พายุ !! พระอาทิตย์ !! DUBAI ต้องพิชิต!! (part 1)

43 14

สวัสดีค่าสาวๆ

เอ้าว่าตาม พายุ !! พระอาทิตย์ !! ดูไบต้องพิชิต 1-2-123-12-12-1 !!

เอ้างงล่ะสิ... คืออย่างงี๊ เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อายได้มีโอกาสไปเที่ยวดูไบ 4 วันกับ Samsung Thailand มาค่า แต่ไปก็ไม่ได้ไปเปล่าๆ นะ ไปเมืองที่เป็นที่สุดของโลกทั้งที ก็ต้องเก็บภาพด้วยมือถือที่เค้าเคลมแรงว่ากล้องเทพสุดอย่าง Galaxy S7 edge นั่นเอง

นี่ๆ ตอนเค้าโทรมาชวน ก็แอบเล่นตัวนิดนึง แต่ในใจเหรอ... ไปค่ะ!!

หารู้ไม่ว่าต้องไปพิชิตอะไรบ้างทุกวี่ทุกวัน!!!

กรุ๊ปเรามีกันทั้งหมด 20 กว่าคนได้ค่ะ เป็นพี่ๆ น้องๆ สื่อจากหลายแขนง ทุกคนแลดูตื่นเต้นมากกกก เราไปถึงกันเช้าตรู่วันที่ 15 มี.ค. พอเห็นตัวเมืองปุ๊บ กด shutter กันรัวๆๆๆๆ ค่ะ เพราะขนาดมองจากไกลๆ ยังสังเกตได้ว่าเมืองนั้นรายล้อมไปด้วยตึกสูงมากๆๆ สลับกับต้นปาล์มอันเป็นสัญลักษณ์เป็นระยะๆ

พอไปถึง ก่อนสิ่งอื่นใดนั้น เราได้น้อง Galaxy S7 edge มาไว้ในอ้อมใจกันคนละเครื่องค่ะ หน้าตาก็สวยงามตามนิยม จอใหญ่สะใจ แต่เครื่องบางและเบามากๆ (ไม่ใส่เคสนี่กลัวจะหลุดมือบ่อยๆ) และที่เด็ด คือ function กล้องค่ะ

มาทริปนี้ ความตั้งใจคือมาเล่นกล้องโดยเฉพาะ เพราะ spec โหดมากกก แต่จุดขายหลักๆ ที่ฟังแล้วถึงกับ อู้หูววววว ก็คือ

นางกันน้ำ และ กันฝุ่น!!

กันน้ำนี่คือถ่ายใต้น้ำจืดได้เลย 30 นาที น้ำลึกไม่เกิน 1.5 เมตร ส่วนกันฝุ่น เดี๋ยวว่ากันค่ะ เพราะพรุ่งนี้ เรามีลุยทะเลทราย!!

เกริ่นคร่าวๆ ว่า "ดูไบ" เป็นนครใหญ่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีพื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 2 ล้านคน เมืองดูไบถือได้ว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งบนโลก และมีอัตราการเจริญเติบโตของเมืองสูงมากกกก (ข้อมูลจาก Wikipedia)

มาค่ะ landmark จุดแรก ตึก Burj Khalifah ตึกที่สูงที่สุดในโลกขณะนี้ มีความสูง 828 เมตร (สูงมากก จะร้องง) โดยชั้นที่เราจะขึ้นไปเยือนนั้น คือชั้นที่ 148 ค่ะ

คือเห็นนิ่งๆ แต่จริงๆ ทำใจอยู่นานมากกก คือเป็นคนกลัวความสูงค่ะ แค่ balloon พัทยา 60 เมตรก็จะแย่แล้ว อันนี้เข้าลิฟต์ไป ก็สูดยาดมก่อนเลย แต่เอาน่ะ นี่ตึกที่สูงที่สุดในโลกเลยนะ!

ขึ้นไปถึง มีแต่คนเกาะกระจกถ่ายรูป แต่เราถึงกับคลานค่ะ ฮ่าๆๆๆ รูปก็อยากถ่าย เพราะมันสวยมากกกกกจริงๆ แต่ถ่ายๆ แบบระดับติดดินนิดนึง ฮืออ เสียวเท้า T_T

โอยยย มันสวยมากกก เหมือนมองจาก helicopter อ่ะค่ะ ไม่ว่าจะตอนมีแสง หรือตอนมืดแล้ว มองตาเปล่าสวยมากกก โชคดีว่า S7 edge นางก็ถ่ายรูปกลางคืนได้แบบถือว่าดีเลิศ เก็บรายละเอียดได้ครบ (อันนี้โหมด Pro แบบปรับค่าต่างๆ เองนะคะ)

จริงๆ มองเห็นเกาะ The World และ Palm Jemeirah (เกาะรูปต้นปาล์ม) ได้จากบนนี้ด้วยค่ะ คือมันเป็นสุดยอดเมือง "mad-made" จริงๆ

ปล. จากการถ่ายบนนี้ เจอข้อเสียของน้อง S7 อย่างชัดเจน คือ "zoom แล้วภาพแตก" ค่ะ zoom ได้จิ้ดเดียวมากๆ ไม่เกิน x2.0

พอลงมาจากตึก เห็น Burj Khalifa ตอนกลางคืน คือสวยระยิบระยับมากกก น้องนีก็อยากถ่ายรูปด้วยอีกแล้ว ก็เลย selfie นิดนึงพร้อมยิง flash กล้องหน้าเบาๆ เอออออออ มันโอเฟเลยนะ ไม่สว่างวาบทำให้เราแสบตาเหมือน flash กล้องหลัง โอ่ย... คือคงได้ใช้อีกเวลาปาร์ตี้กับเพื่อนๆ นะ function นี้ อิอิ

แอบแถมดีเทลความเป็นอาหรับ สวยจังงง ชอบบ >-<

จบไปแล้วกับวันแรก และภารกิตที่เราต้องพิชิต คือความสูง! เอาเป็นว่า จากตอนแรกคลานกับพื้น ไปๆ มาๆ ลงมาช้าสุดเลยจ้า ดื่มด่ำกับวิวอยู่นานมาก ลืมไปเลย ว่าเคยกลัวความสูง เฮ้!

วันที่ 2 เริ่มขึ้นด้วยการไปเที่ยวแบบ local ค่ะ ไปทั้ง museum ตลาดทอง (gold souk) และล่องเรือชมชีวิตริมน้ำ แอบเสียดายมีเวลาแค่แป๊บบบเดียว จริงๆ เราชอบเดินแบบนี้มากกกกกก แต่ก็เอาน่า ไว้กลับมาเที่ยวใหม่ :)

เสร็จจากการชมเมือง เรามีพิธีกรรมกันต่ออีกนิดหน่อย อิอิ จริงๆ ก็ไม่ใช่พิธีอะไรหรอกค่ะ แต่กำลังจะพุ่งตัวไปลุยทะเลทรายทั้งที ก็ต้องโพกผ้าแบบชาวอาหรับกันหน่อย ผ้าแบบนี้เหมือนมีหลายชื่อเรียกนะคะ แต่ที่รู้จักมา เรียกว่า Keffiyeh ส่วนวิธีการผูกแบบนี้ เค้าบอกว่าเหมาะสำหรับเวลาไปทะเลทราย เพราะใช้ทั้งคลุมหัวกันร้อน และสามารถดึงสายด้านนึงมาปิดหน้ากันฝุ่นทรายได้ด้วย

ออกมาจากตัวเมืองประมาณ 40 นาที ขบวนรถ 4-wheel ก็พาเราเข้าเขตทะเลทรายค่ะ คนขับบอกเราว่า "ยูๆ ไปชมอูฐกันก่อน ขอไอเอาลมยางออกแพ้พพพพ" ไอ้เราก็ ok นึกว่าแค่ลดแรงกระแทกเวลาขับบนทราย ก็เลยลงมาถ่ายรูปเล่นแบบสวยๆ

ตรงส่วนที่แวะนี้เป็นเหมือน camp เลี้ยงน้องอูฐ ให้อาหาร ให้เดินเล่น คือนางน่ารักมากกกกกก ดูเชื่องๆ ช้าๆ สีก็สวยมาก เข้ากับทะเลทรายดีจริงๆ :)

และสิ่งที่น่าตื่นเต้น มันอยู่ตรงนี้ค่ะ! ก่อนจะขึ้นรถ เราได้รับการเตือนไว้แล้ว ว่าใครเมารถให้ระวัง แต่เอ๊ะ นั่งมาตั้งนาน ก็ขับปกติดีนี่ ไม่เห็นเมาอะไร

เพราะจุดพีคมันอยู่ตรงนี้!!!!

จากลาน้องอูฐมาแป๊บบบเดียว พี่แกก็ขับรถกันอย่างกับรถไฟเหาะ คนที่ไม่โอเคที่สุดก็จะใครซะอีกเล่า fateye เจ้าเดิมนี่ไง! ทำไมดูไบต้องมีอะไรมาให้เราพิชิตอีกแล้ว!! แต่เอาจริงๆ มันก็คุ้มค่ามากกก กับวิวที่ได้ เพราะทะเลทรายนี่ มัน to infinity and beyond จริงๆ ล่ะ :)

และแล้วก็จบ day 2 แบบแบบสนุกมากกกกกก เราได้พิชิตดูไบและใจตัวเองไปแล้ว 2 ด่าน (ทำไมต้องท้าทายกันทุกวัน ฮือออ) ขอขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยดูแล หาถุงหาน้ำให้วันนั้นน้าาาาาา ^^

เอาหละสาวๆ เดี๋ยวมารอดูดีกว่า ว่าภาคต่อของ พายุ (ที่ถ้ามาละก็ เละ!) พระอาทิตย์ (ที่หลบตลอดวัน ไม่ออกมาเลย) และ fateye ผู้พิชิตผู้นี้ จะต้องเจอด่านอะไรอีกในอีก 2 วันที่เหลือในดูไบค่าาาา

til text time!


fateye_slim

fateye_slim

make up เริ่ดแค่ไหน ไม่เท่ากับความมั่นใจในกระเป๋า :)
Jebanista Since 2008/ Jeban Team Since 2012

FULL PROFILE