"ฮ่องกง" หยุด 3 วัน กำเงิน 5,000 ไปลันช์มิชลินราคาถูก

ฮ่ อ ง ก ง ค รั้ ง ที่  4ครั้งนี้เราไปแบบไม่ธรรมดา เพราะราคาถูกจนคนไปก็งงเหมือนกัน สรุปยอดประมาณ 5,000 บาท ไปยังไงทำยังไงมาดูกัน ...

ทริปนี้เกิดจากโปร แอร์เอเชีย Final Call ไม่ใช่โปรบิน 0 บาท เพราะถูกกว่าโปร 0 บาทไปอีก กี้ได้ตั๋วมาพร้อมที่พัก 1 คืนในย่าน "มงก๊ก" ราคา 1,850 บาท ที่จริงก็เพิ่งไปฮ่องกงมาแต่ถูกขนาดนี้ไปอีกทีก็ได้ จองตั๋วล่วงหน้าประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วทริป 3 วัน 2 คืน ก็เริ่มขึ้น ...

------------- Hello Day 1 ---------------

ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองอันเลื่องชื่อ ตั้งแต่เย็นวันพฤหัส กำหนดการถึงฮ่องกงตอน 21.30 น. (เวลาฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) ใช้เวลาบิน 2.30 ชั่วโมง เครื่องโคลงไปมาจนใจสั่น พายุฝนเล่นฉันตั้งแต่ดอนเมือง แต่ก็ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยอากาศฮ่องกงสดใสเหลือเชื่อ ทั้งที่พยากรณ์อากาศบอกฝนจะตกทุกวันที่ฉันไป

สนามบินฮ่องกงมีรถไฟวิ่งไปมาส่งผู้โดยสารในสนามบินถือเป็นสิ่งที่ไทยเราไม่มี ความสุขขีมีนิดหน่อยที่ได้ขึ้น ไม่นานก็ผ่าน ตม. มาอย่างสวยๆ ด้วยวงสวิงเต็มร้อยคะแนน ทริปนี้ฉันเป็น Backpacker เพราะฉะนั้นไม่ต้องรอสิ่งใดแบกกระเป๋าไปค่ะ

พุ่งตัวขึ้นรถไปที่พัก A21 ผ่านมงก๊ก รีบวิ่งไปสิงที่นั่งหน้าสุดชั้น 2 เพราะเราจะเห็นวิวเมืองแบบชัด (ให้เลือกที่นั่งด้านซ้าย เพราะจะกว้างกว่า) เข้าเมืองด้วยวิธีนี้เป็นราคาที่ถูกสุดเท่าที่รู้ 33 $HK กับเวลา 1 ชั่วโมง

ถึ ง แ ล้ ว M o n g K o k !!ย่านช็อปปิ้งชื่อดังที่มีร้านรองเท้าเยอะมากกกกกก และยังเป็นที่ตั้งของ Lady market ที่ไม่ว่าใครไปฮ่องกงก็ต้องไม่พลาด แต่ถ้าไปเดินตลาดนี่แล้วครั้งนึงไม่ต้องไปอีกก็ได้ เพราะอะไรไม่บอกให้มาเดินเอง

ใครมาครั้งแรกอาจมีอาการงงนิดหน่อยกับการหาที่พักราคาถูกที่ทำการจองมา เพราะว่าซ่อนตัวอยู่ในตึกเก่าทั้งย่านมงก๊กและจิมซาจุ่ย เปิด GPS เดินตามไปโล๊ดใครมาเสนอห้องอย่าไปสนใจ เพราะจะโดนฟันค่านายหน้าเยอะมาก ห้องก็ไม่ดีส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนดำระวังให้ดีนะคะ สิ่งที่ต้องรู้คือ Reception อยู่ชั้นไหน ลิฟท์ที่นี่ส่วนใหญ่จะแบ่งชั้นคู่คี่กัน ตอนขึ้นก็เลือกให้ถูกฝั่ง

ครั้งนี้เราพักที่ Apple inn Mong Kok (รวมในตั๋วเครื่องบินมาแล้ว) โดยรวมคือประทับใจกับที่พักนี้ราคา 300 บาท เป็นห้องแบบ Mix Dormitoryy 6 Beds with Shared Bathroom มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน น้ำเปล่า เครื่องซักผ้าอบผ้า รีดผ้า ไวไฟ ปลั๊กไฟ มีให้ที่เตียงพร้อมกับตู้ใส่ของที่ต้องเอากุญแจล็อกไปเอง ถือเป็น Hostel ดีๆ ในฮ่องกงที่ระดับราคานี้

เช็คอินเรียบร้อย เราได้ห้องพักที่อยู่คนละชั้นกับที่เช็คอิน เอากระเป๋าไปวางพร้อมกับออกตามหาของกิน เพราะตอนนี้ 23.30 น. แล้วดึกสุดพลัง

เจอร้านอาหารไต้หวันเคยกินแล้วครั้งนึง รสชาติโอเค จัดไปค่าาาข้าวหน้าหมูสามชั้นต้มพะโล้(ไม่มีอะไรมากกว่านั้น) ให้ผ่านในราคา 49 $HK = 230 บาท แล้วต่อกับร้านลูกชิ้นแถวๆ นั้น 2 ไม้ 100 บาท เลี่ยนมากกก อย่ากิน

------------- That's it Day 1 ---------------

------------- Hello Day 2 ---------------

วันนี้ฝนไม่ตก หลังจากที่คิดมาตลอดว่าทริปนี้เรามาสร้างซีรีส์อะไรดี เมื่อคืนก็ตกตะกอนความคิดว่าฉันจะพิชิตมิชลินสตาร์ข้าวหน้าเป็ด ข้าวหน้าห่าน ข้าวหมูแดง อะไรแนวนี้ ได้รายชื่อมา 5 ร้าน ด้านดีคือราคาถูก บางร้านได้ดาวการันตีบางร้านแค่แนะนำว่าต้องไปชิม กะว่าจะตามไปให้ครบ ได้แก่ Yat Lok , Sun Yuen Hing Kee , Kam’s Roast Goose , Joy Hing , Po Kee

เช้านี้รับอะไรดีคะ "โจ๊กสีม่วง Ocean Empire" เจ้าดังที่ไม่ค่อยถูกใจนักอยู่ใกล้ที่พักเลยต้องไปลอง ด้วยความที่ไปคนเดียวเลยได้ไปแชร์โต๊ะกับคนอื่น

ก็เลยพูดคุยกันนิดหน่อยเขาเป็นคนอเมริกาที่ชอบกินทุเรียน ประเด็นเช้านี้เลยกลายเป็นเรื่องทุเรียนและราคาในประเทศต่างๆ ที่สำคัญคือเขาทักว่า ยังเรียนอยู่ทำไมมาคนเดียว ? นี่ก็บอกว่าเปล่านี่ทำงานแล้วนะ 2 ปีแล้วนะ ฮ่าาๆ หน้าเด็กไปอี๊กกกกก

สรุปเรื่องโจ๊ก ร้านนี้ไม่ถูกใจ ถ้ายังไงก็ไม่ต้องมาลองราคา 39 $HK แพงกว่าร้านโลคอลทั่วไป

"ฮ่องกง" เดือนมิถุนา เขาว่าอากาศร้อนและฝนตก #HKintherainandi

ไปฮ่องกงเบื่อกระเป๋า เบื่อรองเท้า เบื่อแบรนด์เนม ขอให้ไปตามหาของน่ารักน่าซื้อที่ร้าน MINI SO ราคาดีงามเป็นมิตรมาก 

ถึ ง แ ล้ ว T s i m  s h a  T s u i !!ย่านที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเพราะว่าร้านขายของต่างๆ เยอะมากทั้งแบรนด์เนมและเครื่องสำอางต่างๆ แถมยังเป็นที่รวมของแลนด์มาร์คชื่อดังของฮ่องกงไม่ว่าจะเป็น Avenue of Stars , Hong Kong space Museum , Hong Kong Museum Of Art , Symphony of Lights

แผนมิชลินมาแล้วแต่วันนี้เราจะย้ายที่นอนกันก่อน (ตึกขวามือในภาพ) ที่พักใหม่ชื่อ Kowloon New Hostel กับห้องแบบ single room ราคา 430 บาท ใช้สิทธิ์ priority ของ booking เช็คอินก่อนเวลา 2 ชั่วโมง เท่ากับว่าเข้าที่พักได้ตอนเที่ยง ห้องพักที่นี่โอเคเลย สะอาดในระดับที่พอใจกับราคานี้มีห้องน้ำในตัว แต่ไม่มีผ้าเช็ดตัว สบู่ยาสระผมใดๆ

ระหว่างนั้นก็เลยเดินเล่นมาเรื่อยๆ จากมงก๊ก ถึง จิมซาจุ่ย ก็เพลินดีค่ะ เพราะกระเป๋าที่เอามาก็ไม่ได้หนักมากแค่ 3 กิโลกรัม และสุดท้ายก็ไปนั่งอ้อยอิ่งทิ้งเวลาที่สตาร์บัค สาขาที่ประจำคือห้าง iSquare วิวดี วิวสูง ไปลองค่ะ

ปล. ความรู้ที่ได้รู้เกี่ยวกับ Starbucks ปกติกินวนิลาคาปูเย็น วันนี้พิศดารสั่ง Coffee of the day ด้วยความสงสัยคืออะไรกันแน่ สั่งเย็นด้วยอะไรด้วย พนักงานถามย้ำ 2 ครั้งว่าเอาเย็นจริงหรอ เยสสสสสส ทั้งที่จริงแล้ว Coffe of the day จะเป็น Brewed coffee หรือก็คือกาแฟต้ม เพราะฉะนั้นกินร้อนดูจะเวิร์คกว่า เพราะว่ากินเย็นแล้วเปรี้ยวมากนึกว่าน้ำมะนาว โอเคนะคะทุกคน

ข้ามฝั่งกันดีกว่าตอนนี้บ่ายโมงแล้วจ้า ข้ามฝั่งแบบราคาถูกสุดๆ โดยใช้เรือที่ Star Ferry จาก Tsim Sha Tsui ไป Central ราคา 2 $HK ที่บอกกันว่ามาฮ่องกงๆ แต่ถ้าใครไม่ข้ามฝั่งไปเอาแต่หมกตัวอยู่ฝั่ง Kowloon ก็ถือว่ามาไม่ถึงนะคะ

ถึ ง แ ล้ ว C e n t r a l !!ย่านนี้ถือเป็นจุดที่รวมทุกสิ่งของฮ่องกงไว้รถไฟฟ้าก็มาเปลี่ยนสถานีกันที่นี่ สถานีใต้ดินคือใหญ่มาก มีห้าง ifc Mall มีร้านอาหารชื่อดัง รวมสินค้าแบรนด์เนม ย่านเที่ยวกลางคืนที่ใครๆ ก็ต้องมาลอง Lan Kwai Fong ตึกธุรกิจ ครบจริงๆ ค่ะย่านนี้

โปรแกรมฝั่งนี้คือ ไปซื้อ Apple TV Gen4 ที่ราคาถูกกว่าไทย 3,500 บาท จากนั้นไปกินร้านมิชลินราคาถูกคือ Yat  Lok และ Sun Yuen Hing Kee เพราะไม่ไกลกันมาก แล้วก็ไป Po Ho ย่าน Hipster ของฮ่องกงกันต่อ ถ้าเวลาเหลือก็นั่งรถรางเล่น

สาวก Apple อย่าพลาดไปลองของที่ Apple Store สาขานี้นะ ยิ่งใหญ่น่าใช้น่าลอง 

สรุปผลการกิน ข้าวหน้าห่านและข้าวหมูแดงจากทั้งสองร้าน

Yat Lok เค็มไป ข้าวคุณภาพเฉยๆ ราคาจานละ 49 $HK กินทั้งหมูแดงและห่าน ไม่ให้ผ่านค่ะ คือกินได้แต่ไม่จำเป็นต้องตามหา ร้านนี้ลองเป็นร้านแรกสั่ง 2 จานเกือบจะกินร้านต่อไปไม่ไหว

    กีกี้สตาร์ 3/5 ดาว    

Sun Yuen Hing Kee ราคาถูกมาก 31 หรือ 39 นี่แหละ แต่รสชาติก็เฉยๆ

    กีกี้สตาร์ 2.5/5 ดาว    

เจอ 2 ร้านนี้เข้าไปถึงขั้นยกเลิกภารกิจตามหามิชลิน เพราะร้านอื่นก็เริ่มต้องออกนอกเส้นทาง ไม่คุ้มเท่าไหร่ เอาเวลาไปเดินเที่ยวดีกว่า ลาก่อนมิชลินสตาร์เพราะว่าไม่ได้ตามหวัง

เดินต่อมาไม่นานก็ถึงย่าน Po Ho ที่ย่อมาจาก Po Hing Fong ย่านสุดชิคที่ไม่ว่าวัยรุ่นฮ่องกงหรือวัยรุ่นต่างชาติก็ถูกอกถูกใจ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยร้านคาเฟ่น่ารักมากมายที่บรรจงใส่ไอเดียลงไปอย่างเต็มที่ แบบไม่มีใครยอมใคร มาฮ่องกงครั้งหน้าขอบอกว่าห้ามพลาด !!

ร้าน Oldish นี่คือแนะนำว่าต้องไปลอง บรรยากาศดีวิธีพรีเซ้นต์เริ่ด !!

เดินเล่นที่ Po Ho จนเหนื่อยได้เวลาไปทำตัวชิลมองฮ่องกงจะมุมสูงกันบ้าง กระโดดขึ้นรถรางกันเลยยยย !!

หนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือไปนั่งรถรางเล่น ทั้งเก๋ทั้งคลาสสิค รถรางที่นี่ราคาเพียง 2.20 $HK หรือประมาณ 10 บาท นั่งจากต้นสายไปสุดสายก็ราคานี้ ดีงาม แต่ติดอยู่ที่ช้าไปหน่อย แต่ถ้าหากเราไม่ได้รีบไปไหน การมองวิถีชีวิตคนฮ่องกงจากรถรางชั้น 2 ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมสุดชิคมากกก ห้ามพลาด !! 

วันนี้เลือกรถรางสาย North Point นั่งจนเกือบสุดสายรถรางก็มาตีโค้งแถวๆ ตลาดสดของคนฮ่องกง มีความบันเทิงอยู่ไม่น้อย โดยรวมสภาพแถวนี้มีความเรียลสูงมาก นักท่องเที่ยวน่าจะน้อย ถ้าหากว่างๆ มาลองเดินเล่นหาอะไรกินแถวนี้ก็น่าจะเวิร์ค

สำรวจย่าน North Point กันจนเมื่อย เอาจริงๆ วันนี้เหนื่อยมาก ขอพุ่งตัวไปใช้บริการ MTR กลับที่พักโดยด่วน North Point - Mong Kok 12.5 $HK แล้วคืนนั้นก็ยุ่งวุ่นวายอยู่แถวมงก๊กกับการตามหาสินค้าน่าซื้อคือรองเท้าแบรนด์ต่างๆ

คนจีนนี่ชอบกินทุเรียนมากจริงๆ

------------- That's it Day 2 ---------------

------------- Hello Day 3 ---------------

วันนี้จะกลับแล้ว !! เร็วไหมล่าาาาาาา ฝนตกด้วยอะไรด้วยตอนเช้าตกหนักสุดไปหยุดตอนเกือบเที่ยง

มีบิน 3 ทุ่ม เพราะฉะนั้นตื่นสายๆ โปรแกรมคือกินข้าวหมูแดงอีก 1 ร้าน ไปดู HK Space Museum , แวะไปโฉบ Avenue of Stars แล้วก็ข้ามฝั่งไปนั่งรถรางเล่นสู่เมืองสุดเลิฟ Kennedy Town

ร้าน 香港仔燒味牛什．魚蛋粉麵 

ข้าวหมูแดงร้านนี้คือชอบสุดอยู่หลังห้าง The One ราคาจานละ 49 $HK ดีงามหมูนุ่มหวานกำลังดีแอร้ยยยฟินน

    กีกี้สตาร์ 4.5/5 ดาว    

กินเสร็จก็ไปจัดวนิลลาคาปูเย็นจาก Starbucks 38 $HK อีกแก้วก่อนจะเริ่มออกเดินทาง วันนี้แบกกระเป๋าทั้งวันสวยๆ ตอนมา 3 กิโลกรัม ตอนกลับนี่ประมาณ 10 กิโล ฮึ่บบบ !!

Avenue of Stars เขาย้ายที่แล้วนะ ไปอยู่บนสวนลอยฟ้าดูไม่ชิคเหมือนเก่า สำหรับเราไม่ค่อยโอเค  

เสร็จจากทาบรอยมือกับเจ็ทลี ไปต่อกันที่ HK Space Museum ไปถึงประมาณบ่ายโมงมีรอบฉายหนังดาวดวงอีกทีบ่ายสองครึ่งเลยไม่รอดีกว่า

พระอาจารย์ทรงฤทธาก็ลอยมาประจำการที่ฮ่องกง ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก !!

นั่งเรือข้ามฝากอีกครั้งสนุกดี กิจกรรมนี้ก็ชอบบบบบ วันนี้เรือแอบโคลงแรงนิดนึง ฟ้ายังคงไม่ค่อยสดใส แต่อากาศนี่ร้อนเต็มที่เหงื่อไหลถึงไหนๆ กันทีเดียว

ขึ้นรถรางอีกครั้งนั่งจนสุดสาย Kennedy Town ก็จะถึงย่านที่เต็มไปด้วยคาเฟ่เก๋ๆ ชิลๆ น่าปล่อยทิ้งอารมณ์ จิบกาแฟแลดูผู้คนผ่านไปมา โอ้ยยชีวิตจะดีอะไรเบอร์นี้ เพราะฉะนั้นขอบอกเลยว่าที่นี่ห้ามพลาด

เอาจริงๆ ถ้าให้เลือก Po Ho กับ Kennedy Town ตอบเลยแบบไม่ต้องคิด Kennedy Town !! 

เดินเลือกร้านไปมาอยู่นานก็ตกลงปลงใจ นั่งจิบไวน์แดงเก๋ๆ รอขึ้นเครื่องที่ร้าน Japas ราคาไม่แรงไวน์แดงแค่ 180 บาท อาหารก็เก๋กู๊ดดดดแต่พอดีสั่งอาหารไว้แล้วบนเครื่องก็เลยไม่ได้ลอง แต่จากการแอบมองโต๊ะฝรั่งด้านข้างนี่คือ ดี !! น่ากินเว่อร์

นั่งที่ร้านนี้จนเกือบหกโมงเย็นก็ได้เวลาวิ่งขึ้นรถ A10 ราคา 44 $HK ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน chek lap kok เตรียมพร้อมเช็คอินมาแล้ว กระเป๋าไม่โหลดเช่นเคย

เดินไปเดินมาก็เข้า plaza premium lounge hong kong บริการดีงามมากมีทั้งฝั่ง Arrival Hall และ Departure Hall เลือกเข้าได้ตามสะดวก อาหารดีงามและอร่อยจัดไปเน้นๆ ลืมข้าวที่สั่งไว้บนเครื่องกันเลยทีเดียว

Trip Budget 4,730 Bath

Flight + Hotel (Dorm) 1 night 1,850 Bath

Hotel New Kowloon 1 Night (Single Room) 430 Bath

Airport Bus Round trip 350 Bath

Food+ Drink 2,000 Bath

Transport 100 Bath

เครื่องดีเลย์ประมาณ 1 ชั่วโมง บินถึงดอนเมืองเกือบๆ เที่ยงคืนเป็นอันจบทริปฮ่องกงแบบ Solo เน้นเดินเล่นไปเรื่อยๆ ไม่ได้ไป Landmark สำคัญ เพราะว่าไปมาเกือบหมดแล้ว

---------------------------------

สวัสดี HongKong