รีวิว รองพื้นเทพ ใหม่ล่าสุด 3 แบรนด์ดัง Cle De Peau/Chanel/Dior

สวัสดีค่าา หลังจากเป็นพวกที่ตามอ่านรีวิวอย่างเดียวมานานหลายปี ในที่สุดก็ได้มาเขียนกระทู้รีวิวของตัวเองจริงๆซักที :D

รองพื้นที่นำมารีวิวทั้งหมด ไม่ได้รับการสปอนเซ่อร์ใดๆนะคะ ซื้อใช้เอง กินแกลบเองล้วนๆค่ะ -..-

ภาพข้างล่างนี้เป็นหน้าตาหลังจากแกะออกจากกล่องมาแล้วนะคะ

แพ็กเกตจิ้งก็สวยงามตามท้องเรื่อง 555 ตัว Dior นี่วัสดุดูเลอค่าสุดแล้วค่ะใน 3 ตัวนี้ เป็นขวดแก้วขุ่นๆ แต่อีก 2 ตัว จะเป็นพลาสติก มีความรู้สึกว่า ถ้าทำตัว Cle De Peau ตกนี่..ไม่แตกไม่พังแน่นอนค่ะ Chanel นี่ยังมีลุ้นว่าพลาสติกอาจแตกได้ แต่ยังไงก็ดูแพง มีซองกำมะหยี่สีดำเก๋ๆแถมมาให้อยู่ดี โดยสรุปแพ็กเกตจิ้งก็ไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมๆที่เคยมีมานั่นแหละค่ะ

ตัว Cle De Peau กับ Dior จะเป็นรองพื้นเนื้อเหลวมีหัวปั้ม สามารถควบคุมปริมาณรองพื้นได้ดังรูป ส่วน Chanel เป็นแป้งผสมรองพื้น มีพลาสติกใสๆกั้นก่อนชั้นแป้งและพัฟ

ก่อนอื่นต้องบอกว่า เราผิวผสม ผิวขาวอันเดอร์โทนเหลือง มีอารยธรรมค่อนข้างมาก สิวขึ้นไม่รู้จักจะหายซักที มักจะเป็นสิวผด (ปล ใครมีร้านหมอ คลีนิคดีๆ รักษาหาย กระซิบบอกกันด้วย TT)

มาเริ่มต้นที่ตัวแรกกับ Cle De Peau นะคะ

 ตัวนี้ ทางแบรนด์ได้เคลมว่า "รองพื้นสูตรน้ำที่เนรมิตผิวที่ได้ผลลัพธ์ฉุ่มฉ่ำ สร้างผ้าคลุมประกายแห่งความงาม ตกกระทบแสงหลายมิติลงบนพื้นผิวเพื่อสรรค์สร้างความเปล่งประกายอีกทั้งยังมีผิวสัมผัสที่ละเอียดเนียนดุจไหม" คือหลังทาออกมาแล้ว หน้าผ่อง เปล่งประกายจริงๆ คอนเฟริมเลย แทบไม่ต้องใช้ไฮไลท์ มันให้ลุคไม่ถึงกับโกลว แต่ดูเปล่งประกาย ดูผู้ดีอ่ะ เลิศ ระดับการปกปิดตัวนี้จะอยู่ที่ Light to Medium แต่ไม่ค่อยคุมมัน ตกเที่ยงต้องซับละ (ปล ไม่ได้อยู่ห้องแอร์ตลอด ออกแดดบ้าง แต่งหน้าตั้งแต่เช้า) ยิ่งใช้คู่กับแป้งฝุ่น Cle De Peau ด้วยแล้วนั้น ดีงามเป็นที่สุด เทพมาก แต่ราคาก็โหดมาก!

มาต่อกันที่ตัวที่ 2 Chanel Ultrawear Compact Foundation

 ข้อดีของการใช้แป้งผสมรองพื้น คือเราไม่ต้องเปลืองตังซื้อแป้งฝุ่นตบทับอีกที ใช่! แต่ข้อเสียคือมันไม่เนียนเท่าแบบน้ำและมักจะเป็นคราบได้ถ้าหน้าไม่ชุ่มชื้นพอ ตัวนี่ทางแบรนด์ได้เคลมว่า "มันคือที่สุดแห่งความเปล่งปลั่งในทุกอิริยาบถ!" Perfection in Motion! ตัวนี้ตบแล้วหน้าผ่อง เด้งมากกก ยิ่งเหงื่อออกยิ่งผ่องค่ะ ที่เด็ดมากๆเลย คือมันคุมมันได้ดีมาก แทบไม่ต้องซับหน้าเลย ระดับความปกปิดตัวนี้ถือว่าเป็น Medium-full coverage ร่องรอยอารยธรรมบนใบหน้าเรางี้เนียนกริ้บ ปกปิดแต่ไม่หนักหน้า แต่ถ้าลงบำรุงหน้าไม่ชุ่มขื้นพอก่อนแต่ง ก็จะเป็นคราบได้ สรุปว่า เลิศค่ะ

ตัวสุดท้าย Dior Forever Perfect Makeup Everlasting Wear Pore-refining Effect

ตัวนี้ไม่รู้ว่าทางแบรนด์เคลมว่าอะไรเหมือนกัน 55 รู้แต่ว่าออกใหม่ ช่วยคุมมัน ติดทนนานต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง เช้ายันค่ำกันเลยทีเดียว! ให้ลุคแมท อำพรางรอยบกพร่องและรูขุมขนบนผิวได้ดีมาก ซึ่งตอนทาออกมาก็ได้ผลลัพธ์ตามนี้เลยทุกอย่าง! คือมันดี เลิศ ตัว Dior นี่จะได้กลิ่นน้ำหอมที่สุดแล้ว ลงกับแปรงจะดูไม่หนักหน้า แต่ออกมาเนียนกริบ สรุปก็คือ เลิศมากอีกตามเคย

ทั้งสามตัวที่เอามารีวิวนี่คือดีมากทุกตัว ไม่รู้จะว่าตัวไหนดีที่สุดจริงๆ มีแต่เลือกให้เหมาะกับเรามากที่สุด และออกมาได้ลุคที่เราต้องการมากที่สุด 

จากรูป จะเห็นว่า ตัว Chanel แทบจะกลืนไปกับกระดาษอยู่แล้ว เพราะมันเป็นแป้ง Dior จะออกเหลืองกว่า Cle De Peau ในโทนสีเดียวกัน แต่ตัว Cle De Peau จะเหลวกว่า เนื้อรองพื้นเลยเกลี่ยง่ายกว่า ที่จริงอยาก swatch บนท้องแขน บนหน้า เหมือนคนอื่นๆเค้านะ แต่เราเป็นคนมีขนเยอะมากอ่ะ มันอาจจะดูไม่งาม 555 เลยเอากระดาษคราฟมาแทน

การรีวิวครั้งแรกอาจจะดูง่อยๆงงๆ ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันค่าา ><