Review: ผิวหน้าพัง มันเยิ้ม แต่งหน้าไม่ติด เป็นคราบ เครื่องสำอางหลุดร่อน เพราะอะไร? มาดูคำตอบกัน!!

37 22

สวัสดีค่าาา

วันนี้ Bakingmill จะมาแบบจริงจังกึ่งวิชาการหน่อยๆ 55555

เห็นหลายๆคนมีปัญหาแต่งหน้าไม่ติด เครื่องสำอางหลุดร่อน หน้าเป็นคราบกันเยอะมากก วันนี้เลยจะมาอธิบายให้เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น

เราก็เป็นหนึ่งในคนที่เคยประสบปัญหานี้มาก่อน และแก้ได้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเราเข้าใจสาเหตุ

ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่าการที่ผิวหน้ามันเยิ้ม แต่งหน้าไม่ติด เป็นคราบ เครื่องสำอางหลุด ไม่ว่าจะใช้เครื่องสำอางที่ชาวรีวิวเคลมว่าดีแค่ไหน ก็เอาไม่อยู่ หลายคนเป็นใช่ม้าา

มันเนื่องมาจาก ผิวหน้าเราข้างในมันพัง ขาดน้ำ ส่งผลให้ผิวเราต้องเร่งผลิตน้ำมันออกมาเยอะๆ เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้ผิวข้างในอ่อนล้ามากๆ และพอผิวมัน เราก็จะยิ่งซับหน้า ล้างหน้า หาสารพัดสิ่งควบคุมความมันมาใช้ แต่นั่นยิ่งทำให้ผิวด้านในพังเข้าไปอีก เพราะเพิ่มพลังการผลิตน้ำมันออกมาอย่างมากมาย

**คนละประเด็นกับคุณภาพเครื่องสำอางนะจ๊ะ อันนี้เดี๋ยวจะพูดถึงตอนท้ายๆ**

สาเหตุที่ผิวข้างในพัง เช่น- นอนน้อย- ดื่มน้ำน้อย- ผลิตภัณฑ์/ยารักษาสิว- โฟมล้างหน้าดึงความชุ่มชื้นออกไปหมด- สกินแคร์ที่ใช้ให้ความชุ่มชื้นกับผิวไม่มากพอ หรือไม่เหมาะสมกับผิวแต่ละคน- และปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย

1. นอนน้อย สังเกตมั๊ยว่าแรกๆ วันที่เราแต่งหน้าแล้วเป็นคราบ เครื่องสำอางหลุด มักจะเป็นวันที่เรานอนน้อย ต้องนอนดึก ตื่นเช้าเป็นพิเศษ- ประเด็นนี้แก้โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ

2. ดื่มน้ำน้อย ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลต่อความชุ่มชื้นในผิว- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและต้องเป็นน้ำเปล่าเท่านั้นที่จะช่วยเรื่องขาดน้ำได้ น้ำอัดลม  น้ำหวาน ชา กาแฟ ต่างๆ นั้นอยู่นอกประเด็นน้ำในข้อนี้ และรวมถึงแอลกอฮอล์ก็ดูดน้ำในร่างกายเราไป ทำให้ร่างกายเราขาดน้ำหนักกว่าเดิม

3. ผลิตภัณฑ์/ยารักษาสิว สิ่งเหล่านี้ทำให้ผิวหน้าแห้งมาก จนถึงขึ้นลอก- ควรใช้อย่างมีสติและหาทางออกอย่างอื่นดีกว่า ใช้ยาแค่เวลาจำเป็นสุดๆพอ

4. โฟมล้างหน้า ยี่ห้อต่างๆ โฆษณาต่างๆ มักเคลมผลิตภัณฑ์ล้างหน้าว่าควบคุมความมันยาวนานใช่มั๊ย?? พอเราใช้โฟมพวกนั้นล้าง รู้สึกหน้าดูสะอ๊าดดสะอาด ฝืดเอี๊ยด ไม่มีมันหนืดเลยใช่มั๊ย?? นั่นแหละ มันดูดความมันกับความชุ่มชื้นที่ควรมีพอประมาณออกไปหมดเลย- แก้โดยการเปลี่ยนโฟมล้างหน้าเป็นกลุ่มอ่อนโยน เช่น acne aid , physiogel หรือ cetaphil ซึ่งคลีนซิ่งพวกนี้เวลาล้างฟองจะน้อยมาก ล้างแล้วหน้าไม่เอี๊ยด แต่หน้าสะอาด รวมถึงไม่ดูดความชุ่มชื้นของผิวออกไปมากจนเกินไปอีกด้วย

5. สกินแคร์ ข้อนี้สำคัญมากก พลิกชีวิตเรามาแล้ว เราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวของเราแต่ละคน ต้องตามหากันหน่อย ยกตัวอย่างเราเอง

เมื่อก่อนเราไม่ชอบทาครีมบำรุงใดๆ เพราะมันเหนียว ทำให้ฝุ่นเกาะหน้า คัน ผดขึ้น สิวขึ้น เพราะเราแพ้ฝุ่นผงต่างๆ จนรู้สึกว่าหน้าไปไวมาก เลยใช้ครีมบำรุงตามโฆษณาไปเรื่อยเปื่อย ส่วนใหญ่ก็ Pond's , Olay อะไรพวกนี้ แต่มันก็ไม่เห็นช่วยอะไรเท่าไร ผ่านไปหลายปี หน้าเราพังลงไวมาก เริ่มหน้าเป็นคราบ แต่งหน้าไม่ติด เครื่องสำอางหลุด หน้ามันเมือกเยิ้มกว่าเมื่อก่อนที่มันหนักๆ แค่ T-zone

หมอที่ดูแลผิวหน้าเราเค้าแนะนำเรา (มาตั้งนานแล้วแหละ แต่เราดื้อ) ว่าเราควรเลิกใช้สกินแคร์ตามที่โฆษณาได้แล้ว มันผสมแป้ง อัดแน่นไปด้วยน้ำหอม และพวกไวเทนนิ่ง พวกตระกูลไวเทนนิ่งนี่ตัวดีเลยที่ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง หมอแนะนำให้ใช้แค่เจลว่านหางจระเข้ก็พอ (เจลนะ ไม่ใช่เนื้อครีม)

ซึ่งเราไม่เคยจะเชื่อเลยยย แต่สุดท้ายแล้วหน้าเราพังขั้นสุดจริงๆ ทาแค่ครีมกันแดดกับแป้งฝุ่นยังคราบอ่ะคิดดู 55555555 เราก็เลยเชื่อหมอ ไปซื้อเจลว่านหางที่ร้านหมอมาใช้ แต่คือมันแพงมากกก หลอดนิดเดียวตั้งหลายร้อย พอใช้หมด ผิวหน้าก็ดีขึ้นมากกกกกก แต่ด้วยความที่มันแพง เลยไม่ซื้อต่อ แต่ไปหาข้อมูลอื่นๆแทน ก็ไม่เจอกระทู้ไหน Review ไหน ที่อธิบายเฉพาะเจาะจงในเรื่องนี้อย่างแจ่มแจ้งกระจ่างชัดเลย เราก็เลยมุ่งเป้าไปที่เจลว่านหางจระเข้ ถึงขั้นเสิชหาข้อมูลเป็นจริงเป็นจัง แต่ก็ยังไม่มั่นใจในยี่ห้อไหนทั้งนั้น จนกระทั่ง

( ขอท้าวความก่อน เราเคยตั้งกระทู้เต็มๆไว้เลยนะเมื่อตอนนั้น จิ้มๆ ) วันนึงเราไปต่างจังหวัดและลืมทุกสกินแคร์ไว้ที่หอหมดเลย ระหว่างทางแวะปั๊มน้ำมัน เราเลยซื้อฮาดะลาโบะ สีขาว มาใช้ แล้วก็ไปที่ร้านขายยาในปั๊มนั่นแหละ ซื้อเจลว่านหางจระเข้ 100% ของไทยยี่ห้อ Skinter Guard มาด้วยอีกตัว (ฟิลลิ่งตอนนั้นคือรู้สึกอุ่นใจเมื่อซื้อว่านหางในร้านขายยา พวกที่ขายในเนต นำเข้าจากประเทศนู้นนี้ บลาๆๆ ดูน่ากลัว แถมยี่ห้อที่ขายในวัตสันก็แพงไปหน่อยสำหรับว่านหางจระเข้ที่มีปลูกทั่วไปในครัวเรือนคนไทย)

หลังล้างหน้าทุกครั้งเราจะตบๆผิวหน้าด้วยฮาดะสีขาวก่อน แล้วตามด้วยเจลว่านหาง แรกๆที่ใช้ก็จะรู้สึกว่า ฮาดะ ดูเป็นน้ำ ใช้สองสามหยด ก็ซึมหายไป เจลว่านหางก็เหมือนกัน ทาไปซักพักก็หายไปเลย ผิวก็ดูแห้งเหมือนเดิม ตอนนั้นเราเลยเติมว่านหางเรื่อยๆเวลามันแห้ง เราโบกเยอะมาก ใช้ทีละ 2 ข้อนิ้วชี้เลย โบกไปหนาๆ แห้งก็โบกไปอีก นั่งดูทีวี ก็โบกไป

วันเวลาผ่านไปเกือบเดือน โดยใช้แค่เจ้าสองตัวนี้ คือมหัศจรรย์มากคุณณณณ เรากลับมาแต่งหน้าได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือหน้ามันน้อยลง และไม่มีคราบ เครื่องสำอางไม่หลุดร่อนแล้ว

แต่พอว่านหาง Skinter Guard หลอดนี้หมด เราก็หาซื้อในกรุงเทพฯไม่ได้อีกเลย เราก็เลยซื้อของไทยจากร้านสมุนไพรยี่ห้ออื่นๆมาใช้ (ทั้งยี่ห้อที่ 100% และไม่ถึง 100%) แต่ปรากฏว่า ไม่เกิดผลอะไรเลย หน้าเราค่อยๆดรอปจนกลับมาแย่เหมือนเดิม เราเลยออกตามล่ายี่ห้อนี้ ไปเจอกับร้านขายยาแถวศิริราช ขายหลอดใหญ่ 240 ml. 200 บาท หลอดเล็ก 120 ml. 100 บาท ซึ่งถูกกว่าตอนนั้นเราได้หลอดเล็กมา 120 บาท แต่เพื่อนเราไปเจอที่ไหนไม่รู้ หลอดใหญ่ 180 บาท น่าจะที่ซอยละลายทรัพย์

พอกลับมาใช้ Skinter Guard ผิวเราก็ดีขึ้นมาเหมือนเดิม ทุกวันนี้เลยใช้หลอดใหญ่หมดไปไม่ต่ำกว่าสิบหลอดแล้ว ฟินมาก ทาก่อนแต่งหน้าก็ใช้แค่เท่าเม็ดถั่วแดง ถ้าทาอยู่บ้านหรือทาเปล่าๆ ไม่แต่งหน้าทับ ก็โบกไปเลย

ด้วยคุณสมบัติของว่านหางจระเข้ มันสามารถกันแดดได้เล็กน้อยในตัวมัน ก็สบายไปอีกเวลาอยู่บ้านหรือไปไหนใกล้ๆ ก็ไม่ต้องทากันแดดกันให้เหนียวหน้า แถมยังสามารถทาเพื่อมาส์กตาได้อีกด้วย ยิ่งเอาไปแช่เย็นๆยิ่งฟิน

อ่ะ จบ story ยืดยาวกันไป ทีนี้เราจะบอกเล่าสกินแคร์ตัวที่ใช้อยู่ให้ดูกันทีละตัว

1. ว่านหางจระเข้ Skinter Guard

- เนื้อเจลใส Aloe vera 100% color free, Alcohol free

- คุณสมบัตินานัปการที่ได้ร่ายไป ทาหน้า ทาตัว มาส์กตา ทาแผล ทาแก้ผิวเบิร์น ช่วยลดรอยแดง (รอยดำนิดหน่อย)

- พิกัด ร้านขายยาบางร้าน และในเพจของยี่ห้อนี้ แต่จะคนละราคากับแหล่งนะคะ

เนื้อเจลใสแจ๋วเลยย

2. Hada Labo สีขาว

- ตัวนี้ช่วยเรื่องผิวชุ่มชื่นโดยเฉพาะ

- เนื้อสัมผัสเป็นน้ำเหลวค่อนข้างใส

- ยังไม่เจอสกินแคร์ที่เนื้อบางเบาและให้ความชุ่มชื้นได้ดีเท่าเจ้าตัวนี้

- หาซื้อได้ทั่วไปตาม Boots , Watson ฯลฯ

3. Hada Labo สีน้ำเงิน

- ช่วยเรื่องขาวกระจ่างใส ลดรอยดำ

- เนื้อเหลวเป็นน้ำยิ่งกว่าตัวสีขาว

- ใช้แล้วไม่ค่อยเห็นผลเรื่องขาวนะ แต่อาจเหมาะกับคนหน้ามัน เพราะมันก็ช่วยเรื่องชุ่มชื้นด้วย

- ไม่ได้ซื้อใช้ต่อ ขออภัยเรื่องไม่มีรูป ขวดเป้นแบบเดียวกัน แต่สีน้ำเงินค่ะ

4. Hada Labo สีแดง

- ช่วยเรื่อง Aging โดยเฉพาะ

- เนื้อเกือบเจล เป็นข้นๆ ขุ่นๆ หน่อย

- หลายคนอาจจะรู้สึกว่าตัวนี้ดูชุ่มชื้นมีเนื้อสัมผัสมากกว่าตัวสีขาว แต่ว่าเราใช้แล้วปรากฏว่ามันไมไ่ด้ช่วยเรื่องชุ่มชื้นเท่าไรอ่ะ มันช่วยเคลือบๆเรื่องริ้วรอย จะเห็นผลได้ชัดเจนเมื่อทาให้ถูกวิธี ต้องปาดมือเฉียงขึ้น อธิบายยากแฮะ คืออย่าไปรูดลง เวลาทาก็ปาดจากแก้มเฉียงขึ้นไปที่หู ปาดจากหน้าผากขึ้นไปที่ไรผม อะไรแบบนี้อ่ะ ตัวเราเองขี้เกียจเลยทาๆตบๆเฉยๆ ปรากฏว่าไม่เห็นผลอะไรเลย 555555 แต่แม่เราทาแบบนั้น ตอนนี้เส้นริ้วรอยหายไปเยอะมาก จางลงหมดทั้งหางตา ข้างปาก เส้นที่หน้าผาก ตอนนี้ขวดของเราเลยวางค้างเติ่งไว้อยู่ ใช้ไปเกินครึ่งขวด ไร้ผลมากๆ 55555

5. Hada Labo Perfect Gel กระปุกสีทอง

ไซส์ใหญ่ขายตามพวก Boots , Watson

มีไซส์เล็ก 199 บาท ขายที่เซเว่น แต่ว่า ที่ Boots + Watson ขายกระปุกเล็กแค่ 159 บาท

- เนื้อเป็นเจลยุ่นๆ ขุ่นๆ จะเหนียวหน่อย ถ้าคนขี้รำคาญอาจจะไม่ชอบ แต่ก็แจ่มกว่าเนื้อครีมเนื้อเจลยี่ห้ออื่นๆเยอะเลยนะ

- ช่วยเรื่องชุ่มชื้นมากกก มากๆๆๆ กลางคืนโบกได้เยอะ กลางวันกลัวเหนียวก็ทาบางๆ พอ ตัวนี้เลิศจริงไปจริง เราไปต่างประเทศอากาศเย็นๆ พกตัวนี้ไปฟินมากกก หน้าไม่ลอก ไม่คราบเลย

- กระปุกแรกจะหมดแล้ว เดี๋ยวจะซื้อต่อ

6. Sena Marine Plankton น้ำตบแพลงตอนสัญชาติเกาหลี บางคนถึงกับเคลมว่าฝาแฝด ต่างราคากับ ไบโอเทิร์ม

- เนื้อเป็นน้ำเหลว ใส แต่ดูไม่เหลวเป็นน้ำเปล่าอ่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ (โดยส่วนตัวชอบเนื้อมัน กับกลิ่นมันมากกกก ใช้แล้วฟินนนน ทาอยู่นั่นแหละ มันซึมก็ทาอีก เป็นบ้า เสพฟิลลิ่งตัวเอง 555555)

- เค้าเคลมว่าช่วยเรื่องชุ่มชื้น สิวผด ความกระจ่างใส

พอผิวเราคงที่ บวกกับฮาดะสีขาวเราหมดขวดพอดี เลยซื้อเจ้าตัวนี้มาลองใช้ดู (ส่วนตัวไม่เคยใช้ไบโอเทิร์มนะ) ใช้ควบคู่ไปกับ Skinter Guard นะ ลองไปได้เกือบเดือน ปรากฏว่า ไม่เกิดผลไรเลยอ่ะ 5555 หน้าเราแอบแย่ลงเบาๆ จากตอนใช้ฮาดะ เราอาจจะไม่เหมาะกับตัวนี้รึเปล่า

- ไม่แพ้ แต่คงไม่ซื้อเพิ่ม

7. น้ำแร่ Fresh Drop

- หัวสเปรย์พ่นฝอยดี

- ไม่ชอบกลิ่นเท่าไร กลิ่นเหมือนมะเขือเทศ (เอ้า ก็เค้าเคลมว่าเป็นมะเขือเทศ!)

- ใช้แล้วรู้สึกว่าสิวลด ผิวสดใส ชุ่มชื้น หน้ามันน้อยลง ชอบมาก พ่นก่อน-หลังแต่งหน้า พ่นระหว่างวัน พ่นตอนเหนื่อย พ่นตลอด พกติดกระเป๋าเลย ชอบ แต่ต้องกลั้นหายใจ กลิ่นมันทะแม่งๆ 5555555555

- ถูกดีอ่ะ ขวดเล็ก 99 บาท ขวดใหญ่ 199 บาท ที่ Eve and Boy แจ้

ตามจริงเรื่องชุ่มชื้นมีอีกตัวนึงที่แนะนำ คือ Physiogel เราจำรุ่นไม่ได้นะ เพราะไม่ได้ใช้ แต่เพื่อนเราใช้ นางหน้ามัน และเริ่มแต่งหน้าไม่ติดนี่แหละ แต่พอใช้ตัวนี้คือ แต่งหน้าติด หน้าไม่คราบ แต่รู้สึกว่าเนื้อมันจะหนักหน่อย คนที่หน้ามันโดยกรรมพันธุ์ จะยังคงมันอยู่ (แรกๆจะมันเพิ่ม แต่พอผิวปรับสมดุลได้จะดีขึ้น) ราคาค่อนข้างสูงหน่อย (อีนี่เลยไม่ได้ใช้ไง 555555555555)

ผิวหน้าคนเราแต่ละคนไม่เหมือนกันนะ บางคนใช้อันนี้แล้วดี บางคนใช้อันนู้นแล้วดี ก็ต้องหาอันที่เหมาะสมกับตัวเองกันไป แต่อยากเตือนว่า อย่ามโนว่าของแพง รีวิวเยอะ ต้องดี มันไม่จริงเสมอไปหรอก ของถูก+ของแพง ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับผิว ถ้ามันไม่เหมาะจริงๆ ไม่ได้ทำให้ผิวดีขึ้นเลยก็เปลี่ยนเถอะ ตามหาอันที่ใช่กับเราดีกว่า

ตอนใช้สกินแคร์ตระกูลมอยเจอไรเซอร์นี่แรกๆอาจจะทำให้ผิวมันมากก แต่เมื่อผิวด้านในชุ่มชื้นแล้ว ผิวปรับสมดุลได้แล้ว ผิวก็จะมันน้อยลงเอง รวมถึงปัญหาผิวที่ว่ามาก็จะลดลงตามไปด้วยค่ะ

แต่ที่อธิบายไปทั้งหมดก็ใช่ว่าเมื่อผิวเราดีเพอเฟคแล้วจะทำให้แต่งหน้า ด้วยเครื่องสำอางทุกตัวแล้วไม่เป็นคราบนะ เพราะเครื่องสำอางบางตัวมันก็ไม่ดีไม่เหมาะกับเราจริงๆ ที่มันเป็นคราบ เพราะตัวมัน ไม่ใช่เพราะผิวเราพังก็มีนะคะ แต่อยากเน้นว่า มันคนละประเด็นคนละต้นเหตุกัน ^^

อยากแนะนำว่า

- จำไว้ว่า ใช่สำหรับคนอื่น ไม่จำเป็นต้องใช่สำหรับเรา เราอ่านรีวิวคนอื่นศึกษา ลองใช้ไปเรื่อย สุดท้ายก็จะเจอตัวที่ใช่กับเราเอง #ความรักก็เช่นกัน #อ้าวไม่ใช่หรอ 55555555555

- อย่าใช้สกินแคร์ทีละหลายๆตัวเกินไป บางทีมันตีกันแล้วทำให้หน้าไม่ได้ดีขึ้นเลยก็มีนะ มันมีช่วงที่เรากระหน่ำบ้าใช้เหมือนกัน ลองลดลงมา ช่วงไหนใช้อะไรก็ใช้ไม่กี่ตัวพอ

- สกินแคร์สายไวเทนนิ่งและพวก วิตซี วิตอี ต่างๆ ทำให้ผิวแห้ง และไม่ควรใช้ตอนเป็นสิว เพราะจะทำให้สิวระคายเคืองไปอีก

- ว่านหางสมุนไพรไทยสารพัดประโยชน์ ทาหน้า ทาตัว มาส์กตา ทาแผล ทาแก้ผิวเบิร์น ช่วยลดรอยแดง (รอยดำนิดหน่อย)

และเช่นเคย หากมีข้อสงสัยหรืออยากปรึกษาปัญหาผิวหน้า ผิวกาย ยินดีแนะนำนะคะ ไปตามหาทางติดต่อเราได้ในหน้าโปรไฟล์ส่วนตัว เราเองเป็นคนผิวแพ้ง่ายมากๆ เลยเรียนรู้มาค่อนข้างเยอะว่าอะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงของอะไรได้บ้าง และควรแก้ ควรปรับเปลี่ยนยังไง เราเข้าใจคนมีปัญหาผิวจริงๆ มันทรมานนะ

สุดท้ายนี้ Bakingmill ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่าา ^^


Bakingmill Makeup Artist

Bakingmill Makeup Artist

สวัสดีค่าา ชื่อวินมิลล์ นะค้าา
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ <3

FULL PROFILE