfection lumière 22 beige rose(13g/ ไม่แน่ใจราคา ประมาณ 2,550baht)

ช่วงแรกๆไม่กล้าใช้ค่ะ เห่อมากกกกก ตัวนี้จอยไปสอยมาจากอเมริกาตอนบินไปเที่ยวอยากบอกว่า สีแป้งตอนปาดเทสบนแขนคือหลอกมาก ปาดไปเห็นว่าขาวแล้ว เลยจัดสีนี้มาสรุป พอได้ลองกับผิวหน้าเท่านั้นแหละ อีตอนโบกช่วงเช้าก็สวยวิ้งอยู่ แต่พอตกบ่ายๆเท่านั้นนี่ไปอาบแดดมาที่ไหน ? เมื่อไหร่? คือยกแขนขึ้นมาเทียบหน้านี่จะเป็นลม นึกว่าราหูอมหน้าสีดรอปลงไปมากกกก แต่ผิวสวยมากเลยนะ สวยฉ่ำ เนียน แค่สีผิดเบอร์ไม่คราบ ไม่เยิ้ม แป้งเนื้อเนียนนุ่ม ละเอียดม๊ากกก แพกเก็จจิ้งสวยงามหรูหรา สมราคาไม่ค่อยปกปิด บางเบา จอยว่าน่าจะเหมาะกับคนผิวดีๆที่ต้องการเพิ่มความกระจ่างใส หรือซับความมันจากครีมบำรุงหรือรองพื้น ให้หน้าสวยๆเนียนๆ กำลังดี

สรุปอีนี่ต้องไปหารีฟิลสีใหม่มา replace T^Tใครที่จะซื้อแป้งเคาเตอร์แบรนด์ ลองให้BAเขาลงที่หน้านะคะ จะได้ไม่เจ็บช้ำเนอะ

Chao Nang perfect bright UV 2 way power foundation SPF20/PA+++ สี 01 ผิวขาว(10g/ 399baht)

เป็นแป้งที่เข้ามาเบียดตำแหน่ง Cezanne จนสั่นสะเทือน ตัวนี้เนียนนัวมากกกกก ช่วงหลังๆเลยหยิบมาปัดบ่อยใครที่มองหาแป้งที่ปัดแล้วหน้านวลเนียน จอยขอแนะนำตัวนี้เลย เนียนมากจริงๆคือเนียนและให้การปกปิดได้ดี แต่ไม่แนะนำให้ปาดเยอะ เพราะจะดูหนา ไม่ค่อยธรรมชาติส่วนตัวแล้วปัดด้วยแปรงพุ่มใหญ่ๆ ทั่วหน้า คือได้ลุคสวยมากกก ฟินมากข้อเสียคือมีสีให้เลือกน้อยไปหน่อย จอยว่าขาวแล้ว ใช้เบอร์ 01 ผิวขาว ยังรู้สึกว่าวอกไปหน่อยนึงถ้าปัดเยอะส่วนสี  02 ก็เข้มไปหน่อย แถมออกเหลือง ปัดร่วมกันสองสีถึงพอดีๆสำหรับจอยแป้งแมต ไม่ฉ่ำวาว แต่ผ่านไปซัก 3-4 ชม หน้าเริ่มมัน ฉ่ำวาวกำลังดี ไม่เป็นคราบสามารถใช้ได้ทั้งแบบแห้ง และแบบเปียก (เอาฟองน้ำชุบน้ำบิดหมายๆแล้วแท้บแป้งขึ้นมา ซึ่งจะได้ความปกปิดมากกว่า)ราคาไม่แรงมาก คุณภาพเกินราคา แถมเป็นแป้งของคนไทยเรานี่เอง

M.A.C mineralize skinfinish natural - light plus(10g/ 1,350baht)

แป้งในตำนาน ที่ฮิตติดลมบนมาอยู่ช่วงนึง จอยใช้มาตั้งแต่ช่วงม.ปลายๆ จนเข้ามหาลัยไม่ปกปิดมาก เน้นผิวที่สวยฉ่ำเบาๆ สุขภาพดี ปัดแล้วคือทุกคนทักว่า ผิวดีจังเลย (ชนะ)ใครที่ไม่ชอบผิวฉ่ำอาจจะต้องหลีกเลี่ยง พยายามเลือกซื้อแป้งเบอร์ที่สว่างกว่าผิวซักเฉดถึงสองเฉดเพราะสีจะดรอปลงมาเล็กน้อยละหว่างวัน ซึ่งแป้งดูขาว แต่พอเซตเข้าผิวแล้วจะไม่ออกสีมากนักได้ลุคหน้าสว่างใส ไบรท์ขึ้น ฉ่ำขึ้น บอกเลยว่าสุขภาพดีสุดๆหรือจะใช้ตัวนี้ ปัดทั่วใบหน้าเป็น finishing ก็ได้ ข้อเสียคือไม่ค่อยเหมาะกับการพกพาไม่มีกระจก ไม่มีแปรง และตลับใหม่เปิดฝายากง่ะ

Jill Stuart Fluffy Silk Powder Foundation -  101 linen(11g/ HK$ 420 หรือประมาณ 1,900baht)

แป้งเจ้าหญิง หยิบตลับแป้งขึ้นมาใช้ทีนี่นึกว่าตัวเองเป็นราพันเซล เดี๋ยวๆๆ สวยอะไรเบอร์นี้เนื้อแป้งนุ่มลื่นและละเอียดมากกกก (แพงมากเช่นกัน) แต่ตัวนี้จอยรู้สึกว่าปัดแล้วค่อนข้างหนาปกปิดได้ดี แต่ไม่ค่อยธรรมชาติ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้แล้วฟินทุกทีพัฟที่ให้มาก็น่ารักและนุ่มละมุนมากๆ แต่สรุปคือไม่ค่อยได้ใช้ ใช้แปรงปัดซะมากกว่าถ้าใช้แปรงปัด จะได้ลุคที่บางเบากว่า หน้าเรียบเนียน (แต่ปกปิดไม่มาก) สวยกำลังดี ความติดทนพอสมควร ผ่านไปซักพักก็หน้าเริ่มมันช่วงทีโซน ส่วนตัวแล้วไม่มีอะไรที่ประทับใจโดดเด่น นอกจากกลิ่นและแพกเกจจิ้งแต่ตัวนี้เป็นตัวที่ยังลองไม่บ่อยเท่าตัวอื่น เพราะไม่ค่อยกล้าหยิบขึ้นมาใช้ (กลัวสึกหรอ 555)

เมื่อลองปาดสีมาเทียบกันดู

เจ็บปวดมากกก ดูสีของแป้ง chanel คือพอดีผิวมากกกกแต่พอมันเซตเข้ากับผิวหน้าเท่านั้นแหละ ผิวแทนไปเลยจ้าาใครที่ผิวประมาณจอย NC20 ก็ลองเทียบสีดูได้เบย

หมดแล๊วววววหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาแป้งตลับอยู่นะคะใครใช้ตัวไหนแล้วชอบ หรืออยากเสนอแนะเพิ่มเติมก็มาแชร์กันได้เลยน้าแล้วพบกัยใหม่บทความหน้าค่ะLove Berry Joyjee ‘blog


lovel3erry

lovel3erry

┏┓♡♡┏━━┓┏┓┏┓┏♡━┓
┃┃♡♡┃┏┓┃┃┃┃┃┃♡━┫
┃♡♡┓┃┗┛┃┃┗┛┃┃♡━┫
♡━♡┛ ┗━━┛ ┗━┛ ┗━♡┛

ติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆ ได้ทาง fanpage facebook นะคะ
https://www.facebook.com/LoveBerryBlog
www.loveberryjoyjee.com

FULL PROFILE